สวัสดีครับพี่น้องทุกท่าน

จบไปแล้วสำหรับสนามที่ 7 ของรายการ Super GT ผมเลยขอมารีวิวทั้งทริป เนื่องจากว่าพยายามหารีวิวไปดูการแข่งรถมีไม่ค่อยมากนัก
และมีไม่ตรงใจ จขกท. เท่าไร เลยขอทำเองเพื่อแชร์ให้ท่านอื่นได้ทราบ

ก่อนอื่นต้องขอแจ้งเรื่อง tag ก่อนนะคับ
งานแสดงรถยนต์            >>  เนื่องจากไม่มี tag เกี่ยวกับการแข่งรถชนิดนี้ มีแต่ F1 เลยขอติด tag นี้เนื่องจากในงานเรา
                                        สามารถลงไปดูรถได้อย่างใกล้ชิด
Super car                    >>  รถที่แข่งมีหลายหลายรุ่นมีทั้ง 458, M6, 911 หรือจน prius ก็มี
BRIC                           >>  แน่นอนครับ นั่นคือสนามแข่ง
เที่ยวไทย                      >>  ผมขอเล่าตั้งแต่ออกจากกรุงเทพ ถึงบุรีรัมย์ จนถึงกลับมากรุงเทพ
ถ่ายจากกล้องโทรศัพท์   >>  ทั้งทริปนี้ถ่ายด้วย iphone6 ตลอด มีแค่ปรับลดขนาด rotate ภาพแค่นั้น

การเดินทางกรุงเทพ - บุรีรัมย์ / บุรีรัมย์ - กรุงเทพ

ต้องขออภัยด้วยว่าส่วนนี้ไม่มีรูปประกอบนะครับ เพราะสัมภาระพะรุงพะรัง

การแข่งขัน Super GT สนาม7 ในปีนี้จัดแข่งที่สนามช้าง จ.บุรีรัมย์ วันเสาร์ที่ 8 ตุลาคมจะเป็นวัน qualify และวันอาทิตย์ที่ 9 ตุลาคม

จะเป็นวันแข่งจริง ดังนั้นผมจึงตัดสินใจจะไปดูวันแข่งจริงเลย โดยซื้อบัตรที่ Thaiticket เป็นบัตร VIP วันเดียวราคา 3000 บาท

(ขอสารภาพว่าก่อนจะไปซื้อบัตร 3000 ยังไม่ทราบเลยว่าจะได้อะไรบ้าง) และจองรถทัวร์นครชัยชั้น first class ไปกลับ

โดยผมเลือกออกจากกรุงเทพตอน 12.40 เพื่อให้ถึงบุรีรัมย์ตอน 18.00 สำหรับเบาะปรับเอนพร้อมนวดของนครชัยไม่ทำให้ผิดหวังครับ

สามารถนอนหลับได้อย่างสบายใจ มีอาหารกล่อง, น้ำอัดลม, น้ำเปล่า, ขนม, และผ้าเย็นเช็ดหน้า ส่วนห้องน้ำก็สะอาดไม่มีกลิ่น

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ผมเคยนั่ง first class ไปเชียงใหม่ซึ่งพบว่าออฟชั่นบางอย่างของเจ้าจอ funtoro ที่ติดตั้งบนรถขาไปกลับบุรีรัมย์

นั้นไม่มี GPS แต่ยังดีว่าหนังที่สามารถให้ชมได้ก็ไม่เก่ามาก เช่น Batman VS Superman, Angry bird, point break, ฯลฯ



ขาไปนั้นเหมือนจะมีฝนเล็กน้อยก่อนเข้าตัวอำเภอเมืองบุรีรัมย์ เลยทำให้ถึงเลย 18.00 ไปนิดหน่อย ส่วนขากลับนั้นผมเลือกเวลา

เดียวกันคือออกจากบุรีรัมย์ตอน 12.40 และถึงกรุงเทพในเวลา 18.00 ซึ่งดีใจครับที่ตัวรถขึ้นโทรวเวย์เลยข้ามรถติดช่วงรังสิต

มาลงแถวๆ ม.เกษตรและรถติดจนข้ามรัชวิภาถึงสนานีขนส่งนครชัย

วันแข่ง

ในตัวบัตรระบุว่างานเริ่มตอน 9.00 - 18.00 โดยผมคิดว่าไม่ต้องรีบไปก็ได้ โดยถึงสนามในเวลาประมาณ 11 โมงกว่าๆ

โดยนอกสนามก็จะมีบูธของผู้สนับสนุนสนาม และสปอนเซอร์เช่น Toyota, Nissan, หรือ SCB!



