เสียเพื่อนเพราะ "ซองงานแต่งงาน" บ่าวสาวครับฟังเสียงของแขกบ้าง

ไปงานแต่งงานเพื่อนในกลุ่มครับ ไม่ถึงกับสนิทมาก
รู้จักกันทางอินเตอร์เน็ตนี่แหละ เคยทำกิจกรรมร่วมกันในกลุ่มเมื่อหลายปีมาแล้ว
แต่ก็ยังติดต่อคุยกันเป็นกลุ่ม 10 กว่าคนด้วยกันมาตลอดนะครับทางไลน์บ้างอะไรบ้าง

เพื่อนจะแต่งงานก็เชิญทุกคนในกลุ่มมา แจกซองคนที่จะไป ไอ้เราก็อยากไปแสดงความยินดีกับเพื่อนด้วย
ก็เลยตอบรับว่าจะไป ก็เลยได้ซองมา งานจัดขึ้นที่โรงแรม 5 ดาวแถวสุขุมวิทครับ เป็นงานเลี้ยงกลางคืน
ผมใส่ซองไป 1,000 บาทด้วยความเต็มใจ

ทีนี้ผ่านช่วงแต่งงานมาไม่นาน เพื่อนคนที่แต่งงานก็พิมพ์มาในสายส่วนตัวว่า
ผมไปงานแต่ใส่ซองพันเดียว ใส่แค่นี้มุงมากินฟรีเถอะ ทูเรศว่ะ

ซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาตั้งใจพิมพ์กับผมหรือนินทาผมกับใครแล้วพิมพ์ผิดมาลงแชทส่วนตัวผมรึเปล่า
เพราะพอเขาพิมพ์เสร็จก็พิมพ์ว่า เอ้ยขอโทษๆกุพิมพ์ผิด ทั้งๆที่มันระบุชื่อกับใส่ซองพันนึงมันก็ตรงกับผม

ผมก็เลยเคลียร์กับเพื่อนสักพักจนมันพูดความจริงว่า
เออกุแค่รู้สึกนอยด์ กุจัดงานที่โรงแรม 5 ดาว แต่มุงใส่ซองมาแค่พันเดียว มันเหมาะสมไหมลองคิดดู

ผมก็บอกเพื่อนว่าผมไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่เคยแต่งงาน ไม่รู้เรทราคาค่าจัดงาน ว่ามันควรจะต้องใส่เท่าไร
ผมก็ใส่ตามฐานะและสภาพคล่องทางการเงินในเดือนนั้น แต่ไม่ให้น่าเกลียดเกินไป
อีกอย่างผมแค่คิดว่าอยากไปแสดงความยินดีด้วยแค่นั้นเองจริงๆ

มันก็บอกเออช่างเถอะกุคงคิดมากเอง
ตั้งแต่วันนั้นมาผมกับเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย แม้จะคุยในกลุ่มแต่ก็ไม่มีการเอ่ยหรืออ้างอิงถึงกัน
กลายเป็นเหมือนเราไม่รู้จักกันแล้ว

ผมเลยอยากรู้ว่าตกลงงานแต่งงานเนี่ย การใส่ซอง คือแขกที่มางานต้องจ่ายเท่ากับหรือสูงกว่าของ
ค่าหัวราคาอาหารเหรอครับ นี่จัดงานแต่งงานหรือทำธุรกิจหากำไรกินค่าหัวครับเนี่ย??? สงสัยมากๆ
แล้วแขกจะไปตรัสรู้ยังไงว่าค่าอาหารต่อหัวเท่าไร แขกไม่ได้มีส่วนร่วมเลือกสถานที่จัดงานด้วยซ้ำ
บอกตามตรงว่าทำตัวไม่ถูก ทำเอาไม่อยากไปงานไหนอีกเลย

ฝากเจ้าบ่าวเจ้าสาวที่คิดจะหากินทางนี้นะครับ แขกที่ไปงานคุณไม่ได้เสียแค่ค่าซองนะครับ ค่าชุด
ค่าทำผม ค่าเสริมสวย ค่าเดินทาง ฯลฯ ก็เป็นค่าใช้จ่ายแฝงของแขกเหมือนกัน แขกไม่ได้อยากไป
กินอาหาร เขาแค่อยากไปแสดงความยินดี ถ้าอยากกินอาหาร คงเตรียมเงินไปกินเองได้ ได้กินใน
สิ่งที่อยากกินด้วย เพราะบางงานผมก็กินไม่ได้เลย ไม่น่ากินเลยสักอย่างด้วยซ้ำ

ถ้าพูดกันตรงๆคือ แค่แขกคนนั้นอยากไปแสดงความยินดีกับคุณจากใจจริง ผมว่าคุณควรดีใจแล้ว
เพราะผมเห็นบางคนไม่ได้อยากมาด้วยซ้ำ แต่มาเพื่อรักษาความสัมพันธ์และผลประโยชน์ในอนาคต
เฉยๆเท่านั้นเอง ส่วนพวกแขกประเภทที่อยากมากินอาหารดีๆ เฉยๆ ไม่ได้อยากยินดีอะไรด้วยหรอก
แล้วจ่ายน้อยๆสบายพุงอันนี้ก็อีกกรณีหนึ่ง ซึ่งผมว่าบ่าวสาวที่เชิญมาคงรู้นิสัยกันดีว่าใครเป็นยังไง
ถ้าเจอแขกประเภทนี้ คนที่ควรรับผิดชอบก็คงเป็นบ่าวสาวในการคัดคนเข้างาน ไม่ใช่โทษแขกซะหมด

มุมมองผมในฐานะแขกคือ ถ้าจะแต่งแล้วคุณไม่เชิญผม ผมรู้สึกดีกว่าเชิญแล้วมาบ่นเรื่องซองทีหลัง
เยอะกว่ามาก ต่อให้สนิทกันแล้วไม่เชิญ ผมก็เฉยๆนะ กลับคิดอีกแง่ว่าเขาคงอยากจัดส่วนตัว ก็เอาไว้
ค่อยไปแสดงความยินดีทีหลังก็ได้ ไม่ต้องเสียเงินเยอะแยะค่าแต่งตัว ค่าเดินทาง ค่าซองด้วย
อยากสนับสนุนก็ค่อยเอาซองให้ทีหลังไว้ให้บ่าวสาวไปเริ่มต้นชีวิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่