“เลดี้เยาวราช” ประพันธ์โดย
“ทิพเกสร” ว่าด้วยเรื่องของ
“หยกผกา” ลูกสาวคนเล็กเชื้อสายจีนที่เกิดอยู่ในเยาวราช ที่ต้องเจอกับความโหดร้ายทารุนจากเตียกิมฮุย เพียงเพราะความเป็นลูกผู้หญิง เมื่อโดนไล่ออกจากบ้าน หยกต่อสู้ดิ้นรนดึงตัวเองไปเรียนและทำงานต่อถึงประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยคนครัว จนชุบตัวสามารถพัฒนาตัวเองจนสามารถเปิดร้านอาหารจีน ได้รับฉายาที่ยกตัวเป็น “เลดี้เจด” และกลับมาเปิดร้านอาหารในห้างที่เยาราช เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า “ลูกผู้หญิง” อย่างเธอก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ “ลูกผู้ชาย”
โดยความเข้าใจของผู้วิจารณ์ คำว่า
“เยาวราช” ก็เป็นย่านสังคมคนไทยเชื้อสายจีน หรือ China Town ในกรุงเทพฯ แต่พอมาอ่านนิยายเรื่องนี้ ก็รู้สึกสลดใจ ที่ตัวละครรอบๆ ตัว ชอบมองคนที่มีเชื้อชาตินี้ไปในทางลบ ซึ่งความเชื้อดังเดิมแบบจีนเรื่อง “นิยมลูกชาย” และการ “คลุมถุงชน” ก็เป็นที่ไม่ยอมรับในสังคมยุคนี่อยู่แล้ว ยิ่งต้องมาเจอกับการเหยียดเชื้อชาติของตัวละครรอบข้างแล้ว มันเหมือนกับว่าตัวละครในเรื้องนี้ พยายามจะลดค่าทางเชื้อชาติให้ดูด้อยลง โดยผู้วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับความคิดของตัวละครเหล่านั้น
หยกผกา ปวดร้าวเจอศึกในสังคมแล้วเรื่องลูกผู้ชายแล้ว ยังต้องเจอ ศึกนอกสังคมที่รังเกียจเชื้อชาติ อีก
เพราะความถือตัว ถือความเป็นผู้ดีของสังคม ทำให้หยก “จำเป็น” ที่จะต้องเป็น “เลดี้เจด” เมื่อครอบครัวถือผู้ชายสำคัญกว่าผู้หญิง มันเป็นความอยุติธรรมที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกหักได้ง่าย ผู้ชาย กับ ผู้หญิง ล้วนมีสิทธิ์ประสบความสำเร็จได้เท่าเทียมกัน แต่เมื่อผู้ชายบางกลุ่มถือตัวเองเป็นใหญ่ ก็ทำให้ผู้หญิงยิ่งรู้สึกไม่ได้รับความอยุติธรรม ทุกวันนี้ ข่าวผู้ชายข่มขืนผู้หญิง ก็ยิ่งเป็นข่าวที่น่าสลดหดหู่ใจกับผู้ชายที่ไร้จิตสำนึก อยู่แล้ว
จากต้นเรื่อง ซึ่งเป็นปัญหาการยกผู้ชายเด่นกว่าผู้หญิง แค่นั้นก็สาหัสมากพออยู่แล้ว ท้ายเรื่อง ยังต้องมาเจอ “ความหยิ่งถือตัว อวดศักดิ์ศรี” ซึ่งการดูถูกดูหมิ่น กดขี่ ข่มเหง รังแก เพียงเพราะบรรดาศักดิ์ที่ต่างกัน นั่นแหละเป็นความคิดของผู้ต่ำต้อย ไม่ว่าจะเกิดมาในตระกูลสูงหรือไม่เพียงใด ถ้าจิตใจยังคิดเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าจิตใจเป็นตระกูลต่ำ
ประเด็นเรื่องความกตัญญู แสดงได้ว่า คนที่กตัญญู กับ อกตัญญูเป็นอย่างไร แต่บางคนที่ยังไม่กล้ากตัญญู เพราะพ่อแม่ทำให้ลูกเจ็บช้ำมาก การดูถูก ทำร้ายศักดิ์ศรี ขัดขวางจิตใจของผู้เป็นลูกมาก่อน ผู้เป็นพ่อแม่อาจจะต้องใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ให้อภัยความผิดพลาดของลูกตั้งแต่ยังเล็ก เสียบ้าง และพยายามให้ความรักและทำให้ลูกมีความสุข เพื่อที่ทำให้ลูกสามารถกตัญญูได้ง่ายขึ้น
อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะเกิดเป็น ชาย หญิง หรือเพศที่สาม เกิดมาเป็นคนเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด เกิดในตระกูลใด ทุกคนก็เป็น “คน” เหมือนกัน เกิดแก่เจ็บตายก็เหมือนกัน มีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จเท่ากัน และข้อดีอย่างหนึ่งของความต่างทางเชื้อชาตินั้น ช่วยสร้างสีสันให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและน่าเป็นมิตรได้
สิ่งที่น่ากลัวทีสุดจากเรื่องนี้คือ “การเหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ และ การเหยียดฐานะบรรดาศักดิ์”
