สวัสดีค่ะ
วันนี้จะมารีวิว วิธีการขอเชงเก้นวีซ่า จากประเทศเนเธอร์แลนด์ (NL) แบบเดินทางท่องเที่ยวระยะสั้นโดยมีผู้ปกครองเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายให้นะคะ การขอวีซ่าทุกขั้นตอนเราทำเองหมดเลย (ได้แนวทางจากอ่านจากกระทู้
http://ppantip.com/topic/35509152 ) ทำได้ไม่ยาก แต่อาจจะต้องเตรียมเอกสารหลายต่อหน่อย กระทู้นี้อาจจะยาวนะคะ แต่เชื่อว่าคงน่าจะมีประโยชน์กับใครได้บ้าง เพราะเห็นว่าคนรีวิวการขอวีซ่ากับNLน้อยมากๆ ยิ่งแบบที่มีสปอนเซอร์แล้วไม่มีเลย (ขออนุญาตแทนตัวว่าเรานะคะ)
ขอเท้าความก่อนนะคะ เราเป็นนักศึกษาปี4 มีรายได้จากการทำงานพิเศษบ้าง แต่ไม่ใช่รายได้หลักค่ะ เราเลยคุยกับคุณแม่ว่าจะใช้การเงินและงานของคุณแม่การันตีการขอวีซ่าในครั้งนี้ค่ะ และเราก็จะยื่นบัญชีของเราที่ออมไว้ด้วยอีก1บัญชีค่ะ
เราขอแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ๆนะคะ
1. ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
2. ขั้นการยื่นขอวีซ่า
3. รีวิววันไปยื่นเอกสารจนถึงวันรับเล่ม
เข้าขั้นตอนแรกเลยนะคะ
ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เป็นขั้นตอนที่ยากและใช้เวลานานที่สุด
เอกสารที่เรายื่นไปทั้งหมด ถูกตีคืนมาบ้าง (เผื่อไว้ดีกว่าขาดค่ะ) ด้วยความที่เราขอวีซ่าแบบมีสปอนเซอร์ ดังนั้นเอกสารจึงจะเยอะและวุ่นมากกว่าที่ขอเอง จ่ายเองนะคะ เอกสารที่เราใช้ ทุกฉบับเป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะเพราะว่าฝ่ายพิจารณาวีซ่าอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียค่ะ มีดังนี้ค่ะ (เอกสารอันไหนที่เป็นเอกสารของผู้สปอนเซอร์เราจะทำวงเล็บไว้ว่า SP นะคะ) สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มแปลเอกสารราชการไทย-อังกฤษ ได้จาก
https://goo.gl/KrTkL8
(อ้างอิงจาก
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/tourist.html และอัพเดตจากVFS ณ ตอนที่ยื่นเอกสารค่ะ)
1. หนังสือเดินทาง (เล่มจริง) พร้อมกับสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง 2 แผ่น (ต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันเดินทาง และจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่ท่านเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย) และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด 5 x 4 เซนติเมตร (2 นิ้ว) จำนวน 1 รูป โดยมีพื้นหลังเป็นสีขาว สัดส่วนอ้างอิงได้จากภาพนี้นะคะ แนะนำว่าตอนไปถ่ายรูปปริ้นรูปตัวอย่างนี้ไปให้ช่างเลยค่ะ ชัวร์กว่า (ครึ่งโหล 120 บาท)
3. คำร้องขอวีซ่า เชงเก้น ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์พร้อมลายเซ็น (ดาวน์โหลด+พิมพ์ลงในไฟล์ได้เลย อ้างอิงจาก
