หลังจากหาข้อมูลของคนนู่นนี้นั่นในพันทิพย์มา ก็อยากแชร์ข้อมูลเพื่อเป็นประโยชน์แก่คนอื่นบ้าง
จากประสบการณ์เที่ยวด้วยตัวเอง ฝรั่งเศล และอิตาลี หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
ไม่มีการโฆษณา หรือเป็นนายหน้าใดๆทั้งสิ้นนะคะ
เข้าเรื่องเลยละกัน หลังจากได้วีซ่าเชงเก้นแล้ว ก็ปฎิบัติการณ์คอนเฟิม จองตั๋วออนไลน์ก็เริ่มขึ้น
ตารางที่เราจะไปได้แก่ PARIS-MILAN-VENICE-FLORENCE-ROME-NAPLES-SORRENTO
______________________________________________________________________________
จองตั๋วออนไลน์ ล่วงหน้า
ตั๋วเครื่องบิน EMIRATES (ซื้อผ่านเอเจน แต่เราเช็คราคากับไฟล์จากเวป expedia)
ขาไป - บินจากกรุงเทพ ลงปารีส BKK-DXB, DXB-CGD (แวะพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ)
ขากลับ - บินจากโรม กลับกรุงเทพ FCO-DXB, DXB-BKK (แวะพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ)
ที่เลือกสายการบินนี้เพราะว่า เคยนั่งแล้ว เครื่องใหญ่ดี สะดวกสบาย ราคาก็รับได้ (ค่าตั๋วเบ็ดเสร็จ24,xxx)
ตั๋วเครื่องบิน EASY JET (
http://www.easyjet.com/ )
เริ่มแรก เราซื้อตั๋วเครื่องบินLow cost, จากปารีส ไปลงมิลาน ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงครึ่ง ค่าตั๋วไม่แพง แต่ต้องแยกซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม (ราคาเช็คในเวปเลย ขึ้นอยู่กับไฟล์ ถ้าจ่ายผ่านบัตรเครดิตจะชาร์จเงินเพิ่มนิดหน่อย)
ส่วน กระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่อง เค้าอนุญาตให้ถือขึ้นแค่คนละใบเท่านั้น และboarding pass ต้องปริ๊นมาเองจากบ้านนะจ๊ะ หรือไม่ก็APP ในมือถือก็ได้
ปล.ถ้าคิดจะใช้บริการ แนะนำสมัครสมาชิกกับเวปก่อนสักพัก แล้วจะมีส่งอีเมล special มาเป็นช่วงๆ ลด 30% อะไรแบบนี้
ตั๋วรถไฟ (
http://www.trenitalia.com/ )
เราซื้อของ Trenitalia เลือกวันเวลาที่นั่งตามแต่สะดวก แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าก่อนไป (ถ้าคิวเที่ยวแน่นอนนะ) เพราะราคาจะถูกกว่าไปซื้อที่เครื่องขายตั๋วในวันที่จะเดินทางจริง ประมาณนึงเลยทีเดียว เสร็จแล้วก็ปริ๊นตั๋วออกมา ถึงเวลาก็ขึ้นรถไฟไปได้เลย นั่งไปสักพักก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเดินคอยตรวจตั๋ว
ในกรณีที่ ซื้อตั๋วในวันเดินทางจริงจากตู้ขาย ก่อนขึ้นรถไฟ ต้องเอาตั๋วไป Valid ที่เครื่องของมันก่อน มันก็จะพิม วันที่เวลาที่เรามาValidลงไปในตั๋วนั้นแหละ
ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นตั๋วรถไฟแบบไปกลับใกล้ๆ เช่น PISA สมมติเราเลือกรอบ 9.00 แต่เราพลาดไปไม่ทัน เราก็ขึ้นรอบใหม่หลังจากนี้ได้ แต่ต้องในวันเดียวกันเท่านั้น พูดง่ายๆว่า เดินทางกี่โมงก็ได้ในรอบของวันนั้น (เจ้าหน้าที่บอกมา) แต่ตั๋วไม่ระบุที่นั่งนะ นั่งตรงไหนก็ได้ แล้วสาเหตุที่ต้อง Valid ตั๋วเพราะ เป็นการบอกว่า ตั๋วนี้ได้ใช้งานแล้ว ถ้าไม่Valid ก็เอาไปใช้รอบอื่นได้อีกไง แต่ไม่แนะนำให้ทำนะจ๊ะ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตรวจจริง ถ้าโดนจับปรับขึ้นมานี้ ไม่คุ้มนะคะ
ตั๋วมิวเซียม สวนสนุก
( มิวเซียมบางที่คิดค่าจองออนไลน์นะ 2-4ยูโร ต่อใบ)
Disneyland Paris : ดูในเวปไซค์ ราคาแต่ละช่วงไม่เท่ากัน วันไหนพีค วันไหนไม่ ราคาต่างกัน แต่ซื้อออนไลน์ไปง่ายกว่า และเหมือนจะถูกกว่าด้วย ไปถึงเอาที่ปริ๊นไปสแกนตรงทางเข้าแล้วเข้าได้เลย
www.disneylandparis.com
Louvre : แนะนำจองออนไลน์ไปเช่นกันคะ ไปถึงก็มีแถวแยกว่าใครจองออนไลน์มา ซึ่งดีงาม และถ้าชอบเดินมิวเซียม แนะนำให้ไปแต่เช้าเลย เราเดินก็เกือบ 6 ชมอ่ะ ยังไม่หมด แต่มีคิวไปที่อื่นต่อ ฮือๆ
http://www.louvre.fr/en/buy-tickets
Versailles : จองไปล่วงหน้าแล้วนะ พอไปถึงก็ต่อแถวเข้าคิวยาวเข้าไปดูเหมือนคนไม่ได้จองตั๋วออนไลน์ไป 555
ปล.ตั๋วปริ๊นแล้วไปสแกนตรงทางเข้าแล้วเข้าได้เลย
http://en.chateauversailles.fr/prepare-my-visit-/single/tickets-and-rates
The Last Supper, Santa Maria delle Grazie : ควรจองล่วงหน้า ตั้งแต่เปิดขายจากเวป ซึ่งจะเปิดขายล่วงหน้าครั้งละแค่สามเดือน เช่น จะไปตอนสิ้นเดือนกย เวปจะเปิดขายตอนกค ไรงี้ ซึ่งครั้งเค้าจำกัดคนเข้าไปดูครั้งละ 15 นาทีเท่านั้นต่อหนึ่งกลุ่ม ตั๋วออนไลน์ซื้อได้ครั้งละสองใบเอง เลือกเวลาที่จะเข้าชม เสร็จแล้วไปถึงก่อนเวลา เพื่อเอาอีเมลที่คอนเฟิม ไปยืนยันรับตั๋วเข้าชม …. ถ้าพลาดจากการซื้อตั๋วจากเวปเค้าเอง ก็มีพวกเอเจนที่อื่นขาย แต่ราคาอัพขึ้นหลายเท่าตัวเลย
http://www.vivaticket.it/index.php?nvpg[tour]&id=744 (CENACOLO VINCIANO)
Uffizi gallery : ซื้อตั๋วผ่านเวปไซค์อื่น แล้วเอาอีเมลคอนเฟิมไปรับตั๋วเข้าที่นั้นได้เลย พอได้ตั๋วก็ไปเข้าคิว ซึ่งเค้าจะแยกคิวเป็นสองแถว คือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองคะ (จองไปแถวเร็วกว่าเยอะ แต่ก็เสียตั๋วค่าจองออนไลน์แทนไง 555)
http://www.b-ticket.com/b-ticket/uffizi/venue.aspx
Accademia Gallery : เช่นเดียวกับ Uffizi gallery แต่ที่แตกต่างที่เราเจอคือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองมา ยาวพอๆกัน ได้เข้าพอๆกัน (เอาอีเมลคอนเฟิมไปรับตั๋วเข้าที่ใกล้ๆทางเข้า ถามเจ้าหน้าที่ดู)
