สวัสดีค่ะ สำหรับกระทู้นี้ จขกท อยากจะแชร์ประสบการณ์หลังจากที่ได้ไปทัวร์กระบี่เป็นเวลา 2 คืน 3 วัน ช้าอยู่ใยเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ!!!! จุดเริ่มต้นของทริปนี้มาจากเพื่อน จขกท ค่ะ เราอยากไปเที่ยวกันที่ไหนก็ได้สักที่หนึ่งช่วงปิดเทอมเดือนตุลาคม และที่ที่เราอยากไปกันก็คือ ทะเล!!! (ไปทะเลหน้าฝน อุปสรรคตั้งแต่เริ่มคิดแล้วค่ะ) แต่ด้วยเวลาที่เราไม่ค่อยว่างตรงกัน และอยากไปมากๆๆๆๆ จึงตกลงกันว่ายังไงเราก็จะไป อันดับแรกเราก็เริ่มหาแพคเกจทัวร์ ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในอินเทอร์เน็ต หาหลายเว็บมาก ทั้งอ่านรีวิวต่างๆ จนมาเจอ https://www.facebook.com/backpackontourcom/ เพจนี้เลยค่ะ เราก็อ่านหาทริปที่เราสนใจ จนมาเจอทริป กระบี่ 2 คืน 3 วัน ทัวร์ 4 เกาะ ราคาโดนใจ คนละ 2,990 บาท จะประกอบไปด้วยค่าที่พัก ทัวร์ 4 เกาะ มีทะเลแหวก เกาะไก่ เกาะปอดะ และหาดไร่เลย์หรืออ่าวพระนาง มีรถรับ - ส่ง มีอาหารให้ แต่ไม่รวมค่าเดินทาง อ่านแล้วก็แลดูน่าสนใจดี เราก็ตกลงกับเพื่อนว่าจะเอาทริปนี้กัน และได้อินบ๊อกไปคุยกับเจ้าของเพจ (พี่เจ้าของเพจใจดีมากค่ะ) สอบถามรายละเอียดต่างๆ ทั้งเรื่องการเดินทาง ซึ่งเราจะต้องเดินทางโดยเครื่องบินค่ะ สำหรับคนอื่นอาจจะปกติ แต่ จขกท และเพื่อน ไม่เคยขึ้นเครื่องบินเลยค่ะ หลังจากเราเลือกทัวร์ได้แล้ว กำหนดวันที่จะไปได้แล้ว คือ 29-31 ตุลาคม จขกท และเพื่อนก็มีงานหนักที่ต้องทำ คือการจองตั๋วเครื่องบินค่ะ อ่านๆๆทุกเว็บ ถามทุกคนที่เคยมีประสบการณ์ในการขึ้นเครื่องบิน (คนไม่เคยขึ้นอ่ะเนอะ ก็ต้องรอบคอบมากเป็นพิเศษ ใครจะมองว่าไม่ทันสมัยก็เถอะ คนมันไม่เคยนี่นา ><) ตอนแรกเราก็จะให้พี่เจ้าของเพจที่เราซื้อทัวร์จองให้ แต่ จขกท อยากทำด้วยตัวเอง จึงตัดสินใจจะจองเอง และก็ได้ตัวช่วยมา สมัยนี้จะทำอะไรก็สะดวกสบายเพราะมีเทคโนโลยี จขกท โหลด Application ชื่อว่า Traveloka มา และทำการจองผ่านแอพนี้ ซึ่งการจองง่ายดายมาก ค่าตั๋วก็ไม่แพง 2 คน ไป - กลับ รวมกัน 4,089 บาท ตกคนละ สองพันนิดๆ หลังจากได้ตั๋วเครื่องบินเรียบร้อย เราก็โอนค่าแพคเกจให้บริษัททัวร์!!! เป็นอันเสร็จสิ้น นับวันรอการเดินทาง แต่!!!!!! เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ด้วยหน้าที่การงานที่ไม่เอื้ออำนวย วันและเวลาที่ จขกท กำหนดไว้เกิดมีการเปลี่ยนแปลง จขกท ไม่สามารถที่จะเดินทางวันที่ 