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/pdf/Application_form_150811.pdf ) หรือถ้าไม่สะดวกพิมพ์ สามารถเขียนได้นะคะ
4. กรมธรรม์ประกันการเดินทางซึ่งมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอย่างน้อย 30,000 ยูโร หรือเทียบเท่า 1,500,000 บาท ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทประกันได้ (อ้างอิงจาก
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/pdf/medicle_insurance_list.pdf )
เราเลือกประกันการเดินทางจาก บมจ.เมืองไทยประกันภัย เบี้ยประมาณ 1800บาท/15วัน ช่วงนี้มีการทำโปรโมชั่นประกันการเดินทางเยอะมากๆ สามารถดูโปรโมชั่น คำนวณค่าเบี้ย ซื้อประกันออนไลน์ได้จากหน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
5. รายละเอียด ตารางการเดินทาง หรือที่เรียนกันว่า Itinerary นั่นเองค่ะ
ซึ่งข้อมูลหลักๆที่ต้องมีคือ การลงชื่อที่พักและวันที่ค่ะ ส่วนกิจกรรมที่จำในระหว่างวันไม่จำเป็นต้องลงขนาดนี้ก็ได้นะคะ อาจจะลงคร่าวๆว่า Sightseeing ที่ ..... เราทำไว้แบบนี้ค่ะ
6. เอกสารหลักฐานทางการเงินที่แสดงว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 34 ยูโร ต่อวัน ตลอดระยะเวลาการเดินทางของท่าน เช่น
6.1 (SP) เอกสารการเดินบัญชี หรือสมุดบัญชี แสดงการเคลื่อนไหวย้อนหลัง 3 เดือน (ของเรายื่นย้อนหลัง6เดือนค่ะ ชัวร์กว่า) ข้อนี้สำคัญมาก ด้วยความที่เราให้คุณแม่ออกค่าใช้จ่ายให้ ดังนั้นบัญชีของสปอนเซอร์ต้องมีเงินขั้นต่ำ 1XX,XXX นะคะ เราขอ Bank Certification จาก KBANK ใบนี้จะเป็นใบที่บอกรายละเอียดเกี่ยวบัญชีว่า มีเงินคงเหลือในบัญชีเท่าไหร่ เปิดที่สาขาไหน แนะนำให้แจ้งเจ้าหน้าที่ธนาคารว่าจะนำใบนี้ไปขอวีซ่า ออกเป็นฉบับภาษาอังกฤษ สกุลเงินยูโร ค่าออกใบนี้100บาท เพื่อนเราไปขอจาก SCB ไม่มีฉบับภาษาอังกฤษ ก็ไม่เป็นไรค่ะ ขอแค่เงินคงเหลือในบัญชีเป็นสกุลยูโรก็พอค่ะ ค่าธรรมเนียมออกใบนี้100บาทเช่นกันค่ะ แต่จากหลายๆท่านที่ได้ตั้งกระทู้ ไม่ได้มีสปอนเซอร์ ดังนั้นเงินที่ค้างอยู่ในบัญชีอาจจะไม่ต้องเยอะมากถึง6หลักก็ได้นะคะและไม่จำเป็นต้องมีใบBank Certificationค่ะ เพราะอย่างไรก็ต่างเจ้าหน้าที่ก็ต้องพิจารณาหน้าที่การงานประกอบด้วยค่ะ ส่วนStatement เราปริ้นฉบับภาษาอังกฤษจาก K-Mobile Banking Plus ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ะ ท่านใดไม่สะดวก สามารถขอที่ธนาคารได้ ค่าธรรมเนียม100-200บาทค่ะ ในส่วนบัญชีของเรา มีเงินเข้าออกทุกเดือนติดต่อกัน เราถ่ายจากหน้าบุ้คแบงค์ค่ะ
6.2 (SP) หรือกรณีที่ต้องการแสดงหลักฐานการเงินของบุคคลในครอบครัว เนื่องจากคนในครอบครัวรับรองหรือออกค่าใช่จ่ายให้ จะต้องยื่นเอกสารเพื่อแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนสมรส และต้องมีจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรจากบุคคลที่ออกค่าใช่จ่ายให้