http://www.b-ticket.com/b-ticket/uffizi/venueAccademia.aspx
Vatican Museum : แนะนำให้จองไปเลยคะ เพราะคือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองมา แตกต่างราวฟ้ากับดิน
ไม่จองนี้แถวยาวเป็นหางว่าว ส่วนแถวที่จองไปเดินเข้าชิวเลย เข้าไปถึงก็เอาอีเมลคอนเฟิมไปขึ้นตั๋ว แล้วก็เข้าชม
https://biglietteriamusei.vatican.va/musei/tickets/do?action=booking&codiceLivelloVisita=9&step=1
_________________________________________________________________________________
ที่พัก
หลังการที่อ่านรีวิวในเวปต่างๆมา (หลักๆก็อ่านจาก tripadvisorนั้นแหละ) เราก็เลือกมาตามนี้นะ ทั้งหมดที่พักเป็น TRIPLE ROOM
จองผ่านจาก Booking.com
PARIS : Hotel Basile
รวมดีเลย ห้องแบบโมเดิร์น สะอาด ทำเล อยู่ในเมือง เดินทางสะดวก
MILAN : Hotel ESCO
รวมดีเลย ห้อง ทำเล อยู่ในเมือง เดินทางสะดวกมาก อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Milano centrale เดินมาประมาณ 200เมตร
แต่ ด้วยความที่ใกล้มาก จะยินเสียงรถไฟใต้ดินผ่านบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ
VENICE : Hotel Edelweiss
ใกล้สถานีรถไฟ Venezia S Lucia ห้องใหญ่มาก แต่เป็นตึกเก่า ห้องเลยจะดูแบบวินเทจเก่าหน่อย และที่สำคัญ ไม่มีลิฟต์! รวมๆก็โอเค
FLORENCE : Hostel Archi Rossi
ใกล้สถานีรถไฟ Firenze SMN อารมณ์แบบโฮสเทล ชื่อก็บอกอยู่แล้ว 555 แต่แอร์เป็นแบบอัตโนมัติอ่ะ คือเปิดแล้วก็ไม่ติดนะ จะติดเองถ้าอากาศด้านนอกร้อน (เจ้าหน้าที่บอก) เราโชคดีไป ไปตอนอากาศไม่ร้อนมาก ช่วงสิ้นเดือนกย รวมๆก็โอเค
ROME : Dream Station
รวมๆดี อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Roma Termini เลย เดินข้ามถนนไป จริงๆแล้วที่นี้ มันเป็นอพาร์ทเม้น ที่เค้าเอาห้องมาทำเป็นที่พัก แต่เราชอบมากนะ เพราะมีครัว มีเครื่องทำกาแฟ มีตู้เย็นให้ใช้ได้เลย ตลอด 24ชม อารมณ์เหมือนอยู่อพาร์ทเม้นตัวเอง 555
(ปล.คือถ้าคนเคยอยู่เมืองนอกจะนึกภาพออก มันไม่เหมือนอพาร์ทเม้นแบบเมืองไทยอ่ะ อธิบายลำบาก ลองหารูปดูละกัน)
SORRENTO : La Magnolia
ดีเช่นกัน อยู่ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟ Circumvesuviana, Sorrento
____________________________________________________________________
Schedule
Day 1 : PARIS / Arc de triomphe de l'Étoile - Opéra Garnier - Galeries Lafayette
Day 2 : PARIS / La Vallée Village outlet – Disneyland
Day 3 : PARIS / Louvre - Musée d'Orsay - Notre Dame – Pompidou
