ตม.สิงค์โปร์ กักขัง ส่งตัวกลับไร้สาเหตุ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ .....เพื่อนๆ ทุกท่าน

ดิฉัน ก็เป็นอีกหนึ่งในหลายคน ที่ประสบปัญหาโดนกักตัวและไม่ให้เข้าประเทศ ก็เลยอยากจะเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพราะดิฉันเสียใจสุดๆ เพราะประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ดิฉันชื่นชมมาตลอด......

เมื่อวันที่ 4ตค.ที่ผ่านมา ดิฉันไปกับสามี(ต่างชาติ แต่งงานมา16ปี แถมนามสกุลก็ใช้ของสามีอีก) เราจองตั๋ว (NokScoot Airlines) ไป15:50 กลับ 22:00 (ในวันเดียวกัน) เช็คอินออนไลน์ไว้เรียบร้อย (สามีไปพบเพื่อนที่สนามบิน ส่วนดิฉันจะได้เดินซื้อของที่สนามบิน) เราออกเดินทางจากดอนเมือง15:50 แต่เครื่องDelay เป็น16:50 เราดีใจมากว่าจะได้มาสิงคโปร์อีกครั้ง วางแผนไว้ว่า ไปถึงนะ เราจะไปรับประทานอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในสนามบินชางฮี(สิงคโปร์) ซึ่งเป็นร้านที่เราชื่นชอบ ฉะนั้นเราจะไม่ทานอะไรแน่นอน รอไปถึงที่จุดหมายปลายทางแล้วค่อยรับประทาน เครื่องบิน Delay ถึงสิงค์โปร์20:00(เวลาท้องถิ่น) เดินไปเข้าช่องตรวจตรา ดิฉันอยู่ช่อง10สามีอยู่ช่อง1 จนท.ตม.(เป็นคนมุสลิม) ถามดิฉัน "Why do you comยิ้ม, Madam?(คุณผู้หญิง คุณมาที่นี่ทำไม?)  ดิฉันตอบว่า มากับสามี กะว่าจะมาซื้อของ พบเพื่อน สักพักก็จะกลับ (แปลแล้วนะคะ) และดิฉันก็เอา Boarding Pass  ขา
กลับ ให้จนท.ดู  จากนั้น จนท.ถามว่า ไหนล่ะ สามีคุณ? ดิฉันก็ชี้ไปที่ช่อง 1 จนท.ก็เงียบ แล้วก็เรียกให้ จนท.ผู้หญิงมารับตัวดิฉันไปหาสามีดิฉันและบอกให้รอ จากนั้นพาเราไปที่เคาน์เตอร์หน้าห้อง สนง.ตม.แล้วก็ถามว่า มาทำไม ผู้ชายคนนี้คือใคร สามีดิฉันว่า "นี่ภรรยาของผมนี่ทะเบียนสมรส กรุณาดูนามสกุลของเธอด้วย เรานามสกุลเดียวกัน นี่นามบัตรของภรรยาผม เธอเป็นเจ้าของบริษัท เรามาสิงคโปร์บ่อย บางครั้งมาเช้ากลับเย็น บางครั้งมาพักค้างคืน มาเที่ยว มาทำธุรกิจกับเพื่อน" จนท.ก็ถามว่ามีเพื่อนที่นี่ไหม ขอเบอร์โทรเพื่อนด้วย ดิฉันเอานามบัตรของเพื่อนที่สิงคโปร์ให้ ดิฉันบอกไปว่า เพื่อนไปๆมาๆ สิงค์โปร-อินโด และเพื่อนอีกคนทำงานที่สิงคโปร์แต่จะกลับยะโฮบารูฮ์(ฝั่งมาเลเซีย)ทุกวัน มาเช้าเย็นกลับ เราเขียนเบอร์โทรให้ซึ่งเป็นเบอร์มาเลเซีย จนท.