ณ สวนสัตว์เล็กที่เงียบสงบท่ามกลางกรุงใหญ่ที่วุ่นวาย
เมื่อจู่ๆความรู้สึกในวัยเด็กเรียกร้องขึ้นมาถึงการไปเยี่ยมเยียนสวนสัตว์พาต้าอีกครั้งหนึ่งในรอบหลายปี จึงตัดสินใจชวนเพื่อนๆไปลองเที่ยวชมดูหลังเลิกเรียน กับสวนสัตว์เล็กๆบนห้างสรรพสินค้า ที่แรกของประเทศไทย เปิดมานานกว่าสามสิบปี กับช่วงกาลเวลาที่เปลี่ยนไปจะมีอะไรเปลี่ยนแปลงไปไหม ? แล้วชีวิตเล็กๆบนตึกสูงตึกนั้นจะเป็นอย่างไรกันบ้าง ?
เมื่อขึ้นลิฟต์ในห้างสรรพสินค้ามาถึงชั้นที่5 ก็จะเจอเค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์และซื้อบัตรเข้าชม ในราคาผู้ใหญ่ 80 บาท และเด็ก 50 บาท ตามรูปด้านล่างนี้เลยค่ะ / ส่วนตัวคิดว่าควรมาวันเสาร์-อาทิตย์ ดีกว่าค่ะ เนื่องจากมีการแสดงให้ชมในราคาเท่ากันกับวันธรรมดา การแสดงสัตว์นั้นจะเป็นเป็น 2 ชั้น คือชั้น 7 และ 6
บรรยากาศที่เดินออกมาจากจุดที่ซื้อบัตร / ร่มรื่นและเต็มไปด้วยเสียงร้องของนกนานาชนิด ในโซนนกเงือกหลากหลายสายพันธุ์
เนื่องจากมาในวันธรรมดาช่วง4โมงเย็น จึงแทบจะไม่มีคนเลยค่ะ มีเพียงเรากับเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์
(ภาพเพื่อนสองคนกำลังยืนดูนกเงือกในกรง และบอกว่าสีมันสวยและแปลกมาก)
" ในแววตาเธอดูเงียบเหงาและไร้อิสรภาพมากเหลือเกิน เธอยังคงเฝ้ารอคอยอะไรบางอย่างอยู่ "
" ทรงผมสุดเท่ห์ "
" นกเงือกเป็นสัตว์รักเดียวใจเดียว มีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิตนะ "
" ถึงกรงจะกว้างใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เท่าอิสระภาพที่เราสามารถบินได้อย่างอิสระ "
" สีเขียวน้ำทะเลของเธอสะดุดตาเราเช่นเดียวกัน "
บรรยากาศโดยรอบในโซนของนกเงือก
เมื่อเดินตรงเข้าไป จะเป็นส่วนของนกสายพันธุ์เล็กๆชนิดต่างๆ
" ได้แต่เฝ้าคอย ใกล้อิสระมากที่สุด ก็ทำได้เท่านี้ "
" น่าเศร้าที่ความสวยงามเช่นนี้ ถูกจำกัดไว้เพียงแค่ในกรงสี่เหลี่ยม "
" เป็นนกที่มีเสียงร้องที่มีเสน่ห์จนต้องหันมาหาเจ้าของเสียง และยืนดูนิ่งๆ "
" ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ที่แท้จริง "
เมื่อเดินออกมาจากโซนนกขนาดเล็ก ก็จะพบกับน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีนกแก้วมาคอว์อยู่ด้านหน้า และมีร้านขายอาหารเพื่อไปป้อนแกะและกระต่ายที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ และมีโซนนกฟามิงโก้เล็กๆอยู่ 4-5 ตัวในโซนฝั่งซ้ายเช่นเดียวกัน
" PATA "
" สีสันที่ตัวของเธอช่างดึงดูดสวยตาเรายิ่งนัก สวยงามจริงๆ "
" แววตาเศร้าอีกตัวหนึ่ง ได้แต่เฝ้ารอคอยอาหาร "
" ฝูงแกะ "
" ฉันกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย "
" เป็นหนึ่งในสัตว์ที่ยังคงหลงไหลและชอบมอง ด้วยสีขาวและสีชมพูบานเย็นที่เข้ากันดี "
" เข้ากันดี "
" แค่เห็น ก็เจ็บปวดแล้ว "
ส่วนท้างดานขวา เป็นโซนของลิงชนิดต่างๆ แต่ทางที่เดินเข้าไปในสุดนั้นได้ปิดปรับปรุง คงต้องมาใหม่โอกาสหน้า (อดเจอฮิปโปน้อยเลย)
