ถ้ารู้สึกว่ามีวิญญาณแฝง แก้ไขอย่างไรได้บ้างคะ

ก่อนอื่นขอบอกก่อนนะคะว่ากระทู้นี้เป็นกระทู้เกี่ยวกับความเชื่อส่วนบุคคลล้วนๆ หากใครไม่เชื่อกรุณาข้ามไปเลยนะคะจะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะเราป่วยและไม่มีแรงพอจะโต้วาทีกับใครในตอนนี้ค่ะ

ขอวิธีการแก้ไขด้วยตัวเองในกรณีที่รู้ว่ามีวิญญาณแฝงค่ะ แท็กห้องศาสนาพุทธนะคะเพราะต้องการทางแก้แบบพุทธ ไม่ขอไปหาคนทรงหรือหมอผีนะคะกลัวโดนซ้ำหนักกว่าเดิม อยากทราบว่าสวดบทพุทธคุณบ่อยๆจะช่วยได้ไหมคะ หรือต้องทำอะไรมากกว่านี้

ปล. เรากำลังจะลองไปทำ MRI ดูนะคะ เพราะอาการมึนหัวเราเป็นมานานมากตั้งแต่ ก.ค. ดีขึ้นแต่ก็ไม่หาย เพราะอยากรู้ว่าเป็นอะไรกันแน่ แต่เนื่องจากราคาแพงมากเลยต้องขอเก็บตังค์รอไว้ทำต้นปี และระหว่างนี้เลยลองมาตั้งกระทู้ขอความเห็นค่ะ

ขอเกริ่นก่อนนะคะเพราะคงมีคนสงสัยว่าเรารู้ได้อย่างไรว่ามีวิญญาณแฝง คือเราเป็นคนมีเซนส์มาตั้งแต่ช่วงเรียนมหาวิทยาลัย แต่ก็ไม่ได้มีเยอะมากมาย พอสัมผัสได้บ้างไม่ได้บ้าง ฝันเห็นมีคนมาขอส่วนบุญบ่อยๆ หลังๆเริ่มเห็นตอนไม่ได้หลับ แต่อันนั้นข้ามไปนะคะไม่ใช่สาระสำคัญ เวลาเราสวดมนต์เสร็จแล้วแผ่ส่วนกุศล ถ้าวันไหนจิตเรานิ่งพอ หรือวันไหนที่เป็นวันพระ เราจะสัมผัสได้เยอะกว่าปกติ คือจะมีอาการขนหัวลุก อาการขนลุกบริเวณท้ายทอย ซึ่งก็เข้าใจว่าน่าจะมีใครมารับส่วนที่กุศลที่เราแผ่ให้ แต่นั่นก็เป็นอาการปกติค่ะ แล้วนอกจากอาการนี้ เราจะมีอาการกับศาลเจ้าบางแห่ง และพวกเครื่องรางของขลัง โดยเวลาเข้าศาลเจ้าก็จะมีอาการใจสั่นและเริ่มมึนหัว ถ้าออกมาก็จะเริ่มมีอาการดีขึ้น บางทีจับพวกเครื่องรางของขลังก็จะมีอาการเดียวกัน พอปล่อยก็หาย แต่จะค่อยๆหาย ไม่ได้หายทันที

ตอนแรกเราก็ว่าอาการพวกนี้มันก็คงไม่ได้มีอะไรมากมั้ง ไม่ได้รบกวนชีวิตประจำวันเรามากเท่าไหร่ แต่เมื่อช่วง ก.ค. ที่ผ่านมา เราไปงานศพญาติคนหนึ่งของสามีแล้วมีอาการปวดหัวมากปวดจนลืมตาไม่ขึ้นและมีอาการผะอืดผะอมด้วย ตั้งแต่ตอนพระสวดจบที่สอง หลังจากนั้นอาการก็ไม่หายเป็นมาประมาณหนึ่งสัปดาห์ เอาเป็นว่าระหว่างนั้นเราค่อนข้างแน่ใจว่ามีใครตามเรามาจากกงานศพแน่ๆ แล้วเราหาวิธีเอาเขาออกไปได้แล้ว หลังจากนั้นอาการผะอืดผะอมก็หายไปแล้ว

