เครื่องบินพระที่นั่งตามคำอธิบายในราชาศัพท์หมายถึงยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ทรง หรือประทับ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินในพระราชกรณียกิจต่างๆ โดยกล่าวถึงเครื่องบินทั้งประเภทใบพัด ไอพ่น และเฮลิคอปเตอร์ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ต่างๆ ให้ต่อท้าย คำว่า "พระที่นั่ง" โดยใช้คำต่อท้ายเช่น "เครื่องบินพระที่นั่ง" และ "เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง" โดยคำว่า "พระที่นั่ง" ใช้เฉพาะยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระบรมราชกุมารี ส่วนเจ้านายพระองค์อื่นใช้คำว่า "ที่นั่ง" แทนคำว่า "พระที่นั่ง"
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2490 กองทัพอากาศได้ทำการจัดหาเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 หรือ C47Dagota เข้าประจำการและมีเครื่องบินส่วนหนึ่งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร ทั่วประเทศนับแต่ปีนั้น (2490) จนถึงปัจจุบันนี้กองทัพอากาศได้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินหลายแบบ ซึ่งประกอบไปด้วย C47, C54, C123B/K Avro748 Merlin4, Boeing 737-200/300/400 และ Airbus 310
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเครื่องบินที่มีความเหมาะสมที่จะบรรจุเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะทดแทนเครื่องบินแบบเก่าคือ จะต้องมีสมรรถนะสูง สามารถตอบสนองต่อภารกิจและมีความจุของลำตัวในห้องโดยสารไม่น้อยไปกว่าเครื่องบินราชพาหนะลำเดิม สามารถทำการร่อนลงจอดได้ทุกสนามบินในประเทศ ต้องมีอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องช่วยเดินอากาศที่ทันสมัย ต้องเป็นเครื่องบินที่มีสายการผลิตยาวนานและต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีความแพ่รหลายในการใช้งานและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับในวงการการบินพลเรือนของโลก จากการคัดเลือกของกองทัพอากาศทำให้เครื่องบิน Boeing 737-800 กลายมาเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ของกองทัพอากาศที่ต้องการมากที่สุด อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนักบิน เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงของกองทัพอากาศมีความชำนาญกับเครื่องบินในตระกูล Boeing 737 เป็นอย่างดี
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2550 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเจิมเครื่องบินพระที่นั่ง Boeing 737-800 ซึ่งเป็นเครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่ที่กองทัพอากาศน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เนื่องในโอกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้ทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยการเสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในชนบทที่ห่างไกล จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กองทัพอากาศได้มีโอกาศสนองเบื้องพระยุคลบาท ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร ในการสนองพระราชกรณียกิจ โดยจัดเครื่องบินพระราชพาหนะสำหรับใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆ ตลอดมา และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ถวายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ วันที่ 20 เมษายน 2550 เครื่องบิน Boeing 737-800 หมายเลขเครื่อง 55-555 ของกองทัพอากาศไทยที่จัดซื้อจากบริษัท Boeing สหรัฐอเมริกาบินเดินทางมาจากเมืองซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตันถึงยังสนามบินของกองบัญชาการกองทัพอากาศที่ดอนเมือง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มศึกษาเรียนรู้หาประสบการณ์ในแต่ละหน้าที่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้มากที่สุด
