พล็อตเรื่อง 6/10
แจ็ค รีชเชอร์ยังคงพเนจรต่อไปเรื่อยๆและตั้งใจจะเดินทางมาวอชิงตันดีซีเพื่อพบกับผู้พันเทอร์เนอร์ เมื่อเขาไปถึงกลับพบว่าผู้พันเทอร์เนอร์ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำทหารไปแล้วทั้งที่เพิ่งคุยกันได้ไม่กี่วัน และเมื่อรีชเชอร์ได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเขาก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เรื่องราวในภาคนี้ไม่มีความซับซ้อนหรือลูกเล่นอะไรเลย เมื่อทุกอย่างถูกเฉลยแล้วก็จบไปไม่ได้ทิ้งอะไรให้รู้สึกชอบหรือน่าจดจำเป็นพิเศษ ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้วภาคแรกค่อนข้างที่จะซับซ้อนกว่า เข้มข้นกว่า มีที่มาที่ไปให้คนดูชวนคิดชวนสงสัยมากกว่าและน่าสนใจกว่าเยอะ
การดำเนินเรื่อง 6/10
ในช่วงแรกเรื่องราวของหนังค่อนข้างน่าติดตาม คำถามที่เกิดขึ้นมากมายทำให้เราอยากรู้ว่าเบื้องหลังเรื่องนี้แท้จริงแล้วคือยังไง แต่ระหว่างที่ตัวละครกำลังดำเนินเรื่องราวหาคำตอบนั้นเรื่องราวค่อยๆเป็นค่อยๆไปดำเนินไปอย่างช้าๆ มีเบาะแสให้สืบต่อเรื่อยๆสมเหตุสมผลบ้างไม่สมบ้าง ยืดยาวเกินไป แถมยังเอาเรื่องราวแนวครอบครัวเข้ามาเสริมนิดหน่อย ทำให้แนวของหนังดูดอบไปเยอะต่างจากภาคแรกพอสมควรที่เน้นไหวพริบและทักษะการสืบคดีของพระเอกอย่างเต็มที่ ถ้าจะให้เปรียบเทียบคือคล้ายๆ Mission Impossible 3 ที่เป็นหนังสุดยอดสายลับแต่ดันเอาเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวเลยรู้สึกเหมือนเป็นหนังแอ็คชั่นทั่วไปแบบพระเอกช่วยเมีย ไม่ใช่เสห์น่หรือแนวหลักของหนัง ส่วนฉากแอ็คชั่นและมุมกล้องต่างๆ สู้ภาคแรกไม่ได้เลย ฉากแอ็คชั่นภาคนี้ดูธรรมดา ผมชอบฉากขับรถไล่ล่าของภาคแรกมากๆที่เป็นลักษณะกล้องถ่ายตามรถวิ่งทำให้รู้สึกมันและตื่นเต้นดี แต่ฉากหมัดต่อหมัดของภาคนี้ก็ยังทำได้ดีอยู่ หนักหน่วงดีเหมือนภาคแรก
ตัวละคร 6.5/10
ตัวละครแจ็ค รีชเชอร์ภาคนี้รู้สึกดอบลงไปมากๆอาจจะด้วยเพราะหนังพยายามใส่อีกแง่ของอารมณ์ใส่ความอ่อนโยนทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อยซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเวิร์คน่าจะขยี้ที่ทักษะความสามารถ ความคิดอ่านในการสืบคดีซึ่งเป็นจุดแข็งของพระเอกให้มากขึ้นน่าจะดีกว่า บ่อยครั้งที่รู้สึกว่ารีชเชอร์ดูไม่โดดเด่นเพราะโดนผู้พันเทอร์เนอร์ของโคบี้ สมูลเดอร์สทั้งสวยทั้งเก่ง แสดงดีแย่งซีนค่อนข้างบ่อย อาจจะเพราะนางเอกภาคนี้จะคนละแนวกับภาคแรก ภาคแรกจะเป็นสายบุ๋นภาคนี้จะเป็นสายบู๊ เมื่อพระเอกบู๊พระนางก็บู๊เลยดูเหมือนจะเกลี่ยๆบทกัน ทำให้รีชเชอร์พระเอกของเราดูดอบลงไปมากๆ ส่วนซาแมนธาร์เด็กสาวในเรื่องก็ดูน่ารำคาญในหลายๆครั้งแล้วก็แทบจะไม่ได้เป็นสาระหลักของเนื้อเรื่องเลย มีก็ได้ไม่มีดีกว่า ส่วนตัวร้ายของหนังก็พอใช้ได้อยู่ มีทักษะและการต่อสู้ที่เก่งกาจพอฟัดพอเหวี่ยงกับพระเอกใช้ได้แต่ทำอะไรพระเอกมักจะรู้ทันหมด
สรุป 6/10
ด้วยพล็อตเรื่องที่ธรรมดาและการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างยืดยาว เอื่อยๆเนือยๆซะส่วนใหญ่ ทำให้หนังขาดความน่าสนใจ ความเข้มข้นไปค่อนข้างเยอะ โทนหนังที่ถูกปรับให้รู้สึกเบาลงเนื้อหาไม่เข้มข้นเท่าภาคแรก จะมีก็ตอนท้ายๆที่มีฉากปะทะคารมณ์และฉากไล่ล่าที่ค่อนข้างสนุกแต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย รายละเอียดของหนังก็มีอยู่บ้างแต่ใจความหลักมีอยู่นิดเดียว ฉากแอ็คชั่นจะว่าไปก็น่าจะมีประมาณภาคแรกแต่ภาคแรกรู้สึกมันกว่า สนุกกว่า ไม่รู้ว่าฉบับนิยายเป็นอย่างไร มีความซับซ้อนหรือมีรายละเอียดที่มากกว่านี้หรือไม่ทั้งในแง่เนื้อเรื่องและตัวละครเพราะผมไม่เคยอ่านแต่ถ้าดูจากภาพยนตร์แล้วส่วนตัวในภาพรวมรู้สึกค่อนข้างผิดหวังพอสมควร
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ -
https://www.facebook.com/NangDMeReview/
[CR] [Review-No Spoil] Jack Reacher: Never Go Back ยอดคนสืบระห่ำ 2
พล็อตเรื่อง 6/10
แจ็ค รีชเชอร์ยังคงพเนจรต่อไปเรื่อยๆและตั้งใจจะเดินทางมาวอชิงตันดีซีเพื่อพบกับผู้พันเทอร์เนอร์ เมื่อเขาไปถึงกลับพบว่าผู้พันเทอร์เนอร์ถูกจับกุมอยู่ในเรือนจำทหารไปแล้วทั้งที่เพิ่งคุยกันได้ไม่กี่วัน และเมื่อรีชเชอร์ได้รับรู้ข้อมูลเพิ่มมากขึ้นเขาก็ยิ่งตกเป็นเป้าหมายผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้ เรื่องราวในภาคนี้ไม่มีความซับซ้อนหรือลูกเล่นอะไรเลย เมื่อทุกอย่างถูกเฉลยแล้วก็จบไปไม่ได้ทิ้งอะไรให้รู้สึกชอบหรือน่าจดจำเป็นพิเศษ ถ้าเทียบกับภาคแรกแล้วภาคแรกค่อนข้างที่จะซับซ้อนกว่า เข้มข้นกว่า มีที่มาที่ไปให้คนดูชวนคิดชวนสงสัยมากกว่าและน่าสนใจกว่าเยอะ
การดำเนินเรื่อง 6/10