Day 4 : PARIS / Versailles – Eiffel Tower
Day 5 : PARIS-MILAN / Shopping street near Metro LIMA ( ตั้งใจไป Duomo di Milano แต่ไฟล์ดีเลย์ เลยเปลี่ยนแผน)
Day 6 : MILAN / Santa Maria delle Grazie - Teatro alla Scala - Duomo di Milano - Galleria Vittorio Emanuele II
Day 7 : MILAN-VENICE / Burano & Murano island
Day 8 : VENICE / Rialto Bridge -Basilica San Marco – San Marco
Day 9 : VENICE-FLORENCE / Accademia Gallery - Florence Cathedral-Piazza della repubblica -
Day 10 : FLORENCE / Uffizi gallery museum - Palazzo vecchio + piazza della Sighoria - Ponte vecchio Bridge - Piazzale Michealangelo
Day 11 : FLORENCE / Leaning Tower of Pisa
Day 12 : FLORENCE – ROME / Monument to vittorio emanuelu II - Roman forum & Palatine Hill – Colosseum
Day 13 : ROME / Piazza Di Spangna & Spanish Step – Trevi – Pantheon - Piazza Novona
Day 14 : ROME / Vatican Museum + Sistine Chapel - St.peter's Basilica - Castel Sant’ Angelo & St. Angelo Bridge Ponte Sant'Angelo
Day 15 : ROME-NAPLES-SORRENTO / Castel Nuovo & Royal Palace of Naples
Day 16 : SORRENTO / Capri – Anacapri
Day 17 : SORRENTO / Amalfi – Ravello – Positano
Day 18 : SORRENTO-NAPLES-ROME / Pompeii
_____________________________________________________________________
PARIS
ลงเครื่อง เข้าแถวผ่าน Immigration ไม่โดนถาม หรือเรียกดูเอกสารเลย เพราะเจ้าหน้าที่ นางแชทมือถือหัวเราะคิกคักอยู่ รอดไป 555 รับกระเป๋าออกมา ก็เดินไปตามป้ายบอก
เราเลือกเข้าเมืองโดย Rossiy Bus ไปซื้อตั๋วจากเครื่อง ราคาประมาณ 13 Euro ต่อเที่ยวต่อคน เสร็จแล้วรอรถมาจ๊ะ รถมาก็แบกกระเป๋าขึ้นไปมีชั้นวางให้สวยงาม เอาตั๋วไป Valid ตรงเครื่องข้างๆคนขับ หรือ ไม่ก็ซื้อตั๋วกับคนขับก็ได้แล้วแต่ ราคาเท่ากัน เรานั่งไปลง Opera บนรถมี Wifi ให้ใช้ฟรี 30 นาที
เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ก็ซื้อตั๋วแบบเป็นชุด 10ใบ ก็ถูกกว่านะ แต่ขึ้นอยู่กับ schedule ของแต่ละคนว่าจะไปไหนขนาดไหน โซนไหน ซึ่งถ้าไป Disneyland และ Versailles ต้องซื้อตั๋วรถไฟราคาอีกแบบนะ
อาหารการกิน ก็ตามอัธยาศัย ราคาตามSupermarket, Grocery ราคาแซนวิชประมาณ 1.99 -5.99 ยูโร/ สลัด 3.99-7.99ยูโร/ โค้ก 2ยูโร / น้ำดื่ม 1, 1.50, 2 แล้วแต่ยี่ห้อ
เราก็พุ่งร้านอาหารจีนมากกว่า เพราะขนมปังฝรั่งเศสเคี้ยวไม่ออกจริงๆฟันปลอมจะหลุด ส่วนแซนวิชสลัดก็เบื่ออ่ะ อาหารจีนจะเป็นแบบตัก แล้วชั่งนน คือ ผัดนี้ราคาต่อกรัมเท่านี้ เค้าก็จะตักแล้วก็เอาไปชั่ง (ข้าวก็ตัก คิดราคาเป็นกรัมเช่นกัน) เวฟให้ร้อน แล้วก็เสิร์ฟ จ่ายตังค์ กิน มีน้ำเปล่าฟรี จบ