Boeing 737-800 เป็นอากาศยานพาณิชย์ในตระกูล 737 ของบริษัท Boeing รุ่น NG หรือ Next Generation โดยเริ่มเปิดตัวออกสู่สาธารณชนเมื่อปี พ.ศ. 2537 หลังจากเครื่องต้นแบบเสร็จสิ้นการทดสอบและผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากคณะกรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมหรือ NTSB (National Transportation Safety Bureau) และสมาพันธ์การบินนานาชาติ หรือ FAA (Federal Aviation Administration) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้เป็นที่ต้องการของสายการบินต่างๆ ทั่วโลก จนถึงปี 2549 มียอดสั่งซื้อรวมทั้งหมด 1,940 ลำ โดยบริษัท Boeing ได้ทยอยส่งมอบเครื่องบิน 737-800 ให้กับลูกค้ากว่า 70 สายการบินและหน่วยงานของรัฐบาลไปแล้วมากกว่า 1,000 ลำ การออกแบบของเครื่องบิน Boeing 737-800 มีการนำเอาเทคโนโลยีโครงสร้างปีกแบบใหม่มาใช้ ทำให้ตัวเครื่องมีพื้นที่ในปีกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการบรรจุเชื้อเพลิงปริมาณมากๆ จึงทำให้มีพิสัยบิน (ระยะทำการบิน) ไกลขึ้น และรูปแบบของแอร์ฟลอยด์ที่ล้ำยุคส่งผลต่อความเร็วเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถบินด้วยความเร็วเดินทางได้ถึงมัค 0.785 หรือประมาณ 530 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่อง 737 รุ่นก่อนหน้านี้ที่มีความเร็วเดินทางมัค 0.745 เครื่องบิน Boeing 737-800 มีเพดานบินสูงสุด 41,000 ฟุต ในขณะที่เครื่องบินคู่แข่งอย่าง Airbus A320 มีเพดานบินสูงสุดที่ 39,000 ฟุต เทคโนโลยีแบบใหม่ในการสร้างปีกแบบมีปีกเล็กที่บริเวณส่วนปลายสุดของปีก (Wingler) ที่โค้งงอและชี้ขึ้น นอกจากจะมีผลทำให้การบินมีพิสัยไกลขึ้นแล้วยังสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 3.5 ในส่วนของปีกเล็กที่กระดกงอขึ้นบริเวณส่วนปลายสุดของปีกนี้ บริษัท Boeing ผู้ผลิตได้ทำการติดตั้งให้โดยมิได้คิดมูลค่าแต่อย่างใด ในส่วนของแผงควบคุมการบินของเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้ ได้มีการออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยใช้เทคโนโลยีของจอรุ่นใหม่ล่าสุด แบบชนิดเดียวกันกับที่มีใช้อยู่ในเครื่องบินโดยสารพิสัยบินไกลรุ่น Boeing 777
ในส่วนของเครื่องยนต์ Boeing 737-800 พระราชพาหนะนี้ กองทัพอากาศทำการเลือกเครื่องยนต์ต้นกำลังของบริษัท CMFI รุ่น CFM56-7 และบริษัทเครื่องยนต์อากาศยานแห่งนี้เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของ GE จากสหรัฐอเมริกาและ Snecma ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์ของอากาศยานที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือมายาวนาน เครื่องยนต์รุ่น CFM 56-7 เป็นเครื่องยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ทำการซ่อมบำรุงได้ง่ายเหมือนกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ทั่วไป ระดับความดังของเสียงเครื่องยนต์อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยด้านเสียง ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องมลภาวะทางเสียงต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับสนามบิน
การตกแต่งภายในของเครื่องบินพระที่นั่งเครื่องนี้ นอกจากจะเป็นการถวายความปลอดภัยสูงสุดแด่องค์พระประมุขของเราชาวไทยแล้ว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อประชาชนชาวไทยทุกคน กองทัพอากาศจึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งภายในเครื่องบิน โดยการตกแต่งห้องโดยสารภายในทั้งหมดด้วยความประณีตบรรจง ให้ออกมาสวยงามและสม พระเกียรติ พร้อมกับความสะดวกสบายในการประทับและพักผ่อนพระอิริยาบถ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมมูล การออกแบบภายในกองทัพอากาศได้มอบให้บริษัท Greenpoint Technologies Inc. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบภายในของเครื่องบินโดยสารมากว่า 20 ปี โดยมีผลงานเป็นเครื่องบินพระที่นั่งของพระประมุขในประเทศต่างๆ รวมไปถึงเครื่องบินประจำตัวของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา โดยการออกแบบภายในทั้งหมดของ Boeing 737-800 เครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่นี้มีการกำหนดการติดตั้งอุปกรณ์ทุกชนิด เพื่อความถูกต้องในเรื่องของวัสดุที่ใช้ทำ การสร้างและการใช้งานอย่างเหมาะสม กองทัพอากาศได้เรียนเชิญปรึกษาสมุหราชองครักษ์เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และความสมพระเกียรติ นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทการบินไทยที่ช่วยดูแลเกี่ยวกับการกำหนดและเลือกอุปกรณ์ในส่วนของการบริการและการซ่อมบำรุงอีกด้วย
