ผมเป็นคนรักรถ ขัดล้างเช็ดถูผมทำด้วยตัวเองทั้งนั้น
อาทิตย์ที่แล้วด้วยความที่อยากเห็นรถคันใหญ่สีดำเป็นเงาแวววับ
ผมได้ติดต่อร้านซึ่งเขามีบริการมาทำเคลือบแก้วที่บ้านเลย
ผมเฝ้าดูอยู่ด้วย ดูๆแล้วขั้นตอนก็ไม่น่าจะมีอะไรยากเย็น ผลงานตอนเสร็จก็น่าพอใจ
เกิดความคิดที่จะเคลือบแก้วด้วยตัวเองมั่งกับรถเก๋งสีดำอีกคัน
ผมเข้าไปอ่านหารายละเอียดในเวบต่างๆโดยเฉพาะ thaiwashercarclub ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะลองทำเองได้
สุดท้ายผมตกลงซื้อเคลือบแก้วของ japan ยี่ห้อ " 8500....."
หลังจากสอบถามหลายอย่างเขาก็แนะนำให้ผมซื้อ :
น้ำยา 50 cc ผ้าเช็ด 6 ผืน ฟองน้ำสำหรับ apply 2 อันและ " IPA " 1ขวด
IPA นี้เขาบอกว่าใช้ล้างก่อนลงเคลือบแก้ว
เขาส่งคลิปตอนลงน้ำยามาให้ผมดูด้วยตอนผมรับของจากเขา
ผมล้างรถลง wax มันแผลบคลุมผ้าเตรียมไว้ที่บ้านเรียบร้อยหลายวันแล้ว
พอได้ของมาวันนี้ สิ่งแรกที่ทำคือเปิดขวด IPA
อ้อ นึกว่าอะไร กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดๆ
ก็ไม่ได้สงสัยอะไร แค่เทใส่ผ้าพอชุ่มแล้วเช็ดทับลงบนสีรถ
พอเช็ดๆไปก็เห็นว่า ผิวสีรถที่มันเคยมันแผลบ มันกลับเป็นฝ้าขาวมัวๆ
ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่แล้ว เลยโทรไปถามเค้าว่า IPA นี่คือ Isopropyl Alcohol รึเปล่า เขาบอกใช่
ผมบอกเขาว่า ทำไมรถผมมันมัวๆเป็นฝ้าขาวๆหมดเลยล่ะ
เขาบอกว่ามันต้องผสมน้ำ (อัตราส่วนเท่าไหร่ผมไม่ได้ฟังแล้วเพราะเริ่มเกิดความรู้สึก)
ผมก็ถามต่อไปว่า คุณไม่ได้แจ้งนี่ว่าต้องเจือจางก่อน เขาย้อนกลับมาว่าแล้วทำไมคุณไม่ถาม
ผมก็บอกว่าในเมื่อคุณเป็นคนบอกว่าต้องใช้ ให้ผมซื้อมาด้วย และผมก็ถามก่อนหน้านั้นแล้วว่ามีวิธีการใช้หรือเปล่า คุณก็ไม่ตอบ
คำตอบตามมาที่ผมฟังแล้วโกรธและเป็นสาเหตุที่ผมเขียนมาลงในพันทิปก็คือ
" คนอื่นเขาซื้อไปไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ที่เขาไม่ยอมบอกวิธีการก็เพราะ เขามีลูกค้าที่เป็นร้านเคลือบสีอยู่ด้วย ขืนบอกหมดเดี๋ยวคนก็ทำเอง ไม่ไปที่ร้าน
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่บอกวิธีการและขั้นตอนเคลือบแก้วยี่ห้อนี้ นอกจากคลิปตอนทาน้ำยาเท่านั้น "
ผมบอกเขาว่า ยังงี้คุณก็ไม่แฟร์กับลูกค้าสิ อย่าลืมว่าลูกค้าที่อยากทำเองที่บ้านอย่างผมก็มีเยอะ
รถคันนึงราคาเป็นแสนเป็นล้าน คุณต้องมีความจริงใจกับลูกค้าด้วย
เขาก็ยังพูดต่ออีกว่า เขาคงไม่บอกหรอก ถ้าสงสัยก็ถามเค้าเอง
หลังจากที่ได้คุย (ผมเริ่มเสียงดังแล้ว) อีกซักพัก
ผมก็บอกเขาว่า เอาล่ะ ผมไม่ใช้ของคุณแล้ว แค่นี้แหละ
เรื่องนี้ ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยซื้อของ ไม่เคยมีอคติใดๆกับผู้ขายรายนี้จนกระทั่งวันนี้
เป็นอุทาหรณ์ เป็นข้อเตือนใจกับหลายๆท่านนะครับว่า
เรามองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า
จะเคลือบแก้วรถที่รักด้วยตัวเองโปรดระวัง
อาทิตย์ที่แล้วด้วยความที่อยากเห็นรถคันใหญ่สีดำเป็นเงาแวววับ
ผมได้ติดต่อร้านซึ่งเขามีบริการมาทำเคลือบแก้วที่บ้านเลย
ผมเฝ้าดูอยู่ด้วย ดูๆแล้วขั้นตอนก็ไม่น่าจะมีอะไรยากเย็น ผลงานตอนเสร็จก็น่าพอใจ
เกิดความคิดที่จะเคลือบแก้วด้วยตัวเองมั่งกับรถเก๋งสีดำอีกคัน
ผมเข้าไปอ่านหารายละเอียดในเวบต่างๆโดยเฉพาะ thaiwashercarclub ก็ค่อนข้างมั่นใจว่าน่าจะลองทำเองได้
สุดท้ายผมตกลงซื้อเคลือบแก้วของ japan ยี่ห้อ " 8500....."