บอกว่า "เราจะไม่โทรนะ เพราะผมบอกคุณให้เอาเบอร์สิงคโปร์ให้ แล้วนี่เป็นเบอร์ประเทศอื่นเราจะโทรได้ยังไง"  เขาหันไปพูดกับสามีดิฉันว่า " คุณรู้ไหม วีซ่าของคุณในไทยเป็นวีซ่าเยี่ยมคู่สมรส ผมสามารถทำให้วีซ่าของคุณยกเลิกได้" ดิฉันกับสามีมองหน้ากัน และ เกิด งง มากๆ ดิฉันเลยถามเขาไปว่า "ดิฉันไม่ทราบค่ะ ว่าประเทศไทยกับสิงคโปร์ มีความสัมพันธ์กันจนสามารถเพิกถอนวีซ่า กันได้ ทำได้หรือคะ? "  จากนั้น จนท.เงียบไป  และบอกให้เราเข้าไปนั่งรอในห้อง (เป็นห้องกระจกแก้ว เข้าออกจากบัตรคีย์การ์ดของ จนท.เท่านั้น) ก่อนเข้าห้องดิฉันขอรหัส WiFi ของสนาบิน พอจะได้ติดต่อกับเพื่อนได้ พอเข้าห้อง เขาล๊อคห้อง เข้าออกไม่ได้แล้ว เรานั่งรออยู่20นาที เราก็โทร(โดยWhatapp)หาเพื่อนเพื่อบอกเพื่อนว่า เกิดเหตุแบบนี้ เพื่อนจะขอคุยกับจนท.เราเคาะประตูบอกจนท.ว่า เพื่อนขอคุย จนท.เปิดประตูแล้วก็บอกว่า ไม่คุย ให้เรารอไป พอ21:00(เวลา สิงคโปร์)เราแจ้งว่า ถึงเวลาBoarding แล้ว จนท.ทั้งหลายก็ว่า นั่งรอไป เดี๋ยวเขาจะแจ้งให้สายการบินมาประสานงานรับตัวกลับไป เพราะเขาจะส่งเรากลับไทย เราถามว่า สาเหตุอะไรที่เราต้องมานั่งในห้องนี้ จนท.บอกว่าไม่รู้ ไม่ทราบ ให้นั่งรอต่อไป  จนเวลา22:00 เราก็เคาะประตูเรียก จนท.บอกว่า เครื่องเราออกแล้ว จะให้จองเที่ยวใหม่หรือไม่ จนท.ก็ไม่พูดอะไรแถมเดินออกไป เรารออยู่จนถึง 01:15 ก็มี พนง.ของ Scoot Airline เดินเข้ามาในห้องแต่ไปคุยกับ ผู้หญิงอีกคน(ที่โดนกักเหมือนเรา)และคุยเรื่องเที่ยวบินใหม่ ดิฉันเลยถามพนง.คนนั้นว่า มีชื่อเรา2คนบ้างไหม พนง.ก็เปิดดูในแฟ้ม ก็บอกว่า มี แต่เขาต้องคำสั่งจาก จนท.ตม.ก่อน สักพักเขาก็เดินออกไป เราก็นั่งรอต่อไป เราต้องนั่งรอแบบทั้งหิวทั้งโมโห เวลา02:00 ก็มี พนง.Scoot  Airline คนใหม่ มาแจ้งเราว่า จะจองเที่ยวบินเช้าสุด 06:30 ให้เราบินกลับดอนเมือง แต่สักพักจะมี คนมาพาเราไปห้องพักในสนามบินนี่ล่ะ เพื่อให้เราพักผ่อนจนกว่าจะได้บิน 02:36 มี รปภ.ของสนามบินมาเปิดประตูแล้วให้เราตามเขาไป พอเปิดประตูห้อง ดิฉันถาม จนท.ตม.