ห้องน้ำ ในปารีส ก็มีบริการ ฟรีอยู่ทั่วไป
*****************************
เที่ยว ปารีส และ อิตาลี ด้วยตัวเอง
จากประสบการณ์เที่ยวด้วยตัวเอง ฝรั่งเศล และอิตาลี หากมีข้อมูลผิดพลาดประการใด ขออภัยมา ณ ที่นี้
ไม่มีการโฆษณา หรือเป็นนายหน้าใดๆทั้งสิ้นนะคะ
เข้าเรื่องเลยละกัน หลังจากได้วีซ่าเชงเก้นแล้ว ก็ปฎิบัติการณ์คอนเฟิม จองตั๋วออนไลน์ก็เริ่มขึ้น
ตารางที่เราจะไปได้แก่ PARIS-MILAN-VENICE-FLORENCE-ROME-NAPLES-SORRENTO
______________________________________________________________________________
จองตั๋วออนไลน์ ล่วงหน้า
ตั๋วเครื่องบิน EMIRATES (ซื้อผ่านเอเจน แต่เราเช็คราคากับไฟล์จากเวป expedia)
ขาไป - บินจากกรุงเทพ ลงปารีส BKK-DXB, DXB-CGD (แวะพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ)
ขากลับ - บินจากโรม กลับกรุงเทพ FCO-DXB, DXB-BKK (แวะพักเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ)
ที่เลือกสายการบินนี้เพราะว่า เคยนั่งแล้ว เครื่องใหญ่ดี สะดวกสบาย ราคาก็รับได้ (ค่าตั๋วเบ็ดเสร็จ24,xxx)
ตั๋วเครื่องบิน EASY JET ( http://www.easyjet.com/ )
เริ่มแรก เราซื้อตั๋วเครื่องบินLow cost, จากปารีส ไปลงมิลาน ใช้เวลาบินประมาณชั่วโมงครึ่ง ค่าตั๋วไม่แพง แต่ต้องแยกซื้อน้ำหนักกระเป๋าเพิ่ม (ราคาเช็คในเวปเลย ขึ้นอยู่กับไฟล์ ถ้าจ่ายผ่านบัตรเครดิตจะชาร์จเงินเพิ่มนิดหน่อย)
ส่วน กระเป๋าหิ้วขึ้นเครื่อง เค้าอนุญาตให้ถือขึ้นแค่คนละใบเท่านั้น และboarding pass ต้องปริ๊นมาเองจากบ้านนะจ๊ะ หรือไม่ก็APP ในมือถือก็ได้
ปล.ถ้าคิดจะใช้บริการ แนะนำสมัครสมาชิกกับเวปก่อนสักพัก แล้วจะมีส่งอีเมล special มาเป็นช่วงๆ ลด 30% อะไรแบบนี้
ตั๋วรถไฟ ( http://www.trenitalia.com/ )
เราซื้อของ Trenitalia เลือกวันเวลาที่นั่งตามแต่สะดวก แนะนำให้ซื้อล่วงหน้าก่อนไป (ถ้าคิวเที่ยวแน่นอนนะ) เพราะราคาจะถูกกว่าไปซื้อที่เครื่องขายตั๋วในวันที่จะเดินทางจริง ประมาณนึงเลยทีเดียว เสร็จแล้วก็ปริ๊นตั๋วออกมา ถึงเวลาก็ขึ้นรถไฟไปได้เลย นั่งไปสักพักก็จะมีเจ้าหน้าที่มาเดินคอยตรวจตั๋ว
ในกรณีที่ ซื้อตั๋วในวันเดินทางจริงจากตู้ขาย ก่อนขึ้นรถไฟ ต้องเอาตั๋วไป Valid ที่เครื่องของมันก่อน มันก็จะพิม วันที่เวลาที่เรามาValidลงไปในตั๋วนั้นแหละ