เดินเข้าไปจากในโซนลิง จะพบกับกรงเล็กๆตามริมขอบให้เราได้ชม ทั้งนก กระรอก และสัตว์ตัวเล็กๆ
และนี่คือกรงหมาป่าไฮยีนา ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากตัวอะไรวิ่งไปวิ่งมา และในกรงข้างๆกันก็เป็นลิงชิมแพนซี ซึ่งตู้กระจกมีลักษณะแบบเดียวกัน คือมองไม่เห็น ในส่วนนี้สวนสัตว์ควรปรับปรุงทำความสะอาดด้วยค่ะ
" เจ้ากรอลิลล่า เห็นเพียงแค่ก้น "
กรงเจ้าลิงชิมแพนซีอีกหนึ่งกรง กรงนี้มี2ตัว ในตอนที่ไปถึง เจ้าลิงตัวนึงนั่งกินถุงพลาสติก ส่วนอีกตัวห้อยโหนและดึงถุงพลาสติกเล่น (หรือนี่อาจจะเป็นของเล่นของลิง)
" ไอลิงตัวน้อย ซนนะเรา"
" ทำไมจึงรู้สึกเหงายิ่งนัก "
" เราก็รอคอยเช่นกัน "
" ขี้เกียจแล้ว เพราะไม่มีอะไรทำในกรงนี้แล้ว "
" สัตว์ และ มนุษย์ / ความเหมือนในความต่าง "
" แม่ลิงกับลูกลิง "
" ตัวละครในการ์ตูนเรื่องมาร์ดากัสกา "
สิ้นสุดในส่วนของชั้น 7 จะมีทางเดินลงบันไดลงมาชั้น 6 เพื่อชมในส่วนของสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ และสัตว์กลางคืน เช่น งูชนิดต่างๆ ตัวเงินตัวทอง สัตว์น้ำ ปลาแปลกๆ เต่าหลากหลายชนิด / ในส่วนนี้จะค่อนข้างเก่า บางตู้อาจชำรุด และอากาศไม่ค่อยถ่ายเถเท่าไหร่
บังเอิญเจอน้องๆสองคนนี้วิ่งเข้ามาถาม " พี่ไปโซนมืดมายัง แล้วโซนสว่างล่ะ ? " น้องๆเลยกลายเป็นไกด์จิ๋วที่วิ่งมาพาไปชมนู่นนี่ " พี่มาดูนี่เร็ว นี่นกฮูก นี่งู พี่กลัวงูรึเปล่า มันอยู่ในตู้แล้วจะกลัวทำไม " เป็นความโชคดีที่เจอน้องๆที่น่ารักตามประสาเด็กๆ
ในส่วนชั้นที่ 6 นี้ ค่อนข้างเงียบและมีกลิ่นอับ เนื่องจากเก่าแก่เป็นเวลานาน แต่มีที่ให้นั่งพักและมีห้องน้ำบริการด้วยค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าในการรักษ์สัตว์จริงๆ ควรเป็นการปล่อยให้เขาได้มีชีวิตที่อิสระ ถ้าเรารักเขาจริง เราจะเดินทางไปดูแลเขาระยะไกล มิใช่การนำความสวยงามเช่นนี้มาจำกัดไว้อยู่แค่ในกรงเหล็กสี่เหลี่ยม เมื่อไหร่ที่มีผู้คนเดินผ่าน สัตว์เหล่านี้จะมีปฏิกิริยาที่ดูดีใจและเล่นกับเรา คิดว่ามันคงเหงาและเบื่อกับชีวิตของมันมากจริงๆ / จากวันนี้ที่ได้ไปเยี่ยมชมมา พบว่ายังมีบางส่วนที่ยังดูแลขาดตกบกพร่องและดูไม่แข็งแรงต่อการรองรับความปลอดภัยมากเท่าไหร่ และในเรื่องของความสะอาดเช่นเดียวกัน
" แธงค์กิ้ว "
[CR] "สวนสัตว์พาต้า" แหล่งสิ่งมีชีวิตเล็กๆกลางกรุงใหญ่
เนื่องจากมาในวันธรรมดาช่วง4โมงเย็น จึงแทบจะไม่มีคนเลยค่ะ มีเพียงเรากับเจ้าหน้าที่ในสวนสัตว์
(ภาพเพื่อนสองคนกำลังยืนดูนกเงือกในกรง และบอกว่าสีมันสวยและแปลกมาก)
" ในแววตาเธอดูเงียบเหงาและไร้อิสรภาพมากเหลือเกิน เธอยังคงเฝ้ารอคอยอะไรบางอย่างอยู่ "
" นกเงือกเป็นสัตว์รักเดียวใจเดียว มีคู่ตัวเดียวตลอดชีวิตนะ "
" ถึงกรงจะกว้างใหญ่แค่ไหน ก็ไม่เท่าอิสระภาพที่เราสามารถบินได้อย่างอิสระ "
" สีเขียวน้ำทะเลของเธอสะดุดตาเราเช่นเดียวกัน "
บรรยากาศโดยรอบในโซนของนกเงือก
" ได้แต่เฝ้าคอย ใกล้อิสระมากที่สุด ก็ทำได้เท่านี้ "
" เป็นนกที่มีเสียงร้องที่มีเสน่ห์จนต้องหันมาหาเจ้าของเสียง และยืนดูนิ่งๆ "