แต่สิ่งที่ยังเป็นอยู่คืออาการมึนหัว ตอนแรกเป็นตลอดเวลาแต่ตอนนี้ลดน้อยลงไปเยอะ แต่ยังไม่หาย อาการนี้ถ้าเป็นอาการมึนหัวธรรมดา เราก็คงไปรักษาตามปกติ แต่อาการนี้เรามักจะเป็นตอนไปบ้านสามี บางทีมึนแล้วมีอาการขนหัวลุกตามไปด้วย เราก็เลยสวดบทไล่ผีที่คุณน้าเราเคยสอนไว้ สรุปว่าอาการชัดเลยค่ะ อาการขนหัวลุกตั้งแต่หัวยันปลายเท้า ตอนนั้นเราน้ำตาไหลเลย คือรู้ว่าต้องมีอะไรในตัวเราแน่ๆ ไปถามน้าเราที่นั่งทางในได้เขาบอกว่ามีใครแฝงอยู่นานแล้วแต่ยังไม่มีอาการอะไร ซึ่งคุณน้าเราไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นใคร แล้วเพิ่งมามีอาการหลังงานศพนี่เอง

เราก็เลยสวดมนต์กรวดน้ำไปตามเรื่องเพราะก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงเหมือนกัน ลองไปปฏิบัติธรรมที่วัดก็ยังไม่หาย มีอาการผิดปกติตอนไปเรียนครั้งแรกด้วย คือพอเข้าไปในห้องเรียนของวัดเท่านั้น อาการเราออกเลย มีอาการเหมือนอึดอัดหายใจไม่ออก เหมือนโดนบีบหัวใจอย่างรุนแรง พร้อมอาการมึนหัวอย่างที่เคยเป็น แต่อาการเหมือนโดนบีบหัวใจแบบนี้เราไม่เคยเป็นมาก่อน ได้แต่บริกรรมบทพุทธคุณ จากนั้นก็ค่อยๆหาย แต่หลังจากนั้นเข้าวัด เข้าอุโบสถก็ไม่ได้เป็นอะไร เป็นปกติทุกอย่าง

หลังจากวันนั้นเราเข้าวัดไปปฏิบัติธรรมแบบค้างคืนก็ไม่ได้มีอาการแบบวันนั้นอีก แต่อาการมึนหัวก็ยังมี โดยเฉพาะตอนเดินจงกลม ก่อนหน้านี้คุณแม่เคยเอาพระกรุมาให้ใส่ก็ใส่ไม่ได้ เกิดอาการมึนหัวอย่างรุนแรง จนต้องเอาออก ซึ่งปกติเป็นเฉพาะกับเครื่องราง กับพระพุทธจะไม่มีอาการนี้เลย แต่ตอนนั้นเป็น พอเอาฮู้ที่เขาล้างป่าช้ามาพก ก็พกไม่ได้ มึนหัวมากเหมือนเดิม พอเลิกพกก็หาย เคนครั้งหนึ่งตอนช่วงจะเข้าพรรษา ที่ห้างจะมีตั้งพระพุทธรูปไว้แล้วให้คนไปบริจาคเงินถวายเทียน เราก็บริจาคแล้วเอาแผ่นเทียนกลมๆไปไว้ที่ฐานพระ เสร็จแล้วก็อธิษฐานผลบุญแผ่ให้เจ้ากรรมนายเวร ตอนนั้นก็เกิดอาการมึนหัวอย่างแรงขึ้นมา คือตอนนั้นรู้แล้วว่าไม่ใช่อาการปกติแล้ว ต้องมีอะไรไม่ดีแฝงอยู่แน่ๆ เพราะปกติไม่เคยมีอาการกับพระพุทธเลย แต่หลังจากครั้งนั้นเราก็สวดมนต์ไปตามเรื่องของเรา อาการมันก็น้อยลง แต่ก็ไม่หาย แต่หลังจากนั้นเราก็ไม่มีอาการนี้เวลาไหว้พระอีก คือไปวัดก็ไม่มีอาการอีก เป็นแค่ตอนนั้น

เพียงแต่ตอนนี้ จะมีมึนหัวบ้างปนกับอาการขนหัวลุกเป็นพักๆ เวลามีอาการก็จะบริกรรมบทพุทธคุณก็จะดีขึ้น แต่ก็ไม่ได้หายซะทีเดียว แต่ก็พออยู่กับมันได้ เลยอยากทราบว่านอกจากการสวดพุทธคุณแล้ว เราต้องทำอะไรเพิ่มเติมบ้างไหมคะ ขอบคุณทุกท่านมากค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่