สวัสดีค่ะ เรามีเรื่องจะปรึกษาผู้หญิงหรือผู้ชายหลายๆท่านว่า ถ้าเจอเหตุการณ์แบบเราคุณจะทำยังไงคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราคบกับผู้ชายคนนึง คือตอนแรกเราก็รักนะ แต่ในความรู้สึกข้างในลึกๆมันไม่กล้าปักใจให้คนๆนี้มาก เป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่าเค้าเป็นผู้ชายที่เอาเปรียบผู้หญิงคนนึงเลยแหละ อย่างแรกเลย คือเราอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนจะตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันก็ตกลงกันแล้วว่าจะหารครึ่ง เพราะเราต่างคนต่างก็เรียนอยู่ แต่ตัวเขาทำงานพิเศษมีเงินเรื่อยๆ ช่วงแรกก่อนเข้าอยู่คือเค้าบอกว่าไม่มีเงิน เราก็ออกค่าสัญญาห้องให้ก่อน24,000บาท (ค่าห้อง8,000) แล้วเค้าบอกว่าจะหาเงินมาช่วยเราออกนะ....
จนแค่เริ่มเดือนแรก เค้าก็ทำมาพูดเนียนๆว่าเดี๋ยวเค้าจะช่วยออกค่านำ้ค่าไฟค่าเน็ตให้นะ (แต่ที่สัญญาไว้ตั้งแต่แรกคือจะหารทุกอย่างกันคนละครึ่ง) เราก็เลยแกล้งๆเนียนๆตามคำพูดเค้าไป
พอเข้าเดือนที่2 ก็เริ่มหาข้ออ้างมาบ่น ว่าพ่อเค้าแทบไม่ให้เงินแม่เค้าใช้เลย ให้แค่3,000บาท เค้าก็เลยจะแบ่งเงินให้แม่เค้าใช้ด้วย เราก็เริ่มคิดล่ะ...ว่าเดือนนี้กรูก็คงต้องออกเองอีกสินะ แล้วสุดท้ายเราก็ต้องออกเองอีกจนได้ แต่ในระหว่างช่วงที่อยู่ด้วยกันมา ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไร เราก็จ่ายทุกอย่าง เช่น ค่ากิน ค่าของใช้ในห้อง ของใช้ส่วนตัว ขนาดครีมทาหน้า,ครีมกันแดดของเราเอง เรายังไม่ได้ใช้เลย เค้าก็เอาของเราไปใช้จนหมด แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าให้เรามีหน้าที่ซื้อของมาช่วยดูแลเรื่องผิวหน้าและผิวพรรณของเค้าด้วย ซึ่งมันก็ราคาสูง เราก็นานๆซื้อ เพราะว่าจะเก็บเงินได้ เพราะเราก็ขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่.....
จนหลังๆเราก็เริ่มจะทนไม่ไหวเพราะมันมากเกินไปแล้ว แม้กระทั่งไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อน หรือ น้องสาวเรา เรายังต้องแอบเอาเงินของเรายัดใส่มือเค้าเพื่อทำเป็นเหมือนว่าเค้าเลี้ยงเรา คนอื่นจะได้ไม่ดูถูกเค้า ตอนนั้นเราเสียเงินไปเยอะมาก แม้กระทั่งบางครั้งเค้ามาขอเงินเราให้น้องชายเค้าวันละ100บาท และบางครั้งก็มาหยิบจากกระเป๋าเราเองแล้วค่อยมาบอกทีหลัง เราก็เหลืออดแบบสุดๆ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก...
เวลาเราไม่อยู่ เค้าก็ชอบพาน้องชายมาอยู่มากินมานอนสบายๆ ทั้งๆที่เราเป็นคนจ่ายเงินทุกอย่าง
แล้วมีอยู่ครั้งนึงน้องสาวเราไปเที่ยวแล้วเมา กลับบ้านไม่ไหว เราเลยให้ไปนอนที่คอนโด แต่ซึ่งวันนั้นเราไม่อยู่คอนโด สิ่งที่ตอนเช้าเรากลับมาเห็นคือ มันให้น้องสาวเรานอนปูผ้าบนพื้นข้างนอกห้อง แล้วมันกับน้องชายมันก็เข้าไปนอนบนเตียงสบาย เปิดแอร์ ข้างในห้อง ...เรานี่เหลืออดสุดๆ
พอเดือนที่3-4 เราก็ต้องออกค่าห้องเองอีก ซึ่งพอหมดจากเดือนที่4 เรามีปัญญาช้อตเงินหนักเลย แทนที่เค้าจะหาทางมาช่วยเรา กลับทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เราเลยตัดสินใจยอมโดนยึดค่าสัญญา แล้วย้ายออกทันที พร้อมกับเลิกกับเค้า เพราะเราทนอยู่กับผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างนี้ไม่ได้ แถมนิสัยเค้าเป็นคนขี้โกหกที่สุด(โกหกทุกอย่างบนโลกนี้) ปลิ้นปล่อน ชอบโยนความผิดให้คนอื่น ไม่ยอมรับความจริง แล้วก็ขี้อวด (มันมาบอกเราว่าพ่อมันมีเงิน7ร้อยล้าน ซึ่งเราก็สงสารเค้านะที่เค้าต้องโกหกแบบนี้เพราะมีปมด้อยอะไรรึป่าว ตอนนั้นเราก็เลยแกล้งเชื่อเค้าไป)และเค้าเป็นคนไม่มีสังคม เพราะขี้โกง เช่น ไปกินเหล้ากับเพื่อนก็แกล้งเมา แล้วชิ่งกลับบ้าน พอเพื่อนทวง ก็บอกว่าให้แล้ว อะไรทำนองเนี้ย ซึ่งเรารับไม่ได้กับคนนิสัยแบบนี้ เราพาไปไหนเราก็อายเพื่อนๆ เพราะมันชอบทำนิสัยแบบนี้ แล้วเราก็เลิกกับมันโดยการหายไปจากมันเลย.................................................