เราขอยังไม่อธิบายเรื่องเอกสารราชการมากนะคะ จะไปอธิบายในข้อ 13-15 ค่ะ ในที่นี้ เรายื่นสูติบัตรฉบับภาษาอังกฤษ ทะเบียนบ้านของเราฉบับภาษาอังกฤษที่มีชื่อบิดา-มารดา และใบทะเบียนสมรสฉบับภาษาอังกฤษของบิดา-มารดา เพื่อยืนยันว่าที่คุณแม่เปลี่ยนนามสกุลเพราะว่าจดทะเบียนตามกฎหมายค่ะ และเราก็มีจดหมายรับรองค่าใช้จ่ายฉบับภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาประมาณนี้ค่ะ
)
7. สำเนาเอกสารการสำรองที่พักทุกคืน ตลอดระยะเวลาการพำนักในกลุ่มประเทศเชงเก้นทั้งหมด ( รวมถึงประเทศอื่นๆในกลุ่มเชงเก้น)
ในข้อนี้ หลังจากที่เราวางแผนการทำItineraryแล้ว เราจะทราบว่าเราจะต้องจองโรงแรมกี่คืน เราเลือกใช้Booking.com ค่ะ เลือกแบบที่ชำระเงินทีหลังและฟรียกเลิกนะคะ บางโรงแรมอาจจะต้องใช้บัตรเครดิตก็ใส่ไปค่ะ สำหรับใครที่คิดเอาไว้ว่าจะเดินทางโดยรถไฟตอนกลางคืนเพื่อจะประหยัดค่าโรงแรม ในส่วนนี้ขอแนะนำว่าไม่ต้องใส่ไปแผนการเดินทางนะคะ พยายามจัดแผนให้นอนโรงแรมทุกคืนจะดีที่สุด
8. และสำเนาเอกสารการสำรองตั๋วโดยสารเครื่องบิน (สถานทูตฯขอแนะนำมิให้ท่านชำระเงินก่อนที่คำร้องขอวีซ่าจะได้รับการอนุมัติ)
เราเสี่ยงซื้อตั๋วก่อน เพราะตอนที่มีโปรออกมา ราคาล่อตาล่อใจมากๆ เลยกดซื้อไปก่อน กลายเป็นความเครียดที่ว่า ซื้อตั๋วไปแล้ววีซ่าจะผ่านไหม ในข้อนี้เรามีใบจองและใบเสร็จจากทางสายการบินแล้วขอแนะนำว่าอย่าทำแบบนี้นะคะถ้าคุณยังไมได้เคยได้เชงเก้นวีซ่ามาก่อน ส่วนท่านไหนที่ต้องการใบจอง มี2 ทางเลือกค่ะ ทางเลือกแรกคือไม่เสียเงิน แนะนำให้เลือกสายการบิน KLM กดเลือกวันที่จะไป-> กรอกรายละเอียดส่วนตัว ใส่อีเมลล์ด้วยนะคะ-> หลังจากนั้นกดชำระเงิน โดยเลือกการชำระเงินแบบโอนผ่านธนาคาร-> คุณจะได้รับใบคอนเฟิร์มที่มีรายละเอียดเที่ยวบินและรหัสการจอง ทางเลือกที่สองคือ จองผ่านบริษัททัวร์ มีค่าธรรมเนียนการออกใบจอง เที่ยวบินละ500บาทค่ะ ยกตัวอย่าง BKK-AMS-BKK คุณต้องชำระค่าออกใบจอง 1000 บาทให้กับบริษัททัวร์ค่ะ
9. สำเนาเอกสารต่างๆข้างต้นอย่างละ 1 ชุด และถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว และหน้าวีซ่าต่างๆ อีก 1 ชุด
อันนี้เราโดนตีกลับมา เจ้าหน้าที่ไม่เอา แต่แนะนำว่า ติดไปเถ่อะค่ะ อุ่นใจกว่านะ
10. (SP) หนังสือหรือจดหมายรับรองการทำงาน (อายุไม่เกิน 1 เดือน) หรือ เอกสารอื่นๆ ที่ยืนยันการจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน) ในกรณีที่ผู้สมัครมีธุรกิจส่วนตัว
ใบนี้คุณแม่ขอจากบริษัทมาให้ ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องระบุระยะเวลาการทำงานและเงินเดือนค่ะ
11. หนังสือรับรองสถานะการเป็นนักเรียน นักศึกษา จาสถาบันการศึกษา ในกรณีที่ท่านเป็นนักเรียน นักศึกษา (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