ยกตัวอย่าง ถ้าเป็นตั๋วรถไฟแบบไปกลับใกล้ๆ เช่น PISA สมมติเราเลือกรอบ 9.00 แต่เราพลาดไปไม่ทัน เราก็ขึ้นรอบใหม่หลังจากนี้ได้ แต่ต้องในวันเดียวกันเท่านั้น พูดง่ายๆว่า เดินทางกี่โมงก็ได้ในรอบของวันนั้น (เจ้าหน้าที่บอกมา) แต่ตั๋วไม่ระบุที่นั่งนะ นั่งตรงไหนก็ได้ แล้วสาเหตุที่ต้อง Valid ตั๋วเพราะ เป็นการบอกว่า ตั๋วนี้ได้ใช้งานแล้ว ถ้าไม่Valid ก็เอาไปใช้รอบอื่นได้อีกไง แต่ไม่แนะนำให้ทำนะจ๊ะ เพราะมีเจ้าหน้าที่ตรวจจริง ถ้าโดนจับปรับขึ้นมานี้ ไม่คุ้มนะคะ
ตั๋วมิวเซียม สวนสนุก
( มิวเซียมบางที่คิดค่าจองออนไลน์นะ 2-4ยูโร ต่อใบ)
Disneyland Paris : ดูในเวปไซค์ ราคาแต่ละช่วงไม่เท่ากัน วันไหนพีค วันไหนไม่ ราคาต่างกัน แต่ซื้อออนไลน์ไปง่ายกว่า และเหมือนจะถูกกว่าด้วย ไปถึงเอาที่ปริ๊นไปสแกนตรงทางเข้าแล้วเข้าได้เลย
www.disneylandparis.com
Louvre : แนะนำจองออนไลน์ไปเช่นกันคะ ไปถึงก็มีแถวแยกว่าใครจองออนไลน์มา ซึ่งดีงาม และถ้าชอบเดินมิวเซียม แนะนำให้ไปแต่เช้าเลย เราเดินก็เกือบ 6 ชมอ่ะ ยังไม่หมด แต่มีคิวไปที่อื่นต่อ ฮือๆ
http://www.louvre.fr/en/buy-tickets
Versailles : จองไปล่วงหน้าแล้วนะ พอไปถึงก็ต่อแถวเข้าคิวยาวเข้าไปดูเหมือนคนไม่ได้จองตั๋วออนไลน์ไป 555
ปล.ตั๋วปริ๊นแล้วไปสแกนตรงทางเข้าแล้วเข้าได้เลย
http://en.chateauversailles.fr/prepare-my-visit-/single/tickets-and-rates
The Last Supper, Santa Maria delle Grazie : ควรจองล่วงหน้า ตั้งแต่เปิดขายจากเวป ซึ่งจะเปิดขายล่วงหน้าครั้งละแค่สามเดือน เช่น จะไปตอนสิ้นเดือนกย เวปจะเปิดขายตอนกค ไรงี้ ซึ่งครั้งเค้าจำกัดคนเข้าไปดูครั้งละ 15 นาทีเท่านั้นต่อหนึ่งกลุ่ม ตั๋วออนไลน์ซื้อได้ครั้งละสองใบเอง เลือกเวลาที่จะเข้าชม เสร็จแล้วไปถึงก่อนเวลา เพื่อเอาอีเมลที่คอนเฟิม ไปยืนยันรับตั๋วเข้าชม …. ถ้าพลาดจากการซื้อตั๋วจากเวปเค้าเอง ก็มีพวกเอเจนที่อื่นขาย แต่ราคาอัพขึ้นหลายเท่าตัวเลย
http://www.vivaticket.it/index.php?nvpg[tour]&id=744 (CENACOLO VINCIANO)
Uffizi gallery : ซื้อตั๋วผ่านเวปไซค์อื่น แล้วเอาอีเมลคอนเฟิมไปรับตั๋วเข้าที่นั้นได้เลย พอได้ตั๋วก็ไปเข้าคิว ซึ่งเค้าจะแยกคิวเป็นสองแถว คือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองคะ (จองไปแถวเร็วกว่าเยอะ แต่ก็เสียตั๋วค่าจองออนไลน์แทนไง 555)
http://www.b-ticket.com/b-ticket/uffizi/venue.aspx
Accademia Gallery : เช่นเดียวกับ Uffizi gallery แต่ที่แตกต่างที่เราเจอคือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองมา ยาวพอๆกัน ได้เข้าพอๆกัน (เอาอีเมลคอนเฟิมไปรับตั๋วเข้าที่ใกล้ๆทางเข้า ถามเจ้าหน้าที่ดู)
http://www.b-ticket.com/b-ticket/uffizi/venueAccademia.aspx
