▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
เที่ยวไทย
อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์
ซ่อมบำรุงรถยนต์
Backpack
เที่ยวภูเขา
ประสบการณ์ขับ โฟล์ค ที4 คาราเวล ขึ้นเหนือครั้งแรก
ขึ้นเหนือเที่ยวแรก ไปดอยอินทนน ใด้บ้านพักของอุทยานฯ จะต้องขับรถไปทางเนินชัวร์ย่า ผมจองที่พักจากทาง Internet รู้แต่ว่าเลี้ยวขวาก่อนถึงที่ทำการอุทยานฯ ไปไม่ไกล สิบกว่ากิโล ขับรถไปตามเส้นทางที่ไปเนินชัวร์ยา ผ่านเลยไป มาใด้ไม่ไกลซักพักถนนเริ่มเป็นเนินสูงๆต่ำรถมีน้อย ข้างทางเป็นธรรมชาติ ไม่นานก็จะถึงหมู่บ้านชาวเขา สุดหมู่บ้านมีร้านอาหารทางขวามือให้แวะทางอาหารกันรองแวะซื้อสเบียงนิดๆหน่อยได้ที่นี่ หลังจากนี้เส้นทางการเดินทางจะสูงชันขึ้น vw T4 ตัวนี้ผ่านสบายๆ แต่ ลุ้นกันเหนื่อยหน่อย ใช้เกียร์ 1 สลับ 2 เป็นบางช่วง ไม่ต้องอัดครับผ่านสบายๆ เน้นว่าก่อนขึ้นมาควรแวะเติมแก๊สซะให้เต็มถัง ทางที่ควรหาเติมเบนซินติดไว้ให้เต็มถังหรือ 50%ก็จะดีเพราะที่จอดรถบางทีไม่แน่นอน ไปจอดรถเอียงหน้าเอียงหลังบางทีสตาร์ทอาจจะเหนื่อยหน่อย น้ำมันที่เติมควรต้องเป็นเบนซินเท่านั้นเหลือจากการใช้งานสามารถเก็บในถังใด้ดีกว่าพวกแก๊สโซฮอล ซึ่งจะไม่ทำให้ปั้มติ๊กเสียง่าย แก๊สโซฮอล 91กับ95 ไม่แนะนำให้ใช้ๆได้ยามฉุกเฉินเติมแล้ววิ่งใช้งานเลยดีกว่าค้างถัง เบนซินหาเติมได้ไม่ยากมีขายเช่นตามปั้มคาร์เท็กหรือปั้มอื่นๆทั่วไป ผมเคยเสียค่าใช้จ่ายไปหลายหมื่นกับเรื่องนี้ และ เรื่องล้างห้องเครื่องไม่ระวัง น้ำเข้ากล่องจะอยุ่ทางขวาด้านข้างแบ๊ตฯ @@@@@
กรุงเทพฯเชียงใหม่ ผมออกเดินทาง 2 ทุ่มกว่า แถวตลาดมหาชัย ถึงเชียงใหม่ประมาณ 8 โมงกว่า จอดนอนกันที่ปั้มยอดฮิตก่อนถึงลำปางและก็กินนู้นนั่นนี่ตลอดทางรวมเดินทางเกือบ 12 ชม. 555 ใช้ความเร็วเฉลี่ย 120-140 กม. สิ้นเปลืองแก๊สถังแรกไปหมดแถวนครสวรรค์ ต่อด้วยถัง 2 ไปหมดก่อนถังเชียงใหม่ รวมระยะทาง 800 กม.กว่าๆ คำนวนเฉลี่ย 2 บาทกว่าไม่ถึง 3 ทริปผมเป็นแนวเที่ยวแบบไม่ต้องขับไปหลายคัน ค่าใช้จ่ายคิดว่าพอรับได้ครับ VW T4 ตัวนี้ คนใช้ต้องใจเย็นหน่อย ช่วงทางเรียบทำใด้ดีเลยกับความเร็ว 130-140 นิ่งมาก นุ่มนวล ขึ้นแล้วก็ไหลนะ เดินทางนั่งไม่เมื่อยถึงแม้จะเป็นเบาะเดิมกำมะหยี่ 11 ที่นั่งปรับเอนนอนไม่ได้ ประตูหนักหน่อยควรมีผู้ชายติดรถตลอดเวลา 555 หลังใส่ Max17ประตูเปิดไม่ติดล้อหลัง ยังห่างอีกเยอะเลี้ยวไม่ติดครับ เลือก Max 17 ขอออฟเซทลบนิดหน่อย ยางหลังสูง 50 ยางหน้าสูง 45 หลังนิ่มนวมดี หน้ากระด้างไปนิดหน่อย คิดว่าเส้นต่อไปค่อยใช้ 50 แล้วกัน @@@@@@@@@@@@ เทคนิคผมตอนขึ้นที่สูงๆ ผมใช้เกียร์ 1 สลับ 2 ค่อยๆขึ้นไปแต่อย่าจอดตอนขึ้นเนินนะผมว่าไม่ค่อยดี และก็อย่าอัดๆไม่ได้เครื่องจะร้อนทันที ไปได้เรื่อยๆ นั่ง 7 คน (เบนซิน2.5 cc. 5 สูบ LPG 58 ลิตร /ปรับจูนการสิ้นเปลืองให้ค่าเท่ากับน้ำมัน ติดตั้งที่แถวถนนนวมินฯ ใช้มานานแล้วไม่เคยมีปัญหา ) สรุปถ้าเป็นช่วงเทศกาลแล้วขึ้นที่สูงๆ ไป 6-7 คนไม่แนะนำให้ใช้ครับ สงสารครัชกับเกียร์เลยย เย็นวันนั้นก็เข้าที่พักช่วงเย็นๆครับ เสียดายไปหน่อยหน้าที่พักมีต้นพญาเสือโคล่ง ซากุระเมืองไทย ดอกเพิ่งจะเป็นตุ่มๆ เพื่อนไปหลังจากผมไม่นานถ่ายรูปมาดูสวยมากกกกก @@@@@@