29 - 31 ได้ ปรึกษากับเพื่อนว่าจะทำยังไงกันดี ความผิดนี้เกิดจาก จขกท โดยตรง วิธีแรกที่คิดได้คือ ต้องเลื่อน flight บิน เราก็ปรึกษากับพี่ที่เราซื้อทัวร์มา พี่เขาใจดีมาก เขาบอกเราว่าทัวร์เขาไม่มีปัญหาเลื่อนได้ตลอด โอเคทัวร์เลื่อนได้ ขั้นตอนต่อมาคือเราต้องทำการเลื่อน  flight บิน ปัญหาเกิดค่ะ เราก็ใช้แอพเดิมเพื่อจะขอเลื่อน เข้าไปทำการเปลี่ยนแปลงการเดินทาง แต่!!!ไม่สามารถเปลี่ยนได้ค่ะ จะทำยังไงดีล่ะ!! เราก็เข้าอินเทอร์เน็ตหาเบอร์ call center ของสายการบินที่เราทำการจองไว้รอบแรก ติดต่อ Operator ได้เราก็แจ้งความประสงค์ขอเปลี่ยนวันเดินทาง แน่นอนค่ะ!! เปลี่ยนได้ ได้ทั้ง 2 สายการบิน แต่เรื่องราคาขอไม่พูดถึงนะคะ!!! เปรียบเทียบง่ายๆ คือ บินไปต่างประเทศได้สบายเลยละค่ะ  มีคนแนะนำมาว่าทำไม จขกท ไม่ทิ้งอันเก่า แล้วจองใหม่ ถูกกว่ากันนะ ก็นี่ละค่ะคนไม่เคยขึ้น ถือว่าเป็นประสบการณ์ค่ะ จบเรื่องการวางแผนทุกสิ่งอย่าง นับวันรอการเดินทาง 21 - 23 ตุลาคม 2559 (หวังว่าคงไม่มีการเปลี่ยนแปลงอีกนะคะ)
และแล้ววันที่รอคอยก็มาถึง ตัดภาพไปที่สนามบินเลยนะคะ
@ดอนเมือง เรามาถึงสนามบินดอนเมืองประมาณ ตีห้ากว่าๆ เพราะเครื่องที่เราจองจะบินตอน 06.45 น. ด้วยความที่ไม่เคยขึ้นจึงต้องเผื่อเวลา และก็เผื่อจริงๆ เพราะกว่าเราจะเดินหาที่เชคอินเจอ ก็จวนจะได้เวลาเครื่องออก แต่ทางอยู่ที่ปากค่ะ เราถามทางกันมาตลอด อุปสรรคก็เกิดอีกค่ะ พอเราเจอที่เชคอิน เราก็เดินเข้าไปหาพนักงานเพื่อทำการเชคอิน แต่เราเข้าผิดช่องค่ะ เพราะเรามีกระเป๋าเดินทางที่ต้องโหลดใต้เครื่อง จึงต้องเดินหาที่เชคอินอีกครั้ง ในที่สุดก็เจอค่ะ เชคอินเรียบร้อย ขอพนักงานนั่งริมหน้าต่าง เพราะอยากเห็นวิวสวยๆ อยากถ่ายรูปปีกเครื่องบินกับเมฆปุยๆ ที่เขาฮิตๆถ่ายกัน เราก็ได้ตามประสงค์ค่ะ ที่นั่งริมหน้าต่าง หลังจากเชคอินพนักงานก็บอกเราว่า GATE 34 นะคะ เดินหาเลยค่ะ ประตูหมายเลข 34 เดินแบบเหมือนคนรู้ทาง เดินแบบมั่นใจมาก ไม่ถามใครเลย จนในที่สุดเราก็หลงค่ะ เข้าไปฝั่งผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ งง!!สิคะ รีบมองหาพนักงานเพื่อถามทางอย่างด่วนเลย สุดท้ายเราก็ต้องเดินย้อนกลับไปทางเดิม และทางเข้า ประตูหมายเลข 34 ก็อยู่ถัดจากที่ที่เราเชคอินไปเมื่อสักครู่ นิดเดียวเอง รีบเดินไปทันทีเพราะใกล้เวลาเต็มทีแล้ว ในที่สุดเราก็เจอค่ะ เจอเครื่องบินแว้ววววววว