Vatican Museum : แนะนำให้จองไปเลยคะ เพราะคือ แถวที่จองออนไลน์มา กับ แถวที่ไม่ได้จองมา แตกต่างราวฟ้ากับดิน
ไม่จองนี้แถวยาวเป็นหางว่าว ส่วนแถวที่จองไปเดินเข้าชิวเลย เข้าไปถึงก็เอาอีเมลคอนเฟิมไปขึ้นตั๋ว แล้วก็เข้าชม
https://biglietteriamusei.vatican.va/musei/tickets/do?action=booking&codiceLivelloVisita=9&step=1
_________________________________________________________________________________
ที่พัก
หลังการที่อ่านรีวิวในเวปต่างๆมา (หลักๆก็อ่านจาก tripadvisorนั้นแหละ) เราก็เลือกมาตามนี้นะ ทั้งหมดที่พักเป็น TRIPLE ROOM
จองผ่านจาก Booking.com
PARIS : Hotel Basile
รวมดีเลย ห้องแบบโมเดิร์น สะอาด ทำเล อยู่ในเมือง เดินทางสะดวก
MILAN : Hotel ESCO
รวมดีเลย ห้อง ทำเล อยู่ในเมือง เดินทางสะดวกมาก อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Milano centrale เดินมาประมาณ 200เมตร
แต่ ด้วยความที่ใกล้มาก จะยินเสียงรถไฟใต้ดินผ่านบ้าง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ
VENICE : Hotel Edelweiss
ใกล้สถานีรถไฟ Venezia S Lucia ห้องใหญ่มาก แต่เป็นตึกเก่า ห้องเลยจะดูแบบวินเทจเก่าหน่อย และที่สำคัญ ไม่มีลิฟต์! รวมๆก็โอเค
FLORENCE : Hostel Archi Rossi
ใกล้สถานีรถไฟ Firenze SMN อารมณ์แบบโฮสเทล ชื่อก็บอกอยู่แล้ว 555 แต่แอร์เป็นแบบอัตโนมัติอ่ะ คือเปิดแล้วก็ไม่ติดนะ จะติดเองถ้าอากาศด้านนอกร้อน (เจ้าหน้าที่บอก) เราโชคดีไป ไปตอนอากาศไม่ร้อนมาก ช่วงสิ้นเดือนกย รวมๆก็โอเค
ROME : Dream Station
รวมๆดี อยู่ตรงข้ามสถานีรถไฟ Roma Termini เลย เดินข้ามถนนไป จริงๆแล้วที่นี้ มันเป็นอพาร์ทเม้น ที่เค้าเอาห้องมาทำเป็นที่พัก แต่เราชอบมากนะ เพราะมีครัว มีเครื่องทำกาแฟ มีตู้เย็นให้ใช้ได้เลย ตลอด 24ชม อารมณ์เหมือนอยู่อพาร์ทเม้นตัวเอง 555
(ปล.คือถ้าคนเคยอยู่เมืองนอกจะนึกภาพออก มันไม่เหมือนอพาร์ทเม้นแบบเมืองไทยอ่ะ อธิบายลำบาก ลองหารูปดูละกัน)
SORRENTO : La Magnolia
ดีเช่นกัน อยู่ไม่ไกลจาก สถานีรถไฟ Circumvesuviana, Sorrento
____________________________________________________________________
Schedule
Day 1 : PARIS / Arc de triomphe de l'Étoile - Opéra Garnier - Galeries Lafayette
Day 2 : PARIS / La Vallée Village outlet – Disneyland
Day 3 : PARIS / Louvre - Musée d'Orsay - Notre Dame – Pompidou
Day 4 : PARIS / Versailles – Eiffel Tower
Day 5 : PARIS-MILAN / Shopping street near Metro LIMA ( ตั้งใจไป Duomo di Milano แต่ไฟล์ดีเลย์ เลยเปลี่ยนแผน)
