ขอบคุณภาพจาก ไทยพีบีเอส
วันนี้ (15 ต.ค.2559) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นาย
สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและภรรยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และ
สมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เพื่อร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศล
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) มีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระราชสักการะ
พระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศในพระบรมมหาราชวัง เวลาประมาณ 10.00 น.
ทั้งนี้ การเสด็จมาร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลของ
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินี สะท้อนความผูกพันระหว่างสองประเทศ โดยในวันที่ 13 ต.ค.
สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้ทรงจุดเทียนถวายอาลัยต่อการสวรรคตของ
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมจัดการสวดมนต์พิเศษในวัดทั่วประเทศภูฏาน เพื่ออุทิศให้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขณะเดียวกันได้ประกาศให้ในวันที่ 14 ต.ค.เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศภูฏาน ลดธงครึ่งเสา รวมทั้งปิดโรงเรียนและหน่วยงานทั่วประเทศ
กษัตริย์ภูฏาน - สมเด็จพระราชินี เสด็จฯ ถึงประเทศไทยแล้ว
ขอบคุณภาพจาก ไทยพีบีเอส
วันนี้ (15 ต.ค.2559) ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีและภรรยา เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรภูฏาน และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เพมา วังชุก เพื่อร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด จากนั้นประทับรถยนต์พระที่นั่งเสด็จออกจากสนามบินสุวรรณภูมิ และในวันพรุ่งนี้ (16 ต.ค.) มีหมายกำหนดการเสด็จพระราชดำเนินไปถวายพระราชสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศในพระบรมมหาราชวัง เวลาประมาณ 10.00 น.
ทั้งนี้ การเสด็จมาร่วมพระราชพิธีบำเพ็ญพระราชกุศลของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี และสมเด็จพระราชินี สะท้อนความผูกพันระหว่างสองประเทศ โดยในวันที่ 13 ต.ค.สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก ได้ทรงจุดเทียนถวายอาลัยต่อการสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช พร้อมจัดการสวดมนต์พิเศษในวัดทั่วประเทศภูฏาน เพื่ออุทิศให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศ ขณะเดียวกันได้ประกาศให้ในวันที่ 14 ต.ค.เป็นวันไว้อาลัยทั่วประเทศภูฏาน ลดธงครึ่งเสา รวมทั้งปิดโรงเรียนและหน่วยงานทั่วประเทศ