" ธรรมชาติเป็นผู้สร้างสรรค์ที่แท้จริง "
เมื่อเดินออกมาจากโซนนกขนาดเล็ก ก็จะพบกับน้ำตกขนาดใหญ่ที่มีนกแก้วมาคอว์อยู่ด้านหน้า และมีร้านขายอาหารเพื่อไปป้อนแกะและกระต่ายที่อยู่ทางด้านซ้ายมือ และมีโซนนกฟามิงโก้เล็กๆอยู่ 4-5 ตัวในโซนฝั่งซ้ายเช่นเดียวกัน
" PATA "
" สีสันที่ตัวของเธอช่างดึงดูดสวยตาเรายิ่งนัก สวยงามจริงๆ "
" แววตาเศร้าอีกตัวหนึ่ง ได้แต่เฝ้ารอคอยอาหาร "
" ฝูงแกะ "
" ฉันกำลังกินอย่างเอร็ดอร่อย "
" เข้ากันดี "
" แค่เห็น ก็เจ็บปวดแล้ว "
ส่วนท้างดานขวา เป็นโซนของลิงชนิดต่างๆ แต่ทางที่เดินเข้าไปในสุดนั้นได้ปิดปรับปรุง คงต้องมาใหม่โอกาสหน้า (อดเจอฮิปโปน้อยเลย)
เดินเข้าไปจากในโซนลิง จะพบกับกรงเล็กๆตามริมขอบให้เราได้ชม ทั้งนก กระรอก และสัตว์ตัวเล็กๆ
และนี่คือกรงหมาป่าไฮยีนา ซึ่งแทบจะมองไม่เห็นอะไร นอกจากตัวอะไรวิ่งไปวิ่งมา และในกรงข้างๆกันก็เป็นลิงชิมแพนซี ซึ่งตู้กระจกมีลักษณะแบบเดียวกัน คือมองไม่เห็น ในส่วนนี้สวนสัตว์ควรปรับปรุงทำความสะอาดด้วยค่ะ
" เจ้ากรอลิลล่า เห็นเพียงแค่ก้น "
กรงเจ้าลิงชิมแพนซีอีกหนึ่งกรง กรงนี้มี2ตัว ในตอนที่ไปถึง เจ้าลิงตัวนึงนั่งกินถุงพลาสติก ส่วนอีกตัวห้อยโหนและดึงถุงพลาสติกเล่น (หรือนี่อาจจะเป็นของเล่นของลิง)
" ไอลิงตัวน้อย ซนนะเรา"
" ทำไมจึงรู้สึกเหงายิ่งนัก "
" เราก็รอคอยเช่นกัน "
" ขี้เกียจแล้ว เพราะไม่มีอะไรทำในกรงนี้แล้ว "
" สัตว์ และ มนุษย์ / ความเหมือนในความต่าง "
" แม่ลิงกับลูกลิง "
" ตัวละครในการ์ตูนเรื่องมาร์ดากัสกา "
สิ้นสุดในส่วนของชั้น 7 จะมีทางเดินลงบันไดลงมาชั้น 6 เพื่อชมในส่วนของสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์น้ำ และสัตว์กลางคืน เช่น งูชนิดต่างๆ ตัวเงินตัวทอง สัตว์น้ำ ปลาแปลกๆ เต่าหลากหลายชนิด / ในส่วนนี้จะค่อนข้างเก่า บางตู้อาจชำรุด และอากาศไม่ค่อยถ่ายเถเท่าไหร่
บังเอิญเจอน้องๆสองคนนี้วิ่งเข้ามาถาม " พี่ไปโซนมืดมายัง แล้วโซนสว่างล่ะ ? " น้องๆเลยกลายเป็นไกด์จิ๋วที่วิ่งมาพาไปชมนู่นนี่ " พี่มาดูนี่เร็ว นี่นกฮูก นี่งู พี่กลัวงูรึเปล่า มันอยู่ในตู้แล้วจะกลัวทำไม " เป็นความโชคดีที่เจอน้องๆที่น่ารักตามประสาเด็กๆ
ในส่วนชั้นที่ 6 นี้ ค่อนข้างเงียบและมีกลิ่นอับ เนื่องจากเก่าแก่เป็นเวลานาน แต่มีที่ให้นั่งพักและมีห้องน้ำบริการด้วยค่ะ
โดยส่วนตัวแล้วคิดว่าในการรักษ์สัตว์จริงๆ ควรเป็นการปล่อยให้เขาได้มีชีวิตที่อิสระ ถ้าเรารักเขาจริง เราจะเดินทางไปดูแลเขาระยะไกล มิใช่การนำความสวยงามเช่นนี้มาจำกัดไว้อยู่แค่ในกรงเหล็กสี่เหลี่ยม เมื่อไหร่ที่มีผู้คนเดินผ่าน สัตว์เหล่านี้จะมีปฏิกิริยาที่ดูดีใจและเล่นกับเรา คิดว่ามันคงเหงาและเบื่อกับชีวิตของมันมากจริงๆ / จากวันนี้ที่ได้ไปเยี่ยมชมมา พบว่ายังมีบางส่วนที่ยังดูแลขาดตกบกพร่องและดูไม่แข็งแรงต่อการรองรับความปลอดภัยมากเท่าไหร่ และในเรื่องของความสะอาดเช่นเดียวกัน
" แธงค์กิ้ว "
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น