สวัสดีคะ วันนี้จะมาเล่าประสบการณ์ที่ไม่ค่อยจะดีสักเท่าไหร่ให้ฟังคะ เมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาแฟนมีนัดขึ้นศาล
เพื่อฟังคำตัดสินในคดี พกพาอาวุธปืนโดยที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นมา 4 ปีกว่าๆคะ
ก่อนจะมาเจอเรา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอลงอาญา ศาลอุธรณ์ขอแก้คำตัดสินใหม่ ไม่รอลงอาญา
ตัดสินให้จำคุก 9 เดือน ทางบ้านได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันออกมาสู้คดีต่อคะ ทันทีที่ได้ตัดสินให้รับโทษตำรวจจะ
พาลงมาขังที่ห้องฝากขังของศาลชั้นล่างคะ โดยที่ต้องถอดกางเกงขายาวออก ให้ใส่ได้แค่กางเกงขาสั้น และไม่
อนุญาตให้พกพาเครื่องมือสื่อสาร คือต้องฝากญาติหมดเลย อนุญาตให้โทรคุยกับญาตได้แต่ต้องผ่านโทรศัพท์
ของศาลเท่านั้น ก็โทรคุยให้กำลังใจกันไปคะ วันรุ่งขึ้นเราไปติดต่อเพื่อเยี่ยมแฟนที่เรือนจำ แต่ไม่อนุญาตให้
เยี่ยมเนื่องจากวันที่เราไป ติดวันคู่ ซึ่งการจะเยี่ยมผู้ต้องขังได้ทางเรือนจำจะมีกฎอยู่คะว่าสามารถเยี่ยม
ได้วันไหนบ้างถ้าเป็นวันคี่ก็จะเป็นวันที่ 1 3 5 7 ก็รอวันรุ่งขึ้นกันต่อ วันรุ่งขึ้นเราไปแต่เช้าคะ ทางเจ้าหน้าที่
ให้เขียนใบคำร้องข้างหน้าป้อมยาม และยื่นคำร้องตอน 8 โมงเช้า ได้เข้าพบตอน 9 โมงคะ โดยการเข้าพบ
อนุญาตให้เข้าพบได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น บรรยากาศในเรือนจำคือมีทุกอารมณ์คะ บางคนก็อุ้มลูกที่เพิ่งคลอด
มาเยี่ยมพ่อ บางคนก็คุยไปร้องไห้ไป การคุยกันเราคุยกันผ่านกระจกคะ คุยผ่านโทรศัพท์
อยากจะฝากเตือนทุกๆคนนะคะ อย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเลยคะ วัยรุ่นที่คึกคะนองอยากจะบอกมาว่ามันไม่ได้
สวยงามเลยคะ สุดท้ายเวลาเดือดร้อนเรายังไม่เห็นเพื่อนแฟนมาเยี่ยมเลยสักคน มีแต่เราและครอบครัว
อยู่ข้างในอย่าคิดว่าไม่ต้องใช้เงินนะคะ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างต้องซื้อกับร้านทางเรือนจำเท่านั้น
ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้นักโทษพกเงินคะ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องใช้นะคะ ญาติต้องฝากเงินไปกับทางเรือนจำจะมี
ใบเสร็จออกให้คะ เท่าที่คุยกับแฟนคือเงินคือสิ่งจำเป็นในการอยู่ที่นั้น เราก็ถามนะคะว่าทำไมต้องจำเป็นมาก
เค้าก็ไม่ยอมเล่าคะ แต่บอกเพียงสั้นๆว่า มันจำเป็นต้องใช้ เวลาเราไปเยี่ยมเพื่อนๆจะฝากเบอร์โทรศัพท์ผ่าน
แฟนหลายคนเลยคะให้เราโทรไปหาสั้งให้มาเยี่ยมมาหา เพราะบางคนพอต้องเข้าไปอยู่ในนั้น พูดง่ายๆคือแฟน
ไปมีคนอื่น
