หลังจากหาข้อมูลใน pantip เกี่ยวกับการเดินทางในแถบนี้แล้วพบแต่รีวิวแบบขับรถเที่ยวเอง แต่เราไม่สะดวกที่จะขับรถเองจึงหาข้อมูลการเที่ยวแบบขึ้นรถบัส หลังจากได้ไปเที่ยวมาแล้ว สวยและประทับใจมากค่ะ เลยอยากเอามาแชร์ให้เพื่อนๆในนี้ได้พอเก็บเป็นข้อมูลกันเพื่อประกอบการตัดสินใจ
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ขอเริ่มที่เมือง Colmar เป็นเมืองประตูสู่เมืองน่ารักต่างๆแถบนี้ไม่ว่าจะเป็น Riquewihr, Eguisheim, Kaysersberg หรือเมืองอื่นๆ การเดินทางมา Colmar ก็ทำได้หลายวิธี คือ
1 นั่งรถไฟมาจากเมืองต่างๆของฝรั่งเศส (เรานั่งรถไฟมาจาก Strasbourg ค่ะ)
2 นั่งรถไฟมาจากสวิสฯ(Basel)
3 นั่งรถไฟมาจาก Freiburg เยอรมัน แล้วมาต่อรถบัสที่เมืองBreisach ไปColmar (เราเลือกทางนี้ขากลับค่ะ)
หาข้อมูลได้จาก
http://www.3-loewen-takt.de/fileadmin/Downloads/Freizeitbus/SBG_Fly_EuRegio_2016._Internet.pdf
จากเมืองStrasbourg เราซื้อตั๋วจากเจ้าหน้าที่เพราะเครื่องขายตั๋วไม่รับบัตรเครดิตเรา ไม่มีให้จ่ายเงินสดด้วย บางตู้ก็ไม่มีภาษาอังกฤษ รถไฟแบบ TER ราคาตั๋ว 12.6 euro (one way) ประมาณ 40 นาทีก็ถึง
Colmar เป็นเมืองค่อนข้างใหญ่พอสมควร บรรยากาศดี บ้านเรือนก็ตกแต่งอย่างน่ารัก ตามรูปเลยค่ะ
ส่วนทิศทางการเดินก็ตามรูปนี้ค่ะ เส้นปะสีชมพู เป็นแผนที่ที่ทางโรงแรมเราแจกให้ เดินหลุดเลี้ยวผิดก็ได้นะคะ นิดๆหน่อยๆสวยหมดค่ะ แต่อย่าลืมไปมุมมหาชน เบอร์ 25 Littie Venice มีบริการให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปล่องเรือด้วยนะ ดูโรแมนติกดีค่ะ
ต่อไปเป็นส่วนของการไปเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ รอบๆ Colmar ถ้าไม่ขับรถเอง ไม่นั่งtaxi ก็ต้องไปรถบัสค่ะ
ข้อมูลตารางเวลารถบัสและราคาก็หาจาก
http://www.haut-rhin.fr/en/horaires-des-bus/horaires-des-bus.html
วิธีการอ่านโดยคร่าวๆนะคะ
Annee คือ มีรอบทั้งปี
Scol หรือ School คือ มีรอบเฉพาะช่วงเปิดเทอม
L = Monday
Ma = Tuesday
Me = Wednesday
J = Thursday
V = Friday
S = Saturday
รถบัสไม่ได้มีรอบบ่อยๆนะคะ โดยมากจะครึ่งวันไม่ก็ต้องไปอยู่ทั้งวัน ต้องวางแผนดีดีค่ะ เค้าคงทำเพื่อรับส่งคนทำงานไม่ก็นักเรียนมั่ง แต่เราไปเดินชมเมือง นั่งกินอาหารชิวๆ เดินเล่นไร่องุ่น กว่าจะได้รูปถูกใจก็หมดไปครึ่งวันพอดี