ห้องประทับหรือ Royal Compartment กองทัพอากาศได้เรียนเชิญอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผ้าไทยและผ้าโบราณตลอดจนศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับอาจารย์สาคร โสภา และอาจารย์วิโรจน์ กล่อมมานพ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมศิลปากรผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมฝาผนัง ดำเนินการในการวาดรูปจิตรกรรมไทยจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาวาดไว้ในฉากกั้นห้องโดยสารจำนวนสองภาพ ลงบนวัสดุมาตรฐานและได้การรับรองจาก FFA นอกจากนี้ยังมีการสร้างตราสัญลักษณ์ฉลองครองสิริราชสมบัติ 60 ปี โดยอาจารย์สมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างจากกรมศิลปากรซึ่งเป็นผู้ออกแบบและดำเนินการสร้างภายในห้องโดยสารหรือห้องประทับ วัสดุต่างๆ ที่เดิมถูกออกแบบเป็นไม้วอลนัท ทางกองทัพอากาศจึงได้ขอเปลี่ยนเป็นไม้สักทอง ซึ่งเป็นไม้ที่ประชาชนชาวไทยภาคภูมิใจ ไม้สักทองทั้งหมดที่ใช้ในการตกแต่งถูกคัดเลือกแต่ไม้ที่มีคุณภาพสูงสุด โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งไม้สักทองทั้งหมดไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อนำขึ้น ติดตั้งและประดับบนเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้
ความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการบินในประเทศไทย คือได้ถวายการรับใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินทางอากาศด้วยเครื่องบินพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในการเสด็จไปประกอบพระราชกรณียกิจยังพื้นที่ต่างๆ แม้ในบางพื้นที่รถยนต์ยังไม่สามารถเข้าไปถึงได้ โดยนอกจากจะบรรจุเครื่องบิน Boeing 737-800 ลำใหม่ล่าสุดเข้าประจำการแล้ว คณะรัฐมนตรีได้จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแบบ S92A จำนวน 3 เครื่อง โดยให้ทางกองทัพอากาศเป็นผู้ดูแลและเตรียมการในการซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ 10 ที่นั่ง แบบ S92A โดยการลงนามระหว่าง พลอากาศเอกไพศาล สีตบุตร และนายโทมัส ริชลิก ผู้แทนจำหน่ายจากบริษัทซิกอร์สกี้ (Sikorsky International Operations Inc.) ที่สำนักงานของบริษัทในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้ การจัดหาเครื่องบินพระที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Boeing 737-800 ที่กองทัพอากาศจัดซื้อเข้ามาประจำการในฝูงบินพระที่นั่ง มีมูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท เพื่อถวายการรับใช้ให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในขณะที่ทรงประทับให้ได้รับความสะดวกสบายในทุกพระราชอิริยาบถของการเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกรชาวไทยทุกคน.
บริษัทผู้ผลิต : Boeing Company ประเทศสหรัฐอเมริกา
เครื่องยนต์ : CFM56-7B27/B1 จำนวน 2 เครื่องยนต์
แรงขับ : 27,300 ปอนด์
บินได้นาน : 12 ชั่วโมง
ความเร็วสูงสุด : 0.82 มัค
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 174,200 ปอนด์
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด : 24,818 ปอนด์
ขนาดพัสดุ : 85x60x120 นิ้ว
ความจุเชื้อเพลิง : 46,000 ปอนด์
เพดานบินสูงสุด : 41,000 ฟุต
ความยาวปีก : 35.79 เมตร
ความยาว บ. :39.47 เมตร
จำนวนที่นั่ง : 50 ที่นั่ง
ประจำการ : 2550
Boeing 737-800 Technical Characteristics
Passengers
Typical 2-classconfiguration 162
Typical 1-classconfiguration 189
Cargo 1,555 cu ft (44 cu m)
Engines
(maximum thrust) CFMI CFM56-727,300 lb
Maximum Fuel Capacity 6,875 U.S. gal (26,020 L)
Maximum Takeoff Weight 174,200 lb (79,010 kg.)