ในช่วงแรกเรื่องราวของหนังค่อนข้างน่าติดตาม คำถามที่เกิดขึ้นมากมายทำให้เราอยากรู้ว่าเบื้องหลังเรื่องนี้แท้จริงแล้วคือยังไง แต่ระหว่างที่ตัวละครกำลังดำเนินเรื่องราวหาคำตอบนั้นเรื่องราวค่อยๆเป็นค่อยๆไปดำเนินไปอย่างช้าๆ มีเบาะแสให้สืบต่อเรื่อยๆสมเหตุสมผลบ้างไม่สมบ้าง ยืดยาวเกินไป แถมยังเอาเรื่องราวแนวครอบครัวเข้ามาเสริมนิดหน่อย ทำให้แนวของหนังดูดอบไปเยอะต่างจากภาคแรกพอสมควรที่เน้นไหวพริบและทักษะการสืบคดีของพระเอกอย่างเต็มที่ ถ้าจะให้เปรียบเทียบคือคล้ายๆ Mission Impossible 3 ที่เป็นหนังสุดยอดสายลับแต่ดันเอาเรื่องครอบครัวเข้ามาเกี่ยวเลยรู้สึกเหมือนเป็นหนังแอ็คชั่นทั่วไปแบบพระเอกช่วยเมีย ไม่ใช่เสห์น่หรือแนวหลักของหนัง ส่วนฉากแอ็คชั่นและมุมกล้องต่างๆ สู้ภาคแรกไม่ได้เลย ฉากแอ็คชั่นภาคนี้ดูธรรมดา ผมชอบฉากขับรถไล่ล่าของภาคแรกมากๆที่เป็นลักษณะกล้องถ่ายตามรถวิ่งทำให้รู้สึกมันและตื่นเต้นดี แต่ฉากหมัดต่อหมัดของภาคนี้ก็ยังทำได้ดีอยู่ หนักหน่วงดีเหมือนภาคแรก
ตัวละคร 6.5/10
ตัวละครแจ็ค รีชเชอร์ภาคนี้รู้สึกดอบลงไปมากๆอาจจะด้วยเพราะหนังพยายามใส่อีกแง่ของอารมณ์ใส่ความอ่อนโยนทำให้ตัวละครตัวนี้มีความซับซ้อนขึ้นมาอีกหน่อยซึ่งดูแล้วไม่ค่อยเวิร์คน่าจะขยี้ที่ทักษะความสามารถ ความคิดอ่านในการสืบคดีซึ่งเป็นจุดแข็งของพระเอกให้มากขึ้นน่าจะดีกว่า บ่อยครั้งที่รู้สึกว่ารีชเชอร์ดูไม่โดดเด่นเพราะโดนผู้พันเทอร์เนอร์ของโคบี้ สมูลเดอร์สทั้งสวยทั้งเก่ง แสดงดีแย่งซีนค่อนข้างบ่อย อาจจะเพราะนางเอกภาคนี้จะคนละแนวกับภาคแรก ภาคแรกจะเป็นสายบุ๋นภาคนี้จะเป็นสายบู๊ เมื่อพระเอกบู๊พระนางก็บู๊เลยดูเหมือนจะเกลี่ยๆบทกัน ทำให้รีชเชอร์พระเอกของเราดูดอบลงไปมากๆ ส่วนซาแมนธาร์เด็กสาวในเรื่องก็ดูน่ารำคาญในหลายๆครั้งแล้วก็แทบจะไม่ได้เป็นสาระหลักของเนื้อเรื่องเลย มีก็ได้ไม่มีดีกว่า ส่วนตัวร้ายของหนังก็พอใช้ได้อยู่ มีทักษะและการต่อสู้ที่เก่งกาจพอฟัดพอเหวี่ยงกับพระเอกใช้ได้แต่ทำอะไรพระเอกมักจะรู้ทันหมด
สรุป 6/10
ด้วยพล็อตเรื่องที่ธรรมดาและการดำเนินเรื่องที่ค่อนข้างยืดยาว เอื่อยๆเนือยๆซะส่วนใหญ่ ทำให้หนังขาดความน่าสนใจ ความเข้มข้นไปค่อนข้างเยอะ โทนหนังที่ถูกปรับให้รู้สึกเบาลงเนื้อหาไม่เข้มข้นเท่าภาคแรก จะมีก็ตอนท้ายๆที่มีฉากปะทะคารมณ์และฉากไล่ล่าที่ค่อนข้างสนุกแต่ก็ไม่ได้ลุ้นอะไรเลย รายละเอียดของหนังก็มีอยู่บ้างแต่ใจความหลักมีอยู่นิดเดียว ฉากแอ็คชั่นจะว่าไปก็น่าจะมีประมาณภาคแรกแต่ภาคแรกรู้สึกมันกว่า สนุกกว่า ไม่รู้ว่าฉบับนิยายเป็นอย่างไร มีความซับซ้อนหรือมีรายละเอียดที่มากกว่านี้หรือไม่ทั้งในแง่เนื้อเรื่องและตัวละครเพราะผมไม่เคยอ่านแต่ถ้าดูจากภาพยนตร์แล้วส่วนตัวในภาพรวมรู้สึกค่อนข้างผิดหวังพอสมควร
ฝาก page ด้วยนะครับ ถ้าชอบก็กด Like ติดตามกันนะครับ - https://www.facebook.com/NangDMeReview/