หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
ภูกระดึง ผ่านพ้นมาอีก 1 ปี
กระทู้สนทนา
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
ภูกระดึง
เดินป่า
ภาคแรกที่เคยเขียน ในตอน “ภูกระดึงในวันฝนพรำ” (
http://ppantip.com/topic/34302623
) อันเป็นการบันทึกการเดินทางเมื่อตอนภูกระดึงเปิดป่าระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคม 2558 แต่ครั้งนี้การเดินทางเล็กๆ ในสถานที่เดิมแห่งนี้ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ในช่วงวันเวลาเดิมของการเปิดป่าของปี 2559 ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2559
** ในกระทู้นี้ผมขอผ่านในเรื่องการให้ข้อมูลและการเตรียมตัว แต่ขอเล่าเรื่องผ่านทางรูปภาพแทนนะครับ **
8/10/59
มาครั้งนี้เป็นการมากับน้องอีกคน (น้องออย) ซึ่งมาครั้งนี้เป็นครั้งแรก และตัวผมเอง (ท็อป) แต่ก็ได้เจอกับพี่ในกลุ่มคนเดินป่าด้วยกันคือพี่แบงค์ (เสื้อฟ้า) และพี่เปิ้ล (เสื้อเหลือง) ที่ร้านเจ๊กิม
ผมและน้องเริ่มเดินขึ้นประมาณ 7.45 น. และเหมือนกับการออกทริปอื่นๆ คือแบกของแบกเป้กันเอง เดินตามกันบ้าง แซงกันบ้าง พักบ้างตามสภาพ ถ้าเทียบกับปีที่แล้วของการเปิดป่าการเดินทางครั้งนี้ไร้ฝน ทำให้เดินได้สบายๆ ด้วยสภาพทางที่แห้งบ้าง มีโคลนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดิน สภาพป่าที่ยังอับชื้นและยังใหม่อยู่ เราอาจได้พบกับยุงที่จะพร้อมจะจู่โจมเรายามนั่งพัก เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว หรือการสวมปลอกแขนเป็นตัวช่วยที่ดีในการป้องกันยุง
ตลอดเส้นทางก่อนถึงหลังแป นอกจากเราจะได้พบกับนักท่องเที่ยวหลากหลายช่วงอายุทั้งเด็กจนถึงผู้ใหญ่ หรือลูกหาบทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวไปจนถึงลูกหาบรุ่นลุง มองไปอีกมุมหนึ่งหลังร้านค้ายังได้พบกับกิจวัตรประจำวันของลูกหาบบางท่าน อย่างเช่น รูปด้านล่างนี้ ที่พี่ลูกหาบกำลังนำไม้ไผ่มาเผาไฟให้แห้งเพื่อใช้เป็นสำหรับไม้หาบแบกอันใหม่
ระหว่างที่นั่งพักมองต่ำลงไปที่พื้นก็ยังมีความสวยงามปรากฏเป็นจุดๆ จุดหยิบเอามือถือมาติดเลนส์หนีบเพื่อถ่ายภาพระยะใกล้ มันทำให้เห็นความสวยงามจากมุมเล็กๆ ที่เราพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
มีนักท่องเที่ยวที่พึ่งขึ้นมาจากด้านล่างหรือนักท่องเที่ยวที่ลงมาจากด้านบนเพื่อกลับสวนทางกันอยู่ตลอด
เวลา 13.50 น. นับตั้งแต่เวลา 7.45 น รวมเวลา 6 ชั่วโมงกับระยะทาง 5.5 กิโล มาถึงหลังแป