อย่าลืมให้สถาบันการศึกษาประทับตรามาด้วยนะคะ ใบนี้เราขอจากสถาบัน ค่าธรรมเนียม50บาทค่ะ
12. จดหมายแนะนำตัว (Introduction Letter)
ใบนี้เราทำของเราเอง จริงๆใบนี้สำคัญมากพอสมควรนะคะ เพราะทางผู้พิจารณาจะได้รู้จักเรามากขึ้น เข้าใจวัตถุประสงค์ของการขอวีซ่ามากขึ้น เป็นใบแนะนำตัวและบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากไปเที่ยวประเทศนี้ บอกสถานะในปัจจุบันว่าเราเรียนที่ไหน สนใจในเรื่องไหน มีทักษะอะไร และหวังว่าจะได้อะไรจากการไปเที่ยวในครั้งนี้ อย่าลืมเขียนยืนยันด้วยนะคะว่าจะกลับมาประเทศไทยแน่นอนค่ะ
13. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ
ขอแนะว่าว่า ถ้าใครจะแปลทะเบียนบ้านเอง คุณต้องวางตำแหน่งทุกอย่างให้เหมือนในเล่มจริง หมายถึง ถ้าคุณมีการเปลี่ยนชื่อ เจ้าหน้าที่เขตจะขีดชื่อคุณลงในทะเบียนบ้าน พร้อมเขียนชื่อใหม่และลายเซ็นต์กำกับ คุณต้องทำเหมือนฉบับภาษาเป๊ะทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นการเว้นวรรคหรือการขีดของเจ้าหน้าที่ เราทำแบบนี้ค่ะ
14. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ใบนี้ไม่ยากค่ะ โหลดแล้วสามารถเปลี่ยนข้อมูลตามจริงได้เลยค่ะ
15. สูติบัตรฉบับภาษาอังกฤษ ใบนี้ไม่ยื่นก็ได้นะคะ ถ้าคุณมีสำเนาทะเบียนบ้านแล้ว แต่เรายื่นไปค่ะ
16. (SP) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอวีซ่าและสปอนเซอร์ คนละ 1 ฉบับ ไม่ต้องแปลนะคะเพราะในบัตรประชาชนของเรามีภาษาอังกฤษกำกับไว้อยู่แล้วค่ะ
ขั้นตอนที่สอง ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า
1. เข้า
http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/schedule_an_appointment.html กดตัวหนังสือสีส้ม ที่คำว่า คลิกที่นี่
2. New User -> หลังจากนั้นจะอยู่ที่หน้า ล็อกอิน -> Schedule Appointment
3. จะเจอตาราง 4 บรรทัด โดยที่ข้อ 3. Select Visiting Country ให้เลือก Netherlands Visa Application Centre, Bangkok ต่อมาข้อที่ 4 Select Visa Category ให้เลือก Tourist -> Continue
4. Add Application หัวมุมขวา -> กรอกข้อมูลให้ครบ -> Submit
หลังจากนั้นจะกลับมาที่หน้านี้ค่ะ
5. เลือก วัน/เวลา ที่สะดวก ขอแนะนำว่าไปช่วงเช้าค่ะ จริงๆที่VFS NL คนไม่เยอะเลย แทบไม่ต้องรอคิวค่ะ
6. จะมีอีเมลล์ Appointment Confirmationจาก VFS ส่งมาค่ะ ว่าเราจองไปเวลากี่โมง วันที่เท่าไหร่ โดยทางVFS จะแนบไฟล์PDFไว้ให้ ปริ้นใบนี้ออกมานะคะ เพราะวันที่ไปยื่นเอกสาร เราต้องเอาบาร์โค้ดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยค่ะ
[CR] รีวิว ครั้งแรกกับการพิชิตชงเก้นวีซ่า เนอเธอแลนด์ แบบมีสปอนเซอร์ ฉบับละเอียดยิบ
