เรื่องมีอยู่ว่า....
วันนึง(กลางเดือนมีค59)...
ข้าพเจ้า นำจักรยานคู่ใจ มีตระกร้าหน้า ออกหาอาหารรอบดึก...
กินเสร็จก็ปั่นกลับบ้าน..
ปั่นไปก็เบรคไป เพราะมีรถออฟโรดสีดำ ติดฟิล์มมืด กำลังจะโค้งเข้าซอย
เวลานั้น ถึงแม้จะราวๆ 2ทุ่ม ... ก็เห็นว่า มีสายอะไรบางอย่าง มืดๆ มีเสียงครูดลากพื้นถนนมาเบาๆ
แต่ด้วยความที่เห็นแค่ 2-3 วินาที สายนั้น มันก็พันเข้ากับล้อรถ แล้วรถก็เลี้ยวเข้าซอย
พร้อมกับสายที่กวาด เรียบพื้นมาเลย ครับท่าน
ข้าพเจ้าคร่อมอยู่บนจักรยาน กำลังจะก้าวขาออกจากจักรยาน ... อ่อ .
ฟรึ่บ..
ฟรุบ...
ไม่ทันมันค่ะ...
ล้มทั้งคน ทั้งจักรยาน ..ก้นนี่ กระเทือนเลย ...
มองไปรอบๆ เอ่อ ..ร้านอาหารที่กินตะกี้ ซึ่งอยู่อีกฝากถนน มองมาด้วย
เจ้ารถคันที่เกี่ยวสายนั่น ก็จอดนะ ...
...ข้าพเจ้า ..มองดู และก็เล็งว่า คนข้างในรถ เค้าทำไร จะลงมารึเปล่า.. จะพูดอะไรมั้ย..
..ทางข้าพเจ้า ก็ค่อยๆลุกขึ้นมา พยุงจักรยานขึ้น .. แล้วมองไปที่รถนั่นอีกครั้ง.. ซึ่ง ..มันกำลังเคลื่อนออกไปช้าๆ..
(สันนิษฐานว่า ... คนขับ อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอีป้านี่ ปั่นจักยานยังไง อยู่ดีๆก็ล้ม รึเปล่า???)
เออ ..เออ .. คนที่แพ้ ก็ต้องดูแลตัวเอง ชิมิ... หยิบแว่นมาสวม แล้ว ปัดเข่า..แงๆ มีแผลถลอกด้วย ฮือ,...กลับบ้านก็ได้
..
พอถึงบ้าน แผลที่เห็นว่าถลอก ก็มีเลือดออกมาค่ะ (ลบรูปออกจากมือถืออ่ะ เลยไม่มีให้ดู) เลยใส่ยาแดง
พอแผลแห้ง ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นยาเหลือง(สมถวิล)ตามคำแนะนำของพี่..
เดือน เมย. ...แผลตกสะเก็ด และหลุดลอกออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
... ทุกครั้งที่ผ่านจุดเกิดเหตุ บาดแผลเกิดที่นี่ หัวเดือดปุดปุด!!!.. เอาผิดกะใครก็ไม่ได้ ...
แผลเป็นเริ่มชัด จะแก้ไงหล่ะ ทีนี้ สมูทอีสแตนบายแล้ว แต่ช้าอ่ะ แม่บอก ..ปีนึงอ่ะ รอไป..
ทาไปได้ 1 เดือน ... ทางออก อีกทางที่คิดไว้ คือ เลเซอร์ค่ะ
พย. ตัดสินใจ เลเซอร์ ค่าเสียหาย พันห้า.. เพราะความมักง่ายของการเดินสายบ้าๆของหน่วยงาน...
ทำเสร็จประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เป็นแบบนี้ค่ะ
พนง.ก็เชียร์ ให้ซื้อคอร์สเหลือเกิน พี่ๆ ต้องทำเลเซอร์ซ้ำนะ ทำต่อครั้งมันแพง พี่ๆซื้อเถอะ...
""" ฮึ่ม.. กลับบ้านไป ก็นึกไป ต่อไปนี้ ต้องใส่ขายาวเหรอ..
แล้วถ้าจะใส่ขาสั้นหล่ะ นั่งไขว้ห้างหล่ะ ต้องเอาขาอีกข้าง มาบังไว้งั้นเหรอ...
แผลนี้ ท่านได้แต่ใดมา (ไอ้...เมื่อไหร่จะฝังซะที)
วันนึง(กลางเดือนมีค59)...