.....................................จนผ่านมา2ปี อยู่ๆมันก็กลับมาทักเรา แล้วก้บอกขอโทดเราต่างๆนาๆ แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยากคุยกับมันเพราะเราคิดถึงหรืออะไรนะคะ แต่ลึกๆเราอยากได้เงินที่เราเสียไปคืน เพราะเรารู้สึกเสียดายที่ต้องให้ผู้ชายมักง่ายและหน้าด้านแบบนี้เคยอยู่สบายเพราะเงินเรา แต่พอเราเกิดปัญหา มันกลับวิ่งหนี ........ แล้วตอนนี้มันก็มีแฟนอยู่ แต่มันก้ยังมาคุยกับเรา บอกจะเลี้ยงเราอย่างงั้นอย่างงี้ ซึ่งเราไม่ต้องการเลยค่ะ เราแค่คิดว่า ไหนๆมันมีเงินแล้ว ก้ช่วยเอาเงินที่เราเคยเสียไปให้มาคืน ....แต่เราควรจะใช้วิธีไหนกับคนแบบนี้ดีคะ เพื่อนๆช่วยเราคิดหน่อย
*ปล. ไม่รู้ว่าเราคิดแบบนี้มันเหมือนเห็นแก่ตัวรึป่าว เราก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันค่ะ เราแค่อยากรู้ว่าเราควรจะจัดการกับผู้ชายแบบนี้ยังไงดีคะ
เป็นแฟนกัน แต่ฝ่ายชายเอาเปรียบเราทุกอย่าง เราควรทำยังไงดีคะ
เรื่องมีอยู่ว่า เราคบกับผู้ชายคนนึง คือตอนแรกเราก็รักนะ แต่ในความรู้สึกข้างในลึกๆมันไม่กล้าปักใจให้คนๆนี้มาก เป็นเพราะว่าเรารู้สึกว่าเค้าเป็นผู้ชายที่เอาเปรียบผู้หญิงคนนึงเลยแหละ อย่างแรกเลย คือเราอยู่ด้วยกัน แต่ก่อนจะตัดสินใจมาอยู่ด้วยกันก็ตกลงกันแล้วว่าจะหารครึ่ง เพราะเราต่างคนต่างก็เรียนอยู่ แต่ตัวเขาทำงานพิเศษมีเงินเรื่อยๆ ช่วงแรกก่อนเข้าอยู่คือเค้าบอกว่าไม่มีเงิน เราก็ออกค่าสัญญาห้องให้ก่อน24,000บาท (ค่าห้อง8,000) แล้วเค้าบอกว่าจะหาเงินมาช่วยเราออกนะ....
จนแค่เริ่มเดือนแรก เค้าก็ทำมาพูดเนียนๆว่าเดี๋ยวเค้าจะช่วยออกค่านำ้ค่าไฟค่าเน็ตให้นะ (แต่ที่สัญญาไว้ตั้งแต่แรกคือจะหารทุกอย่างกันคนละครึ่ง) เราก็เลยแกล้งๆเนียนๆตามคำพูดเค้าไป
พอเข้าเดือนที่2 ก็เริ่มหาข้ออ้างมาบ่น ว่าพ่อเค้าแทบไม่ให้เงินแม่เค้าใช้เลย ให้แค่3,000บาท เค้าก็เลยจะแบ่งเงินให้แม่เค้าใช้ด้วย เราก็เริ่มคิดล่ะ...ว่าเดือนนี้กรูก็คงต้องออกเองอีกสินะ แล้วสุดท้ายเราก็ต้องออกเองอีกจนได้ แต่ในระหว่างช่วงที่อยู่ด้วยกันมา ไม่ว่าจะเป็นค่าอะไร เราก็จ่ายทุกอย่าง เช่น ค่ากิน ค่าของใช้ในห้อง ของใช้ส่วนตัว ขนาดครีมทาหน้า,ครีมกันแดดของเราเอง เรายังไม่ได้ใช้เลย เค้าก็เอาของเราไปใช้จนหมด แล้วยังมีหน้ามาบอกอีกว่าให้เรามีหน้าที่ซื้อของมาช่วยดูแลเรื่องผิวหน้าและผิวพรรณของเค้าด้วย ซึ่งมันก็ราคาสูง เราก็นานๆซื้อ เพราะว่าจะเก็บเงินได้ เพราะเราก็ขอเงินพ่อแม่ใช้อยู่.....