เราก็เดินไปจนถึงประสาทที่อยู่ตรงกลาง โดยผมเข้าใจว่าสำหรับบัตร VIP ส่วนบัตรแกรนด์สแตนจะขึ้นที่บันไดตรงด้านซ้ายและขวา

ของสนาม



เมื่อเข้าไปแล้วก็จะเจอ staff ของสนามแลกบัตรจาก Thaiticket เป็นบัตรผ่านเข้าห้อง VIP โดยผมซื้อ Pit walk และ Grid walk

อย่างละ 500 บาทด้วย เนื่องจากตอนที่ผมไป Safari bus ที่นั่งรถบัสพร้อมให้รถ GT500 GT300 ขับไปด้วยนั้นจบไปแล้ว



โดยก่อนกิจกรรม Pit walk ในห้อง VIP ที่เราเข้าไปก็จะมีน้ำเย็น และเบียร์เย็นๆจากสปอนเซอร์



นอกจากนี้ยังมีไลน์อาหารบุฟเฟต์จากสปอนเซอร์อีกเช่นกัน













โดยห้อง VIP ก็เป็นห้องแอร์ พร้อมโต๊ะเก้าอี้ปกติ เมื่อเดินเข้าไปด้านในจะมีพื้นที่คล้ายๆระเบียงซึ่งต้องเลื่อนประตูเปิดออกไป

จะมีที่นั่งบางส่วนเพื่อให้ดูรถแข่ง เมื่อก้มมองลงไปด้านล่างก็จะมี pit ของทีมแข่งพอดี




เมื่ออิ่มเรียบร้อยแล้ว เราก็ห้อยบัตร Pit walk ลงไปที่ด้านข้างสนามเพื่อถ่ายรูป race queen, นักแข่ง, หรือตัวรถ

โดยแต่ละทีมก็จะมีของชำร่วยเล็กๆน้อยๆ แจกให้ เช่น ธงโปกเชียร์, สติกเกอร์, ฯลฯ

อธิบายด้วยภาพละกันนะครับ

ผมตามเชียร์ทีมนี้เพราะ ด๋อย good smile นะ แต่เสียใจว่าสนามนี้ race queen ไม่มาด้วย


ทีมงานมีมา setting แท่นบูชาข้างสนามด้วย


มองเห็นทีม tune รถอย่าง(เกือบ)ใกล้ชิด


เห็นหมด แต่ว่า NSX เครื่องอยู่หลังอะสิ


บางทีมก็มี race queen พร้อมคนขับมาแจกลายเซ็น พร้อมร่วมถ่ายรูป


บางทีมมีมาสค็อตหมีมาแจกความน่ารัก


ทีมนี้มี race queen แต่งตัวคล้ายคนขับเอวา ส่วนตัวรถ strip ลายเอวาสีม่วงเช่นกัน


Drift king ก็มาด้วย


คุณพีท ทองเจือก็มาด้วยพร้อมทีมนางงาม



ในระหว่าง Pit walk บางทีมก็มีสตาร์ทเครื่องพร้อมจูนเครื่องไปด้วย เสียงรถสร้างความฮึกเหิมอย่างแรง

พอจบจาก Pit walk ก็กลับมาชื่นช่ำที่ห้องแอร์ VIP 3000 มันคุ้มตรงมีห้องแอร์นี่ละ ขอโทษจริงๆ ผมคน กทม. ขี้ร้อนอย่างแรง

พอขึ้นมาตากแอร์ได้สักพักก็ลงไป Grid walk ต่อ ถ้าเทียบระหว่าง Pit walk กับ Grid walk ขอบอกว่า Grid walk จะได้เข้า

