รบกวนขอคำปรึกษาครับเล่าเหตุการณ์ให้ฟังก่อนน่ะครับ
เมื่อคืนวันที่ 17/10/2559 เวลาประมาณ 23:40น.
ผมอยู่เลนซ้าย และ เปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วกำลังเลี้ยวเข้าประตูสถานที่ทำงาน รถเลี้ยวเข้าไปแล้วประมาณ 45 องศา มีจักรยานยนวิ่งมาจากทางด้านซ้ายตรงเข้ามาชนรถผม ที่ล้อแม็กด้านหน้ารถผม(ทำให้แม็กเป็นรอย) ผมเลยเบรก ผู้ขี่จักรยานยนต์เลยเลาะหน้ารถผมซึ่งทำให้ขูดกับสปอยเลอร์หน้าด้านซ้ายแตก และกันชนหน้าเป็นรอยขูด
ผมลงไปดูคู่กรณีและตัวรถผม ตอนนั่น รปภ.เฝ้าประตูให้ผมขับรถเข้าไปจอดด้านในก่อนเพราะจะมีรถเข้า-ออก
ผมเลยเอารถเข้าไปจอดแล้วจะเรียกประกัน
คู่กรณีที่ขับขี่จักรยานยนต์บอกว่าตัวเขารีบไปทำงาน ซึ่งคู่กรณีแจ้งไว้ว่าว่างหลัง 09.00 ของวันที่ 18
ผมเลยถ่ายบัตรประชาชน กับ ใบขับขี่ คู่กรณีไว้
เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 18 ผมเลยโทรไปสอบถามเวลานัดกับคู่กรณีอีกรอบ ทีนี้คู่กรณีให้ผู้ชายอีกคนมาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายซึ่งตกลงกันไม่ได้(เอาเปรียบเกินไป)อ้างว่าผู้ชนจนกว่า ให้ผมช่วยเหลือไป และชายคนนั่นได้ถามชื่อ นามสกุล สถานที่ทำงาน ตำแหน่งผมไปซึ่งผมก็แจ้งให้ไป แต่ถามเขากลับซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกอะไร ผมเลยไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
เช้าเวลา 07.00น. ผมโทรไป คอนเฟิร์มเวลานัดกับคู่กรณี ซึ่งคู่กรณียืนยันตามเดิมว่าว่าง 09.00 น.ผมเลยขอนัดเวลา 09.00น. เพื่อที่จะมาตกลงไกล่เกลี่ย
เวลา 09.00น. คู่กรณีไม่มาตามนัดและผมได้ติดต่อกับไปทางคู่กรณีให้ ผู้ชายคนเดิมคุยเพื่อมาไกล่เกลี่ยแต่ยังตกลงไม่ได้เพราะผมต้องการให้คู่กรณีมาเจอประกันที่จุดเกิดเหตุก่อนตามเวลานัด
ซึ่งชายคนนี้ได้อ้างว่าจริงๆแล้วผมต้องเรียกประกันตั้งแต่ตอนชน ทำไมตอนนั่นไม่เรียก ซึ่งผมได้แจ้งกลับไปว่า ตัวคู่กรณีบอกรีบไปทำงานและจะขอกลับมาเวลา 09.00 น. มีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น
และชายคนนี้ได้แจ้งตัวเองว่าเป็นตำรวจรัฐสภา ถ้าจะคุยให้ไปคุยที่รัฐสภาเพราะตัวเขานั่นอ้างว่ามีงานที่ต้องคุมครอง ครม. เพราะจะมีประชุม ครม.ไม่สะดวกมา
ซึ่งตัวผมเองคิดว่าผิดปกติเพราะว่าตัวเขานั่นไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุ ทำไมต้องให้ผมไปคุยที่อื่นที่ไม่ใช่จุดเกิดเหตุ
ผมเลยถาม ตำแหน่ง ยศ ชายคนนั่นกลับซึ่งเขาไม่ได้แจ้ง
ผมเลยตอบกลับว่าคุณถามผมๆก็บอก
ผู้ชายคนนั่นตอบว่าเรื่องของเขา เขาถามไปเพื่อว่าจะ"นำข้อมูลผมไปเช็คประวัติ"
และชายคนนั่นได้ให้คู่กรณีกลับมาคุยกับผมซึ่งก็คุยไม่รู้เรื่องเช่นเคย ผมจึงแจ้งไปว่าให้รอคุยกับประกันผมและวางสายไป
นี้คือเหตุการณ์คร่าวๆครับ
ตอนนี้ผมได้ไปข้อหลักฐานเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่ดูแลกล้องอยู่ตรงนั่นมาครับมีภาพและไฟล์วิดีโอ
เพิ่มเติมครับรถผมเป็น ประกันชั้น.1
อยากถามว่ากรณีรถชนนี้ใครผิดหรือใครถูกครับ
อีกกรณีการถูก ชายผู้.ที่อ้างว่าเป็นตำรวจรัฐสภา นำข้อมูลไปเช็คประวัตินั่นสามารถทำได้โดยที่ผมไม่ยินยอมได้ไหมครับ
รบกวนสอบถามเกี่ยวกับโดนมอเตอร์ไซชนและข้อกฏหมายกับเหตุการณ์ต่อเนื่องครับ
เมื่อคืนวันที่ 17/10/2559 เวลาประมาณ 23:40น.
