เป็นเวลากว่าอาทิตย์แล้วที่ 'พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช' ของเหล่าปวงชนชาวไทยได้เสด็จสวรรคตไปแล้ว แน่นอนว่าความโศกเศร้าเสียใจไม่อาจจางหายไปจากจิตใจของเราแค่เพียงชั่วข้ามคืน แต่ในขณะเดียว ก็ยังพอจะมีความปิติเล็กๆในช่วงเวลาที่แสนสลดเช่นนี้ นั่นก็คือ น้ำใจของพวกเราที่พร้อมจะหยิบยื่นให้แก่กัน เราก็เป็นอีกคนที่อยากจะทำประโยชน์อะไรสักย่างที่เราสามารถจะทำได้ เลยตั้งใจรวบรวมและวาดภาพประกอบเพื่อเผยแพร่ให้หลายๆคนได้ตระหนักถึงสิ่งที่ควรทำในช่วงที่เปราะบางเช่นนี้ ถ้าใครเห็นว่ามันพอจะเป็นประโยชน์ให้กับสังคมได้บ้าง เราก็ยินดีให้ทุกคนกดแชร์ไปได้เลย ไม่จำเป็นต้องขออนุญาตเราก็ได้ ต้องขอออกตัวไว้ด้วยว่าเราอาจไม่ได้ชำนาญเรื่องของคำราชาศัพท์มากนัก อาจจะมีบางคำที่เราใช้แล้วไม่เหมาะสมกับบริบท ก็ต้องขออภัยเอาไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะครับ  


1.    เห็นใจและเข้าใจความรู้สึกคนรอบข้าง ช่วงเวลานี้เวลาเห็นเค้าซึมเศร้า ไม่มีเรี่ยวแรงอยากจะทำอะไร หรืออยู่ดีๆก็ร้องไห้ออกมา โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เนื่องจากมีประสบการณ์ในแผ่นดิน ร.9 มากเกินกว่าครึ่งชีวิต อีกทั้งแต่ละคนก็สามารถตอบสนองต่อการสูญเสียได้ไม่เหมือนและไม่เท่ากัน จึงอยากให้รักและเข้าใจกันให้มากๆ เราผ่านการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่มาด้วยกันไปแล้ว เราก็จะต้องผ่านมันไปด้วยกันให้ได้


2.    งดล่าแม่มด เราไม่สามารถบังคับให้ใครเสียใจ หรือให้แสดงออกถึงความเสียใจในแบบที่เราอยากเห็นได้หรอก การตัดสินคนอื่น ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น รันแต่จะก่อความขัดแย้งที่ไม่จำเป็น ปล่อยวางไปแล้วตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุดจะดีกว่า ถามว่าทุกวันนี้พวกเราทำทุกอย่างเพื่อคนที่เรารักคนเดียวกัน ความรักไม่เคยทำร้ายใคร คนที่เรารักไม่เคยทำร้ายใคร แล้วทำไมเราต้องใช้ความรักที่เรามีทำร้ายกันเองด้วย?


3.    สร้างสังคมแห่งการให้ ในเวลาที่เราสูญเสีย ความรักจะช่วยเยียวยา น้ำใจที่คนไทยมีให้กันจะเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เหตุการณ์ในวันนี้ดีขึ้นได้ ถ้าไม่ลำบากอะไรก็ควรจะช่วยเหลือกัน เช่น การขับรถรับส่งผู้ไปถวายความอาลัย การแจกน้ำและอาหาร ช่วยกันเก็บขยะ การช่วยกันทำเข็มกลัด หรือแม้แต่การถ่ายรูปที่ระลึก ฯลฯ แม้ไม่มีกำลังทรัพย์ ก็สามารถช่วยเหลือกันด้วยกำลังแรงกาย กำลังความคิด ไม่ว่าจะมาในรูปแบบไหน ถ้าเราทำด้วยเจตนาที่อยากจะช่วยเหลือ ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น


4.    หยุด Hate Speech ถ้าเรารูว่าอุจจาระมันเหม็น ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเอาไม้ไปรั้น เป็นเรื่องปกติที่สภาวะอารมณ์ของหลายคนในช่วงนี้ค่อนข้างจะบอบบางและง่ายต่อการถูกปั่นหัว เปิดโอกาสให้คนที่มีจุดประสงค์ไม่ดีนั้นสบโอกาส ดังนั้น “อย่าแชร์” ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนก็ตาม เพราะเมื่อคุณแชร์ เท่ากับการร่วมมือช่วยเหลือคนเหล่านั้นให้เผยแพร่ความเกลียดชังได้สำเร็จ  


5.    “เสียใจได้ แต่อย่าละเลยหน้าที่” เราทุกคนมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่ต้องทำ ถึงแม้ทุกคนรอบข้างจะเข้าใจที่เราเศร้าโศกในวันนี้ แต่ถ้างานเสียบ่อยๆก็อาจจะกลายเป็นความหมางใจกันในอนาคตได้ เรื่องนี้จะหวังพึ่งใครไม่ได้ นอกจากตัวเราเองที่ต้องช่วยตัวเองก่อน ด้วยการพยายามยอมรับความจริงแล้วดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้ เพราะพ่อของเราคงไม่อยากเห็นลูกคนไหนต้องจมปลักกับความเศร้าโศกจนส่งผลทำลายชีวิตของตัวเองหรอก