ตารางรถ ยกตัวอย่างเมืองที่เราไป Eguisheim ขึ้นที่ Colmar Gare
วันเสาร์ที่เราไป Eguisheim มีแต่ขาไปไม่มีขากลับค่ะ ขากลับต้องกลับtaxi ตอนไปดูไม่ดีว่าไม่มีรถกลับ กว่าจะรู้ตัว(หรือต้องเรียกว่ากว่าจะอ่านตารางรถเป็น) information tourism ก็ปิดแล้ว ตอนนั้นเลยไปถามร้านค้าว่าเราจะเรียกรถtaxiได้ยังไง คุณน้าก็เลยโทรเรียกให้ ใจดีมากๆเลย เราพยายามจะให้ค่าโทรศัพท์ก็ไม่เก็บ หน้าตาเราตอนนั้นคงดูตกใจมาก ค่าtaxiไป Colmar train Station 12.2 euro
สังเกตดีดีวันอาทิตย์จะไม่มีbus ตอนแรกตั้งใจจะไป Riquewihr วันอาทิตย์เลยอดไป(แต่Riquewihr มี busวันเสาร์ทั้งไปและกลับนะคะ) ประกอบกับที่วันเสาร์ถ่ายภาพไร่องุ่นจุใจแล้วเลยตัดสินใจไม่นั่งtaxiไป ส่วนหมู่บ้านอื่นๆมีรถวันอาทิตย์ไหมไม่แน่ใจค่ะ ลองเปิดหาข้อมูลในเวปที่ให้ไปด้านบนได้ค่ะ
ส่วนค่าตั๋วรถบัสตามนี้เลยค่ะ หาได้จากในเวปเช่นกัน
ตั๋วรถสามารถซื้อได้จากคนขับ คนขับบางคนก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ บางคนก็พูดฝรั่งเศสใส่รัวๆ แต่เราก็เข้าใจกันได้ 555
ป้ายรถก็อยู่หน้าสถานีรถไฟColmar เลย รถสาย 208 ออกจากสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวซ้าย ส่วน106 ถ้าจำไม่ผิดอยู่ด้านขวาค่ะ
เนื่องจากเราอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่เป็นนะคะ ผิดถูกยังไงเสริมได้ค่ะ
ถึงแล้วคนขับรถจะบอกให้ลง ตรงถนนสายหลังตรงกลางของหมู่บ้าน ด้านขวามือตามแผนที่ เดินเที่ยวตามเส้นสีเหลืองไปเรื่อยๆ
Eguisheim เป็นหมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก บรรยากาศดี๊ดี แต่ก็คงจะคล้ายๆกับหมู่บ้านอื่นแถบนี้ นอกจากบ้านเรือนน่ารักแล้วยังมีไร่องุ่น ปลูกกันจริงจังสุดลูกหูสุดลูกตา มีคนมาเดิน hiking ทางเป็นเนินเขาขึ้นๆลงๆ เราก็เดินนิดๆหน่อยๆพอให้ได้วิวถ่ายรูปเป็นพอใจ บางคนมีปั่นจักรยานขึ้นๆลงๆเนินก็มีเยอะค่ะ แบบถ่ายรูปนานเห็นหมดใครทำอะไร55 ส่วนจักรยานมาเช่าแถวนี้ได้ ตอนหาข้อมูลเห็นมีร้านจักรยานเหมือนกัน แต่มาถึงความขี้เกียจก็ชนะทุกสิ่งเลยไปหาอะไรทาน นั่งร้านอาหารอยู่นานค่ะ
ภาพนี้เป็นกลางจัตุรัสเล็กๆของหมู่บ้าน เราได้ไปนั่งตากแดดกินอาหารจนหน้าไหม้ตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
ภาพนี้เห็นตามpostcard ที่ขายในร้านของฝากเลยถ่ายบ้าง
