เราชื่อซีนะเป็นเด็ก ตจว. ภาคเหนือคะ บ้านเราอยู่ในตลาด ชีวิตเราทั่วไปแหละ ไม่ได้หวือหวาอะไร ส่วนเรื่องความรักของเราเหรอ มันเริ่มตั้งแต่ตอนไหนดีหล่ะ เอาตั้งแต่ความรักแบบ ป๊อบปี้เลิฟเลยไหม อื่มตั้งแต่มัธยมต้นเราไม่เคยมีแฟนเลย จะว่าเราไม่สวยเหรอ อาจจะใช่555 จริงๆ เราก็น่ารักนะ เราเป็นสาวหมวย ขาวมาก ตาชั้นเดียว ผอมๆ ไม่มีอะไรน่าดึงดูดใจหนุ่มๆ ซักเท่าไหร่ ที่สำคัญ เราฟันเหยิน5555 จริงๆ ก็มีหนุ่มๆมาแซวๆบ้างนะ แต่ก็นั้นแหละ ความที่ยังเด็กมาก แถมเป็นคนขี้อายอีกต่างหาก ทำให้ไม่ค่อยสนใจ (หรือไม่กล้าวะ) หนุ่มๆ ก็มีแซวแต่ไม่มาจีบจริงจัง ทำให้เราก็ยังเป็นโสดมาตลอด พอม.2แม่คงกลัวลูกไม่สวย เลยพาไปดัดฟัน จนถึงม.4 ก็ได้เอาเหล็กดัดฟันออก เลยมีหนุ่มมาจีบอีกแต่ก็โดนเพื่อนคาบไปแด๊ก(ชีวิตมันเศร้า) จนม.5 มีหนุ่มเทคนิคมาจีบแต่ก็นะ พอจะคบ มันก็มีเหตุให้เราตีตัวออกห่างเค้าไปซะเฉยๆ (ไม่สวยแต่เลือกมากไง555) จนมีเพื่อนของพี่คนสนิทมาจีบอีก คนนี้เหมือนจะจริงจังคุยโทรศัพน์จีบกันจนดึก หลับคาโทรศัพท์ก็มีนะเอ่อ ทำไปได้ แต่พอพี่เค้าเข้ามหาลัยที่กรุงเทพก็ห่างๆ กันไป อ้อลืมบอกว่าเราเด็ก ตจว. จนเราจบม.6 ด้วยความที่ตั้งใจเรียนมาก555 เอ็นไม่ติด เราเลยมาเรียนมหาลัยเอกชนในกทม. เราเลือกเรียนคณะนิเทศน์ เพราะเป็นคนชอบกิจกรรม ชีวิตในม.ก็หนุกหนานดี แต่ไม่มีหนุ่มๆอีกนั้นแหละ 5555 ทำไมชีวิตฉันมันจืดชืดอย่างนี้วะแก แต่ก็นั้นแหละ ฉันไม่ได้เป็นคนว้อนเลิฟอะไรนี่หว่า มีเพือนๆ ก็หนุกหนานดี พอขึ้นปี2 เราก็มีเพื่อนที่สนิทกัน3 อ้อลืมบอกว่าปี1เราอยู่บ้านอา แต่พอปี2 เราย้ายมาอยู่หอ กับเพื่อนเรา แทนชื่อว่านัทนะเรากับนัทอยู่ห้องเดียวกัน แล้วก็เพื่นอสนิทอีกคนชื่อ เอ แต่เออยู่คนละชั้น ใกล้ปิดเทอมปี2 นัทเพื่อนเรามันอยากไปออกค่ายอาสามาก มันมาชวนเราไปตอนช่วงปิดเทอม ความเป็นคนใจง่ายก็ไปกับเค้า แต่จริงๆตอนปี1 เราเคยไปกับเอแล้วแต่ไม่ได้เป็นค่ายใหญ่เหมือนครั้งนี้ เอมันไม่ค่อยชอบเท่าไหร่แล้วก็มีธุระต้องกลับไปช่วยที่บ้านช่วงปิดเทอม มันเลยไม่ไปด้วย เรากับนัทก็ไปสมัครกันที่ห้องค่าย ก็มีพวกพี่ๆ ทั้งผู้หญิง ผู้ชายนั่งกัน หลายคน พี่ประธานค่ายก็มาแนะนำให้เอกสารมากรอก แล้วก็คุยกันนิดหน่อย เพราะเป็นครั้งแรกที่ไป
พี่ผู้หญิงก็แซวๆ “ยังไม่เคยออกค่ายเลยเหรอน้อง หน้าไม่คุ้น”
นัท”ยังไม่เคยพี่ครั้งแรกเลย”
พี่ผู้ญ”ขาวๆอย่างนี้ไปออกค่ายไม่กลัวดำเหรอ”
เรา”ไม่อะพี่ ดำได้ เดี๋ยวก็ขาวได้”
อยู่ๆก็มีพี่ผู้ชายตะโกนแซวมา “หมวยๆ อย่างนี้ระวังหนุ่มค่ายมาจีบนะ ไปคนเดียวกลับ2คน นะน้อง”
พี่ญ “เฮ้ยพูดดี ๆ เดี๋ยวน้องเปลี่ยนใจไม่ไปหรอก”
