ทำไงดี ทำงานตลอด ลาพักร้อนก็หมด เป็นมนุษย์เงินเดือนเที่ยวได้มั้ย อยากเที่ยว ไปเสาร์-อาทิตย์ได้มั้ย? ตอบเลยว่าได้ครับ อย่างกับทริปนี้ของเรา เป็นทริปสำหรับคนถูกเท แล้วอยากไปเที่ยวหาทะเลซักที่ ไปนั่งนิ่งๆ ดูคลื่นทะเล นี่เลยครับ "ภูเก็ต" เป็นอีกสถานที่ ที่น่าเที่ยวเพราะมีทั้งทะเล อาหารอร่อยๆ และสถานที่สวยๆ หลายแห่ง เรียกว่ามาแล้วได้เที่ยวครบทุกรสเลย อีกทั้งภูเก็ตยังมีทะเลสวย และยังเป็นไข่มุกแห่งอันดามันอีกด้วย สำหรับครั้งนี้ไปภูเก็ตแบบมนุษย์เงินเดือนฉบับเพจไปคนเดียวคือ เที่ยวในเวลาจำกัด 2 วัน 1 คืน และใช้เงินไม่มาก โดยอาหารส่วนใหญ่เราไม่ได้ร้านหรูหรา แต่เลือกร้านข้างทางราคาไม่แพง เอาแค่ว่ากินแค่อิ่ม และเผอิญว่าไปช่วงเทศกาลกินเจ ร้านดังๆ ส่วนใหญ่เลยปิดหมด ส่วนการเดินทางเราเรื่องเดินทางโดยเครื่องบิน เพราะสะดวกรวดเร็ว(แต่ตรงนี้จะเสียค่าใช้จ่ายเยอะหน่อย แต่ถ้าจองช่วงโปรไว้นานๆ ก็ไม่ค่อยแพงเท่าไหร่) และสำหรับการเดินทางที่ภูเก็ตเราเลือกการเช่ารถยนต์ส่วนตัว เพราะว่าจะเน้นสะดวกแวะได้ทุกที่ที่อยากได้ ประหยัดเวลาด้วย โดยรถที่เช่าก็มีหลากหลายราคา หลายยี่ห้อแล้วแต่เลือก สำหรับที่เราเลือกจะรถเก๋งซิตี้ ราคา 900 บาทต่อวัน น้ำมันแยกเติม(ตรงนี้ใครจะเช่ารถต้องดูรายละเอียดข้อตกลงดีๆ และตรวจสอบสภาพรถให้รอบคอบก่อนรับรถไปใช้)

อันนี้คือ "Social Life Tower"

เอาละครับ "สำหรับวันแรก" พอถึงสนามบิน ระหว่างรอรถที่เราเช่าไว้มารับ แอบได้ยินคนพูดถึงอาคารใหม่หรืออาคารระหว่างประเทศของสถานบินภูเก็ต พึ่งเปิดใหม่ได้ไม่นาน ซึ่งเป็นอาคารที่ออกแบบมาให้สวยลงตัว และยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจ คือ "Social Life Tower" ฟังแล้วงงๆ เค้าบอกว่าไปเล่นกันๆ เพื่อไขความกระจ่างๆ ไหนๆ ก็มาถึงสนามบินก่อนอยู่หลายชั่วโมง เลยขอแวะไปดูหน่อย ถ้าเจ้าหน้าที่สำหรับการไปที่ Social Life Tower เจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเดินไปได้ หรือจะนั่งรถจากอาคารในประเทศไปอาคารระหว่างประเทศก็ได้ แต่เราเลือกเดินไป ลดความอ้วนไปในตัว555 พอถึงอาคารใหม่ เราก็ต้องขึ้นไปที่ชั้น 2 ของอาคาร เราก็จะเจอเสารูปสี่เหลี่ยมใหญ่ๆ อยู่ 2 เสา โดยแต่ละเสาจะมีตู้ (คล้ายๆ ตู้ถ่ายสติ๊กเกอร์) อยู่ 4 ตู้ โดยเสาทั้ง 4 ด้านจะเป็นจอ LED โดยจะมีคลิปวิดีโอที่เกี่ยวกับทะเลสถานที่ท่องเที่ยวของภูเก็ต เล่นวนไปให้เราต้องได้หยุดดู ทั้งสวยและดูยิ่งใหญ่อลังการ และสำหรับไฮไลท์ของ Social Life Tower นี่อยู่ที่ เราสามารถถ่ายรูปเช็คอินได้ โดยกิจกรรมที่ตู้ จะให้เราถ่ายรูปเลือกได้จะเป็นภาพนิ่ง หรือ ภาพแบบ 3 แอคชั่น เห็นต่างชาติมาเล่นกันใหญ่เลย โดยเฉพาะที่มากันเป็นครอบครัว เด็กๆจะชอบมาก บางคนก็ทำท่าเลียนแบบหนุมาน อ้อ..ลืมบอกว่า ถ่ายรูปเสร็จระบบของ Social Life Tower จะส่งรูปเข้า email เราด้วยนะ ได้รูปเป็นที่ระลึกฟรีๆ และรูปของเราก็จะขึ้นโชว์ทั้ง 4 ด้าน ของ Social Life Tower ซึ่งตรงจุดนี้ถือเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ของสนามบินภูเก็ตเลยทีเดียว ใครมีไปภูเก็ตมีเวลาเหลือระหว่างรอขึ้นเครื่องก็สามารถแวะเข้าไปเล่น ถ่ายรูปเช็คอิน แก้เบื่อระหว่างรอกันได้นะครับ สำหรับทางเพจเราก็ได้แอบไปถ่ายรูปเช็คอิน อวดหมวก โปรโมทเพจ มาถึง 2 รูปกันเลยที่เดียว 55


