อันนี้เป็นกระทู้แรกของผม สวัสดีทุกคนนะครับ
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านหนังสือ Shoe Dog อัตชีวประวัติของ Phil Knight ผู้ก่อตั้ง brand Nike ที่เรารู้จักกันดี พอเห็นว่ามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่หลายคนน่าจะสนใจ ผมก็เลยอาศัยเนื้อหาที่อ่านมา + ค้นคว้าจากเว็บชาว sneakers ต่างประเทศที่เชื่อถือได้เขียนบทความนี้ขึ้นมากับทำภาพส่วนนึงมาประกอบการอ่านให้ไม่เบื่อกัน บทความนี้ถูกลงครั้งแรกในเพจร้านของผมเอง (link อยู่ใน Spoil) และได้เสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ เลยอยากจะเอามาลง pantip บ้าง หากผิดพลาดประการใด สามารถคอมเม้นให้ผมแก้ไขได้เลยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ลิงค์ที่ลงครั้งแรก
https://www.facebook.com/allrisebrand/posts/1573045079665351
FB เพจร้านของผม (ใครสนใจกางเกง Jogger ดี ๆ ก็ติดต่อกันมาได้นะครับ)
https://www.facebook.com/allrisebrand/
รองเท้าที่เป็นก้าวแรกของทุก ๆ อย่าง
ในฐานะแบรนด์ระดับโลก Nike มี "นิสัย" ที่ชอบเติมความสดใหม่สุดล้ำอย่าง Flyknit เข้าไปให้ไอเท็มสุดคลาสสิคของตัวเอง อย่างรองเท้าตระกูล Air Max (ที่มีอายุเกือบ 30 ปีแล้ว) หรือรุ่นอื่น ๆ อย่าง Air Force แต่ถ้าจะให้มองกลับไปที่รากเหง้าของ Nike จริง ๆ ประวัติของ Air ก็ถือว่ายังเด็กเมื่อเทียบกับรองเท้าชูโรงตัวแรกอย่างแท้จริงของแบรนด์นี้ รองเท้าที่เป็นรากฐานให้อดีตบริษัทนำเข้ารองเท้าญี่ปุ่นกลายเป็นแบรนด์ทีทุกคนต้องจับตามอง
เราอยากพูดถึง Nike Cortez หรือที่เรียกกันในชื่อเดิมของมันว่า Tiger Cortez ภายใต้ Onitsuka Tiger
รองเท้า Tiger Cortez จัดจำหน่ายโดย Blue Ribbon Sports
Onitsuka Nike?
ก่อนที่จะมาเป็นบริษัท Nike Inc Nike เคยใช้ชื่อ Blue Ribbon Sports ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของรองเท้ากีฬา Onitsuka Tiger ในอเมริกายุค 60 ถึงยุค 70 โดยควบหน้าที่พัฒนาไอเดียรองเท้าใหม่ ๆ ให้ Onitsuka ไปด้วย และรองเท้า Cortez ก็เป็นหนึ่งในผลผลิตลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกาที่เปรี้ยงปร้างที่สุดในเวลาของมัน
ป้ายโฆษณารองเท้าTiger ของ Blue Ribbon Sports
ในปี 1967 concept ของ Cortez เกิดขึ้นมาด้วยไอเดียของหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Blue Ribbon โค้ช Bill Bowerman โค้ชทีมวิ่งระดับโอลิมปิคผู้เป็นทั้งที่ปรึกษาและช่างรองเท้าสติเฟื่องประจำบริษัท (ถ้ามีโอกาสหน้า เราจะเล่าเรื่องของเขาให้ฟังกัน) เขาได้ทดลองเอาพื้นรองเท้ากีฬาของ Onitsuka 2 รุ่นมาสอดใส้กัน ให้พื้นที่แข็งและทนทานของรองเท้ารุ่นนึงประกบแผ่นโฟมที่นุ่มและเด้งกว่าจากรองเท้าอีกรุ่นนึง ออกมาเป็น Tiger Cortez รองเท้าวิ่งระยะไกลรุ่นแรกของยุคนั้นที่มีทั้งความสบายและทนทานในคู่เดียวกัน
โค้ชโอลิมปิกและเซียนรองเท้าวิ่ง Bill Bowerman co-founder ของ Nike และเจ้าของไอเดียรองเท้ามากมาย
พื้นรองเท้าสอดไส้ของ Cortez โดยมีโฟมแข็งประกบชั้นโฟมนิ่มที่ไฮไลท์สีฟ้าสว่างเอาไว้ ซึ่งสไตล์การไฮไลท์ดีไซน์และเทคโนโลยีที่เด่น ๆ ให้เห็นได้ชัด ๆ แบบนี้จะเป็นเทคนิคโปรดของ Nike ไปอีกนาน เห็นได้จากพื้น Air ใสในปัจจุบัน