หากเอาแต่ดูถูกเพียงเพราะความแตกต่างเช่นนี้ คนที่มองแบบนั้น ก็เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐไม่ได้
ขอให้เรื่องนี้ได้รับการทำเป็นละครอีก
[CR] บทวิจารณ์ “เลดี้เยาวราช”
“เลดี้เยาวราช” ประพันธ์โดย “ทิพเกสร” ว่าด้วยเรื่องของ “หยกผกา” ลูกสาวคนเล็กเชื้อสายจีนที่เกิดอยู่ในเยาวราช ที่ต้องเจอกับความโหดร้ายทารุนจากเตียกิมฮุย เพียงเพราะความเป็นลูกผู้หญิง เมื่อโดนไล่ออกจากบ้าน หยกต่อสู้ดิ้นรนดึงตัวเองไปเรียนและทำงานต่อถึงประเทศอังกฤษ ตั้งแต่เป็นผู้ช่วยคนครัว จนชุบตัวสามารถพัฒนาตัวเองจนสามารถเปิดร้านอาหารจีน ได้รับฉายาที่ยกตัวเป็น “เลดี้เจด” และกลับมาเปิดร้านอาหารในห้างที่เยาราช เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่า “ลูกผู้หญิง” อย่างเธอก็สามารถประสบความสำเร็จได้ไม่แพ้ “ลูกผู้ชาย”
โดยความเข้าใจของผู้วิจารณ์ คำว่า “เยาวราช” ก็เป็นย่านสังคมคนไทยเชื้อสายจีน หรือ China Town ในกรุงเทพฯ แต่พอมาอ่านนิยายเรื่องนี้ ก็รู้สึกสลดใจ ที่ตัวละครรอบๆ ตัว ชอบมองคนที่มีเชื้อชาตินี้ไปในทางลบ ซึ่งความเชื้อดังเดิมแบบจีนเรื่อง “นิยมลูกชาย” และการ “คลุมถุงชน” ก็เป็นที่ไม่ยอมรับในสังคมยุคนี่อยู่แล้ว ยิ่งต้องมาเจอกับการเหยียดเชื้อชาติของตัวละครรอบข้างแล้ว มันเหมือนกับว่าตัวละครในเรื้องนี้ พยายามจะลดค่าทางเชื้อชาติให้ดูด้อยลง โดยผู้วิจารณ์ไม่เห็นด้วยกับความคิดของตัวละครเหล่านั้น
หยกผกา ปวดร้าวเจอศึกในสังคมแล้วเรื่องลูกผู้ชายแล้ว ยังต้องเจอ ศึกนอกสังคมที่รังเกียจเชื้อชาติ อีก เพราะความถือตัว ถือความเป็นผู้ดีของสังคม ทำให้หยก “จำเป็น” ที่จะต้องเป็น “เลดี้เจด” เมื่อครอบครัวถือผู้ชายสำคัญกว่าผู้หญิง มันเป็นความอยุติธรรมที่ร้ายแรงอย่างหนึ่ง ที่ทำให้ครอบครัวต้องแตกหักได้ง่าย ผู้ชาย กับ ผู้หญิง ล้วนมีสิทธิ์ประสบความสำเร็จได้เท่าเทียมกัน แต่เมื่อผู้ชายบางกลุ่มถือตัวเองเป็นใหญ่ ก็ทำให้ผู้หญิงยิ่งรู้สึกไม่ได้รับความอยุติธรรม ทุกวันนี้ ข่าวผู้ชายข่มขืนผู้หญิง ก็ยิ่งเป็นข่าวที่น่าสลดหดหู่ใจกับผู้ชายที่ไร้จิตสำนึก อยู่แล้ว
จากต้นเรื่อง ซึ่งเป็นปัญหาการยกผู้ชายเด่นกว่าผู้หญิง แค่นั้นก็สาหัสมากพออยู่แล้ว ท้ายเรื่อง ยังต้องมาเจอ “ความหยิ่งถือตัว อวดศักดิ์ศรี” ซึ่งการดูถูกดูหมิ่น กดขี่ ข่มเหง รังแก เพียงเพราะบรรดาศักดิ์ที่ต่างกัน นั่นแหละเป็นความคิดของผู้ต่ำต้อย ไม่ว่าจะเกิดมาในตระกูลสูงหรือไม่เพียงใด ถ้าจิตใจยังคิดเช่นนั้น ก็เท่ากับว่าจิตใจเป็นตระกูลต่ำ
ประเด็นเรื่องความกตัญญู แสดงได้ว่า คนที่กตัญญู กับ อกตัญญูเป็นอย่างไร แต่บางคนที่ยังไม่กล้ากตัญญู เพราะพ่อแม่ทำให้ลูกเจ็บช้ำมาก การดูถูก ทำร้ายศักดิ์ศรี ขัดขวางจิตใจของผู้เป็นลูกมาก่อน ผู้เป็นพ่อแม่อาจจะต้องใจเขามาใส่ใจเราให้มาก ให้อภัยความผิดพลาดของลูกตั้งแต่ยังเล็ก เสียบ้าง และพยายามให้ความรักและทำให้ลูกมีความสุข เพื่อที่ทำให้ลูกสามารถกตัญญูได้ง่ายขึ้น
อย่าลืมว่า ไม่ว่าจะเกิดเป็น ชาย หญิง หรือเพศที่สาม เกิดมาเป็นคนเชื้อชาติใด นับถือศาสนาใด เกิดในตระกูลใด ทุกคนก็เป็น “คน” เหมือนกัน เกิดแก่เจ็บตายก็เหมือนกัน มีสิทธิ์ที่จะประสบความสำเร็จเท่ากัน และข้อดีอย่างหนึ่งของความต่างทางเชื้อชาตินั้น ช่วยสร้างสีสันให้เกิดความอยากรู้อยากเห็นและน่าเป็นมิตรได้
สิ่งที่น่ากลัวทีสุดจากเรื่องนี้คือ “การเหยียดเพศ เหยียดเชื้อชาติ และ การเหยียดฐานะบรรดาศักดิ์” หากเอาแต่ดูถูกเพียงเพราะความแตกต่างเช่นนี้ คนที่มองแบบนั้น ก็เป็นมนุษย์ที่ประเสริฐไม่ได้
ขอให้เรื่องนี้ได้รับการทำเป็นละครอีก