เนื่องจากน้องออยมีเวลาแค่ 2 วันคือ (8-9/10) ทำให้ต้องทำเวลาเก็บสถานที่เท่าที่จะทำได้ก่อนเดินทางกลับ หลังจากที่ไปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อจองเต๊นท์และเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วนั้น พวกเราทั้ง 4 คนก็ไม่รอช้าเดินทางไปยังผาหล่มสักกันต่อเลย ดูเวลาก็ปาไปบ่ายสามกว่าแล้ว ระยะทาง 9 กิโลเมตร ไม่ใช่ใกล้ๆ ในใจคิดว่าถึงแม้จะเดินไปดูแสงเย็นที่ผาหล่มสักไม่ทัน แต่เพื่อน้องที่ตั้งใจว่าจะไป เราก็ต้องทำความตั้งใจนั้นให้สำเร็จ
ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เราพึ่งมาถึงผาหล่มสัก (18.28 น.) แม้จะไม่ได้เห็นแสงสีทองตามที่คิด อย่างน้อยเราทั้ง 4 คนก็มาถึงผาอย่างที่คิดไว้ แสงสีน้ำเงินของท้องฟ้ายามเย็นตัดกับวิวดำๆ ทึบๆ ของต้นสนได้บรรยากาศไปอีกแบบ
จากนี้ไปคือเดินทางกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปอีก 9 กิโล สรุปวันแรกวันนี้เราเดินไป 26 กิโล (เดินขึ้นเขา 5, หลังแปไปศูนย์ฯ 3, จากศูนย์ฯ ไป-กลับผาหล่มสัก 18)
…………
9/10/59
เป็นที่รู้กันว่าทุกๆ ช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 จะมีพี่เจ้าหน้าที่นำเราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ที่อยู่ทางทิศตะวันออก ออกเดินไปชมบรรยากาศที่คุ้นเคย ออกไปดูแสงเช้า ไปดูทะเลหมอกนิ่งๆ ฟินๆ กันไปสำหรับเช้าที่แสนธรรมดากับบรรยากาศดีๆ
ที่เก่ากับผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลงเสน่ห์ของภูกระดึง
สถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากผานกแอ่นและอยู่ในเส้นทางที่จะเดินกลับคือลานพระแก้ว แวะไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคล
หลังจากนี้คือกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และทำกิจวัตรส่วนตัวครับ.
เช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 และเป็นวันที่น้องออยต้องลงเขากลับไปก่อน ประกอบกับน้องมีอาการปวดเท้าทำให้ในช่วงเช้านี้ทำได้แค่ไปเที่ยวชมน้ำตกวังกวางที่อยู่ใกล้สุด ชมน้ำตกได้สักพัก ผมและน้องก็ต้องแยกย้ายกัน น้องกลับลงเขาไปก่อน ส่วนผมยังคงอย่ต่ออีก 1 คืน
เป้าหมายในการเดินเที่ยวของผมในเช้าวันที่ 2 นี้ คือเดินเลียบเส้นน้ำตก ตั้งแต่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ จนถึง น้ำตกธารสวรรค์ และเดินลัดเขตทุ่งหญ้าออกไปยังผานาน้อย แล้วจบท้ายของวันด้วยการไปชมวิวที่ผาเหยียบเมฆ
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
น้ำตกโผนพบ
เดินเที่ยวเส้นทางเลียบน้ำตกนี้มันอดไม่ได้ที่จะหยุดเล่นน้ำ ผมก็เช่นกัน หยุดๆ เล่นๆ เล่นจนตัวเปียก เปียกแล้วแห้ง แห้งแล้วเล่นใหม่ ความสุขเล็กๆ ของคนรักธรรมชาติ
น้ำตกเพ็ญพบ