นัท”ไม่เป็นไรพี่ ตั้งใจไปออกค่ายไม่ได้ไปจับผู้ชาย” เพื่อนเรามันปากร้ายไง555
พี่ญ ก็อึ้งในความแรงแต่หัวเราะกลบเกลื่อน “เอ่อๆ แล้วเจอกันน้อง อย่าไปถือเลย พวกนี้มันปากหมา”
เราก็กลับไปเรียน ระหว่างเดินกลับตึกเรียนเรามันจะต้องผ่านสามแยกปากหมา555 ที่เรียกแบบนั้นเพราะ แถวนั้นจะมีที่นั่ง เป็นซุ้มของหลายๆ คณะ แต่ตรงนั้นเป็นทางสามแยกพอดี แล้วมักจะมีพวกผู้ชายรุ่นพี่ ชอบมานั่งแซว สาวๆ
เราก็ไม่กล้ามองรีบเดินผ่านอย่างเร็ว แต่ได้ยินพวกผู้ชายกลุ่มนั้นตะโกนแซว ผู้หญิงอีกกลุ่มที่เดินนำเราไปก่อน แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันเพราะผู้หญิงก็ด่ากลับแบบ ขำๆ กันไปไม่ได้โกรธไร เราก็เลยชำเลืองมองไปแบบไม่ตั้งใจ อื้อหือ แต่ละคนนี่แบบ หน้าโหดมากแก ผิวก็เข้มซะ หนวดเคราก็นะ นี่มันนักศึกษา หรือนักเลงวะ สงสัยจะเป็นเด็กซิ่วแน่ๆ เรากับนัทก็รีบเดินผ่านไปไม่ได้สนใจไรมาก หลังจากนั้นก็ไปเรียนตามปกติจนปิดเทอม ถึงวันที่ต้องไปออกค่าย ก็หิ้วกระเป๋าไปที่ม. ปรากฏว่าออกค่ายครั้งนี้มีเด็กนิเทศเยอะมาก ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง พวกรุ่นน้อง เป็นกลุ่มน้องรหัสไอ้นัทมัน มันมีน้องรหัสเป็นน้องผู้ชาย ชื่อท๊อป กลุ่มท๊อปไปกัน 5-6 คน แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายที่เรียนกลุ่มเดียวกับเราไปอีกคนชื่อปั๊ม เราก็ดีใจมีคนรู้จักไปกันหลายๆ คนจะได้สนุก ก็ทักทายกันไป พวกมันก็แปลกใจว่าหน้าอย่างเรากับนัทไม่น่าจะอยากมาออกค่ายอาสา 5555 ดูคุณหนูมากเลยเหรอ ก็คุยไปแซวไประหว่างทางพี่ๆ ก็ดูแลบ้าง แซงบ้างหาเกมส์มาเล่น แนะนำตัว ทั่วไป อ้อลืมบอกว่าเราไปออกค่ายครั้งนี้ที่จังหวัดกำแพงเพชร แต่อำเภอไรจำไม่ได้นะ
นั่งรถไปได้ซักพักใหญ่ๆ พี่ก็บอกให้ลงรถ เพราะถนนมันเป็นดินลูกรัง รถใหญ่เข้าไม่ได้ เราก็ย้ายกระเป๋าไปต่อรถอีแต๋นกัน 555ฟังไม่ผิดคะ นั่งพ่วงข้างหลังมีอีแต๋นลากไป ขี้ฝุ่นนี่ฟุ้งมาก กว่าจะถึงโรงเรียนที่มาออกค่ายเล่นเอาหัวแดงกันเลยทีเดียว โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเล็กๆ อยู่กลางเขาล้อมรอบ พอมาถึงก็เอากระเป๋าไปเก็บแล้วพี่ก็เรียกมาเข้าแถว ครูใหญ่กับชาวบ้านก็มาต้อนรับพร้อมเด็กนักเรียน เสร็จแล้วก็มาจัดของในเต็น เต็นนี่จะมีพวกพี่ๆ นำมาก่อนมาตั้งเต็นเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนที่เราจะมาถึงอีกคันหนึ่ง เต๊นที่เราไปพักเป็นต็น
เรื่องความรักที่อยากจะเล่า
พี่ผู้หญิงก็แซวๆ “ยังไม่เคยออกค่ายเลยเหรอน้อง หน้าไม่คุ้น”
นัท”ยังไม่เคยพี่ครั้งแรกเลย”
พี่ผู้ญ”ขาวๆอย่างนี้ไปออกค่ายไม่กลัวดำเหรอ”
