2016 : สิงค์โปร์ปวดขาแค่ไหน??.. ถามใจเทอดูววว์ 3วัน2คืน

[CR] 2016 : สิงค์โปร์ปวดขาแค่ไหน??.. ถามใจเทอดูววว์ 3วัน2คืน

กระทู้รีวิว

เที่ยวต่างประเทศ Backpack ประเทศสิงคโปร์ บันทึกนักเดินทาง

ช่วงเวลาเดินทาง 4-6 ตุลาคม 2559

คำโปรย
ทริปนี้ไม่มีอะไรมาก ไปฉลองวันเกิดคุณแฟนกันที่สิงคโปร์เลยบังเกิดทริป 3 วัน 2คืน

ข้อมูลเบื้องต้นก่อนเดินทางไปสิงคโปร์
A:ตั๋วเครื่องบิน
:: ส่วนตัวจขกท.จองกับ Asia go via Expedia จองตั๋ว+รร.Big Hotel ย่าน Bugis ในราคารวมทั้งหมด 14,433 บาท (ราคา 2 คน) เดินทางโดยแอร์เอเชียไฟล์07.05-10.25น. และขากลับไฟล์ 20.40-22.05น. สิริรวม 3 วัน 2 คืน
TIPS :: สำหรับตั๋วเครื่องบินสิงคโปร์ในปัจจุบันมีหลายสายการบินมากกกกกกกก ทั้งของในประเทศเราอาทิเช่นแอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนหรือจะเป็นสายการบินต่างประเทศเช่นสิงคโปร์แอร์ไลน์ เจทสตาร์ นกสกู๊ต และอื่นๆอีกมากมายทั้งนี้ขึ้นอยู่กับงบประมาณและความสะดวกของแต่ละคน
        :: เลือกช่วงที่ไปMonitorช่วงวันที่ราคาตั๋วถูก เช่น ควรหลีกเลี่ยงขาไปในวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์และช่วงวันหยุดยาวเพราะมันจะแพงไว้สำหรับคนมีสตางค์โน๊ะ ง่ายๆก่อเข้า Skyscanner เลยจ้า

B:ที่พัก
สิงค์โปร์มีห้องพักหลายๆรูปแบบ ตั้งแต่ 5 ดาวแบบ Marina Bay Sand หรือรองลงมา 4 ดาว 3 ดาว , Hostel แล้วแต่งบประมาณและความชอบของแต่ละคนเลย แต่ถ้าจะให้แนะนำ ให้เข้าไปอ่านคอมเม้นใน Tripadvisor ว่าแต่ละรร.เป็นยังไง อยู่ในช่วงปรับปรุงหรือป่าว ใกล้สถานีรถไฟฟ้าอะไร
TIPS ::
1เลือกวันที่ไม่แพง : ถ้าจะไปพักสิงคโปร์จะราคาสูงช่วงวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์

2.ขนาดห้องพัก : ห้องพักสิงคโปร์คุณต้องทำใจหน่อยว่าห้องพักราคานี้คือถ้าเทียบกับบ้านเราอาจจะกินอยู่แบบสบาย มันคือที่พักที่มีไว้แค่อาบน้ำและนอน

3.ย่านที่พัก : สำหรับสิงคโปร์ กรณีมือใหม่หัดเที่ยว แนะนำให้พักย่านใกล้ MRT เพระาจะไปไหนก่อง่าย

4.เลือกที่พักที่ดูดีบางคนจะบอกว่าที่พักจองยังไงก็ได้ เพราะนอนแค่ไม่กี่ชั่วโมง ถูกค่ะ นอนไม่กี่ชั่วโมง แต่ก็สำคัญเหมือนกัน เพราะสิงคโปร์เป็นอะไรที่เดินเยอะจริงๆ เหนื่อยมากๆ กลับมานอนก็อยากนอนที่สะอาดๆ มีน้ำอุ่นๆให้อาบ

5.น้ำดื่มฟรีสำคัญ ควรจะหาที่ๆมีน้ำให้เราดื่มฟรีไม่อั้นนะคะ เพราะสิงคโปร์น้ำแพงมาก ขวดละ 40++ บาท ดังนั้นการเอาขวดเปล่ามากรอกน้ำที่โรงแรมกินจะช่วยประหยัดได้เยอะ