อ้อเจ้าหน้าที่ยังบอกไว้ด้วยว่าช่วงปลายปีนี้เจ้า Social Life Tower จะมีที่สนามบินเชียงรายด้วยนะ ถ้าขึ้นครบทุกสนามบินคงสนุกแน่ๆ เจ้าหน้าที่บอกว่า เราจะทักทายเพื่อนที่อยู่สนามบินผ่านเจ้า Social Tower ได้ด้วย ว้าว!!! ไฮเทคสุดๆ มันช่างกระตุ้มเผือกมากๆว่า ใครเป็นคนคิดแล้วมันยังทำอะไรได้อีก ขอถามอากู๋แป๊บ...ใส่คำว่า Social Life Tower ภูเก็ต ก็มีข้อมูลมาให้อ่านหลายเว็บเลย จิ้มเอาของเว็บการตลาดชื่อดังอย่าง Brandbuffet แล้วกัน...ในที่สุดก็ get ว่า คนคิดคนสร้างชื่อบริษัท Next Cube และเขาบอกว่า เจ้านี่คือสื่อตัวใหม่ที่เรียกว่า Digital Out of Home หรือ DOOH ที่เป็น LED Interactive แห่งแรกกลางสนามบินภูเก็ตและแห่งแรกของเอเชียด้วย โหเมืองไทยเราทันสมัยใช่เล่น เผื่อใครอยากรู้จักกับเจ้า Social Life Tower ก็เลย copylink ข่าวในเว็บ brandbuffet มาให้ แล้วก็มีคลิปใน youtube ด้วยนะ


...หมดเวลาเล่นสนุกแล้ว ต้องรีบไปรอรับรถที่เช่าไว้ พอรถมาถึงก็เดินทางไปทำสัญญารับรถ พอเสร็จ รถพร้อม คนพร้อม เรามาเริ่มการเดินทางเที่ยวกันต่อ มาเริ่มที่แรก ใครมาภูเก็ตไม่ควรพลาดที่จะมาเช็คอินที่นี่ "หาดไม้ขาว" เป็นหาดที่อยู่ใกล้กับสนามบิน เป็นสถานที่ยอดฮิตของนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติ ที่จะต้องมาถ่ายรูปกับเครื่องบิน เวลา Landing ลงมาผ่านชาดหาดแล้วมาลงที่สนามบิน พอไปถึงก็ไม่รอช้าหาที่ยืนเหมาะๆ รอเครื่องบิน บินผ่านมาแต่ก็รอแล้วรอเหล่า เครื่องก็ไม่ Landing มาซักที มีแต่ Take Off ขึ้นไป

รอเป็นชั่วโมงจนทนไม่ไหวถามคนแถวนั้นบอกว่าวันนี้เครื่องไม่ลงทางชายหาด มีแต่ขึ้น ได้ยินแบบนั้นถึงกับเข่าทรุดเลย เห็นว่าจะ Landing ผ่านชายหาดน่าจะเป็นช่วงเดือนพฤศจิกายน เฮ้ออออ


แต่ก็ไม่เป็นไร ออกเดินทางต่อไปที่เที่ยวที่ใหม่ มาที่ "หาดในทอน" หาดนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเงียบสงบดี (หรืออาจจะเป็นช่วง Low Season ก็เป็นได้ 555)

จากนั้นก็ไปต่อกันที่ "หาดสุรินทร์" หาดนี้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่ทะเลก็สวยดี แวะแชะภาพซักหนึ่งรูป หาดนี้นักท่องเที่ยวไม่ค่อยมีเงียบสงบดี (หรืออาจจะเป็นช่วง Low Season ก็เป็นได้ 555) จากนั้นก็ไปต่อกันที่ "หาดสุรินทร์" หาดนี้คนค่อนข้างพลุกพล่าน แต่ทะเลก็สวยดี แวะแชะภาพซักหนึ่งรูป