Maximum Range 3,060 nautical miles (5,665 km.)
Typical Cruise Speed (at 35,000 feet) 0.785 Mach
Basic Dimensions
Wing Span 112 ft 7 in (34.3 m)
With Winglets 117 ft 5 in (35.8 m)
Overall Length 129 ft 6 in (39.5 m)
Tail Height 41 ft 2 in (12.5 m)
Interior Cabin Width 11 ft 7 in (3.53 m)
CD :
http://www.thairath.co.th
เครื่องบินพระที่นั่ง BOEING 737-800
เครื่องบินพระที่นั่งตามคำอธิบายในราชาศัพท์หมายถึงยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ทรง หรือประทับ เพื่อเสด็จพระราชดำเนินในพระราชกรณียกิจต่างๆ โดยกล่าวถึงเครื่องบินทั้งประเภทใบพัด ไอพ่น และเฮลิคอปเตอร์ในการเสด็จพระราชดำเนินไปยังที่ต่างๆ ให้ต่อท้าย คำว่า "พระที่นั่ง" โดยใช้คำต่อท้ายเช่น "เครื่องบินพระที่นั่ง" และ "เฮลิคอปเตอร์พระที่นั่ง" โดยคำว่า "พระที่นั่ง" ใช้เฉพาะยานพาหนะสำหรับพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี สมเด็จพระบรมราชชนนี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และสมเด็จพระบรมราชกุมารี ส่วนเจ้านายพระองค์อื่นใช้คำว่า "ที่นั่ง" แทนคำว่า "พระที่นั่ง"
ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2490 กองทัพอากาศได้ทำการจัดหาเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 2 หรือ C47Dagota เข้าประจำการและมีเครื่องบินส่วนหนึ่งน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะแก่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เพื่อทรงใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรในท้องถิ่นทุรกันดาร ทั่วประเทศนับแต่ปีนั้น (2490) จนถึงปัจจุบันนี้กองทัพอากาศได้น้อมเกล้าฯ ถวายเครื่องบินหลายแบบ ซึ่งประกอบไปด้วย C47, C54, C123B/K Avro748 Merlin4, Boeing 737-200/300/400 และ Airbus 310
หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเครื่องบินที่มีความเหมาะสมที่จะบรรจุเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะทดแทนเครื่องบินแบบเก่าคือ จะต้องมีสมรรถนะสูง สามารถตอบสนองต่อภารกิจและมีความจุของลำตัวในห้องโดยสารไม่น้อยไปกว่าเครื่องบินราชพาหนะลำเดิม สามารถทำการร่อนลงจอดได้ทุกสนามบินในประเทศ ต้องมีอุปกรณ์สื่อสารและเครื่องช่วยเดินอากาศที่ทันสมัย ต้องเป็นเครื่องบินที่มีสายการผลิตยาวนานและต่อเนื่องมาจนถึงยุคปัจจุบัน มีความแพ่รหลายในการใช้งานและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย เป็นที่ยอมรับในวงการการบินพลเรือนของโลก จากการคัดเลือกของกองทัพอากาศทำให้เครื่องบิน Boeing 737-800 กลายมาเป็นเครื่องบินพระราชพาหนะลำใหม่ เนื่องจากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ของกองทัพอากาศที่ต้องการมากที่สุด อีกเหตุผลหนึ่งก็คือนักบิน เจ้าหน้าที่ประจำเครื่องและเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงของกองทัพอากาศมีความชำนาญกับเครื่องบินในตระกูล Boeing 737 เป็นอย่างดี
เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2550 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สมเด็จพระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ทรงเจิมเครื่องบินพระที่นั่ง Boeing 737-800 ซึ่งเป็นเครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่ที่กองทัพอากาศน้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย เนื่องในโอกาศที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ได้ทรงงานหนักอย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต และสภาพความเป็นอยู่ของพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้ดีขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยการเสด็จไปเยี่ยมเยือนประชาชนผู้ยากไร้และด้อยโอกาสในชนบทที่ห่างไกล จึงถือเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ กองทัพอากาศได้มีโอกาศสนองเบื้องพระยุคลบาท ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุขให้แก่อาณาประชาราษฎร์ในพื้นที่ต่างๆ ทั่วราชอาณาจักร ในการสนองพระราชกรณียกิจ โดยจัดเครื่องบินพระราชพาหนะสำหรับใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจในพื้นที่ต่างๆ ตลอดมา และนำมาซึ่งความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ได้ปฏิบัติหน้าที่ถวายพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ วันที่ 20 เมษายน 2550 เครื่องบิน Boeing 737-800 หมายเลขเครื่อง 55-555 ของกองทัพอากาศไทยที่จัดซื้อจากบริษัท Boeing สหรัฐอเมริกาบินเดินทางมาจากเมืองซีแอตเทิล มลรัฐวอชิงตันถึงยังสนามบินของกองบัญชาการกองทัพอากาศที่ดอนเมือง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเริ่มศึกษาเรียนรู้หาประสบการณ์ในแต่ละหน้าที่ เพื่อสร้างความคุ้นเคยให้มากที่สุด
Boeing 737-800 เป็นอากาศยานพาณิชย์ในตระกูล 737 ของบริษัท Boeing รุ่น NG หรือ Next Generation โดยเริ่มเปิดตัวออกสู่สาธารณชนเมื่อปี พ.ศ. 2537 หลังจากเครื่องต้นแบบเสร็จสิ้นการทดสอบและผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากคณะกรรมการความปลอดภัยในการคมนาคมหรือ NTSB (National Transportation Safety Bureau) และสมาพันธ์การบินนานาชาติ หรือ FAA (Federal Aviation Administration) เสร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้เป็นที่ต้องการของสายการบินต่างๆ ทั่วโลก จนถึงปี 2549 มียอดสั่งซื้อรวมทั้งหมด 1,940 ลำ โดยบริษัท Boeing ได้ทยอยส่งมอบเครื่องบิน 737-800 ให้กับลูกค้ากว่า 70 สายการบินและหน่วยงานของรัฐบาลไปแล้วมากกว่า 1,000 ลำ การออกแบบของเครื่องบิน Boeing 737-800 มีการนำเอาเทคโนโลยีโครงสร้างปีกแบบใหม่มาใช้ ทำให้ตัวเครื่องมีพื้นที่ในปีกเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการบรรจุเชื้อเพลิงปริมาณมากๆ จึงทำให้มีพิสัยบิน (ระยะทำการบิน) ไกลขึ้น และรูปแบบของแอร์ฟลอยด์ที่ล้ำยุคส่งผลต่อความเร็วเดินทางที่เพิ่มขึ้น โดยสามารถบินด้วยความเร็วเดินทางได้ถึงมัค 0.785 หรือประมาณ 530 ไมล์ต่อชั่วโมง ซึ่งเร็วกว่าเครื่อง 737 รุ่นก่อนหน้านี้ที่มีความเร็วเดินทางมัค 0.745 เครื่องบิน Boeing 737-800 มีเพดานบินสูงสุด 41,000 ฟุต ในขณะที่เครื่องบินคู่แข่งอย่าง Airbus A320 มีเพดานบินสูงสุดที่ 39,000 ฟุต เทคโนโลยีแบบใหม่ในการสร้างปีกแบบมีปีกเล็กที่บริเวณส่วนปลายสุดของปีก (Wingler) ที่โค้งงอและชี้ขึ้น นอกจากจะมีผลทำให้การบินมีพิสัยไกลขึ้นแล้วยังสามารถประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงได้ถึงร้อยละ 3.5 ในส่วนของปีกเล็กที่กระดกงอขึ้นบริเวณส่วนปลายสุดของปีกนี้ บริษัท Boeing ผู้ผลิตได้ทำการติดตั้งให้โดยมิได้คิดมูลค่าแต่อย่างใด ในส่วนของแผงควบคุมการบินของเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้ ได้มีการออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมดโดยใช้เทคโนโลยีของจอรุ่นใหม่ล่าสุด แบบชนิดเดียวกันกับที่มีใช้อยู่ในเครื่องบินโดยสารพิสัยบินไกลรุ่น Boeing 777