ข้าพเจ้า นำจักรยานคู่ใจ มีตระกร้าหน้า ออกหาอาหารรอบดึก...
กินเสร็จก็ปั่นกลับบ้าน..
ปั่นไปก็เบรคไป เพราะมีรถออฟโรดสีดำ ติดฟิล์มมืด กำลังจะโค้งเข้าซอย
เวลานั้น ถึงแม้จะราวๆ 2ทุ่ม ... ก็เห็นว่า มีสายอะไรบางอย่าง มืดๆ มีเสียงครูดลากพื้นถนนมาเบาๆ
แต่ด้วยความที่เห็นแค่ 2-3 วินาที สายนั้น มันก็พันเข้ากับล้อรถ แล้วรถก็เลี้ยวเข้าซอย
พร้อมกับสายที่กวาด เรียบพื้นมาเลย ครับท่าน
ข้าพเจ้าคร่อมอยู่บนจักรยาน กำลังจะก้าวขาออกจากจักรยาน ... อ่อ .
ฟรึ่บ..
ฟรุบ...
ไม่ทันมันค่ะ...
ล้มทั้งคน ทั้งจักรยาน ..ก้นนี่ กระเทือนเลย ...
มองไปรอบๆ เอ่อ ..ร้านอาหารที่กินตะกี้ ซึ่งอยู่อีกฝากถนน มองมาด้วย
เจ้ารถคันที่เกี่ยวสายนั่น ก็จอดนะ ...
...ข้าพเจ้า ..มองดู และก็เล็งว่า คนข้างในรถ เค้าทำไร จะลงมารึเปล่า.. จะพูดอะไรมั้ย..
..ทางข้าพเจ้า ก็ค่อยๆลุกขึ้นมา พยุงจักรยานขึ้น .. แล้วมองไปที่รถนั่นอีกครั้ง.. ซึ่ง ..มันกำลังเคลื่อนออกไปช้าๆ..
(สันนิษฐานว่า ... คนขับ อาจจะไม่รู้ด้วยซ้ำ ว่าอีป้านี่ ปั่นจักยานยังไง อยู่ดีๆก็ล้ม รึเปล่า???)
เออ ..เออ .. คนที่แพ้ ก็ต้องดูแลตัวเอง ชิมิ... หยิบแว่นมาสวม แล้ว ปัดเข่า..แงๆ มีแผลถลอกด้วย ฮือ,...กลับบ้านก็ได้
..
พอถึงบ้าน แผลที่เห็นว่าถลอก ก็มีเลือดออกมาค่ะ (ลบรูปออกจากมือถืออ่ะ เลยไม่มีให้ดู) เลยใส่ยาแดง
พอแผลแห้ง ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นยาเหลือง(สมถวิล)ตามคำแนะนำของพี่..
เดือน เมย. ...แผลตกสะเก็ด และหลุดลอกออกมาเป็นแบบนี้ค่ะ
... ทุกครั้งที่ผ่านจุดเกิดเหตุ บาดแผลเกิดที่นี่ หัวเดือดปุดปุด!!!.. เอาผิดกะใครก็ไม่ได้ ...
แผลเป็นเริ่มชัด จะแก้ไงหล่ะ ทีนี้ สมูทอีสแตนบายแล้ว แต่ช้าอ่ะ แม่บอก ..ปีนึงอ่ะ รอไป..
ทาไปได้ 1 เดือน ... ทางออก อีกทางที่คิดไว้ คือ เลเซอร์ค่ะ
พย. ตัดสินใจ เลเซอร์ ค่าเสียหาย พันห้า.. เพราะความมักง่ายของการเดินสายบ้าๆของหน่วยงาน...
ทำเสร็จประมาณ 1 สัปดาห์ ก็เป็นแบบนี้ค่ะ
พนง.ก็เชียร์ ให้ซื้อคอร์สเหลือเกิน พี่ๆ ต้องทำเลเซอร์ซ้ำนะ ทำต่อครั้งมันแพง พี่ๆซื้อเถอะ...
""" ฮึ่ม.. กลับบ้านไป ก็นึกไป ต่อไปนี้ ต้องใส่ขายาวเหรอ..
แล้วถ้าจะใส่ขาสั้นหล่ะ นั่งไขว้ห้างหล่ะ ต้องเอาขาอีกข้าง มาบังไว้งั้นเหรอ...