6.อุปกรณ์เสริมแต่ละโรงแรม อาทิเช่นไดร์เป่าผม อย่าไว้ใจโรงแรมทั้งหลายนะค่ะเพราะไดร์ที่เค้ามีให้เป่าประมาณ 1 ชม.ผมถึงจะแห้งคือมันเล็กและเก่ามาก สาวๆคนไหนต้องเซตต้องดัดแนะนำให้เอาไปเองนะค่ะ

C.ทำแผนการท่องเที่ยว
     ทำรายละเอียดในการเดินทางในแต่ละวัน ว่าจะไปที่ไหนบ้าง  ใช้เวลาประมาณเท่าไร เพื่อเราจะได้เก็บลายแทงให้ครบให้หมดเท่าที่จะเป็นไปได้ แล้วปริ้นส์ใส่แฟ้มเราไว้ กันเหนียวโดยการแค๊ปเจอร์ใส่โทรศัพท์ไว้ด้วยก็ได้
TIPS ::
1.เก็บขึ้น cloud หรือ Dropboxควรเก็บแผนนี้ไว้ใน public cloud storage  เพื่อเป็นแนวทางในการเดินทาง อย่าลืมปริ้นส์manualไว้ติดกระเป๋าด้วยนะ

2.มีแผนที่สามารถขยับได้ แผนที่ทำไว้ควรสามารถขยับสับเปลี่ยนได้ตามเวลาและสภาพอากาศ ทั้งเรื่องการเที่ยวและการกิน

3.ดาวน์โหลดแอ๊ปภาษาจีน ภาษาอังกฤษ MTR  Bus โหลดไว้กันเหนียว!

D.เตรียมตัว
1.ซื้อบัตรไปล่วงหน้า ไม่ว่าจะเป็น USS หรือ Garden by the bay  ฯลฯ สามารถหาซื้อได้จากไทยไปเลย หรือใครมีเวลาแวะเวียนไปย่าน China Town ก่อไปซื้อห้าง People  Park ชั้น 3 ก่อได้ ราคาถูกกว่าซื้อจากไทยด้วย

2.บัตรโดยสาร MTR : ณ จุดนี้บัตรโดยสารของ MTRมีหลายประเภทนะค่ะ ลองหาข้อมูลดูก่อนว่าเราจะใช้ประเภทไหนคุ้มสุด ส่วนตัวเราใช้ Tourist pass 3 day ราคา 20$ มัดจำ 10$ เดินทางได้แบบ Unlimited  3 วันเลยจ้า
**จะบอกว่าบัตร Tourist pass มีขายแค่บางสถานีนะค่ะ ถ้าให้ดีซื้อตั้งแต่สนามบินเลยจะดีมาก

3.ตัวหัวปลั๊ก convertor ปลั๊ก3ตาและปลั๊กพ่วง เตรียมไปก่อนอย่างละอันแต่ส่วนใหญ่ทางโรงแรมจะมีไว้ให้แล้ว1อัน

4.ยาคลายกล้ามเนื้อและยานวด อันนี้สำคัญคือมันปวดจริงๆค่ะ ด้วยว่าเดินเยอะรถไฟใต้ดินของเค้าไม่ธรรมดานะค่ะ ซับซ้อนมีช่องทางออกหลายประตูจะไปไหนแต่ละทีต้องเดิน เดิน เดินเป็นว่าเล่น ถือว่าเตือนแล้วนะเออ รวมทั้งยาแก้แพ้และยาพาราด้วยค่ะ เพราะบางทีอาจจะเจอฝนปอยๆหรือบางคนอาจจะแพ้ควัน(คนสิงคโปร์สูบบุหรี่จัดนะค่ะ)อาจมีน้ำมูกไหลทำให้นอนไม่หลับ เที่ยวไม่สนุกได้

5. ทิชชู่เปียก+แห้ง สำหรับทิชชู่เปียก สืบเนื่องจากห้องน้ำที่สิงคโปร์ แม้จะสะอาด แต่ไม่มีสายชำระ แม้แต่ในโรงแรมหรูๆ เพราะซื้อที่นู่นแพงมาก