ผมอยู่เลนซ้าย และ เปิดไฟเลี้ยวซ้ายแล้วกำลังเลี้ยวเข้าประตูสถานที่ทำงาน รถเลี้ยวเข้าไปแล้วประมาณ 45 องศา มีจักรยานยนวิ่งมาจากทางด้านซ้ายตรงเข้ามาชนรถผม ที่ล้อแม็กด้านหน้ารถผม(ทำให้แม็กเป็นรอย) ผมเลยเบรก ผู้ขี่จักรยานยนต์เลยเลาะหน้ารถผมซึ่งทำให้ขูดกับสปอยเลอร์หน้าด้านซ้ายแตก และกันชนหน้าเป็นรอยขูด
ผมลงไปดูคู่กรณีและตัวรถผม ตอนนั่น รปภ.เฝ้าประตูให้ผมขับรถเข้าไปจอดด้านในก่อนเพราะจะมีรถเข้า-ออก
ผมเลยเอารถเข้าไปจอดแล้วจะเรียกประกัน
คู่กรณีที่ขับขี่จักรยานยนต์บอกว่าตัวเขารีบไปทำงาน ซึ่งคู่กรณีแจ้งไว้ว่าว่างหลัง 09.00 ของวันที่ 18
ผมเลยถ่ายบัตรประชาชน กับ ใบขับขี่ คู่กรณีไว้
เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 18 ผมเลยโทรไปสอบถามเวลานัดกับคู่กรณีอีกรอบ ทีนี้คู่กรณีให้ผู้ชายอีกคนมาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายซึ่งตกลงกันไม่ได้(เอาเปรียบเกินไป)อ้างว่าผู้ชนจนกว่า ให้ผมช่วยเหลือไป และชายคนนั่นได้ถามชื่อ นามสกุล สถานที่ทำงาน ตำแหน่งผมไปซึ่งผมก็แจ้งให้ไป แต่ถามเขากลับซึ่งเขาก็ไม่ได้บอกอะไร ผมเลยไปลงบันทึกประจำวันไว้ก่อน
เช้าเวลา 07.00น. ผมโทรไป คอนเฟิร์มเวลานัดกับคู่กรณี ซึ่งคู่กรณียืนยันตามเดิมว่าว่าง 09.00 น.ผมเลยขอนัดเวลา 09.00น. เพื่อที่จะมาตกลงไกล่เกลี่ย
เวลา 09.00น. คู่กรณีไม่มาตามนัดและผมได้ติดต่อกับไปทางคู่กรณีให้ ผู้ชายคนเดิมคุยเพื่อมาไกล่เกลี่ยแต่ยังตกลงไม่ได้เพราะผมต้องการให้คู่กรณีมาเจอประกันที่จุดเกิดเหตุก่อนตามเวลานัด
ซึ่งชายคนนี้ได้อ้างว่าจริงๆแล้วผมต้องเรียกประกันตั้งแต่ตอนชน ทำไมตอนนั่นไม่เรียก ซึ่งผมได้แจ้งกลับไปว่า ตัวคู่กรณีบอกรีบไปทำงานและจะขอกลับมาเวลา 09.00 น. มีการโต้เถียงกันเกิดขึ้น
และชายคนนี้ได้แจ้งตัวเองว่าเป็นตำรวจรัฐสภา ถ้าจะคุยให้ไปคุยที่รัฐสภาเพราะตัวเขานั่นอ้างว่ามีงานที่ต้องคุมครอง ครม. เพราะจะมีประชุม ครม.ไม่สะดวกมา
ซึ่งตัวผมเองคิดว่าผิดปกติเพราะว่าตัวเขานั่นไม่ได้อยู่ในจุดเกิดเหตุ ทำไมต้องให้ผมไปคุยที่อื่นที่ไม่ใช่จุดเกิดเหตุ
ผมเลยถาม ตำแหน่ง ยศ ชายคนนั่นกลับซึ่งเขาไม่ได้แจ้ง
ผมเลยตอบกลับว่าคุณถามผมๆก็บอก
ผู้ชายคนนั่นตอบว่าเรื่องของเขา เขาถามไปเพื่อว่าจะ"นำข้อมูลผมไปเช็คประวัติ"
และชายคนนั่นได้ให้คู่กรณีกลับมาคุยกับผมซึ่งก็คุยไม่รู้เรื่องเช่นเคย ผมจึงแจ้งไปว่าให้รอคุยกับประกันผมและวางสายไป
นี้คือเหตุการณ์คร่าวๆครับ
ตอนนี้ผมได้ไปข้อหลักฐานเพิ่มเติมจากหน่วยงานที่ดูแลกล้องอยู่ตรงนั่นมาครับมีภาพและไฟล์วิดีโอ
เพิ่มเติมครับรถผมเป็น ประกันชั้น.1
อยากถามว่ากรณีรถชนนี้ใครผิดหรือใครถูกครับ
อีกกรณีการถูก ชายผู้.ที่อ้างว่าเป็นตำรวจรัฐสภา นำข้อมูลไปเช็คประวัตินั่นสามารถทำได้โดยที่ผมไม่ยินยอมได้ไหมครับ