อย่าเพิ่งโฟกัสที่ยกเลิกบัตรไหน
ให้โฟกัสที่ควรเก็บบัตรไหนดีกว่าครับ

วิธีเลือกเก็บบัตร เรียงตามลำดับความสำคัญสูงสุด

1. เลือกเก็บใบที่ประวัติชำระหนี้ดีที่สุด คือจ่ายเต็มและจ่ายตรง
มีผลต่อเครดิตสกอร์ ในหมวด payment history  แบงก์ดูความมีวินัย

2. เลือกเก็บใบที่มีประวัติสมัครใช้ยาวนานสุด
มีผลต่อเครดิตสกอร์ ในหมวด length history
เพราะแบงก์ดูว่าเรามี 'commitment หรือความสามารถจะรักษาประวัติหนี้ระยะยาว' ได้ดีไหม

3. เลือกเก็บใบที่มีประวัติการใช้สม่ำเสมอทุกเดือน
เพื่อสร้าง credit history-ประวัติการก่อหนี้และชำระหนี้ ที่ดี
บัตรไหนนานๆใช้ที จะสร้างประวัติเครดิตไม่ได้ครับ เพราะมันมาๆหายๆ

4. เลือกเก็บใบที่มีประโยชน์สูงสุดต่อคุณ และคุณใช้ประโยชน์ได้จริง
พวกบัตรที่ใช้ลดร้านอาหารที่คุณไม่ค่อยได้ไป  แลกแต้มเอาของที่คุณแทบไม่ได้ใช้
ลดตั๋วหนังที่คุณไม่มีเวลาดู  เอาออกไปเลยครับพวกนี้แม้ว่าจะจูงใจคุณแค่ไหนก็ตาม

5. เลือกเก็บใบที่ยกเว้นค่าธรรมเนียมต่างๆ ดอกเบี้ยถูก
จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายต่อปีได้เยอะมาก


เดี๋ยวจะมีคนไม่รู้แต่คิดว่าตัวเองรู้ มาด่าาว่าผมมั่วอีก
หลักการเก็บบัตรเครดิต 1-4 นี้เป็นหลักที่ระบบ credit scoring สอนกันทั่วโลกครับ
ผมไม่ได้คิดเอาเอง
ทุกวันนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับดูแลการเงินของลุงตู่
กำลังเข็นให้เครดิตบูโรเอาระบบ credit scoring มาใช้อยู่ครับ
ที่จริงบอกมาตั้งเป็นปีๆแล้วแต่ทางบูโรไม่พร้อมเรื่องข้อกม.
ถ้าเราเตรียมตัวคุ้นชินกับระบบเครดิตสกอร์ตั้งแต่ตอนนี้
ชีวิตจะง่ายขึ้นมากเลยครับเวลาระบบนี้ใช้งานจริง

ส่วนข้อ 5 เป็นหลักที่กูรูการเงินสอนกันทั้งโลกครับ
ว่าอย่าไปแคร์บัตรที่คิดค่ารายปี หรือคิดค่าธรรมเนียมใช้วงเงิน คิดค่า overlimit fee
ค่าปรับ ค่าทวงถาม ค่าประกัน ฯลฯ เยอะแยะไปหมด
เพราะมันดูดเงินเรา ไม่ใช่สร้างความมั่งคั่งให้เรา ทิ้งเลยครับ