เราก็ไปต่อที่ "จุดชมวิวแหลมสิงห์" มีศาลาข้างทางเล็กๆ เอาไว้ให้เราได้ยืนชมวิว มองออกไปเห็นเป็นแหลมเล็กๆ วิวก็สวยดีนะ ตรงนี้

ไปต่อกันที่ "หาดป่าตอง" หาดนี้เป็นหาดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวกัน คนค่อนข้างเยอะ พลุกพล่าน ใครชอบบรรยากาศคึกคัก ไม่ควรพลาดที่จะแวะ สำหรับเราขอแวะถ่ายรูปแล้วผ่านไปต่อดีกว่า   มาต่อกันที่ "หาดกะรน" หาดนี้คนนิยมมาเล่น Parasail กันนักท่องเที่ยวก็ค่อนข้างเยอะสำหรับหาดนี้




แวะถ่ายรูปเดินเล่นดูบรรยากาศรอบซักพักก็เริ่มอยากเข้าที่พักเก็บของอาบน้ำ ล้างหน้า ล้างตัวซะหน่อย เลยขอแวะเข้าที่พักแว๊บนึง สำหรับที่พักของเรา พักที่ Hotel IKON Phuket เป็นโรงแรมที่พึ่งเปิดใหม่ ตกแต่งสไตล์มินิมอล เรียบหรู ดูดี ในราคาเป็นกันเอง สำหรับโรงแรมจะมีทั้งหมด 3 ตึก A , B, C ตึก A จะเป็นตึกล็อบบี้











ส่วนตึกที่วิวสวยสุดจะเป็นตึก C ส่วนที่ตั้งของโรงแร ด้านหลังโรงแรมจะภูเขาเขียวชะอุ่ม ดูเป็นธรรมชาติสุดๆ ด้านหน้าโรงแรมจะหักเข้าหาทะเล ทำให้เวลาเปิดผ้าม่านกระจกออกมาจากห้องพักเราจะเห็นวิวสวยๆ มองเห็นวิวท้องทะเลไกลๆ บรรยากาศดีมาก (วิวนี้จะอยู่ตึก B และ C) และที่ Hotel IKON Phuket ยังมีสระว่ายน้ำให้ลูกค้าที่พักไว้ว่ายน้ำกันด้วย แต่ถ้าสำหรับใครไม่อยากว่ายน้ำ





ที่นี่ก็ยังมีสปาให้เราเข้าไป ใช้บริการกัน โดยจะนวดหินร้อนในสไตล์โอกะ ซึ่งที่นี่จะเป็นมินิสปา OKA Mini Spa บรรยากาศภายในดูน่าผ่อนคลาย น่าพักผ่อน เป็นส่วนตัวมากๆ (ซึ่งสำหรับคนที่จะเข้าพักช่วงนี้ถึง 31 พ.ย. 59 มีแพคเก็จโปรโมชั่นที่คุ้มมากๆ ใครสนใจลองเข้าไปดูที่เว็บไซต์ของโรงแรมกันได้) เอาละ พอเราเก็บของ อาบน้ำ เดินสำรวจที่พักกันเรียบร้อย






เราก็ออกเดินทางไปที่นึงที่ที่ไม่ควรพลาดเวลามาภูเก็ตแล้วต้องมาดูพระอาทิตย์ตกที่ "แหลมพรหมเทพ" ที่ยอดฮิตในตำนาน ที่ใครมาภูเก็ตต้องมา (ซึ่งครั้งนี้เป็นครั้งแรกของเราเลยของไปเช็คอินนั่งดูพระอาทิตย์ตกกับคนอื่นๆ ซักครั้ง)

ขับรถออกจากโรงแรม Hotel IKON Phuket ไปไม่ไกลมาก โดยก่อนถึงแหลมพรหมเทพ ขอแวะจุดชมวิวอีกจุด คือ "จุดชมวิว 3 อ่าว" ตรงนี้เรามองออกไปจะเห็นวิวทั้ง 3 อ่าวเลย


ถ่ายรูปเป็นที่ระทึกแล้วขับต่อไปที่ "แหลมพรหมเทพ" ก่อนขึ้นไปที่จุดชมพระอาทิตย์ตก จะมีบริเวณให้จอดรถ แล้วเราก็จะเดินขึ้นไปอีกนิดนึง



ตรงจุดนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน แต่ก็คุ้มสำหรับการรอคอย เพราะเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าเป็นภาพที่สวยงามมากๆ ขอบอกเลยว่าชอบพระอาทิตย์ที่นี่ที่สุดเท่าที่เคยไปเที่ยวมา
(เดี๊ยวกลับมาต่อนะครับ)