ตลอดเส้นทางเหมือนว่าเราได้หลุดออกไปยังอีกโลกหนึ่งที่เงียบสงบ พืชพรรณไม้สีเขียวเกิดขึ้นทุกที่ภายใต้เงาของต้นไม้ใหญ่และมีเสียงน้ำไหลรินตลอดเส้นทาง
น้ำตกถ้ำใหญ่
น้ำตกธารสวรรค์ ให้เดินย้อนขึ้นไปหลังน้ำตกถ้ำใหญ่ขึ้นไปอีกนิดนึงก็จะพบนะครับ ในแผนที่บางอันอาจจะไม่ได้เขียนไว้
และแล้วผมก็ไม่รอดครับ เจอทากุมะตัวน้อยเจาะทะลุถุงเท้า ตอนแรกก็นึกว่าเส้นอะไรเกาะที่ถุงเท้าพอดึงออกมาเท่านั้น ทากตัวเล็กสั้นประมาณ 1 ซม. กินเลือดอิ่มเลย
เกร็ดความรู้ : หากเลือดไหลไม่หยุดหลังจากทากหลุดออกไปแล้ว ให้เอายาเส้นยาสูบ (หรือยาเส้นจากบุหรี) ผสมน้ำแล้วบีบน้ำยาสูบลงใส่แผล หรือหยดน้ำมะนาวใส่ จะทำให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้นครับ
แสงเย็นที่ผาเหยียบเมฆ สวยงามประทับใจ
จบวันที่ 2 ครับ
…………
10/10/59
วันนี้ไม่ได้ไปไหนเหลือแต่รอกลับลงเขาช่วงบ่ายๆ และขอนำเสนอภาพชุดมาโครเล็กๆ จากสองข้างทางให้ชมกันครับ
และที่นี่...เราจะได้เพื่อนใหม่และมิตรภาพดีๆ กลับไปอีกเพียบ
ขอจบเรื่องเล่าจากการเดินทางเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
Warinezz.
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
23 ธันวาคม เปิดเที่ยว "ภูกระดึง" พร้อมมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศเปิดให้เข้าท่องเที่ยว 23 ธันวาคม 2567 อุทยานแห่งชาติภูกระดึงประกาศเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าเยี่ยมชมอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม 25
สมาชิกหมายเลข 7265802
ช้างป่าภูกระดึง ทำร้ายนักท่องเที่ยว เสียชีวิต 1 ราย
วันที่ 11 ธ.ค. 2567 พ.ต.อ.ณัทญา ทองจันทร์ ผกก. สภ.ภูกระดึง จ.เลย พ.ต.ท.ณัศฐวัตรฆ์ สุทธิสา สว.(สอบสวน) สภ.ภูกระดึง ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังไ
ใช้เพื่อแสดงตัวตนเท่านั้น
พิชิต ลานสนภูสอยดาว อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว อุตรดิตถ์
ช่วงหน้าฝนแบบนี้ เส้นทางเดินป่า ยอดฮิตคงหนีไม่พ้น ภูสอยดาว ดินแดนสวรรค์บนดินแห่ง ทะเลทุ่งดอกหงอนนาค และ ป่าสนสามใบ อยู่ในเขต อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มี แลนด์มาร์ค 2 จุด ได้แก่ ลานสนภูสอยดาว และ ยอด 210
สมาชิกหมายเลข 1186370
ในอุทยานบ้านเรา มีจำนวนสัตว์ป่ามากน้อยแค่ไหนครับ
ในปีนี้จำได้ว่าเห็นข่าวเจอเสือ แต่จำไม่ได้ว่าเจอที่อุทยานอะไรนะครับ ส่วนเดือนก่อนเห็นโพสต์คนไปเที่ยวภูกระดึง แล้วเจอกวางตัวใหญ่ออกมาเดินเล่นพอดี เดินแถวร้านอาหารบนนั้นนี่แหละ ล่าสุด เห็น
สมาชิกหมายเลข 6652492
ถ้าปิด "ภูกระดึง" ถาวรตลอดไป ใครจะได้รับผลกระทบ/เดือดร้อน มากที่สุด!?