พ่อค้าหักเหลี่ยมโหด
รองเท้า Cortez คู่นี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา และถีบชื่อของรองเท้า Tiger ให้ดังขึ้นไปอีกในหมู่นักวิ่งมืออาชีพและสมัครเล่น มันเป็นตัวทำเงินเบอร์ใหญ่ให้กับ Blue Ribbon ที่ขายรองเท้ารุ่นนี้ได้เร็วพอ ๆ กับที่ซื้อเข้ามาและเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายของบริษัทที่โตเร็วถึง 2 เท่าต่อปีหลายปีติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่าง Blue Ribbon กับ Onitsuka ก็มีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องด้วยผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวกัน (เช่น Onitsuka พยายามที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่าย Tiger ในอเมริกาเพื่อลดอำนาจต่อรองของ Blue Ribbon) บวกกับปัญหาในการส่งสินค้าจากญี่ปุ่นมาสหรัฐฯที่มักจะไม่ทันเวลาและความต้องการของตลาดนัก ซึ่งก็สร้างความกดดันให้ฝั่ง Blue Ribbon มาตลอด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทีมงาน Blue Ribbon จึงได้ตัดสินใจเปิดแบรนด์ Nike ขึ้นมาอย่างลับ ๆ ไม่ให้ทางญี่ปุ่นรู้และทำรองเท้า Nike Cortez ของตัวเองจากโรงงานในเม็กซิโกมาขายควบคู่กับ Tiger Cortez ของ Onitsuka ที่ผลิตมาจากญี่ปุ่น เม็ดเงินจาก Nike Cortez เองก็ถูกนำเข้า Blue Ribbon โดยตรงเพื่อพัฒนา Nike รุ่นอื่น ๆ อย่าง Bruin และ Blazer ในช่วงนั้น
รองเท้า Tiger Corsair VS Nike Cortez
ป้ายโฆษณารองเท้า Nike Cortez ของ Nike
เมื่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 บริษัทขาดสะบั้นลงในเวลาต่อมา คำตัดสินของชั้นศาลได้รักษาสิทธิ์ของชื่อ Nike Cortez เอาไว้ให้ Blue Ribbon ในขณะที่ Tiger Cortez ก็ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อ Corsair แทน Nike Cortez จะยังได้รับการพัฒนาไปเรื่อย ๆ อีกหลายปี และจะเป็นรากฐานของแบรนด์ Nike ไปอีกนาน อีกทั้งยังได้ไปโผล่ในหนังสุดคลาสสิคเรื่อง Forrest Gump ด้วย
รองเท้า Cortez พร้อมกล่องสีส้มสดของ Nike แต่คู่นี้จะไม่ใช่รุ่นแรกผลิตของเมื่อยุค 70 สังเกตได้จากโลโก้ของ Nike ที่เป็นเวอร์ชั่น 2 แล้ว เวอร์ชั่นแรกจะเป็น swoosh ที่ไม่มีคำว่า NIKE ข้างใน และคำว่า NIKE จะใช้ตัวเล็กเป็น nike แทน (ดูภาพได้จากโปสเตอร์ด้านบน)
รองเท้า Nike Cortez Forrest Gump สังเกตได้ว่ามีแถบดึงด้านหลังที่รุ่นแรก ๆ ไม่มี และมีการเติม bumper ยางเป็นกันชนไว้ด้านหน้าเท้า
Nike Cortez มีการวิวัฒนาการตามยุคสมัยเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวัสดุหรือปรับเปลี่ยนทรง
ส่งท้าย
ไม่ว่าจะใต้ชื่อ Tiger Cortez หรือ Nike Cortez ก็ตาม เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้า Cortez คู่นี้และความสำเร็จของมันนี่แหละที่เป็นตัวผลัก Blue Ribbon Sports ให้กลายมาเป็น Nike Inc ที่เรารู้จักกันดี
Credit
- Sole Collector:
http://solecollector.com/news/2015/09/nike-cortez-history-72-nikelab
- Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike (หนังสืออัตชีวประวัติของ Phil Knight ผู้สร้าง brand Nike ขึ้นมา แนะนำให้อ่านมาก ๆๆๆๆ เลยครับ)
- ภาพของ Corsair จาก
http://blog.sportus.nl/posts/2013/januari/azteca,-cortez-en-de-cortair.aspx
- Sneakernews:
http://sneakernews.com/
:::รองเท้าขายดีของ Nike ที่ไม่ใช่ Nike (หา??): มหากาพย์ Cortez, the Nike without Nike brand:::
อันนี้เป็นกระทู้แรกของผม สวัสดีทุกคนนะครับ
เมื่อไม่นานมานี้ผมได้อ่านหนังสือ Shoe Dog อัตชีวประวัติของ Phil Knight ผู้ก่อตั้ง brand Nike ที่เรารู้จักกันดี พอเห็นว่ามีอะไรหลาย ๆ อย่างที่หลายคนน่าจะสนใจ ผมก็เลยอาศัยเนื้อหาที่อ่านมา + ค้นคว้าจากเว็บชาว sneakers ต่างประเทศที่เชื่อถือได้เขียนบทความนี้ขึ้นมากับทำภาพส่วนนึงมาประกอบการอ่านให้ไม่เบื่อกัน บทความนี้ถูกลงครั้งแรกในเพจร้านของผมเอง (link อยู่ใน Spoil) และได้เสียงตอบรับที่ดีมาก ๆ เลยอยากจะเอามาลง pantip บ้าง หากผิดพลาดประการใด สามารถคอมเม้นให้ผมแก้ไขได้เลยนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
รองเท้าที่เป็นก้าวแรกของทุก ๆ อย่าง
ในฐานะแบรนด์ระดับโลก Nike มี "นิสัย" ที่ชอบเติมความสดใหม่สุดล้ำอย่าง Flyknit เข้าไปให้ไอเท็มสุดคลาสสิคของตัวเอง อย่างรองเท้าตระกูล Air Max (ที่มีอายุเกือบ 30 ปีแล้ว) หรือรุ่นอื่น ๆ อย่าง Air Force แต่ถ้าจะให้มองกลับไปที่รากเหง้าของ Nike จริง ๆ ประวัติของ Air ก็ถือว่ายังเด็กเมื่อเทียบกับรองเท้าชูโรงตัวแรกอย่างแท้จริงของแบรนด์นี้ รองเท้าที่เป็นรากฐานให้อดีตบริษัทนำเข้ารองเท้าญี่ปุ่นกลายเป็นแบรนด์ทีทุกคนต้องจับตามอง
เราอยากพูดถึง Nike Cortez หรือที่เรียกกันในชื่อเดิมของมันว่า Tiger Cortez ภายใต้ Onitsuka Tiger
รองเท้า Tiger Cortez จัดจำหน่ายโดย Blue Ribbon Sports
Onitsuka Nike?
ก่อนที่จะมาเป็นบริษัท Nike Inc Nike เคยใช้ชื่อ Blue Ribbon Sports ในฐานะตัวแทนจำหน่ายของรองเท้ากีฬา Onitsuka Tiger ในอเมริกายุค 60 ถึงยุค 70 โดยควบหน้าที่พัฒนาไอเดียรองเท้าใหม่ ๆ ให้ Onitsuka ไปด้วย และรองเท้า Cortez ก็เป็นหนึ่งในผลผลิตลูกครึ่งญี่ปุ่น-อเมริกาที่เปรี้ยงปร้างที่สุดในเวลาของมัน
ป้ายโฆษณารองเท้าTiger ของ Blue Ribbon Sports
ในปี 1967 concept ของ Cortez เกิดขึ้นมาด้วยไอเดียของหนึ่งในผู้ก่อตั้ง Blue Ribbon โค้ช Bill Bowerman โค้ชทีมวิ่งระดับโอลิมปิคผู้เป็นทั้งที่ปรึกษาและช่างรองเท้าสติเฟื่องประจำบริษัท (ถ้ามีโอกาสหน้า เราจะเล่าเรื่องของเขาให้ฟังกัน) เขาได้ทดลองเอาพื้นรองเท้ากีฬาของ Onitsuka 2 รุ่นมาสอดใส้กัน ให้พื้นที่แข็งและทนทานของรองเท้ารุ่นนึงประกบแผ่นโฟมที่นุ่มและเด้งกว่าจากรองเท้าอีกรุ่นนึง ออกมาเป็น Tiger Cortez รองเท้าวิ่งระยะไกลรุ่นแรกของยุคนั้นที่มีทั้งความสบายและทนทานในคู่เดียวกัน
โค้ชโอลิมปิกและเซียนรองเท้าวิ่ง Bill Bowerman co-founder ของ Nike และเจ้าของไอเดียรองเท้ามากมาย
พื้นรองเท้าสอดไส้ของ Cortez โดยมีโฟมแข็งประกบชั้นโฟมนิ่มที่ไฮไลท์สีฟ้าสว่างเอาไว้ ซึ่งสไตล์การไฮไลท์ดีไซน์และเทคโนโลยีที่เด่น ๆ ให้เห็นได้ชัด ๆ แบบนี้จะเป็นเทคนิคโปรดของ Nike ไปอีกนาน เห็นได้จากพื้น Air ใสในปัจจุบัน