ขอเท้าความก่อนนะคะ เราเป็นนักศึกษาปี4 มีรายได้จากการทำงานพิเศษบ้าง แต่ไม่ใช่รายได้หลักค่ะ เราเลยคุยกับคุณแม่ว่าจะใช้การเงินและงานของคุณแม่การันตีการขอวีซ่าในครั้งนี้ค่ะ และเราก็จะยื่นบัญชีของเราที่ออมไว้ด้วยอีก1บัญชีค่ะ
เราขอแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ๆนะคะ
1. ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร
2. ขั้นการยื่นขอวีซ่า
3. รีวิววันไปยื่นเอกสารจนถึงวันรับเล่ม
เข้าขั้นตอนแรกเลยนะคะ ขั้นตอนการเตรียมเอกสาร เป็นขั้นตอนที่ยากและใช้เวลานานที่สุด
เอกสารที่เรายื่นไปทั้งหมด ถูกตีคืนมาบ้าง (เผื่อไว้ดีกว่าขาดค่ะ) ด้วยความที่เราขอวีซ่าแบบมีสปอนเซอร์ ดังนั้นเอกสารจึงจะเยอะและวุ่นมากกว่าที่ขอเอง จ่ายเองนะคะ เอกสารที่เราใช้ ทุกฉบับเป็นภาษาอังกฤษหมดนะคะเพราะว่าฝ่ายพิจารณาวีซ่าอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียค่ะ มีดังนี้ค่ะ (เอกสารอันไหนที่เป็นเอกสารของผู้สปอนเซอร์เราจะทำวงเล็บไว้ว่า SP นะคะ) สามารถดาวโหลดแบบฟอร์มแปลเอกสารราชการไทย-อังกฤษ ได้จาก https://goo.gl/KrTkL8
(อ้างอิงจาก http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/tourist.html และอัพเดตจากVFS ณ ตอนที่ยื่นเอกสารค่ะ)
1. หนังสือเดินทาง (เล่มจริง) พร้อมกับสำเนาหน้าหนังสือเดินทาง 2 แผ่น (ต้องมีอายุอย่างน้อย 6 เดือน นับจากวันเดินทาง และจะต้องมีอายุไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับจากวันที่ท่านเดินทางกลับมาถึงประเทศไทย) และต้องมีหน้าว่างอย่างน้อย 2 หน้า
2. รูปถ่ายปัจจุบัน ขนาด 5 x 4 เซนติเมตร (2 นิ้ว) จำนวน 1 รูป โดยมีพื้นหลังเป็นสีขาว สัดส่วนอ้างอิงได้จากภาพนี้นะคะ แนะนำว่าตอนไปถ่ายรูปปริ้นรูปตัวอย่างนี้ไปให้ช่างเลยค่ะ ชัวร์กว่า (ครึ่งโหล 120 บาท)
3. คำร้องขอวีซ่า เชงเก้น ซึ่งกรอกอย่างสมบูรณ์พร้อมลายเซ็น (ดาวน์โหลด+พิมพ์ลงในไฟล์ได้เลย อ้างอิงจาก http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/pdf/Application_form_150811.pdf ) หรือถ้าไม่สะดวกพิมพ์ สามารถเขียนได้นะคะ
4. กรมธรรม์ประกันการเดินทางซึ่งมีวงเงินคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลอย่างน้อย 30,000 ยูโร หรือเทียบเท่า 1,500,000 บาท ท่านสามารถตรวจสอบรายชื่อบริษัทประกันได้ (อ้างอิงจาก http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/pdf/medicle_insurance_list.pdf )
เราเลือกประกันการเดินทางจาก บมจ.เมืองไทยประกันภัย เบี้ยประมาณ 1800บาท/15วัน ช่วงนี้มีการทำโปรโมชั่นประกันการเดินทางเยอะมากๆ สามารถดูโปรโมชั่น คำนวณค่าเบี้ย ซื้อประกันออนไลน์ได้จากหน้าเว็บไซต์ได้เลยค่ะ
5. รายละเอียด ตารางการเดินทาง หรือที่เรียนกันว่า Itinerary นั่นเองค่ะ
ซึ่งข้อมูลหลักๆที่ต้องมีคือ การลงชื่อที่พักและวันที่ค่ะ ส่วนกิจกรรมที่จำในระหว่างวันไม่จำเป็นต้องลงขนาดนี้ก็ได้นะคะ อาจจะลงคร่าวๆว่า Sightseeing ที่ ..... เราทำไว้แบบนี้ค่ะ