6.    สวมเครื่องแต่งกายที่เหมาะสม เรื่องการแต่งกายและระยะเวลาในการแต่งกายเพื่อไว้ทุกข์นั้นค่อนข้างเป็นเรื่องของปัจเจก เราไม่สนับสนุนให้คอยมานั่งจับผิดกัน หลายคนมีความจำเป็นบางอย่างที่ทำให้ไม่สามารถแต่งขาวดำได้ เราเข้าใจและอยากให้ดูกันที่เจตนามากกว่า แต่ถ้าไม่จำเป็นจริงๆพวกเสื้อสีฉูดฉาด เสื้อกล้าม สายเดี่ยว เกาะอก เสื้อเปิดไหล่ ชุดรัดรูปแบบเน้นสัดส่วน ก็ควรงดในช่วงนี้ เพราะการแต่งกายที่ไม่สุภาพจนเกินไป บางครั้งก็ค่อนข้างยากที่จะได้รับความเข้าใจจากบุคคลอื่นในสังคม


7.    งดการหาผลประโยชน์เข้าตัวเอง อาศัยช่วงสถานการณ์ที่ผู้คนกำลังต้องการการบริการ และสินค้าอุปโภคบริโภคเพื่อขึ้นราคาให้สูงกว่าความเป็นจริง เช่น ค่าโดยสาร ค่าเสื้อดำ ค่าเข็มกลัดสีดำ หรือการให้ลงชื่อแจกเสื้อฟรีเพื่อขโมยข้อมูลส่วนตัว ฯลฯ ซึ่งถ้าใครพบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายฉวยโอกาสรบกวนอย่านิ่งเฉย โทรแจ้งที่สายด่วนกรมการค้าภายใน 1569 ได้ทันที


8.    งดแอบอ้างสถาบัน ไม่ว่าจะเป็นขอให้ลงชื่อเพื่อเพิ่มยอดไลค์ การโยงเอาในหลวงมาเกี่ยวโยงกับการเมือง หรือการอ้างนั่นอ้างนี่เพื่อให้เกิดความชอบธรรมในการใช้ความรุนแรง เพราะคนที่คุณกล่าวอ้างไม่เคยสนับสนุนให้เอานำชื่อท่านมาทำอะไรแบบนี้ ถ้ารักท่านด้วยใจจริงก็จงทำหน้าที่ของตนให้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องประกาศให้ใครต่อใครรับรู้หรอก เพราะถ้ารักท่านแค่ลมปาก เพียงลมพัดก็หายไป แต่ถ้ารักท่านที่หัวใจ ท่านจะสถิตอยู่กับเราไปตลอดกาล


9.    ดูแลพื้นที่ของตนเอง ข้อนี้อยากจะเน้นไปที่จิตสำนึกของผู้ที่เดินทางไปถวายความอาลัยที่บริเวณพระบรมมหาราชวังกันสักนิด นับตั้งแต่วันที่ท่านสวรรคต หลายต่อหลายท่านทั้งที่มีแหล่งพำนักอยู่ในกรุงเทพฯก็ดี หรือมาเข้าเฝ้าจากต่างจังหวัดก็ดี ต่างก็พร้อมใจกันเดินทางเข้ามาด้วยจุดมุ่งหมายเดียวกันเป็นเวลาหลายวัน  พื้นที่ที่ทุกท่านเข้าไปใช้ย่อมต้องเกิดความสกปรกเป็นธรรมดา แต่แค่เพียงท่านมีจิตสึกนึกสาธารณะช่วยกันดูแลพื้นที่ในบริเวณที่ท่านใช้กันแค่เพียงสักนิด เช่น การงดทิ้งขยะและเก็บขยะรอบๆบริเวณ เลี่ยงการกระทำที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อต้นไม้ใบหญ้า งดการจุดเทียนชัยข้างกำแพงวังและช่วยกันแซะเศษน้ำตาเทียน ฯลฯ แค่กำลังเล็กๆเพียงคนละไม้คนละมือ ก็สามารถทำให้บริเวณนั้นดีขึ้น เพื่อเตรียมรองรับการเข้าใช้งานของผู้อื่นในวันต่อๆไป อย่าคิดว่าเป็นหน้าที่ของลูกจ้างกทม. เพราะการมีจิตสำนึกเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน


10.     รักกัน เราเชื่อว่าข้อนี้เป็นสิ่งที่พระองค์ท่านอยากจะเห็นพวกเราทำมาโดยตลอด ลูกๆของท่านต่างคนต่างความคิดต่างที่มา เราจะหยุดความเห็นต่างไม่ให้เกิดขึ้นคงเป็นไปไม่ได้ แต่ถ้าเรารักกันมากพอ ความรักจะทำให้คนที่มีความเห็นต่างนั้นมารวมอยู่ด้วยกันได้อย่างเข้าใจและให้ความเคารพซึ่งกันและกัน เรารู้ว่ามันอาจจะเป็นเรื่องในอุดมคติ แต่ถ้าเราทุกคนเชื่อว่ามันทำได้ และเริ่มต้นที่จะเป็นผู้ส่งมอบความรักให้กับผู้อื่นก่อน แผ่นดินไทยก็จะเป็นแผ่นดินที่น่าอยู่มากขึ้นกว่าที่มันเคยเป็นอย่างแน่นอน  

ถ้าใครมีข้อมูลอะไรจะเสนอแนะเพิ่มเติมก็สามารถ comment เพิ่มเติมได้นะครับ ถือว่าแชร์ข้อมูลกัน ขอบคุณมากครับ