วันรุ่งขึ้นตื่นตีสี่กว่าขึ้นอินทนนท์ตั้งใจจะขึ้นกิ่วแม่ปานให้ได้ อากาศเย็นจัด 10 ต้นๆก็สตาร์ทง่ายๆ ตัดเข้าระบบแก๊ส ชุดเราเริ่มเดินทาง ไปได้แป๊บเดียวแอร์ตอนหลังเป็นน้ำแข็งแทบจะไม่มีลมออกมา (ลืมแจ้งเรื่องแอร์ก่อนเดินทางมาได้ไปแก้ไขระบบแอร์ให้สามารถตัดได้ถ้าไม่ตัดแอร์พังแน่ๆ ส่วนนี้เสียไปประมาณสามร้อยมั้งไม่แน่ใจ ) ปิดแอร์ก็ไม่ได้ เพราะต่อพัดลมหน้ารถไว้กับเส้นไฟของชุดแอร์ (ดึงแค่กระแสผ่านรีเรย์ชั่วคราวสวิทหม้อน้ำเสีย มั่วมาก555) สรุปว่างานนี้ได้บทเรียนขึ้นที่สูงเครื่องร้อนอากาศเย็นอีกปิดแอร์ก็ไม่ได้ เย็นกัน 2 เบึ้นเลย 555 ไปสุดที่กิ่วแม่ปาน ตีห้าครึ่งฟ้ายังมีดอยู่เลย นึกว่าจะไม่ทันพระอาทิตย์ขึ้น สำเร็จตามที่ตั้งใจ
ช่วงต่อไปรอพระอาทิตย์ขึ้นที่ริมถนนก่อนจะอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้า กิ่วแม่ปาน พอพระอาทิตย์ขึ้นแล้วก็จะไปต่อกันที่กิ่วแม่ปานเลย เจ้าหน้าที่ให้ลงทะเบียนเข้าชมกิ่วแม่ปานใด้พร้อมไกด์ 1 ท่านต่อกรุ๊ป เริ่มต้นเวลาที่ 05.45 น. มันเหนื่อยน้าผมมาเป็นครั้งแรกเหมือนกันเค้าบอกว่าเหนื่อยน้าเข้าไปแล้วสวยงามมากอากาศเย็นมาก ขอเข้าไปชมกันหน่อย วันที่ไปประมาณ 10 องศาข้างนอกแต่เข้าไปในกิ่วแม่ปานเหลือไม่ถึง 5 คนที่จะเข้าไป กำลังขาต้องโอเค หัวใจต้องโอเค น้องชายเดินร่วมทริปเข้าไปด้วยไม่ถึงครึ่งทางถอยเลยหายใจไม่ทัน ผมใจสู้วันที่เดินทางไปเกือบถึง 50 แล้วแต่สู้ 555 เส้นทางช่วงแรกและช่วงสุดท้ายต้องขึ้นลงที่สูงเหนื่อยมาก พี่สาวสู้ไม่ไหว เหลือผมกับญาติๆสู้ต่อ หลังจากนั้นได้ยินเสียงว้าวๆเห็นก้อนเมฆลอยใกล้ๆตัวเรา มีหมอกลอยมาประทะหน้าตลอดๆ แอบกินหมอกไปด้วย มันคุ้มจริงๆคุ้มมากกก เดินทางมาไกลเลย รุ้สึกหายเหนื่อยที่ใด้เดินทางมากลับมารู้สึกเสียดายมากที่ไม่เก็บภาพบรรยากาศมาให้มากๆ ทริปนี้เลยขอยืมรูปท่านอื่นมาให้ชมกันนิดหน่อย
ขากลับลงมาเริ่มมีเสียงแก๊กๆๆ ตอนลงทางลาดชัน จะดังมากตอนที่ใช้เกียร์ต่ำ1 หรือ 2 ลดความเร็ว ใจเต้นหนักมาก555 เอางัยกับกรูอีกเนี่ย กลัวล้อจะหลุดบรื๋อตอนลงจากยอดดอยอินทนนท์ เริ่มมีกลิ่นครัชโชยมาหน่อยๆ ไม่รู้คันไหนหรือคันเรา ก็เลยชิดขวาแวะพักรถตลาดทางขวามือ ตลาดนี้จะอยู่ก่อนถึงที่ทำการอุทยาน
อาการดังกล่าว พอถึงทางเรียบก็หายหลังจากนั้นก็ไม่เป็น เข้ากรุงเทพฯ เลยเปลี่ยนหัวเพลาขับซ้ายขวา ข้างละไม่เกิน 2 พันรวมค่าแรง (เฉพาะตัวนอก) ไม่รู้จะแก้ไขตรงจุดหรือเปล่า ต้องรองกันใหม่กับทริปต่อไปที่เขาค้อ หลังจากนี้ไม่กี่อาทิตย์ใด้ข่าวดี มีใบแจ้งตรวจจับความเร็วมา 2 ใบ 138 กม. กับ 125 กม. มั้งจำไม่ได้
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันนะค๊าบบบ