สุดท้ายอยากจะเตือนทุกๆคนนะคะ อย่ากระทำความผิดเลย สิ่งไหนที่ไม่ดีอย่าไปข้องเกี่ยวกับมัน อยู่ข้างในไม่
มีอิสรภาพไม่ได้ออกไปไหน อยากจะพบเจอญาติก็ต้องรอให้ญาติมาหา หรือไม่ก็ทำได้แค่เขียนจดหมายหากัน
ครั้งแรกกับการต้องไปเรือนจำ
เพื่อฟังคำตัดสินในคดี พกพาอาวุธปืนโดยที่ไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเรื่องเกิดขึ้นมา 4 ปีกว่าๆคะ
ก่อนจะมาเจอเรา ศาลชั้นต้นพิพากษาให้รอลงอาญา ศาลอุธรณ์ขอแก้คำตัดสินใหม่ ไม่รอลงอาญา
ตัดสินให้จำคุก 9 เดือน ทางบ้านได้ยื่นหลักทรัพย์ประกันออกมาสู้คดีต่อคะ ทันทีที่ได้ตัดสินให้รับโทษตำรวจจะ
พาลงมาขังที่ห้องฝากขังของศาลชั้นล่างคะ โดยที่ต้องถอดกางเกงขายาวออก ให้ใส่ได้แค่กางเกงขาสั้น และไม่
อนุญาตให้พกพาเครื่องมือสื่อสาร คือต้องฝากญาติหมดเลย อนุญาตให้โทรคุยกับญาตได้แต่ต้องผ่านโทรศัพท์
ของศาลเท่านั้น ก็โทรคุยให้กำลังใจกันไปคะ วันรุ่งขึ้นเราไปติดต่อเพื่อเยี่ยมแฟนที่เรือนจำ แต่ไม่อนุญาตให้
เยี่ยมเนื่องจากวันที่เราไป ติดวันคู่ ซึ่งการจะเยี่ยมผู้ต้องขังได้ทางเรือนจำจะมีกฎอยู่คะว่าสามารถเยี่ยม
ได้วันไหนบ้างถ้าเป็นวันคี่ก็จะเป็นวันที่ 1 3 5 7 ก็รอวันรุ่งขึ้นกันต่อ วันรุ่งขึ้นเราไปแต่เช้าคะ ทางเจ้าหน้าที่
ให้เขียนใบคำร้องข้างหน้าป้อมยาม และยื่นคำร้องตอน 8 โมงเช้า ได้เข้าพบตอน 9 โมงคะ โดยการเข้าพบ
อนุญาตให้เข้าพบได้แค่ 15 นาทีเท่านั้น บรรยากาศในเรือนจำคือมีทุกอารมณ์คะ บางคนก็อุ้มลูกที่เพิ่งคลอด
มาเยี่ยมพ่อ บางคนก็คุยไปร้องไห้ไป การคุยกันเราคุยกันผ่านกระจกคะ คุยผ่านโทรศัพท์
อยากจะฝากเตือนทุกๆคนนะคะ อย่าทำสิ่งที่ผิดกฎหมายเลยคะ วัยรุ่นที่คึกคะนองอยากจะบอกมาว่ามันไม่ได้
สวยงามเลยคะ สุดท้ายเวลาเดือดร้อนเรายังไม่เห็นเพื่อนแฟนมาเยี่ยมเลยสักคน มีแต่เราและครอบครัว
อยู่ข้างในอย่าคิดว่าไม่ต้องใช้เงินนะคะ ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างต้องซื้อกับร้านทางเรือนจำเท่านั้น
ทางเรือนจำไม่อนุญาตให้นักโทษพกเงินคะ แต่ไม่ใช่ว่าไม่ต้องใช้นะคะ ญาติต้องฝากเงินไปกับทางเรือนจำจะมี
ใบเสร็จออกให้คะ เท่าที่คุยกับแฟนคือเงินคือสิ่งจำเป็นในการอยู่ที่นั้น เราก็ถามนะคะว่าทำไมต้องจำเป็นมาก
เค้าก็ไม่ยอมเล่าคะ แต่บอกเพียงสั้นๆว่า มันจำเป็นต้องใช้ เวลาเราไปเยี่ยมเพื่อนๆจะฝากเบอร์โทรศัพท์ผ่าน
แฟนหลายคนเลยคะให้เราโทรไปหาสั้งให้มาเยี่ยมมาหา เพราะบางคนพอต้องเข้าไปอยู่ในนั้น พูดง่ายๆคือแฟน
ไปมีคนอื่น
สุดท้ายอยากจะเตือนทุกๆคนนะคะ อย่ากระทำความผิดเลย สิ่งไหนที่ไม่ดีอย่าไปข้องเกี่ยวกับมัน อยู่ข้างในไม่
มีอิสรภาพไม่ได้ออกไปไหน อยากจะพบเจอญาติก็ต้องรอให้ญาติมาหา หรือไม่ก็ทำได้แค่เขียนจดหมายหากัน