อาหารที่ทานวันนั้น เพื่อนบอกว่ามาแถวนี้ต้องทาน Foie gras และ white wine แบบหวานๆ เพื่อนบอกว่าพลาดไม่ได้ เราก็ตามน้ำไป เมนูก็อ่านไม่ออก เห็น foie gras ก็จิ้มๆ เอาอันนี้ๆ เลยได้เป็น pizza foie gras ถาดใหญ่มาก(ประมาณ 16 euro) สเต็ก foie gras (ประมาณ 14 euro)หรืออะไรที่ใกล้เคียง แล้วก็ escargots (ประมาณ 10 euro)มากิน foie grasเค้าทำอร่อยดีมากเนื้อละเอียดนุ่มลิ้นไม่ต้องเคี้ยว แต่กินมากๆก็แอบเลี่ยนนิดหน่อย
ส่วนwine ก็ให้พนักงานเค้าแนะนำ บอกว่าชอบแบบหวานๆ แก้วละ 10 cl.(หน่วยอะไรเราก็ไม่รู้ แต่ได้เท่าทีเห็นในรูป) 3.5 euro เห็นบางชนิด2 euro ก็มีค่ะ รวมๆแล้วค่าอาหารมื้อนี้ 47 euro นิดๆแล้วให้ทิปไปด้วยรวม 50 euro ไปกัน 2 คน
ภาพนี้pizza foie gras อร่อยมากกกกกกก
หลังจากอิ่มก็ไปเดินย่อยที่ไร่องุ่น วิวสวยมาก
หลังจากเที่ยว Colmar เสร็จเรากลับไปทางเยอรมันเมือง Freiburg ข้อมูลตามเว็ปนี้
http://www.3-loewen-takt.de/fileadmin/Downloads/Freizeitbus/SBG_Fly_EuRegio_2016._Internet.pdf คือขึ้น bus 1076 ป้ายอยู่หน้า train station ของ Colmar เลย แต่ตรงป้ายเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส(มั่ง)ว่า Fribourg นั่งรถบัสไป Breisach แล้วไปต่อรถไฟ เวลามันจะพอดีกันอยู่แล้ว
จบแล้วค่ะ รีวิวสั้นๆหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ขอปิดท้ายด้วยภาพไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตาภาพนี้
ขอบคุณค่ะ
[CR] เที่ยวแคว้น Alsace แบบไม่มีรถขับ
เริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ ขอเริ่มที่เมือง Colmar เป็นเมืองประตูสู่เมืองน่ารักต่างๆแถบนี้ไม่ว่าจะเป็น Riquewihr, Eguisheim, Kaysersberg หรือเมืองอื่นๆ การเดินทางมา Colmar ก็ทำได้หลายวิธี คือ
1 นั่งรถไฟมาจากเมืองต่างๆของฝรั่งเศส (เรานั่งรถไฟมาจาก Strasbourg ค่ะ)
2 นั่งรถไฟมาจากสวิสฯ(Basel)
3 นั่งรถไฟมาจาก Freiburg เยอรมัน แล้วมาต่อรถบัสที่เมืองBreisach ไปColmar (เราเลือกทางนี้ขากลับค่ะ)
หาข้อมูลได้จาก http://www.3-loewen-takt.de/fileadmin/Downloads/Freizeitbus/SBG_Fly_EuRegio_2016._Internet.pdf
จากเมืองStrasbourg เราซื้อตั๋วจากเจ้าหน้าที่เพราะเครื่องขายตั๋วไม่รับบัตรเครดิตเรา ไม่มีให้จ่ายเงินสดด้วย บางตู้ก็ไม่มีภาษาอังกฤษ รถไฟแบบ TER ราคาตั๋ว 12.6 euro (one way) ประมาณ 40 นาทีก็ถึง