หลังจากสอบถามหลายอย่างเขาก็แนะนำให้ผมซื้อ :
น้ำยา 50 cc ผ้าเช็ด 6 ผืน ฟองน้ำสำหรับ apply 2 อันและ " IPA " 1ขวด
IPA นี้เขาบอกว่าใช้ล้างก่อนลงเคลือบแก้ว
เขาส่งคลิปตอนลงน้ำยามาให้ผมดูด้วยตอนผมรับของจากเขา
ผมล้างรถลง wax มันแผลบคลุมผ้าเตรียมไว้ที่บ้านเรียบร้อยหลายวันแล้ว
พอได้ของมาวันนี้ สิ่งแรกที่ทำคือเปิดขวด IPA
อ้อ นึกว่าอะไร กลิ่นแอลกอฮอล์ชัดๆ
ก็ไม่ได้สงสัยอะไร แค่เทใส่ผ้าพอชุ่มแล้วเช็ดทับลงบนสีรถ
พอเช็ดๆไปก็เห็นว่า ผิวสีรถที่มันเคยมันแผลบ มันกลับเป็นฝ้าขาวมัวๆ
ผมคิดว่าอาจจะไม่ใช่แล้ว เลยโทรไปถามเค้าว่า IPA นี่คือ Isopropyl Alcohol รึเปล่า เขาบอกใช่
ผมบอกเขาว่า ทำไมรถผมมันมัวๆเป็นฝ้าขาวๆหมดเลยล่ะ
เขาบอกว่ามันต้องผสมน้ำ (อัตราส่วนเท่าไหร่ผมไม่ได้ฟังแล้วเพราะเริ่มเกิดความรู้สึก)
ผมก็ถามต่อไปว่า คุณไม่ได้แจ้งนี่ว่าต้องเจือจางก่อน เขาย้อนกลับมาว่าแล้วทำไมคุณไม่ถาม
ผมก็บอกว่าในเมื่อคุณเป็นคนบอกว่าต้องใช้ ให้ผมซื้อมาด้วย และผมก็ถามก่อนหน้านั้นแล้วว่ามีวิธีการใช้หรือเปล่า คุณก็ไม่ตอบ
คำตอบตามมาที่ผมฟังแล้วโกรธและเป็นสาเหตุที่ผมเขียนมาลงในพันทิปก็คือ
" คนอื่นเขาซื้อไปไม่เห็นมีปัญหาอะไร
ที่เขาไม่ยอมบอกวิธีการก็เพราะ เขามีลูกค้าที่เป็นร้านเคลือบสีอยู่ด้วย ขืนบอกหมดเดี๋ยวคนก็ทำเอง ไม่ไปที่ร้าน
เพราะฉะนั้นเขาจะไม่บอกวิธีการและขั้นตอนเคลือบแก้วยี่ห้อนี้ นอกจากคลิปตอนทาน้ำยาเท่านั้น "
ผมบอกเขาว่า ยังงี้คุณก็ไม่แฟร์กับลูกค้าสิ อย่าลืมว่าลูกค้าที่อยากทำเองที่บ้านอย่างผมก็มีเยอะ
รถคันนึงราคาเป็นแสนเป็นล้าน คุณต้องมีความจริงใจกับลูกค้าด้วย
เขาก็ยังพูดต่ออีกว่า เขาคงไม่บอกหรอก ถ้าสงสัยก็ถามเค้าเอง
หลังจากที่ได้คุย (ผมเริ่มเสียงดังแล้ว) อีกซักพัก
ผมก็บอกเขาว่า เอาล่ะ ผมไม่ใช้ของคุณแล้ว แค่นี้แหละ
เรื่องนี้ ผมไม่เคยรู้จัก ไม่เคยซื้อของ ไม่เคยมีอคติใดๆกับผู้ขายรายนี้จนกระทั่งวันนี้
เป็นอุทาหรณ์ เป็นข้อเตือนใจกับหลายๆท่านนะครับว่า
เรามองโลกในแง่ดีเกินไปหรือเปล่า