6. ตรวจเช็คสภาพอากาศ แลกเงิน เช็ค passport ว่าหมดอายุหรือยัง

7.ซิมการ์ด แนะนำให้ซื้อที่ 7-11 แนะนำให้ระบุว่าของที่ 15$ แนะนำยี่ห้อ Signtal นะค่ะ เพิ่งใช้ Starhub ไปสัญญาณไม่ค่อยดีเลย
อย่าคิดไปหวัง Wifi ฟรี แบบฮ่องกง น้อยยยยยยยยยยยยยยยยมาก

8.อื่นๆ : เราแนะนำให้เตรียมรองเท้าผ้าใบหรือรองเท้าอะไรก็ได้ที่supportเท้ามากที่สุดเพราะระยะทางของที่เที่ยวต่างๆก็ดีล้วนไกลทั้งนั้นค่ะต้องอาศัยการเดินจากสถานีรถไฟฟ้าไปยังที่ต่างๆ  ,ร่ม เนื่องจากสิงคโปร์เป็นเมืองเกาะลมฟ้าอากาศจึงไม่คงที่ตามที่พยากรณ์เท่าไร

**ผู้หญิงแนะนำให้ปริ้นส์ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ การจองโรงแรม ตม.ตรวจนะค่ะ

ลุย!!!
วันที่1 : 4 ตุลาคม 2559 ออกเดินทางจากสนามบินดอนเมืองมุ่งหน้าสิงคโปร์
แผนการเที่ยววันแรกคร่าวๆ : สนามบินดอนเมือง -> สนามบินสิงคโปร์ -> โรงแรม Big Hotel ->China Town-> Fountain of Wealth (Suntec City) -> Duck Tour -> OCBC Skywalk Supertree -> Clark Quey
ไฟล์ 07.05 พร้อมทั้งเช็คอินเรียบร้อย ตม.คนเยอะมว๊ากกกกกกกกกกกกกกกก ต่อคิวยาวๆไป เข้าเกตมาไม่มีอะไรกินอีกต่างหาก ถึงสนามบินตรงเวลา คนไม่พลุกพล่าน ตม.ผ่านง่ายไม่โดนดัก ออกจากตม. เดินตามๆเข้าไปที่ Skytrain to T2 ถึงแล้วไปที่ Ticket office (ไม่ว่าจะตั๋วอะไรก่อซื้อที่นี่นะค่ะ) เสร็จแล้วมุ่งหน้าไปโรงแรม ระหว่างทางแวะ 7-11 เพื่อซื้อซิมการ์ดก่อนเด้อ โรงแรมเราอยู่แถวย่านBugis แต่ถ้าให้แนะนำขึ้นรถไฟฟ้า Brasbasah มาง่ายกว่า ออกสถานี Bugis มาเดินโคตรรรรรไกล จากสนามบินเรามาถึงโรงแรม Big Hotel 12.00น. พอดี

หลังจากเก็บของเสร็จก็ออกเดินทางไป China Town โดย MTR BrasBasah Exit D ก่อนถึงทางเข้ามี Food Republish แวะกินซะหน่อย เมนูข้าวมันไก่ ราคา 8$ และลูกชิ้นทอด น้ำโค้กกระป๋อง+น้ำแข็งครึ่งแก้ว 1.2$

กินเสร็จเดินทางต่อปลายทางอยู่ที่ China Town Exit D โผล่ออกมาเดินขึ้นไปชั้น 3 ไปร้าน Sea Wheal Travel
ซื้อตั๋ว Universal 62$ ,, Duck Tour 27$ และ OCBC Skyway 5$ ตอนแรกแพลนว่าซื้อตั๋ว MBS Sands Skypark ไปดูพระอาทิตย์ตกบน Marina Bay Sands แต่ว่าน่าจะ Fail ก่อเลยเปลี่ยนใจไม่ซื้อ ซื้อเสร็จเดินมุดลง Exit D เหมือนเดิม ไปโผล่ Exit A (ไม่ต้องเดินบนถนนมันร้อน) วันที่ไปเดินอากาศร้อนถึงร้อนมาก เราเลยไปตามแลนด์มาร์กไม่ครบ
ย่าน China Town จะมีที่เที่ยประมาณนี้ :
1.ชิมหมูแผ่น Bee Cheng Hang
2.China Town Heritage Center
3.วัดศรีอมาริอัมมัน(วัดแขก)
4.วัดพระเขี้ยวแก้ว ,
5.Maxwell food Center (กินข้าวมันไก่ Tian Tian Hainanese)
6.ตึก Red dot Traffic
** แต่ด้วยอากาศร้อนเราเลยไม่ได้ไป Maxwell และ ตึก Red dot Traffic // ทริป China Town เสร็จสิ้นประมาณ 15.00 น.