6. เอกสารหลักฐานทางการเงินที่แสดงว่าท่านสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายได้อย่างน้อย 34 ยูโร ต่อวัน ตลอดระยะเวลาการเดินทางของท่าน เช่น
6.2 (SP) หรือกรณีที่ต้องการแสดงหลักฐานการเงินของบุคคลในครอบครัว เนื่องจากคนในครอบครัวรับรองหรือออกค่าใช่จ่ายให้ จะต้องยื่นเอกสารเพื่อแสดงความสัมพันธ์ เช่น สูติบัตร ทะเบียนบ้าน หรือทะเบียนสมรส และต้องมีจดหมายเป็นลายลักษณ์อักษรจากบุคคลที่ออกค่าใช่จ่ายให้
เราขอยังไม่อธิบายเรื่องเอกสารราชการมากนะคะ จะไปอธิบายในข้อ 13-15 ค่ะ ในที่นี้ เรายื่นสูติบัตรฉบับภาษาอังกฤษ ทะเบียนบ้านของเราฉบับภาษาอังกฤษที่มีชื่อบิดา-มารดา และใบทะเบียนสมรสฉบับภาษาอังกฤษของบิดา-มารดา เพื่อยืนยันว่าที่คุณแม่เปลี่ยนนามสกุลเพราะว่าจดทะเบียนตามกฎหมายค่ะ และเราก็มีจดหมายรับรองค่าใช้จ่ายฉบับภาษาอังกฤษที่มีเนื้อหาประมาณนี้ค่ะ
)
7. สำเนาเอกสารการสำรองที่พักทุกคืน ตลอดระยะเวลาการพำนักในกลุ่มประเทศเชงเก้นทั้งหมด ( รวมถึงประเทศอื่นๆในกลุ่มเชงเก้น)
ในข้อนี้ หลังจากที่เราวางแผนการทำItineraryแล้ว เราจะทราบว่าเราจะต้องจองโรงแรมกี่คืน เราเลือกใช้Booking.com ค่ะ เลือกแบบที่ชำระเงินทีหลังและฟรียกเลิกนะคะ บางโรงแรมอาจจะต้องใช้บัตรเครดิตก็ใส่ไปค่ะ สำหรับใครที่คิดเอาไว้ว่าจะเดินทางโดยรถไฟตอนกลางคืนเพื่อจะประหยัดค่าโรงแรม ในส่วนนี้ขอแนะนำว่าไม่ต้องใส่ไปแผนการเดินทางนะคะ พยายามจัดแผนให้นอนโรงแรมทุกคืนจะดีที่สุด
8. และสำเนาเอกสารการสำรองตั๋วโดยสารเครื่องบิน (สถานทูตฯขอแนะนำมิให้ท่านชำระเงินก่อนที่คำร้องขอวีซ่าจะได้รับการอนุมัติ)
เราเสี่ยงซื้อตั๋วก่อน เพราะตอนที่มีโปรออกมา ราคาล่อตาล่อใจมากๆ เลยกดซื้อไปก่อน กลายเป็นความเครียดที่ว่า ซื้อตั๋วไปแล้ววีซ่าจะผ่านไหม ในข้อนี้เรามีใบจองและใบเสร็จจากทางสายการบินแล้วขอแนะนำว่าอย่าทำแบบนี้นะคะถ้าคุณยังไมได้เคยได้เชงเก้นวีซ่ามาก่อน ส่วนท่านไหนที่ต้องการใบจอง มี2 ทางเลือกค่ะ ทางเลือกแรกคือไม่เสียเงิน แนะนำให้เลือกสายการบิน KLM กดเลือกวันที่จะไป-> กรอกรายละเอียดส่วนตัว ใส่อีเมลล์ด้วยนะคะ-> หลังจากนั้นกดชำระเงิน โดยเลือกการชำระเงินแบบโอนผ่านธนาคาร-> คุณจะได้รับใบคอนเฟิร์มที่มีรายละเอียดเที่ยวบินและรหัสการจอง ทางเลือกที่สองคือ จองผ่านบริษัททัวร์ มีค่าธรรมเนียนการออกใบจอง เที่ยวบินละ500บาทค่ะ ยกตัวอย่าง BKK-AMS-BKK คุณต้องชำระค่าออกใบจอง 1000 บาทให้กับบริษัททัวร์ค่ะ
9. สำเนาเอกสารต่างๆข้างต้นอย่างละ 1 ชุด และถ่ายสำเนาหนังสือเดินทางหน้าที่มีข้อมูลส่วนตัว และหน้าวีซ่าต่างๆ อีก 1 ชุด
อันนี้เราโดนตีกลับมา เจ้าหน้าที่ไม่เอา แต่แนะนำว่า ติดไปเถ่อะค่ะ อุ่นใจกว่านะ