Day 6 : MILAN / Santa Maria delle Grazie - Teatro alla Scala - Duomo di Milano - Galleria Vittorio Emanuele II
Day 7 : MILAN-VENICE / Burano & Murano island
Day 8 : VENICE / Rialto Bridge -Basilica San Marco – San Marco
Day 9 : VENICE-FLORENCE / Accademia Gallery - Florence Cathedral-Piazza della repubblica -
Day 10 : FLORENCE / Uffizi gallery museum - Palazzo vecchio + piazza della Sighoria - Ponte vecchio Bridge - Piazzale Michealangelo
Day 11 : FLORENCE / Leaning Tower of Pisa
Day 12 : FLORENCE – ROME / Monument to vittorio emanuelu II - Roman forum & Palatine Hill – Colosseum
Day 13 : ROME / Piazza Di Spangna & Spanish Step – Trevi – Pantheon - Piazza Novona
Day 14 : ROME / Vatican Museum + Sistine Chapel - St.peter's Basilica - Castel Sant’ Angelo & St. Angelo Bridge Ponte Sant'Angelo
Day 15 : ROME-NAPLES-SORRENTO / Castel Nuovo & Royal Palace of Naples
Day 16 : SORRENTO / Capri – Anacapri
Day 17 : SORRENTO / Amalfi – Ravello – Positano
Day 18 : SORRENTO-NAPLES-ROME / Pompeii
_____________________________________________________________________
PARIS
ลงเครื่อง เข้าแถวผ่าน Immigration ไม่โดนถาม หรือเรียกดูเอกสารเลย เพราะเจ้าหน้าที่ นางแชทมือถือหัวเราะคิกคักอยู่ รอดไป 555 รับกระเป๋าออกมา ก็เดินไปตามป้ายบอก
เราเลือกเข้าเมืองโดย Rossiy Bus ไปซื้อตั๋วจากเครื่อง ราคาประมาณ 13 Euro ต่อเที่ยวต่อคน เสร็จแล้วรอรถมาจ๊ะ รถมาก็แบกกระเป๋าขึ้นไปมีชั้นวางให้สวยงาม เอาตั๋วไป Valid ตรงเครื่องข้างๆคนขับ หรือ ไม่ก็ซื้อตั๋วกับคนขับก็ได้แล้วแต่ ราคาเท่ากัน เรานั่งไปลง Opera บนรถมี Wifi ให้ใช้ฟรี 30 นาที
เดินทางโดยรถไฟใต้ดิน ก็ซื้อตั๋วแบบเป็นชุด 10ใบ ก็ถูกกว่านะ แต่ขึ้นอยู่กับ schedule ของแต่ละคนว่าจะไปไหนขนาดไหน โซนไหน ซึ่งถ้าไป Disneyland และ Versailles ต้องซื้อตั๋วรถไฟราคาอีกแบบนะ
อาหารการกิน ก็ตามอัธยาศัย ราคาตามSupermarket, Grocery ราคาแซนวิชประมาณ 1.99 -5.99 ยูโร/ สลัด 3.99-7.99ยูโร/ โค้ก 2ยูโร / น้ำดื่ม 1, 1.50, 2 แล้วแต่ยี่ห้อ
เราก็พุ่งร้านอาหารจีนมากกว่า เพราะขนมปังฝรั่งเศสเคี้ยวไม่ออกจริงๆฟันปลอมจะหลุด ส่วนแซนวิชสลัดก็เบื่ออ่ะ อาหารจีนจะเป็นแบบตัก แล้วชั่งนน คือ ผัดนี้ราคาต่อกรัมเท่านี้ เค้าก็จะตักแล้วก็เอาไปชั่ง (ข้าวก็ตัก คิดราคาเป็นกรัมเช่นกัน) เวฟให้ร้อน แล้วก็เสิร์ฟ จ่ายตังค์ กิน มีน้ำเปล่าฟรี จบ
ห้องน้ำ ในปารีส ก็มีบริการ ฟรีอยู่ทั่วไป
*****************************