ผมขอเล่าย้อนนะครับ ว่าเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 นั้น ผมกำลังรีบไปโรงพยบาลศิริราชพอดี เพราะคุณย่าของผมป่วยถึงขั้นใกล้เสียแล้ว..ญาติโทรมาบอกผมเลยรีบออกจากที่ทำงานเพื่อไปดูใจท่าน...
....ผมก้าวเข้าบริเวณโรงพยาบาล บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ สลดหดหู่มากๆ..เวลานั้นทุกคนยังสวดมนต์กันอยู่ แต่ผมเชื่อว่าในใจแล้วทุกคนก็รู้ดีว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่เราจะไม่พูดมันออกมา เรารอเพียงประกาศสำนักพระราชวังเท่านั้น
..จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ทุกคนส่งเสียงร้องระงมกันโดยทั่วทั้งบริเวณ ใครที่อยู่ตรงนั้นยากที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้........
ภาพประกอบจาก
http://www.komchadluek.net/news/royal/246001
สรุปวันนั้นคุณย่าของผมท่านยังอยู่ตอมาได้ราวมีปาฏิหารย์..แต่ปาฏิหารย์สำหรับคนไทยที่จะให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรนั้นไม่มีอีกแล้ว..หัวใจทุกคนวันนั้นเหมือนสลายไป ....ยากจะพูดได้ครับ แต่ผมเชื่อว่า คนไทยทุกคนจะรู้กันทุกคน มองตากันก็รู้ความรู้สึกกันได้
..........มาวันนี้คุณย่าผมเสียไปแล้วสองวันก่อน..ผมเศร้านะ แต่ผมกลับไม่เศร้าไปกว่าวันที่ 13 แล้ว มันเหมือนหัวใจมันด้านชาไปซะแล้ว..ไม่เศร้าไปกว่าที่เป็นแล้ว..ผมเลยอยากถามเพื่อนๆทุกคนว่า ตอนนี้มีอาการ สภาพจิตใจเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ณ วันนี้เรื่องพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตผมคลายความโศกเศร้าลงมาก แต่มันก็ยังมีอารมณ์ค้างอยู่ในใจ เมื่อนึกถึงท่าน หรือดูข่าวในเฟศ ดูการสัมภาษณ์ประชาชนแล้วเขาร้องไห้ ผมจะพยายามออกมาห่างๆทีวีเลยครับ น้ำตามันเอ่อล้นมากจากไหนก็ไม่รู้....วันก่อนไปสนามหลวง ผมรู้สึกหน่วงๆที่ใบหน้าคล้ายน้ำตาจะไหล แต่พอมองไปรอบๆบริเวณสนามหลวงเห็นเพื่อร่วมชาติทุกคนร่วมใจทำสิ่งดีๆ บ้างแจกอาหาร บ้างอาสาเก็บขยะ แบ่งปันกัน ผมก็คลายจากความเศร้ามาเป็นความประทับใจแทน น้ำตาแห่งความประทับใจมันก็ไหลอีก ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย เพื่อนๆเป็นอย่างไรมาเล่ากันครับ
ครบ 7 วันแล้ว วันนี้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ในหลวงรัชกาลที่ 9 สวรรคต ตอนนี้ทุกคนเป็นอย่างไรกันบ้างครับ
....ผมก้าวเข้าบริเวณโรงพยาบาล บรรยากาศไม่ต้องพูดถึงครับ สลดหดหู่มากๆ..เวลานั้นทุกคนยังสวดมนต์กันอยู่ แต่ผมเชื่อว่าในใจแล้วทุกคนก็รู้ดีว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่เราจะไม่พูดมันออกมา เรารอเพียงประกาศสำนักพระราชวังเท่านั้น
..จนเมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. ประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง พระบาทสมเด็จพระปรมินทมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต ทุกคนส่งเสียงร้องระงมกันโดยทั่วทั้งบริเวณ ใครที่อยู่ตรงนั้นยากที่จะกลั้นน้ำตาไว้ได้........
ภาพประกอบจาก http://www.komchadluek.net/news/royal/246001
สรุปวันนั้นคุณย่าของผมท่านยังอยู่ตอมาได้ราวมีปาฏิหารย์..แต่ปาฏิหารย์สำหรับคนไทยที่จะให้พระองค์หายจากพระอาการประชวรนั้นไม่มีอีกแล้ว..หัวใจทุกคนวันนั้นเหมือนสลายไป ....ยากจะพูดได้ครับ แต่ผมเชื่อว่า คนไทยทุกคนจะรู้กันทุกคน มองตากันก็รู้ความรู้สึกกันได้
..........มาวันนี้คุณย่าผมเสียไปแล้วสองวันก่อน..ผมเศร้านะ แต่ผมกลับไม่เศร้าไปกว่าวันที่ 13 แล้ว มันเหมือนหัวใจมันด้านชาไปซะแล้ว..ไม่เศร้าไปกว่าที่เป็นแล้ว..ผมเลยอยากถามเพื่อนๆทุกคนว่า ตอนนี้มีอาการ สภาพจิตใจเป็นอย่างไรกันบ้างครับ ณ วันนี้เรื่องพระเจ้าอยู่หัวสวรรคตผมคลายความโศกเศร้าลงมาก แต่มันก็ยังมีอารมณ์ค้างอยู่ในใจ เมื่อนึกถึงท่าน หรือดูข่าวในเฟศ ดูการสัมภาษณ์ประชาชนแล้วเขาร้องไห้ ผมจะพยายามออกมาห่างๆทีวีเลยครับ น้ำตามันเอ่อล้นมากจากไหนก็ไม่รู้....วันก่อนไปสนามหลวง ผมรู้สึกหน่วงๆที่ใบหน้าคล้ายน้ำตาจะไหล แต่พอมองไปรอบๆบริเวณสนามหลวงเห็นเพื่อร่วมชาติทุกคนร่วมใจทำสิ่งดีๆ บ้างแจกอาหาร บ้างอาสาเก็บขยะ แบ่งปันกัน ผมก็คลายจากความเศร้ามาเป็นความประทับใจแทน น้ำตาแห่งความประทับใจมันก็ไหลอีก ผมไม่เข้าใจตัวเองเลย เพื่อนๆเป็นอย่างไรมาเล่ากันครับ