เรา”ไม่อะพี่ ดำได้ เดี๋ยวก็ขาวได้”
อยู่ๆก็มีพี่ผู้ชายตะโกนแซวมา “หมวยๆ อย่างนี้ระวังหนุ่มค่ายมาจีบนะ ไปคนเดียวกลับ2คน นะน้อง”
พี่ญ “เฮ้ยพูดดี ๆ เดี๋ยวน้องเปลี่ยนใจไม่ไปหรอก”
นัท”ไม่เป็นไรพี่ ตั้งใจไปออกค่ายไม่ได้ไปจับผู้ชาย” เพื่อนเรามันปากร้ายไง555
พี่ญ ก็อึ้งในความแรงแต่หัวเราะกลบเกลื่อน “เอ่อๆ แล้วเจอกันน้อง อย่าไปถือเลย พวกนี้มันปากหมา”
เราก็กลับไปเรียน ระหว่างเดินกลับตึกเรียนเรามันจะต้องผ่านสามแยกปากหมา555 ที่เรียกแบบนั้นเพราะ แถวนั้นจะมีที่นั่ง เป็นซุ้มของหลายๆ คณะ แต่ตรงนั้นเป็นทางสามแยกพอดี แล้วมักจะมีพวกผู้ชายรุ่นพี่ ชอบมานั่งแซว สาวๆ
เราก็ไม่กล้ามองรีบเดินผ่านอย่างเร็ว แต่ได้ยินพวกผู้ชายกลุ่มนั้นตะโกนแซว ผู้หญิงอีกกลุ่มที่เดินนำเราไปก่อน แต่คาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนกันเพราะผู้หญิงก็ด่ากลับแบบ ขำๆ กันไปไม่ได้โกรธไร เราก็เลยชำเลืองมองไปแบบไม่ตั้งใจ อื้อหือ แต่ละคนนี่แบบ หน้าโหดมากแก ผิวก็เข้มซะ หนวดเคราก็นะ นี่มันนักศึกษา หรือนักเลงวะ สงสัยจะเป็นเด็กซิ่วแน่ๆ เรากับนัทก็รีบเดินผ่านไปไม่ได้สนใจไรมาก หลังจากนั้นก็ไปเรียนตามปกติจนปิดเทอม ถึงวันที่ต้องไปออกค่าย ก็หิ้วกระเป๋าไปที่ม. ปรากฏว่าออกค่ายครั้งนี้มีเด็กนิเทศเยอะมาก ทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง พวกรุ่นน้อง เป็นกลุ่มน้องรหัสไอ้นัทมัน มันมีน้องรหัสเป็นน้องผู้ชาย ชื่อท๊อป กลุ่มท๊อปไปกัน 5-6 คน แล้วก็มีเพื่อนผู้ชายที่เรียนกลุ่มเดียวกับเราไปอีกคนชื่อปั๊ม เราก็ดีใจมีคนรู้จักไปกันหลายๆ คนจะได้สนุก ก็ทักทายกันไป พวกมันก็แปลกใจว่าหน้าอย่างเรากับนัทไม่น่าจะอยากมาออกค่ายอาสา 5555 ดูคุณหนูมากเลยเหรอ ก็คุยไปแซวไประหว่างทางพี่ๆ ก็ดูแลบ้าง แซงบ้างหาเกมส์มาเล่น แนะนำตัว ทั่วไป อ้อลืมบอกว่าเราไปออกค่ายครั้งนี้ที่จังหวัดกำแพงเพชร แต่อำเภอไรจำไม่ได้นะ
นั่งรถไปได้ซักพักใหญ่ๆ พี่ก็บอกให้ลงรถ เพราะถนนมันเป็นดินลูกรัง รถใหญ่เข้าไม่ได้ เราก็ย้ายกระเป๋าไปต่อรถอีแต๋นกัน 555ฟังไม่ผิดคะ นั่งพ่วงข้างหลังมีอีแต๋นลากไป ขี้ฝุ่นนี่ฟุ้งมาก กว่าจะถึงโรงเรียนที่มาออกค่ายเล่นเอาหัวแดงกันเลยทีเดียว โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนเล็กๆ อยู่กลางเขาล้อมรอบ พอมาถึงก็เอากระเป๋าไปเก็บแล้วพี่ก็เรียกมาเข้าแถว ครูใหญ่กับชาวบ้านก็มาต้อนรับพร้อมเด็กนักเรียน เสร็จแล้วก็มาจัดของในเต็น เต็นนี่จะมีพวกพี่ๆ นำมาก่อนมาตั้งเต็นเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ก่อนที่เราจะมาถึงอีกคันหนึ่ง เต๊นที่เราไปพักเป็นต็น