นี่ไงเครื่องบินที่เราจะโดยสาร เป็นของสายการบิน Thai Lion Air ค่ะ

เย้ๆๆๆ ได้ขึ้นเครื่องแล้วค่ะ

ความรู้สึกไม่ต้องพูดถึง เสียว!!!!! ค่ะ และเราก็ได้ภาพถ่ายแบบที่เราต้องการ อิอิ ตามกระแสกะเขาบ้าง




อาหารว่างของ Thai Lion Air

พูดถึงสายการบินนิดนึงนะคะ สำหรับสายการบินนี้ สภาพเครื่องโดยรวมไม่เก่าค่ะ เบาะนุ่ม แอร์สวย เครื่องลำใหญ่ แต่ตอนขึ้นกับตอนลงไม่ค่อยนุ่มนวลสักเท่าไร ยิ่งตอนเครื่องลงนะ เสียงล้อกระทบกับพื้นรันเวย์ดังมาก ไม่ต้องบอกเลยว่าตกใจขนาดไหน ถ้าให้คะแนนเต็มร้อย จขกท ให้ 75 ค่ะ
ในที่สุดเราก็มาถึง จ.กระบี่ค่ะ ใช้เวลาบิน ไม่ถึง 1 ชั่วโมง เครื่องลงแตะรันเวย์ปุ๊บ ฝนตกปั๊บเลยค่ะ

หลังจากเราลงเครื่องก็มีรถตู้มารอรับเราที่สนามบินค่ะ แต่เรายังไม่ได้เข้าโรงแรมนะคะ มาถึงวันแรกเราก็เที่ยวกันเลย ส่วนกระเป๋าจะมีรถอีกคันมาเอากระเป๋าไปเก็บที่โรงแรมค่ะ เรามาถึงกระบี่ประมาณ แปดโมงเช้าค่ะ ที่แรกที่ไกด์พาเราไปคือนี่เลยค่ะ
วัดถ้ำเสือ






ภายในวัด สุภาพสตรีที่ใส่กางเกงขาสั้นหรือกระโปรงสั้นต้องมาสวมผ้าที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ให้
จริงๆ วัดนี้ถ้าได้ขึ้นไปข้างบนจะสวยมาก แต่วันที่เราไปฝนตกค่ะ ทางที่ขึ้นมีความลาดชันและลื่น ประกอบกับ จขกท และเพื่อน หิวข้าวด้วย เราเลยไม่ได้ขึ้นไปข้างบน แอบผิดหวังเล็กๆ เพราะไกด์บอกว่าให้เราอยู่ที่วัดนี้เป็นเวลา 2 ชั่วโมง ซึ่งเอาจริงๆ 2 ชั่วโมงมันนานมาก ใครจะเดินชมวัดได้ 2 ชั่วโมง แล้วไกด์จะมารับตอน 11.00น. ด้วยความหิว มองหาร้านข้าวกันเลยค่ะ เดินมาหน้าวัด มีร้านข้าวแกงปักษ์ใต้อยู่หลายร้าน เราก็เข้าไปนั่งและสั่งอาหารเช้ามาทานกัน เป็นข้าวราดแกงธรรมดา ที่ไม่ธรรมดา เพราะเผ็ดมากค่ะ ราคาก็ไม่ค่อยต่างจากกรุงเทพฯเท่าไร จานละ 40 บาท อิ่มไป 1 มื้อค่ะ ได้เวลารถมารับไปต่อค่ะ สถานที่ที่ 2 ที่เรามาคือ น้ำตกร้อนค่ะ (ร้อนจริงๆ นะคะ)