ในส่วนของเครื่องยนต์ Boeing 737-800 พระราชพาหนะนี้ กองทัพอากาศทำการเลือกเครื่องยนต์ต้นกำลังของบริษัท CMFI รุ่น CFM56-7 และบริษัทเครื่องยนต์อากาศยานแห่งนี้เป็นบริษัทที่เกิดจากการร่วมทุนของ GE จากสหรัฐอเมริกาและ Snecma ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเครื่องยนต์ของอากาศยานที่มีชื่อเสียง มีความน่าเชื่อถือมายาวนาน เครื่องยนต์รุ่น CFM 56-7 เป็นเครื่องยนต์ที่มีความปลอดภัยสูง ทำการซ่อมบำรุงได้ง่ายเหมือนกับเครื่องยนต์สมัยใหม่ทั่วไป ระดับความดังของเสียงเครื่องยนต์อยู่ในมาตรฐานความปลอดภัยด้านเสียง ไม่ส่งผลกระทบในเรื่องมลภาวะทางเสียงต่อชุมชนที่อยู่ใกล้เคียงกับสนามบิน
การตกแต่งภายในของเครื่องบินพระที่นั่งเครื่องนี้ นอกจากจะเป็นการถวายความปลอดภัยสูงสุดแด่องค์พระประมุขของเราชาวไทยแล้ว ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ที่มีต่อประชาชนชาวไทยทุกคน กองทัพอากาศจึงให้ความสำคัญกับการตกแต่งภายในเครื่องบิน โดยการตกแต่งห้องโดยสารภายในทั้งหมดด้วยความประณีตบรรจง ให้ออกมาสวยงามและสม พระเกียรติ พร้อมกับความสะดวกสบายในการประทับและพักผ่อนพระอิริยาบถ พร้อมด้วยอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ เช่น อุปกรณ์สื่อสารที่ทันสมัย อุปกรณ์ทางการแพทย์ที่พร้อมมูล การออกแบบภายในกองทัพอากาศได้มอบให้บริษัท Greenpoint Technologies Inc. ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการออกแบบภายในของเครื่องบินโดยสารมากว่า 20 ปี โดยมีผลงานเป็นเครื่องบินพระที่นั่งของพระประมุขในประเทศต่างๆ รวมไปถึงเครื่องบินประจำตัวของประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา โดยการออกแบบภายในทั้งหมดของ Boeing 737-800 เครื่องบินพระที่นั่งลำใหม่นี้มีการกำหนดการติดตั้งอุปกรณ์ทุกชนิด เพื่อความถูกต้องในเรื่องของวัสดุที่ใช้ทำ การสร้างและการใช้งานอย่างเหมาะสม กองทัพอากาศได้เรียนเชิญปรึกษาสมุหราชองครักษ์เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย และความสมพระเกียรติ นอกจากนี้กองทัพอากาศยังได้รับความอนุเคราะห์จากบริษัทการบินไทยที่ช่วยดูแลเกี่ยวกับการกำหนดและเลือกอุปกรณ์ในส่วนของการบริการและการซ่อมบำรุงอีกด้วย
ห้องประทับหรือ Royal Compartment กองทัพอากาศได้เรียนเชิญอาจารย์เผ่าทอง ทองเจือ ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผ้าไทยและผ้าโบราณตลอดจนศิลปวัฒนธรรม ร่วมกับอาจารย์สาคร โสภา และอาจารย์วิโรจน์ กล่อมมานพ อาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิจากกรมศิลปากรผู้มีความเชี่ยวชาญด้านจิตรกรรมฝาผนัง ดำเนินการในการวาดรูปจิตรกรรมไทยจากบทพระราชนิพนธ์พระมหาชนกในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาวาดไว้ในฉากกั้นห้องโดยสารจำนวนสองภาพ ลงบนวัสดุมาตรฐานและได้การรับรองจาก FFA นอกจากนี้ยังมีการสร้างตราสัญลักษณ์ฉลองครองสิริราชสมบัติ 