ถ้าปิด ไม่ให้ท่องเที่ยว ให้เป็นผืนป่าอนุรักษ์อย่างเดียว - ช้างป่า ได้ประโยชน์ - แล้ว มนุษย์/ผู้คนในภาคส่วนใด ที่จะได้รับผลกระทบ เดือดร้อน มากที่สุด? ...นักท่องเที่ยว ว่าไง? ...เจ้าหน้าที่ ผู้ดูแลอ
สมาชิกหมายเลข 6916554
ด่วน! ปิดภูกระดึงชั่วคราว หวั่นช้างป่าตกมันทำร้ายนักท่องเที่ยว ตั้งแต่ 13 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป
สั่งปิด “ภูกระดึง” ชั่วคราว หวั่นช้างป่าตกมัน ทำร้ายนักท่องเที่ยว จากกรณีที่มีช้างป่าทำร้ายนักท่องเที่ยวจนเสียชีวิตบนภูกระดึงเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. ที่ผ
ใช้เพื่อแสดงตัวตนเท่านั้น
สอบทางเส้นทางท่องเที่ยว จาก นครราชสีมา ไปภูกระดึง
อยากทราบแหล่งท่องเที่ยวระหว่างเดินทางไปภูกระดึง มีที่ไหนน่าแวะเที่ยวบ้างคะ
สมาชิกหมายเลข 8532632
เพื่อนผมบอกว่า ถ้าขึ้นภูกระดึงแบบใช้พวกลูกหาบ อย่ามาโม้
ตอนนี้ช่วงขึ้นภูกระดึง เลยเกิดมีการเกทับของพวกเพื่อนๆ ที่เคยขึ้นยุค 30 ปีที่แล้ว ว่าตอนยุคนั้นขึ้นภูกระดึงกัน ไม่ต้องมีพวกลูกหาบ (เพื่อนๆผมยุคนั้นคือยังเป็นนักศึกษา) ส่วนพวกที่ใช้ลูกหาบคนของขึ้นยุคนี้
=. ลางเนื้อเจือลางยา .=
[CR]ทริปเดินป่า"อช.ภูกระดึง"3วัน2คืน ด้วยงบไม่เกิน 3,000 บาท
สวัสดีครับเพื่อนๆ😊..ทริปนี้เป็นการเดินทางไป"ภูกระดึง"แบบ 3 วัน 2 คืน (ถ้าหากนับรวมวันเดินทางด้วยก็จะเป็น 4 คืน 3 วันนะครับ😊) ..เราเดินทางจากกรุงเทพฯด้วยรถทัวร์ของ บ.แอร์เมืองเลย วันที่ 2 ต
บางเวลา_BangWayLar
ลุยป่าอีสาน หน้าฝน ขับรถเที่ยวลุยป่า สู่ น้ำตกห้วยหลวง ผาโสก เที่ยวอุบลราชธานี
https://www.youtube.com/watch?v=nRiQqzvhGbk ซีรีส์ ลุยป่าอีสาน หน้าฝน เราจะพาทุกคนร่วมออกเดินทาง ลุยป่าอีสาน ในหน้าฝน รอบนี้เราจะไป เที่ยวอุบลราชธานี ขับรถเที่
สมาชิกหมายเลข 8115155
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวเชิงอนุรักษ์
ภูกระดึง
เดินป่า
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ : 11
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
ภูกระดึง ผ่านพ้นมาอีก 1 ปี
ภาคแรกที่เคยเขียน ในตอน “ภูกระดึงในวันฝนพรำ” (http://ppantip.com/topic/34302623) อันเป็นการบันทึกการเดินทางเมื่อตอนภูกระดึงเปิดป่าระหว่างวันที่ 8-11 ตุลาคม 2558 แต่ครั้งนี้การเดินทางเล็กๆ ในสถานที่เดิมแห่งนี้ก็ได้เกิดขึ้นอีกครั้ง ในช่วงวันเวลาเดิมของการเปิดป่าของปี 2559 ระหว่างวันที่ 8-10 ตุลาคม 2559
8/10/59
มาครั้งนี้เป็นการมากับน้องอีกคน (น้องออย) ซึ่งมาครั้งนี้เป็นครั้งแรก และตัวผมเอง (ท็อป) แต่ก็ได้เจอกับพี่ในกลุ่มคนเดินป่าด้วยกันคือพี่แบงค์ (เสื้อฟ้า) และพี่เปิ้ล (เสื้อเหลือง) ที่ร้านเจ๊กิม
