//ถ้าขี้เกียจอ่านก็เลื่อนไปตรงสรุปเลยก็ได้ค่ะ
เกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นชาวพุทธค่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้เชื่อในพระพุทธอีกต่อไป
อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนม.ปลายที่อยู่ๆเราก็เดินไปขอพระคัมภีร์จากครูสอนจริยธรรม คืนนั้นเราได้เชื่อว่าพระเจ้าเรียกเราแล้ว เรายังจำได้ดี
หลังจากอ่านพระคัมภีร์ไปก็รู้สึกเกิดศรัทธาและรู้สึกดีในพระวจนะของพระองค์ มาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
สองสามวันก่อนมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนที่นับถือคริสต์ เธอเป็นคริสเตียน เธอได้ชี้แนะและตอบคำถามหลายๆอย่าง
หลายปีที่ผ่านมาเราก็ยังเรียกตัวเองว่าชาวพุทธแต่ความศรัทธาในพระพุทธของเรากลับน้อยลงเรื่อยๆ แม้จะยังกราบไหว้
เหมือนกับว่าเราไม่เชื่อแต่ไม่ได้ลบหลู่ และเพราะต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
เราบอกกับเพื่อนว่า เราใช้ชีวิตโดยมีความเชื่อที่ว่าทุกสิ่งได้ถูกกำหนดมาไว้หมดแล้ว และเราเรียกอะไรแบบนี้ว่า โชคชะตา
เพื่อนเราตอบว่า เธอก็เชื่ออะไรแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้เรียกว่าโชคชะตา เธอเรียกอะไรแบบนี้ว่า สิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้ให้
และบทสนทนาของเรากับเพื่อนก็จบที่เพื่อนแนะนำให้เราลองไปโบสถ์ดู (ปล.เราจะนับถือโปรแตสแตนท์นะคะ)
แม้ตอนนี้เรายังไม่ได้ไปเพราะเรื่องเรียน เรื่องเวลา ฯลฯ แต่โรงเรียนตอนม.ปลายของเราเป็นโรงเรียนคริสต์และเราก็ได้เข้านมัสการพระเจ้าทุกสัปดาห์
ไม่รู้ว่าต่างจากในโบสถ์ไหม
มีหลายเหตุการณ์ในชีวิตที่ทำให้เราศรัทธาในพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าตัวเองได้เชื่อในพระองค์ไปแล้ว ไม่เล่านะคะยาวไป
มาถึงวันนี้เราก็คิดว่าในเมื่อเราไม่ได้เชื่อในพระพุทธเจ้าอีกต่อไป เราก็ควรจะเปลี่ยนศาสนา
สรุป
เรื่องใหญ่คือการบอกที่บ้าน บ้านที่เป็นชาวพุทธกันทุกคน เราจะทำยังไงดี?
แม่กับยายเคยเห็นเราอ่านพระคัมภีร์ พวกท่านถามว่าเราอ่านอะไร เราก็ตอบว่าพระคัมภีร์ แล้วพวกเขาก็เงียบไป
เรารู้ว่าบ้านเราจะพูดว่ายังไงถ้าเราบอกว่าเราจะเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ พวกท่านต้องไม่พอใจแน่ๆ
เพราะพวกท่านเชื่อในพระพุทธเจ้ามาก ยายเราเข้าวัดแทบทุกวัน แม่เราเข้าวัดเป็นประจำและสวดมนต์ทุกคืนเช่นเดียวกับยายด้วย
เราไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เมื่อเราไปหาแม่ แม่ชอบพาเราไปวัดไปกราบไว้ไปขอพร นี่เป็นสิ่งคร่าวๆที่บอกว่าครอบครัวเรานับถือพระพุทธศาสนามาก
และพวกท่านต้องไม่ยอมแน่ๆ ด้วยพื้นฐานที่เรากับครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกันทำให้เรากับครอบครัวก็ไม่ค่อยเข้าใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
มีแอบคิดว่าเราไม่บอกที่บ้านดีไหม? แต่จะทำยังไงถ้ามีวันหนึ่งวันใดพวกท่านอยากให้เราไปวัดล่ะ? จะทำยังไงถ้าพวกท่านบอกให้เรากราบไหว้ในสิ่งที่เราไม่ได้ศรัทธาอีกต่อไปแล้ว?