ใกล้ตัวรถมากกว่า แต่เวลาให้เดินของ Grid walk น้อยกว่า Pit walk และร้อนกว่าเพราะมาเดินบน track

ถ่ายจาก track หากองเชียร์


Final setting ก่อนจะปล่อยรถ


มีถุงน้ำแข็งด้วย


คนยังร้อน รถก็ร้อน


ส่องได้ถึง cockpit อย่างห่างๆ



หลังจากทีมงานไล่คนออกจาก track ทั้งหมด ก็ให้สัญญาณเพื่อให้ทุกคันสตาร์ทเครื่องเป็นอะไรที่น่าขนลุก

หลังจากนั้น safety car ก็พาวนรอบสนาม 1 รอบเพื่อจะออกตัวแบบ rolling start หลังจาก safety car

หลบเข้า pit ความมันส์ และเสียงเครื่องแผดร้องทำให้ผมขนลุกจริงๆ เราจะได้เห็นฝีมือ driver มืออาชีพ

ที่บี้เรียงแถว 3 หลังพ้นโค้ง 12 และเบรค ชิงอันดับก่อนจะเข้าโค้ง 1 โชคดีที่ว่าสนามนี้มีสะกิดกันจนหมุนบ้าง

แต่ว่าไม่มีอุบัติเหตุอะไรร้ายแรง

ผมไม่ขออธิบายนะครับว่าใครชนะ หรือว่ารายละเอียดเป็นอย่างไรเพราะตอนนี้ก็พอหาชมใน youtube ได้

สรุป

- คุ้มไหมกับ 3000 บาท สำหรับผมคนบ้ารถ ผมว่าคุ้มครับ ไม่ต้องถ่อไปถึงญี่ปุ่น เพราะรายการนี้เค้าเน้นหลักแข่ง

ที่ญี่ปุ่น นอกจากนี้ผมว่ามันครบทั้งอาหาร เครื่องดื่มที่ไม่ต้องไปวิ่งหาที่ไหน ทุกอย่างมีอยู่ในห้อง VIP มีไวไฟ

แทบจะทุกค่าย ผมถ่ายรูปเสร็จอัพเข้า google drive ต่อเลย ที่สำคัญมีแอร์

- คุ้มไหมกับ Pit walk 500 บาท สำหรับผม ผมว่าคุ้มมาก ได้ของฝาก กระทบไหล่คนดังทั้งวงการบันเทิง และวงการ

มอเตอร์สปอร์ท เวลาในการเดิน Pit walk ก็เยอะอยู่ ผมเดินวนจากสแตนใหญ่ ไป pit ย่อยที่ตากแดดตั้ง 2 ครั้งแนะ

- คุ้มไหมกับ Grid walk 500 บาท สำหรับผม ผมว่าไม่คุ้ม ถึงแม้จะเดินเข้าถึงตัวรถได้ใกล้มาก แต่ผมรู้สึกว่าเดินแทบ

ไม่ครบเลย เวลาน้อยมาก

- คุ้มไหมกับนครชัยแอร์ 4ร้อยกว่าบาทต่อขา ผมว่าคุ้มนะ ถ้าคุณมีเวลาเยอะ เพราะไหนๆผมก็ลาทั้งวันแล้ว ผมก็

ขอพักผ่อนบนรถดีกว่า

สุดท้ายนี้ สนามนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของวงการมอเตอร์สปอร์ทในไทยครับ นอกจากสนามพีระที่อยู่คู่วงการมาแสนนาน

อย่างไรก็ตามในอนาคตก็อยากให้มีรายการอื่นๆมาจัดด้วย เรียกว่าความฝันอันสูงสุดก็คงเป็น F1 ที่เราจะได้ยินเสียง

เครื่องรีดหมื่นรอบ หรืออย่างน้อยขอเป็น F3 หรือ Formula E (ผมชอบที่มี fan boost นะ ดูเป็น AF ดี 555+)

ขอบคุณทุกท่านที่ดูภาพและอ่านจบครับ ของตัวไปมโนใน Grand Tourismo 6 ก่อนครับ