ผมและน้องเริ่มเดินขึ้นประมาณ 7.45 น. และเหมือนกับการออกทริปอื่นๆ คือแบกของแบกเป้กันเอง เดินตามกันบ้าง แซงกันบ้าง พักบ้างตามสภาพ ถ้าเทียบกับปีที่แล้วของการเปิดป่าการเดินทางครั้งนี้ไร้ฝน ทำให้เดินได้สบายๆ ด้วยสภาพทางที่แห้งบ้าง มีโคลนบ้าง แต่ก็ไม่เป็นอุปสรรคในการเดิน สภาพป่าที่ยังอับชื้นและยังใหม่อยู่ เราอาจได้พบกับยุงที่จะพร้อมจะจู่โจมเรายามนั่งพัก เสื้อผ้าแขนยาว ขายาว หรือการสวมปลอกแขนเป็นตัวช่วยที่ดีในการป้องกันยุง
ตลอดเส้นทางก่อนถึงหลังแป นอกจากเราจะได้พบกับนักท่องเที่ยวหลากหลายช่วงอายุทั้งเด็กจนถึงผู้ใหญ่ หรือลูกหาบทั้งวัยรุ่นหนุ่มสาวไปจนถึงลูกหาบรุ่นลุง มองไปอีกมุมหนึ่งหลังร้านค้ายังได้พบกับกิจวัตรประจำวันของลูกหาบบางท่าน อย่างเช่น รูปด้านล่างนี้ ที่พี่ลูกหาบกำลังนำไม้ไผ่มาเผาไฟให้แห้งเพื่อใช้เป็นสำหรับไม้หาบแบกอันใหม่
ระหว่างที่นั่งพักมองต่ำลงไปที่พื้นก็ยังมีความสวยงามปรากฏเป็นจุดๆ จุดหยิบเอามือถือมาติดเลนส์หนีบเพื่อถ่ายภาพระยะใกล้ มันทำให้เห็นความสวยงามจากมุมเล็กๆ ที่เราพบเห็นได้ไม่บ่อยนัก
มีนักท่องเที่ยวที่พึ่งขึ้นมาจากด้านล่างหรือนักท่องเที่ยวที่ลงมาจากด้านบนเพื่อกลับสวนทางกันอยู่ตลอด
เวลา 13.50 น. นับตั้งแต่เวลา 7.45 น รวมเวลา 6 ชั่วโมงกับระยะทาง 5.5 กิโล มาถึงหลังแป
เนื่องจากน้องออยมีเวลาแค่ 2 วันคือ (8-9/10) ทำให้ต้องทำเวลาเก็บสถานที่เท่าที่จะทำได้ก่อนเดินทางกลับ หลังจากที่ไปถึงศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเพื่อจองเต๊นท์และเก็บสัมภาระเรียบร้อยแล้วนั้น พวกเราทั้ง 4 คนก็ไม่รอช้าเดินทางไปยังผาหล่มสักกันต่อเลย ดูเวลาก็ปาไปบ่ายสามกว่าแล้ว ระยะทาง 9 กิโลเมตร ไม่ใช่ใกล้ๆ ในใจคิดว่าถึงแม้จะเดินไปดูแสงเย็นที่ผาหล่มสักไม่ทัน แต่เพื่อน้องที่ตั้งใจว่าจะไป เราก็ต้องทำความตั้งใจนั้นให้สำเร็จ
ดวงอาทิตย์ลาลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เราพึ่งมาถึงผาหล่มสัก (18.28 น.) แม้จะไม่ได้เห็นแสงสีทองตามที่คิด อย่างน้อยเราทั้ง 4 คนก็มาถึงผาอย่างที่คิดไว้ แสงสีน้ำเงินของท้องฟ้ายามเย็นตัดกับวิวดำๆ ทึบๆ ของต้นสนได้บรรยากาศไปอีกแบบ
จากนี้ไปคือเดินทางกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยวไปอีก 9 กิโล สรุปวันแรกวันนี้เราเดินไป 26 กิโล (เดินขึ้นเขา 5, หลังแปไปศูนย์ฯ 3, จากศูนย์ฯ ไป-กลับผาหล่มสัก 18)
…………
9/10/59
เป็นที่รู้กันว่าทุกๆ ช่วงเช้ามืดประมาณตี 5 จะมีพี่เจ้าหน้าที่นำเราไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ผานกแอ่น ที่อยู่ทางทิศตะวันออก ออกเดินไปชมบรรยากาศที่คุ้นเคย ออกไปดูแสงเช้า ไปดูทะเลหมอกนิ่งๆ ฟินๆ กันไปสำหรับเช้าที่แสนธรรมดากับบรรยากาศดีๆ
ที่เก่ากับผู้คนมากหน้าหลายตาที่หลงเสน่ห์ของภูกระดึง
สถานที่ที่อยู่ไม่ไกลจากผานกแอ่นและอยู่ในเส้นทางที่จะเดินกลับคือลานพระแก้ว แวะไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคล
หลังจากนี้คือกลับศูนย์บริการนักท่องเที่ยว และทำกิจวัตรส่วนตัวครับ.