หลังจากนั้นขึ้นรถไฟฟ้าไปต่อที่ Fountain of Wealth ที่ห้าง Suntec City โดย MRT Promenade Exit C แล้วเดินตามป้ายไปเลยจ้า

ห้าง Suctec City จะมีอยู่ 5 ตึก ไปที่ Tower Five (ถ้างงถามในร้านค้าต่างๆได้เลย) เพื่อไป Duck Tour เป็นทัวร์สะเทินน้ำ สะเทินบก พาทัวร์รอบเมืองสิงคโปร์ บรรยากาศดีมากกกกกกกกกกกกก ช่วยบรรเทาอาการปวดขาและลดเวลาการเดินรอบๆเมืองได้ดีทีเดียว ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง

หลังจากนั้นก่อกลับไปที่รถไฟใต้ดินเหมือนเดิม แล้วมุ่งหน้าไป MRT Bayfront ทางออก Gardens by the Bay เดินไปไกลพอสมควร ไปถึงก่อไปต่อคิวเพื่อขึ้น Skywalk (***ปิดรับคิว 20.30น.) จะมีการแสดง แสง สี ของกลุ่มต้นไม้ Supertree ใน Gardens by the Bay ประกอบจังหวะกับเพลง Rainforest Orchestra – Australasia และ Oceania สามารถเข้าชมได้ฟรี มีการแสดงวันละ 2 รอบ ครั้งละ 15 นาที คือรอบ 19.45 และ 20.45 น.

*** ที่จริงจาก OCBC จะมีทางเดินเข้าไปในโรงแรม Marina Bay Sands ทะลุไปห้าง The shoppes ลงชั้นล่างสุดจะมีคลองจำลอง(แบบมาเก๊า) มีเรือกอลโดล่า เดินตามคลองจำลองไป หรือถามเอาก่อได้จะไปโผล่ The helix bridge เดินไปเรื่อยๆอีกจะไปถึง Merlion เลย***

ปิดท้ายวันแรกด้วยความหิวมากๆๆๆๆ แย้วไปปิดท้ายกันที่ร้านJumbo Seafood มาที่สาขาRiverside ไปโดย MRT Clarke Quey exit G เดินเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ มื้อนี้หมดไป 3000+++ บาทเสร็จแล้วก่อกลับโรงแรม

วันที่2 : 5 ตุลาคม 2559
แผนการเที่ยววันแรกคร่าวๆ : วัดเจ้าแม่กวนอิม (kwan im thong hood cho temple) --> Universal Studios Singapore --> Merlion --> The Helix bridge

วัดเจ้าแม่กวนอิมจะอยู่แถมโรงแรม ibis bugis เปิด GPS แล้วเดินไป วัดนี้ใส่กระโปรงสั้น กางเกงขาสั้นเข้าได้ แต่ห้ามถ่ายรูป

จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าไปลงที่สถานี HarbourFront (CC29/NE1) ที่ห้าง Vivo City ถึงห้างแวะไป Food Court หรือ Food Republic หาอะไรรองท้องก่อน เสร็จแล้วให้เดินตามป้ายไปทาง VivoCity หรือ Sentosa Express ได้บัตรมาจากร้าน หรือเมืองไทยอย่าเพิ่งชะล่าใจไป ต้องซื้อตั๋วรถไฟด้วยนะจ๊ะ วิธีข้ามไปเกาะ Sentosa มีหลายแบบนะทั้งแบบเดิน รถไฟ นั่งกระเช้า ตามกำลังทรัพย์เลย