ทุกคน(มี6คน)ว่า ขอถามหน่อย ดิฉันผิดอะไรถึงต้องกักกันไว้แบบนี้ ทุกคนมองหน้ากันและก็มาว่า "We don't know and can't tell you Madam"  เราเดินตาม รปภ.ไปจนถึงห้องพัก(เขาเรียกว่าอย่างนั้น แต่ดิฉันเรียกว่า ห้องขัง) เปิดประตูเข้าไป ซ้ายมือเป็นห้องน้ำหญิง ห้องสูบบุหรี่ ห้องน้ำดื่มห้องน้ำชาย ล็อคเกอร์ ห้องพักหญิง ขวามือ เป็นที่นั่งพักชาย ห้องพักชาย ห้องทำงานของ จนท.(ห้องกระจก) ถัดมา เป็นโต๊ะทำงาน เคาน์เตอร์ และ จุดนั่งพักหญิง ซึ่งเห็นผู้หญิงไทยนั่งอยู่ประมาณ 8คน สักพักพวกเขาก็โดนไล่เข้าห้องพัก เขาบอกขอยึดทุกอย่าง เอาไปไว้ในล๊อคเกอร์ เอากุญแจให้สามีดิฉัน1ดอก เขาเก็บไว้1ดอก จากนั้นเขาค้นตัวสามีดิฉัน และให้ดิฉันหมุนตัวให้แน่ใจว่า ไม่มีอะไรติดตัว และให้ดิฉันและสามีแยก แดน/เขต ห้ามอยู่ใกล้กัน เขาชี้ไปที่โต๊ะบอกว่า นี่ชา หรือกาแฟ เอาแก้วโฟมไปเติมน้ำร้อน/น้ำเย็นได้จากอีกห้องหนึ่ง สามีดิฉันบอกเขาว่า ดิฉันยังไม่ได้ทานอะไร เขาก็เดินเข้าห้องไป เดินออกมากับ บะหมี่ถ้วย ดิฉันก็ทานบะหมี่ สักพักเขาก็ให้เอา หมอน ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ออกมาให้เราคนละชุด ดิฉันรับแล้วเข้าห้องพักมี2ห้อง ห้องที่1มีเตียง2ชั้น8เตียง เต็มไปด้วยผู้หญิงไทย(ได้ยินเขาคุยกันเป็นภาษไทย) เดินเข้าห้องที่2 มีอีก8เตียง มีหญิงชาวจีน เวียดนาม ญี่ปุ่น ดิฉันปีนขึ้นเตียงชั้น2 ปูผ้าปู พยายามหลับตาแต่นอนไม่รับ เพราะมีหญิงไทยเข้ามาเพิ่มอีก7-8คน เวลา 05:00มี จนท.หญิงมาเรียกชื่อดิฉันให้ออกไปรอที่ห้องโถง สักพักสามีดิฉันก็ออกมาจากห้องพัก จนท.เปิดล๊อคเกอร์เอาสัมภาระให้เรา และให้เดินตามเขาไป เขาพาไปจุด มี จนท.ตม. ขาออก เรารอรับพาสปอร์ต จนท.บอกเดี๋ยวให้ พนง.Scoot ถือไป ไปที่ Gate22 สามีดิฉันถาม จนท.ตม.อีกว่า "ขอถามอีกครั้งครับ เราโดนส่งกลับด้วยเหตุผลใด? เขาก็ตอบว่า " ไม่สามารถบอกได้ว่าเหตุผลใด เพราะไม่มีเหตุผล" จากนั้นเขาก็สั่งให้ พนง.Scoot พาเราไป Gate เร็วๆ  เราไปถึงนั่งรอ พนง.คนนั้นจัดการคุยที่เคาน์เตอร์หน้า Gate แล้วเรียกเราให้เซ็นเอกสาร(Letter of undertaking) พร้อมที่อยู่ในไทย จากนั้นก็แจ้งเราว่า เราต้องจ่ายค่า IP Chargers  (ค่าห้องพัก อาหาร )ที่เราใช้บริการเมื่อคืน!!! เราอ่านที่เราเซ็นไป เขาว่า เราต้องชำระกับ Scoot Pte.,Ltd. คนละะ 118 USS(Singarpore) ดิฉันว่า ดิฉันไม่จ่าย ขอสำเนาด้วย และบ่น พนง.