เช้าวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 และเป็นวันที่น้องออยต้องลงเขากลับไปก่อน ประกอบกับน้องมีอาการปวดเท้าทำให้ในช่วงเช้านี้ทำได้แค่ไปเที่ยวชมน้ำตกวังกวางที่อยู่ใกล้สุด ชมน้ำตกได้สักพัก ผมและน้องก็ต้องแยกย้ายกัน น้องกลับลงเขาไปก่อน ส่วนผมยังคงอย่ต่ออีก 1 คืน
เป้าหมายในการเดินเที่ยวของผมในเช้าวันที่ 2 นี้ คือเดินเลียบเส้นน้ำตก ตั้งแต่น้ำตกเพ็ญพบใหม่ จนถึง น้ำตกธารสวรรค์ และเดินลัดเขตทุ่งหญ้าออกไปยังผานาน้อย แล้วจบท้ายของวันด้วยการไปชมวิวที่ผาเหยียบเมฆ
น้ำตกเพ็ญพบใหม่
น้ำตกโผนพบ
เดินเที่ยวเส้นทางเลียบน้ำตกนี้มันอดไม่ได้ที่จะหยุดเล่นน้ำ ผมก็เช่นกัน หยุดๆ เล่นๆ เล่นจนตัวเปียก เปียกแล้วแห้ง แห้งแล้วเล่นใหม่ ความสุขเล็กๆ ของคนรักธรรมชาติ
น้ำตกเพ็ญพบ
ตลอดเส้นทางเหมือนว่าเราได้หลุดออกไปยังอีกโลกหนึ่งที่เงียบสงบ พืชพรรณไม้สีเขียวเกิดขึ้นทุกที่ภายใต้เงาของต้นไม้ใหญ่และมีเสียงน้ำไหลรินตลอดเส้นทาง
น้ำตกถ้ำใหญ่
น้ำตกธารสวรรค์ ให้เดินย้อนขึ้นไปหลังน้ำตกถ้ำใหญ่ขึ้นไปอีกนิดนึงก็จะพบนะครับ ในแผนที่บางอันอาจจะไม่ได้เขียนไว้
และแล้วผมก็ไม่รอดครับ เจอทากุมะตัวน้อยเจาะทะลุถุงเท้า ตอนแรกก็นึกว่าเส้นอะไรเกาะที่ถุงเท้าพอดึงออกมาเท่านั้น ทากตัวเล็กสั้นประมาณ 1 ซม. กินเลือดอิ่มเลย
แสงเย็นที่ผาเหยียบเมฆ สวยงามประทับใจ
จบวันที่ 2 ครับ
…………
10/10/59
วันนี้ไม่ได้ไปไหนเหลือแต่รอกลับลงเขาช่วงบ่ายๆ และขอนำเสนอภาพชุดมาโครเล็กๆ จากสองข้างทางให้ชมกันครับ
ขอจบเรื่องเล่าจากการเดินทางเพียงเท่านี้ ขอบคุณครับ
Warinezz.