พ่อค้าหักเหลี่ยมโหด
รองเท้า Cortez คู่นี้ขายดีเป็นเทน้ำเทท่าทั้งในญี่ปุ่นและอเมริกา และถีบชื่อของรองเท้า Tiger ให้ดังขึ้นไปอีกในหมู่นักวิ่งมืออาชีพและสมัครเล่น มันเป็นตัวทำเงินเบอร์ใหญ่ให้กับ Blue Ribbon ที่ขายรองเท้ารุ่นนี้ได้เร็วพอ ๆ กับที่ซื้อเข้ามาและเป็นส่วนสำคัญในการเพิ่มยอดขายของบริษัทที่โตเร็วถึง 2 เท่าต่อปีหลายปีติดต่อกัน
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ระหว่าง Blue Ribbon กับ Onitsuka ก็มีแต่จะแย่ลงเรื่อย ๆ เนื่องด้วยผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัวกัน (เช่น Onitsuka พยายามที่จะเพิ่มจำนวนตัวแทนจำหน่าย Tiger ในอเมริกาเพื่อลดอำนาจต่อรองของ Blue Ribbon) บวกกับปัญหาในการส่งสินค้าจากญี่ปุ่นมาสหรัฐฯที่มักจะไม่ทันเวลาและความต้องการของตลาดนัก ซึ่งก็สร้างความกดดันให้ฝั่ง Blue Ribbon มาตลอด ด้วยเหตุผลเหล่านี้ ทีมงาน Blue Ribbon จึงได้ตัดสินใจเปิดแบรนด์ Nike ขึ้นมาอย่างลับ ๆ ไม่ให้ทางญี่ปุ่นรู้และทำรองเท้า Nike Cortez ของตัวเองจากโรงงานในเม็กซิโกมาขายควบคู่กับ Tiger Cortez ของ Onitsuka ที่ผลิตมาจากญี่ปุ่น เม็ดเงินจาก Nike Cortez เองก็ถูกนำเข้า Blue Ribbon โดยตรงเพื่อพัฒนา Nike รุ่นอื่น ๆ อย่าง Bruin และ Blazer ในช่วงนั้น
รองเท้า Tiger Corsair VS Nike Cortez
ป้ายโฆษณารองเท้า Nike Cortez ของ Nike
เมื่อความสัมพันธ์ของทั้ง 2 บริษัทขาดสะบั้นลงในเวลาต่อมา คำตัดสินของชั้นศาลได้รักษาสิทธิ์ของชื่อ Nike Cortez เอาไว้ให้ Blue Ribbon ในขณะที่ Tiger Cortez ก็ได้เปลี่ยนไปใช้ชื่อ Corsair แทน Nike Cortez จะยังได้รับการพัฒนาไปเรื่อย ๆ อีกหลายปี และจะเป็นรากฐานของแบรนด์ Nike ไปอีกนาน อีกทั้งยังได้ไปโผล่ในหนังสุดคลาสสิคเรื่อง Forrest Gump ด้วย
รองเท้า Cortez พร้อมกล่องสีส้มสดของ Nike แต่คู่นี้จะไม่ใช่รุ่นแรกผลิตของเมื่อยุค 70 สังเกตได้จากโลโก้ของ Nike ที่เป็นเวอร์ชั่น 2 แล้ว เวอร์ชั่นแรกจะเป็น swoosh ที่ไม่มีคำว่า NIKE ข้างใน และคำว่า NIKE จะใช้ตัวเล็กเป็น nike แทน (ดูภาพได้จากโปสเตอร์ด้านบน)
รองเท้า Nike Cortez Forrest Gump สังเกตได้ว่ามีแถบดึงด้านหลังที่รุ่นแรก ๆ ไม่มี และมีการเติม bumper ยางเป็นกันชนไว้ด้านหน้าเท้า
Nike Cortez มีการวิวัฒนาการตามยุคสมัยเรื่อยมา ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนวัสดุหรือปรับเปลี่ยนทรง
ส่งท้าย
ไม่ว่าจะใต้ชื่อ Tiger Cortez หรือ Nike Cortez ก็ตาม เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้า Cortez คู่นี้และความสำเร็จของมันนี่แหละที่เป็นตัวผลัก Blue Ribbon Sports ให้กลายมาเป็น Nike Inc ที่เรารู้จักกันดี
Credit
- Sole Collector: http://solecollector.com/news/2015/09/nike-cortez-history-72-nikelab
- Shoe Dog: A Memoir by the Creator of Nike (หนังสืออัตชีวประวัติของ Phil Knight ผู้สร้าง brand Nike ขึ้นมา แนะนำให้อ่านมาก ๆๆๆๆ เลยครับ)
- ภาพของ Corsair จาก http://blog.sportus.nl/posts/2013/januari/azteca,-cortez-en-de-cortair.aspx
- Sneakernews: http://sneakernews.com/