ผมจะไม่พูดถึงเหตุที่เกิดนะครับ ทำจริงไม่จริงทุกคนก็เห็นแล้วแต่อาจจะต่างจากภาพที่ไลน์แมนเห็นและแอ็คชั่นของนักเตะอิรัก
แต่ผมจะพูดถึงจุดที่ทำให้ต้องโดนใบแดงและแนวทางการแก้ไขระยะยาวของนักฟุตบอลทีมชาติคือเรื่องการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษ
จากภาพที่กรรมการเรียกนักเตะทั้งสองคนมาเพื่อรับโทษนั้น ผมดูเหมือนว่ากรวิทย์ไม่เข้าใจสิ่งที่กรรมการพูด ตอบแต่ No, No (คือผมไม่ได้ทำ)
แต่ถ้ากรรมการถามว่า"คุณยอมรับคำตัดสินของผมมั้ย?"    การตอบ ไม่,   ไม่  มันคือการไม่ยอมรับคำตัดสินหรือเปล่า (ผมสังเกตกรรมการถามแล้วย้ำถามอีกรอบ ก็ได้คำตอบว่า "ไม่" อีก)  กรรมการเหมือนโมโหเลยควักใบแดงให้

เรื่องต่อมาคือสมาธิกับเกมซึ่ง 5 นาทีแรกและ 5 นาทีสุดท้ายสำคัญมาก ฟุตบอลอาชีพหลายทีมก็เคยโดนมาแล้ว
ทีมสต๊าฟโค้ชจิตวิทยาจึงมีความสำคัญกับนักฟุตบอลมาก

..ก็ค่อยเป็นค่อยไปครับสำหรับทีมชาติไทยยังมีสิ่งอื่นๆ ที่สำคัญอีกหลายอย่างที่ต้องพัฒนาไปพร้อมๆ กับฝีเท้าของนักเตะ
เราเป็นผู้ชมก็ต้องเชียร์กันต่อไป แต่อยากให้ทีมงานโค้ชมองปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นให้ออกและแก้ปัญหากันต่อไป
วันนี้ก็ถือว่าดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะแล้ว
คุณปิยะพงษ์(คอมเม้นเตเตอร์)พูดเมื่อคืนบอกว่าทีมงานมืออาชีพต้องมีโค้ชทุกส่วน โค้ชผู้รักษาประตู โค้ชกองหลัง โค้ชศูนย์หน้า ผมเห็นด้วยกับคำพูดของแกเลยครับ ส่วนผมขอเพิ่มนักจิตวิทยาอีกคน และอีกอย่างที่แกพูดเหมือนผิดหวังนิดๆ ที่โค้ชซีโก้ไม่ยอมเปลี่ยนตัวผู้เล่นในวันที่เจออิรักนี้ว่า"ตัวผู้เล่นเหมือนเดิมได้ แต่แท็กติกต้องเปลี่ยน" คือแกพูดค่อนข้างเป็นจริงสำหรับเกมของระดับโลกนะ ว่าต้องมีแผน 1 แผน 2 แผน 3 เสมอ

ขอติหน่อยเรื่องของทีมแพทย์ ธนบูรณ์สภาพไม่สมบูรณ์ (80% ได้มั้ง) เข็นลงไปทำไม สุดท้ายก็เจ็บต้องเสียโครต้าเปลี่ยนตัวไป 1 คนฟรีๆ  รู้อยู่ว่าเกมนี้ฟิตไม่ถึง 120% สู้เขาไม่ได้แน่ๆ ...เฮ้อ!!! (กลายเป็นกระทู้บ่นไปซะแล้ว)