Colmar เป็นเมืองค่อนข้างใหญ่พอสมควร บรรยากาศดี บ้านเรือนก็ตกแต่งอย่างน่ารัก ตามรูปเลยค่ะ
ส่วนทิศทางการเดินก็ตามรูปนี้ค่ะ เส้นปะสีชมพู เป็นแผนที่ที่ทางโรงแรมเราแจกให้ เดินหลุดเลี้ยวผิดก็ได้นะคะ นิดๆหน่อยๆสวยหมดค่ะ แต่อย่าลืมไปมุมมหาชน เบอร์ 25 Littie Venice มีบริการให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปล่องเรือด้วยนะ ดูโรแมนติกดีค่ะ
ต่อไปเป็นส่วนของการไปเที่ยวหมู่บ้านเล็กๆ รอบๆ Colmar ถ้าไม่ขับรถเอง ไม่นั่งtaxi ก็ต้องไปรถบัสค่ะ
ข้อมูลตารางเวลารถบัสและราคาก็หาจาก http://www.haut-rhin.fr/en/horaires-des-bus/horaires-des-bus.html
วิธีการอ่านโดยคร่าวๆนะคะ
Annee คือ มีรอบทั้งปี
Scol หรือ School คือ มีรอบเฉพาะช่วงเปิดเทอม
L = Monday
Ma = Tuesday
Me = Wednesday
J = Thursday
V = Friday
S = Saturday
รถบัสไม่ได้มีรอบบ่อยๆนะคะ โดยมากจะครึ่งวันไม่ก็ต้องไปอยู่ทั้งวัน ต้องวางแผนดีดีค่ะ เค้าคงทำเพื่อรับส่งคนทำงานไม่ก็นักเรียนมั่ง แต่เราไปเดินชมเมือง นั่งกินอาหารชิวๆ เดินเล่นไร่องุ่น กว่าจะได้รูปถูกใจก็หมดไปครึ่งวันพอดี
ตารางรถ ยกตัวอย่างเมืองที่เราไป Eguisheim ขึ้นที่ Colmar Gare
วันเสาร์ที่เราไป Eguisheim มีแต่ขาไปไม่มีขากลับค่ะ ขากลับต้องกลับtaxi ตอนไปดูไม่ดีว่าไม่มีรถกลับ กว่าจะรู้ตัว(หรือต้องเรียกว่ากว่าจะอ่านตารางรถเป็น) information tourism ก็ปิดแล้ว ตอนนั้นเลยไปถามร้านค้าว่าเราจะเรียกรถtaxiได้ยังไง คุณน้าก็เลยโทรเรียกให้ ใจดีมากๆเลย เราพยายามจะให้ค่าโทรศัพท์ก็ไม่เก็บ หน้าตาเราตอนนั้นคงดูตกใจมาก ค่าtaxiไป Colmar train Station 12.2 euro
สังเกตดีดีวันอาทิตย์จะไม่มีbus ตอนแรกตั้งใจจะไป Riquewihr วันอาทิตย์เลยอดไป(แต่Riquewihr มี busวันเสาร์ทั้งไปและกลับนะคะ) ประกอบกับที่วันเสาร์ถ่ายภาพไร่องุ่นจุใจแล้วเลยตัดสินใจไม่นั่งtaxiไป ส่วนหมู่บ้านอื่นๆมีรถวันอาทิตย์ไหมไม่แน่ใจค่ะ ลองเปิดหาข้อมูลในเวปที่ให้ไปด้านบนได้ค่ะ
ส่วนค่าตั๋วรถบัสตามนี้เลยค่ะ หาได้จากในเวปเช่นกัน
ตั๋วรถสามารถซื้อได้จากคนขับ คนขับบางคนก็พูดภาษาอังกฤษได้ดีค่ะ บางคนก็พูดฝรั่งเศสใส่รัวๆ แต่เราก็เข้าใจกันได้ 555
ป้ายรถก็อยู่หน้าสถานีรถไฟColmar เลย รถสาย 208 ออกจากสถานีรถไฟแล้วเลี้ยวซ้าย ส่วน106 ถ้าจำไม่ผิดอยู่ด้านขวาค่ะ