ว่า จับดิฉันมาขัง ปล่อยให้ดิฉันพลาดเที่ยวบิน แถมจะมาคิดเงินอีก!! พนง.ว่า ไปถึงไทยค่อยไปจ่ายกับสายการบิน NokScoot ที่ไทยก็ได้ เขาไม่ให้สำเนา ดิฉันเลยหยิบมือถือ มาถ่ายเอกสารที่เซ็นค่ะ จากนั้นเขาพาขึ้นเครื่องบิน เอาพาสปอร์ตให้ พนง.ต้อนรับ พอถึงดอนเมือง เขาก็ส่งต่อ พาสปอร์ให้ พนง.Nokscoot ภาคพื้น พนง.พาเราเดินเข้าห้องสอบสวน ตม.ดอนเมือง  จนท.ตม.สอบถามเราว่า เรื่องเป็นมายังไง ทำไมทางสิงคโปร์ใจร้ายจัง จนท.ตม.ไทยทุกคนปฏิบัติกับเรา2คนดีมาก และบอกว่า เป็นธรรมดานะ หญิงไทยที่เดินทางไปสิงคโปร์ และเกาหลี จะโดนตีกลับวันละเกือบ8คน ด้วยเหตุผล "๊Immigration Reason" ดิฉันก็ยัง งง สงสัย ว่า ด้วยเหตุใดดิฉันจึงโดนกักตัวและส่งกลับ  ทั้งๆที่ดิฉันไปเที่ยวสิงคโปร์ปีละ3-4ครั้ง เลยผิดหวังและไม่ประทับใจประเทศนี้อีกเลย และยังค้างคาใจอยู่ว่า เหตุอะไร ที่เราต้องโดนส่งกลับ  เพราะการแต่งตัวของดิฉัน คือก็ใส่เสื้อเชิ๊ตแขนยาว ใส่แว่นตามาตั้งแต่เด็ก อายุก็เข้าวัยกลางคนแล้วค่ะ เหมือนมนุษย์ป้าเลยค่ะ........

ปล.  1.ช่วงที่ดิฉันเดินไปหาสามีที่ช่อง1 จนท.ปั้มพาสปอร์ตให้เขาแล้วค่ะ แต่สามีไม่อาจทิ้งดิฉันไว้คนเดียว
       2.เมื่อ 2 เดือนที่แล้ว ดิฉันและสามีก็เดินทางไปสิงคโปร์เหมือนกัน(โดย AirAsia เวลา 15:20  กลับไทย 22:25 เที่ยวนี้ไม่ได้ทำ Visa Run ค่ะ ตั้งใจไปร้านอาหาร Nans'do ที่ Terminal 2)  แต่ก็ผ่านไปได้นะคะ  
       3.ดิฉันไม่เห็นกฎหมายในสิงคโปร์ข้อไหน ที่ห้ามคนที่มีวีซ่าเหลือน้อยจากประเทศอื่น เข้าประเทศค่ะ
       4. คิดว่า ครั้งนี้ คงถึงคราวซวยของดิฉัน ทุกครั้งที่ไปสิงคโปร์ ไม่เคยได้เจอเหตุการณ์เหมือนครั้งนี้ค่ะ คงเป็นเพราะเที่ยวบินดีเลย์เลยเกิดเรื่อง เพราะเวลาอาจจะกระชั้นชิด
       5.ในเมื่อ ดิฉันแสดง Boarding Pass ขากลับ  ต่อ จนท.ตม. ถ้าจะให้เรากลับทำไม  ไม่ให้เรากลับเลยคะ ทั้งๆ ที่เช็คอินไว้หมดแล้ว ทำไมต้อง กักตัวเราไว้ ให้ไปเที่ยวต่อไป

ขอบคุณทุกท่าน  สำหรับความคิดเห็น.....
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่