10. (SP) หนังสือหรือจดหมายรับรองการทำงาน (อายุไม่เกิน 1 เดือน) หรือ เอกสารอื่นๆ ที่ยืนยันการจดทะเบียนบริษัท (อายุไม่เกิน 3 เดือน) ในกรณีที่ผู้สมัครมีธุรกิจส่วนตัว
ใบนี้คุณแม่ขอจากบริษัทมาให้ ฉบับภาษาอังกฤษ ซึ่งต้องระบุระยะเวลาการทำงานและเงินเดือนค่ะ
11. หนังสือรับรองสถานะการเป็นนักเรียน นักศึกษา จาสถาบันการศึกษา ในกรณีที่ท่านเป็นนักเรียน นักศึกษา (อายุไม่เกิน 1 เดือน)
อย่าลืมให้สถาบันการศึกษาประทับตรามาด้วยนะคะ ใบนี้เราขอจากสถาบัน ค่าธรรมเนียม50บาทค่ะ
12. จดหมายแนะนำตัว (Introduction Letter)
ใบนี้เราทำของเราเอง จริงๆใบนี้สำคัญมากพอสมควรนะคะ เพราะทางผู้พิจารณาจะได้รู้จักเรามากขึ้น เข้าใจวัตถุประสงค์ของการขอวีซ่ามากขึ้น เป็นใบแนะนำตัวและบอกเหตุผลว่าทำไมเราถึงอยากไปเที่ยวประเทศนี้ บอกสถานะในปัจจุบันว่าเราเรียนที่ไหน สนใจในเรื่องไหน มีทักษะอะไร และหวังว่าจะได้อะไรจากการไปเที่ยวในครั้งนี้ อย่าลืมเขียนยืนยันด้วยนะคะว่าจะกลับมาประเทศไทยแน่นอนค่ะ
13. สำเนาทะเบียนบ้านฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ
ขอแนะว่าว่า ถ้าใครจะแปลทะเบียนบ้านเอง คุณต้องวางตำแหน่งทุกอย่างให้เหมือนในเล่มจริง หมายถึง ถ้าคุณมีการเปลี่ยนชื่อ เจ้าหน้าที่เขตจะขีดชื่อคุณลงในทะเบียนบ้าน พร้อมเขียนชื่อใหม่และลายเซ็นต์กำกับ คุณต้องทำเหมือนฉบับภาษาเป๊ะทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นการเว้นวรรคหรือการขีดของเจ้าหน้าที่ เราทำแบบนี้ค่ะ
14. สำเนาใบเปลี่ยนชื่อฉบับภาษาอังกฤษ 1 ฉบับ ใบนี้ไม่ยากค่ะ โหลดแล้วสามารถเปลี่ยนข้อมูลตามจริงได้เลยค่ะ
15. สูติบัตรฉบับภาษาอังกฤษ ใบนี้ไม่ยื่นก็ได้นะคะ ถ้าคุณมีสำเนาทะเบียนบ้านแล้ว แต่เรายื่นไปค่ะ
16. (SP) สำเนาบัตรประชาชนของผู้ขอวีซ่าและสปอนเซอร์ คนละ 1 ฉบับ ไม่ต้องแปลนะคะเพราะในบัตรประชาชนของเรามีภาษาอังกฤษกำกับไว้อยู่แล้วค่ะ
ขั้นตอนที่สอง ขั้นตอนการยื่นขอวีซ่า
1. เข้า http://www.vfsglobal.com/netherlands/thailand/thai/schedule_an_appointment.html กดตัวหนังสือสีส้ม ที่คำว่า คลิกที่นี่
2. New User -> หลังจากนั้นจะอยู่ที่หน้า ล็อกอิน -> Schedule Appointment
3. จะเจอตาราง 4 บรรทัด โดยที่ข้อ 3. Select Visiting Country ให้เลือก Netherlands Visa Application Centre, Bangkok ต่อมาข้อที่ 4 Select Visa Category ให้เลือก Tourist -> Continue
4. Add Application หัวมุมขวา -> กรอกข้อมูลให้ครบ -> Submit
หลังจากนั้นจะกลับมาที่หน้านี้ค่ะ
5. เลือก วัน/เวลา ที่สะดวก ขอแนะนำว่าไปช่วงเช้าค่ะ จริงๆที่VFS NL คนไม่เยอะเลย แทบไม่ต้องรอคิวค่ะ
6. จะมีอีเมลล์ Appointment Confirmationจาก VFS ส่งมาค่ะ ว่าเราจองไปเวลากี่โมง วันที่เท่าไหร่ โดยทางVFS จะแนบไฟล์PDFไว้ให้ ปริ้นใบนี้ออกมานะคะ เพราะวันที่ไปยื่นเอกสาร เราต้องเอาบาร์โค้ดให้พนักงานรักษาความปลอดภัยค่ะ