จนหลังๆเราก็เริ่มจะทนไม่ไหวเพราะมันมากเกินไปแล้ว แม้กระทั่งไปทานข้าวข้างนอกกับเพื่อน หรือ น้องสาวเรา เรายังต้องแอบเอาเงินของเรายัดใส่มือเค้าเพื่อทำเป็นเหมือนว่าเค้าเลี้ยงเรา คนอื่นจะได้ไม่ดูถูกเค้า ตอนนั้นเราเสียเงินไปเยอะมาก แม้กระทั่งบางครั้งเค้ามาขอเงินเราให้น้องชายเค้าวันละ100บาท และบางครั้งก็มาหยิบจากกระเป๋าเราเองแล้วค่อยมาบอกทีหลัง เราก็เหลืออดแบบสุดๆ แต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก...
เวลาเราไม่อยู่ เค้าก็ชอบพาน้องชายมาอยู่มากินมานอนสบายๆ ทั้งๆที่เราเป็นคนจ่ายเงินทุกอย่าง
แล้วมีอยู่ครั้งนึงน้องสาวเราไปเที่ยวแล้วเมา กลับบ้านไม่ไหว เราเลยให้ไปนอนที่คอนโด แต่ซึ่งวันนั้นเราไม่อยู่คอนโด สิ่งที่ตอนเช้าเรากลับมาเห็นคือ มันให้น้องสาวเรานอนปูผ้าบนพื้นข้างนอกห้อง แล้วมันกับน้องชายมันก็เข้าไปนอนบนเตียงสบาย เปิดแอร์ ข้างในห้อง ...เรานี่เหลืออดสุดๆ
พอเดือนที่3-4 เราก็ต้องออกค่าห้องเองอีก ซึ่งพอหมดจากเดือนที่4 เรามีปัญญาช้อตเงินหนักเลย แทนที่เค้าจะหาทางมาช่วยเรา กลับทำเหมือนไม่รู้ไม่ชี้ เราเลยตัดสินใจยอมโดนยึดค่าสัญญา แล้วย้ายออกทันที พร้อมกับเลิกกับเค้า เพราะเราทนอยู่กับผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างนี้ไม่ได้ แถมนิสัยเค้าเป็นคนขี้โกหกที่สุด(โกหกทุกอย่างบนโลกนี้) ปลิ้นปล่อน ชอบโยนความผิดให้คนอื่น ไม่ยอมรับความจริง แล้วก็ขี้อวด (มันมาบอกเราว่าพ่อมันมีเงิน7ร้อยล้าน ซึ่งเราก็สงสารเค้านะที่เค้าต้องโกหกแบบนี้เพราะมีปมด้อยอะไรรึป่าว ตอนนั้นเราก็เลยแกล้งเชื่อเค้าไป)และเค้าเป็นคนไม่มีสังคม เพราะขี้โกง เช่น ไปกินเหล้ากับเพื่อนก็แกล้งเมา แล้วชิ่งกลับบ้าน พอเพื่อนทวง ก็บอกว่าให้แล้ว อะไรทำนองเนี้ย ซึ่งเรารับไม่ได้กับคนนิสัยแบบนี้ เราพาไปไหนเราก็อายเพื่อนๆ เพราะมันชอบทำนิสัยแบบนี้ แล้วเราก็เลิกกับมันโดยการหายไปจากมันเลย.................................................
.....................................จนผ่านมา2ปี อยู่ๆมันก็กลับมาทักเรา แล้วก้บอกขอโทดเราต่างๆนาๆ แต่ตอนนี้เราไม่ได้อยากคุยกับมันเพราะเราคิดถึงหรืออะไรนะคะ แต่ลึกๆเราอยากได้เงินที่เราเสียไปคืน เพราะเรารู้สึกเสียดายที่ต้องให้ผู้ชายมักง่ายและหน้าด้านแบบนี้เคยอยู่สบายเพราะเงินเรา แต่พอเราเกิดปัญหา มันกลับวิ่งหนี ........ แล้วตอนนี้มันก็มีแฟนอยู่ แต่มันก้ยังมาคุยกับเรา บอกจะเลี้ยงเราอย่างงั้นอย่างงี้ ซึ่งเราไม่ต้องการเลยค่ะ เราแค่คิดว่า ไหนๆมันมีเงินแล้ว ก้ช่วยเอาเงินที่เราเคยเสียไปให้มาคืน ....แต่เราควรจะใช้วิธีไหนกับคนแบบนี้ดีคะ เพื่อนๆช่วยเราคิดหน่อย
*ปล. ไม่รู้ว่าเราคิดแบบนี้มันเหมือนเห็นแก่ตัวรึป่าว เราก็ไม่แน่ใจตัวเองเหมือนกันค่ะ เราแค่อยากรู้ว่าเราควรจะจัดการกับผู้ชายแบบนี้ยังไงดีคะ