ตอนนี้อาศัยอยู่แฟลตการเคหะ. ได้ย้ายมาอยู่ได้ประมาณ 8 เดือน บริเวณที่พักก็จะมีที่จอดรถยนต์ให้เป็นที่สาธารณะ การจอดรถก็จะต้องจอดหมุนเวียนเปลี่ยนที่กันก็ขึ้นอยู่กับว่าตรงไหนมีที่ว่าง. เราก็จะจอด นาน ๆ ทีจะได้จอดที่เดิม ๆ แต่เมื่อไม่นานนี้ รถยนต์ เกิดมีรอย ขีด เป็นเส้น ๆ ยาวตั้งแต่ บังโคลนล้อหน้าซ้ายยาวถึงบังโคลนล้อหลัง มี 3 เส้น ปกติเลิกงานถึงที่พักประมาณ บ่าย 3 โมงครึ่ง ก็จะมีที่จอดรถว่างไม่มากนัก ในวันนั้น ก็มีที่ว่างก็เข้าไปจอดที่เดิมที่จอดเมื่อวันก่อน โดยจอดเป็นคันที่ 3 และมีรถจอดต่ออยู่ข้างหลัง อีก 3 คัน  (นับในแถวนั้นมี รถ จอด 6 คัน รวมคันของเรา) พอจอดเสร็จก็สำรวจความเรียบร้อยทั่วไป พับกระจกมองข้างลงทั้ง 2 ข้าง ก็ขึ้นไปที่พัก. จากนั้น 5 โมงเย็น จะลงจากที่พักมาซื้อกับข้าว. ก็จะต้องแวะเดินผ่านที่ที่เราจอดรถไว้เสมอๆ พอเดินมาถึงรถของตัวเอง ก็พบรอยขีดที่รถ 3 เส้นเป็นแนวยาว รอยค่อนข้างลึกและบุบ รู้สึกตกใจ ตอนแรกที่มองเห็นรอยไม่คิดว่าเป็นรถของตัวเอง พอมองไปข้างหน้าก็เห็นว่ามีที่ว่างอยู่ มองไปข้างหลังรถคันอื่น ๆ ก็จอดเหมือนเดิม จึงเดินมาดูที่ป้ายทะเบียนรถ สรุปว่าใช่รถของตัวเอง ตกใจมาก ไม่คิดว่า คนจะตั้งใจทำกันขนาดนี้  แจ้ง รปภ ประจำตึก ให้เหตุผลว่า ไม่ได้มีหน้าที่มาเฝ้าในส่วนที่จอดรถ ถามไม่ คนขายก๊วยเตียวแถวนั้นได้บอกกลับมาว่า แถวนี้โดนกันมาเป็นประจำ จับไม่เคยได้ตัวคนทำ จึงไปลงบันทึกประจำวันไว้ ที่ สถานีตำรวจ ตำรวจบอกให้ทำใจ ถึงมีภาพวงจรปิด รู้ตัวคนทำแต่ก็ไม่สามารถจะดำเนินการให้ เจ้าหน้าที่คอยไปสังเกตพฤติกรรมได้ บริเวณนั้นก็มีกล้องวงจรปิด แต่ไม่สามารถใช้งานได้  จากนั้นต่อมาอีก 2 วันๆ ตอนค่ำ ๆ ก็เดินมาดูที่รถเป็นปกติ คราวนี้รถก็จอดบริเวณเดิม ดูๆแล้วก็ไม่มีอะไรผิดปกติ. แต่ต่อมาตอนเช้าเวลา ตี 4 จะออกมาทำงาน ก็เอาไฟส่องที่รถ สำรวจทั่ว ไทย ไปเหมือนที่เคยทำ ก็ปรากฎว่าพบรอยขีด เพิ่มขึ้นอีก รอย ถ้าหากย้ายรถไปจอดบริเวณอื่น ก็คิดว่าไม่ต่างกันเพราะพื้นที่ของแฟลตก็จะมีที่จอดรถตามอาคารพื้นที่นั้นๆ   หมดหนทาง ถ้าหากเอารถไปทำสี แล้วกลับมาจอด ก็ไม่มีใครการันตีได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้นอีก จะไปเรียกร้องให้ทางนิติฯให้รับผิดชอบก็คงต้องใช้เวลาดำเนินคดีอีกนาน ถ้าถามว่า ในค่าส่วนกลางที่เรียกเก็บไม่ได้มีค่าดูแลในส่วนที่จอดรถ. ขอคำแนะนำด้วยคะ