เนื่องจากเราอ่านภาษาฝรั่งเศสไม่เป็นนะคะ ผิดถูกยังไงเสริมได้ค่ะ
ถึงแล้วคนขับรถจะบอกให้ลง ตรงถนนสายหลังตรงกลางของหมู่บ้าน ด้านขวามือตามแผนที่ เดินเที่ยวตามเส้นสีเหลืองไปเรื่อยๆ
Eguisheim เป็นหมู่บ้านเล็กๆ น่ารัก บรรยากาศดี๊ดี แต่ก็คงจะคล้ายๆกับหมู่บ้านอื่นแถบนี้ นอกจากบ้านเรือนน่ารักแล้วยังมีไร่องุ่น ปลูกกันจริงจังสุดลูกหูสุดลูกตา มีคนมาเดิน hiking ทางเป็นเนินเขาขึ้นๆลงๆ เราก็เดินนิดๆหน่อยๆพอให้ได้วิวถ่ายรูปเป็นพอใจ บางคนมีปั่นจักรยานขึ้นๆลงๆเนินก็มีเยอะค่ะ แบบถ่ายรูปนานเห็นหมดใครทำอะไร55 ส่วนจักรยานมาเช่าแถวนี้ได้ ตอนหาข้อมูลเห็นมีร้านจักรยานเหมือนกัน แต่มาถึงความขี้เกียจก็ชนะทุกสิ่งเลยไปหาอะไรทาน นั่งร้านอาหารอยู่นานค่ะ
ภาพนี้เป็นกลางจัตุรัสเล็กๆของหมู่บ้าน เราได้ไปนั่งตากแดดกินอาหารจนหน้าไหม้ตามนักท่องเที่ยวคนอื่นๆ
ภาพนี้เห็นตามpostcard ที่ขายในร้านของฝากเลยถ่ายบ้าง
อาหารที่ทานวันนั้น เพื่อนบอกว่ามาแถวนี้ต้องทาน Foie gras และ white wine แบบหวานๆ เพื่อนบอกว่าพลาดไม่ได้ เราก็ตามน้ำไป เมนูก็อ่านไม่ออก เห็น foie gras ก็จิ้มๆ เอาอันนี้ๆ เลยได้เป็น pizza foie gras ถาดใหญ่มาก(ประมาณ 16 euro) สเต็ก foie gras (ประมาณ 14 euro)หรืออะไรที่ใกล้เคียง แล้วก็ escargots (ประมาณ 10 euro)มากิน foie grasเค้าทำอร่อยดีมากเนื้อละเอียดนุ่มลิ้นไม่ต้องเคี้ยว แต่กินมากๆก็แอบเลี่ยนนิดหน่อย
ส่วนwine ก็ให้พนักงานเค้าแนะนำ บอกว่าชอบแบบหวานๆ แก้วละ 10 cl.(หน่วยอะไรเราก็ไม่รู้ แต่ได้เท่าทีเห็นในรูป) 3.5 euro เห็นบางชนิด2 euro ก็มีค่ะ รวมๆแล้วค่าอาหารมื้อนี้ 47 euro นิดๆแล้วให้ทิปไปด้วยรวม 50 euro ไปกัน 2 คน
ภาพนี้pizza foie gras อร่อยมากกกกกกก
หลังจากอิ่มก็ไปเดินย่อยที่ไร่องุ่น วิวสวยมาก
หลังจากเที่ยว Colmar เสร็จเรากลับไปทางเยอรมันเมือง Freiburg ข้อมูลตามเว็ปนี้ http://www.3-loewen-takt.de/fileadmin/Downloads/Freizeitbus/SBG_Fly_EuRegio_2016._Internet.pdf คือขึ้น bus 1076 ป้ายอยู่หน้า train station ของ Colmar เลย แต่ตรงป้ายเขียนเป็นภาษาฝรั่งเศส(มั่ง)ว่า Fribourg นั่งรถบัสไป Breisach แล้วไปต่อรถไฟ เวลามันจะพอดีกันอยู่แล้ว
จบแล้วค่ะ รีวิวสั้นๆหวังว่าจะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆนะคะ ขอปิดท้ายด้วยภาพไร่องุ่นสุดลูกหูลูกตาภาพนี้
ขอบคุณค่ะ