60 ปี โดยอาจารย์สมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างจากกรมศิลปากรซึ่งเป็นผู้ออกแบบและดำเนินการสร้างภายในห้องโดยสารหรือห้องประทับ วัสดุต่างๆ ที่เดิมถูกออกแบบเป็นไม้วอลนัท ทางกองทัพอากาศจึงได้ขอเปลี่ยนเป็นไม้สักทอง ซึ่งเป็นไม้ที่ประชาชนชาวไทยภาคภูมิใจ ไม้สักทองทั้งหมดที่ใช้ในการตกแต่งถูกคัดเลือกแต่ไม้ที่มีคุณภาพสูงสุด โดยองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ช่วยอำนวยความสะดวกในการส่งไม้สักทองทั้งหมดไปยังสหรัฐอเมริกาเพื่อนำขึ้น ติดตั้งและประดับบนเครื่องบินพระที่นั่งลำนี้
ความภาคภูมิใจสูงสุดของผู้ที่ทำงานเกี่ยวข้องกับการบินในประเทศไทย คือได้ถวายการรับใช้ในการเสด็จพระราชดำเนินทางอากาศด้วยเครื่องบินพระที่นั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในการเสด็จไปประกอบพระราชกรณียกิจยังพื้นที่ต่างๆ แม้ในบางพื้นที่รถยนต์ยังไม่สามารถเข้าไปถึงได้ โดยนอกจากจะบรรจุเครื่องบิน Boeing 737-800 ลำใหม่ล่าสุดเข้าประจำการแล้ว คณะรัฐมนตรีได้จัดซื้อเฮลิคอปเตอร์พระที่นั่งแบบ S92A จำนวน 3 เครื่อง โดยให้ทางกองทัพอากาศเป็นผู้ดูแลและเตรียมการในการซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบ 10 ที่นั่ง แบบ S92A โดยการลงนามระหว่าง พลอากาศเอกไพศาล สีตบุตร และนายโทมัส ริชลิก ผู้แทนจำหน่ายจากบริษัทซิกอร์สกี้ (Sikorsky International Operations Inc.) ที่สำนักงานของบริษัทในประเทศเกาหลีใต้เมื่อเร็วๆ นี้ การจัดหาเครื่องบินพระที่นั่งรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Boeing 737-800 ที่กองทัพอากาศจัดซื้อเข้ามาประจำการในฝูงบินพระที่นั่ง มีมูลค่าประมาณ 3,100 ล้านบาท เพื่อถวายการรับใช้ให้กับองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในขณะที่ทรงประทับให้ได้รับความสะดวกสบายในทุกพระราชอิริยาบถของการเสด็จพระราชดำเนินไปประกอบพระราชกรณียกิจเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของพสกนิกรชาวไทยทุกคน.
บริษัทผู้ผลิต : Boeing Company ประเทศสหรัฐอเมริกา
เครื่องยนต์ : CFM56-7B27/B1 จำนวน 2 เครื่องยนต์
แรงขับ : 27,300 ปอนด์
บินได้นาน : 12 ชั่วโมง
ความเร็วสูงสุด : 0.82 มัค
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด : 174,200 ปอนด์
น้ำหนักบรรทุกสูงสุด : 24,818 ปอนด์
ขนาดพัสดุ : 85x60x120 นิ้ว
ความจุเชื้อเพลิง : 46,000 ปอนด์
เพดานบินสูงสุด : 41,000 ฟุต
ความยาวปีก : 35.79 เมตร
ความยาว บ. :39.47 เมตร
จำนวนที่นั่ง : 50 ที่นั่ง
ประจำการ : 2550
Boeing 737-800 Technical Characteristics
Passengers
Typical 2-classconfiguration 162
Typical 1-classconfiguration 189
Cargo 1,555 cu ft (44 cu m)
Engines
(maximum thrust) CFMI CFM56-727,300 lb
Maximum Fuel Capacity 6,875 U.S. gal (26,020 L)
Maximum Takeoff Weight 174,200 lb (79,010 kg.)
Maximum Range 3,060 nautical miles (5,665 km.)
Typical Cruise Speed (at 35,000 feet) 0.785 Mach
Basic Dimensions
Wing Span 112 ft 7 in (34.3 m)
With Winglets 117 ft 5 in (35.8 m)
Overall Length 129 ft 6 in (39.5 m)
Tail Height 41 ft 2 in (12.5 m)
Interior Cabin Width 11 ft 7 in (3.53 m)
CD : http://www.thairath.co.th