ไกด์ให้เวลาเราอยู่ที่น้ำตกร้อนประมาณ 45 นาทีค่ะ จากนั้นก็ไปที่ที่เรารอคอย UNSEEN ของกระบี่เลยก็ว่าได้ค่ะ
@สระมรกต เรามาทานอาหารกลางวันกันที่สระมรกตค่ะ มื้อนี้ฟรีนะคะ เพราะอยู่ในค่าแพคเกจที่เราจ่ายไปแล้ว อิ่มแล้วเราก็มุ่งหน้าสู่สระมรกตค่ะ
ระยะทางระหว่างเดินเข้าไปในสระมรกตประมาณ 1,400 เมตร


สวยมากค่ะ น้ำสีเขียวมรกตสมชื่อ


15.30 น. ก็ได้เวลากลับ เราใช้เวลาเดินออกจากสระมรกต ประมาณ 15 นาที ค่ะ เดินๆ หยุดๆ แวะถ่ายรูปกันตลอดทาง เมื่อมาถึงรถไกด์บอกว่าจะพาไปซื้อของฝากวันนี้เลย เพราะมีลูกทัวร์ต้องการจะไป วันกลับจะได้ไม่ต้องแวะ เราก็ไปค่ะ ถึงร้านของฝาก ก็เดินดูของแต่ละอย่างราคาสูงมาก แพงจนไม่กล้าซื้อ ด้วยความน่ารักของพี่แอดมินเจ้าของบริษัททัวร์ที่เราซื้อ พี่เขาโทรมาถามเราค่ะ ว่าเป็นยังไงบ้างถึงที่พักแล้วรึยีง เราเลยได้โอกาสบอกพี่เขาไปว่าขอแวะซื้อของฝากวันกลับได้ไหม แน่นอนค่ะว่าได้ (บอกแล้วว่าพี่เขาใจดีมาก) เราเลยไม่ได้ซื้ออะไรกัน รู้สึกคิดถึงที่พัก 55555+ เพราะตั้งแต่เรามาถึงเรายังไม่ได้เข้าที่พักเลย ได้เวลารถตู้ตระเวนส่งลูกทัวร์กลับที่พักค่ะ เกือบหกโมงเย็นค่ะ เรามาถึงที่พัก "นาคาปุระ รีสอร์ท" ไม่พูดพร่ำทำเพลง ไปดูรูปกันเลยค่ะ
ทางเดินเข้าไปหน้าฟร้อน


เชคอินเรียบร้อย พนักงานก็ไปส่งเราที่ห้องค่ะ

ถึงแล้วห้องเรา



ในตู้เสื้อผ้ามีตู้เซฟไว้สำหรับใส่ของมีค่าของเรา

น้ำเปล่าฟรี วันละ 2 ขวด

ภายในห้องน้ำค่ะ



บริเวณเตียงนอน มีให้ 3 เตียงเลยทีเดียว



บริเวณระเบียงหลังห้องค่ะ



ต้องขอบคุณพี่เจ้าของบริษัทที่น่ารัก ที่จองห้องริมให้เรา ห้องใหญ่มากค่ะ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนเป็นครอบครัวได้เลย แถมที่โรงแรมนี้มีห้องที่ติดสระว่ายน้ำด้วยนะคะ ว่าแล้วก็มาดูภาพกันต่อค่ะ





เอาไปดูแค่นี้พอนะคะ เพราะรูปเยอะมากลงไม่หมดจริงๆ แต่โดยรวมโรงแรมสวยมากค่ะ เดี๋ยวมาต่อมื้อเย็นนะคะ