จึงมาขอคำปรึกษาผู้ที่ผ่านมาเห็นค่ะ เราเครียดจริงๆ
ปล.เราจะไปโบสถ์อาทิตย์หน้านะคะ อยากถามว่าต้องเตรียมอะไรไหม (เพื่อนบอกแค่ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรแต่งตัวสุภาพก็พอ)
ปล.2 เราไม่ได้คิดว่าศาสนาพุทธไม่ดีนะ เหตุผลคือเราไม่ศรัทธาจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับการปฏิบัติของพระสงฆ์องค์เจ้าด้วย อยู่ที่เราล้วนๆเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
-------- ขอคำปรึกษาค่ะ เรื่องเปลี่ยนศาสนาจากพุทธเป็นคริสต์ ไม่รู้ว่าจะบอกที่บ้านยังไง +เล่าเล็กน้อย
เกริ่นก่อนนะคะ เราเป็นชาวพุทธค่ะ แต่ตอนนี้เราไม่ได้เชื่อในพระพุทธอีกต่อไป
อาจจะเป็นตั้งแต่ตอนม.ปลายที่อยู่ๆเราก็เดินไปขอพระคัมภีร์จากครูสอนจริยธรรม คืนนั้นเราได้เชื่อว่าพระเจ้าเรียกเราแล้ว เรายังจำได้ดี
หลังจากอ่านพระคัมภีร์ไปก็รู้สึกเกิดศรัทธาและรู้สึกดีในพระวจนะของพระองค์ มาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาหลายปีแล้ว
สองสามวันก่อนมีโอกาสได้พูดคุยกับเพื่อนที่นับถือคริสต์ เธอเป็นคริสเตียน เธอได้ชี้แนะและตอบคำถามหลายๆอย่าง
หลายปีที่ผ่านมาเราก็ยังเรียกตัวเองว่าชาวพุทธแต่ความศรัทธาในพระพุทธของเรากลับน้อยลงเรื่อยๆ แม้จะยังกราบไหว้
เหมือนกับว่าเราไม่เชื่อแต่ไม่ได้ลบหลู่ และเพราะต้องการสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
เราบอกกับเพื่อนว่า เราใช้ชีวิตโดยมีความเชื่อที่ว่าทุกสิ่งได้ถูกกำหนดมาไว้หมดแล้ว และเราเรียกอะไรแบบนี้ว่า โชคชะตา
เพื่อนเราตอบว่า เธอก็เชื่ออะไรแบบนี้เหมือนกันแต่ไม่ได้เรียกว่าโชคชะตา เธอเรียกอะไรแบบนี้ว่า สิ่งที่พระเจ้ากำหนดไว้ให้
และบทสนทนาของเรากับเพื่อนก็จบที่เพื่อนแนะนำให้เราลองไปโบสถ์ดู (ปล.เราจะนับถือโปรแตสแตนท์นะคะ)
แม้ตอนนี้เรายังไม่ได้ไปเพราะเรื่องเรียน เรื่องเวลา ฯลฯ แต่โรงเรียนตอนม.ปลายของเราเป็นโรงเรียนคริสต์และเราก็ได้เข้านมัสการพระเจ้าทุกสัปดาห์
ไม่รู้ว่าต่างจากในโบสถ์ไหม
มีหลายเหตุการณ์ในชีวิตที่ทำให้เราศรัทธาในพระเจ้ามากขึ้นเรื่อยๆ จนเรารู้สึกว่าตัวเองได้เชื่อในพระองค์ไปแล้ว ไม่เล่านะคะยาวไป
มาถึงวันนี้เราก็คิดว่าในเมื่อเราไม่ได้เชื่อในพระพุทธเจ้าอีกต่อไป เราก็ควรจะเปลี่ยนศาสนา
สรุป
เรื่องใหญ่คือการบอกที่บ้าน บ้านที่เป็นชาวพุทธกันทุกคน เราจะทำยังไงดี?
แม่กับยายเคยเห็นเราอ่านพระคัมภีร์ พวกท่านถามว่าเราอ่านอะไร เราก็ตอบว่าพระคัมภีร์ แล้วพวกเขาก็เงียบไป
เรารู้ว่าบ้านเราจะพูดว่ายังไงถ้าเราบอกว่าเราจะเปลี่ยนไปนับถือคริสต์ พวกท่านต้องไม่พอใจแน่ๆ
เพราะพวกท่านเชื่อในพระพุทธเจ้ามาก ยายเราเข้าวัดแทบทุกวัน แม่เราเข้าวัดเป็นประจำและสวดมนต์ทุกคืนเช่นเดียวกับยายด้วย
เราไม่ได้อยู่กับแม่ แต่เมื่อเราไปหาแม่ แม่ชอบพาเราไปวัดไปกราบไว้ไปขอพร นี่เป็นสิ่งคร่าวๆที่บอกว่าครอบครัวเรานับถือพระพุทธศาสนามาก
และพวกท่านต้องไม่ยอมแน่ๆ ด้วยพื้นฐานที่เรากับครอบครัวไม่ได้อยู่ด้วยกันทำให้เรากับครอบครัวก็ไม่ค่อยเข้าใจกันเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
มีแอบคิดว่าเราไม่บอกที่บ้านดีไหม? แต่จะทำยังไงถ้ามีวันหนึ่งวันใดพวกท่านอยากให้เราไปวัดล่ะ? จะทำยังไงถ้าพวกท่านบอกให้เรากราบไหว้ในสิ่งที่เราไม่ได้ศรัทธาอีกต่อไปแล้ว?
จึงมาขอคำปรึกษาผู้ที่ผ่านมาเห็นค่ะ เราเครียดจริงๆ
ปล.เราจะไปโบสถ์อาทิตย์หน้านะคะ อยากถามว่าต้องเตรียมอะไรไหม (เพื่อนบอกแค่ว่าไม่ต้องเตรียมอะไรแต่งตัวสุภาพก็พอ)
ปล.2 เราไม่ได้คิดว่าศาสนาพุทธไม่ดีนะ เหตุผลคือเราไม่ศรัทธาจริงๆ ไม่ได้เกี่ยวกับการปฏิบัติของพระสงฆ์องค์เจ้าด้วย อยู่ที่เราล้วนๆเลยค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