"ทำไมส่งแต่หน้าเดิมๆ? ทำไมไม่ให้คนนี้ลง? ทำไมคนนั้นถึงได้ลงตลอด? ทำไมถึงไม่กล้าให้คนอื่นเล่นบ้าง?"
เสี่ยงก่น เสี่ยงบ่นของแฟนบอล ที่ระบายผ่านทางโซเชียล หรือแม้แต่ตามคอมเม้นท์ในเว็บบอร์ดต่างๆ หลังเกมที่ไทยพ่ายเจ้าถิ่น ยูเออี 1-3
สีหน้าและแววตาของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนามาเมือง ผู้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยเวอร์ชั่นความหวังเรืองรอง ในระหว่างแถลงข่าวหลังเกม แสดงออกถึงอะไรบางอย่างที่มันอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
ในวันที่ต้องเดินออกจากสนามด้วยการพ่ายแพ้ 3 นัดติดต่อกัน บนเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มันคือสิ่งที่เขาผิดหวังแค่ไหน และแววตาของเขามันก็บอกอย่างนั้น
จริงอยู่ เราเริ่มเกมนี้ได้ไม่ได้ดั่งหวัง นักเตะ 11 คนแรกที่ถูกเลือกลงสนาม ไม่ได้เปรี้ยงปังไปทุกคน
ฟุตบอลก็แบบนี้ เมื่อพลาดก็ต้องโดนลงโทษ เมื่อมีโอกาสทำไม่ได้ ผลลัพธ์ของเกมก็เป็นแบบนี้ และมีให้เห็นอยู่บ่อยๆในโลกลูกหนัง
ถามว่ารูปเกมเราสู้ได้มั๊ย? ก็อย่างที่เห็น "เราสู้ได้" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง แม้สุดท้ายจะแพ้ไป 1-3
จุดหนึ่งที่ทำให้เกมนี้มีจุดเปลี่ยนคือตัวสำรอง!
ถ้าไม่นับการเปลี่ยนตัว ประทุม ชูทอง แทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่เจ็บ ผมบอกเลย "ซิโก้" เลือกถูก ที่มอบโอกาสให้ "เจ้าแมน" ธนา ชะนะบุตร และ "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง
2 ตัวสำรองในแนวรุก โชว์ผลงานเข้าตามาก ธนา ที่เด่นเรื่องการไปกับบอลได้ดี มาพร้อมกับประตูในรูปแบบที่เขาถนัดเหลือหลาย
ลากจี้เข้าไปกด บอลพุ่งชนโคนเสาก่อนเข้าไปซุกก้นตาข่าย เรียกเสียงเฮสนั่นจากแฟนบอลไทยในสนาม และที่เมืองไทยทั้งประเทศ
ส่วน "บักโป้" ชื่อที่พี่ๆในทีมเรียกสิโรจน์ ก็ฟอร์มเด่นสุดๆ ทั้งการพักบอล การไล่บี้ไล่ชนกับแนวรับของเจ้าถิ่น ซึ่งต้องบอกว่าเกมเมื่อวาน ปีโป้ แสดงออกให้เห็นว่า เขาดีพอสำหรับทีมชาติไทย
หลังเกม ชายร่างยักษ์คนนี้ คอตก พร้อมน้ำตาคลอเบ้า
ผมได้มีโอกาสถามว่า เป็นไงบ้างน้อง? โป้ตอบกลับมาทันทีว่า "ผมเสียใจพี่ ผมเสียใจตรงที่ผมน่าจะช่วยทีมได้มากกว่านี้"
ส่วน "ซิโก้" เอง ก็มีการบ้านที่หนักขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะยังไร้แต้มติดมือ
ความกดดันที่ถาโถม ยิงตรงสู่ชายคนที่เป็นแม่ทัพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมได้คุยกับเขาระหว่างก่อนขึ้นไปพักเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอว่า "มันไม่เป็นใจเลย พี่กำลังจะเปลี่ยน 2 ตัวสำรองอยู่แล้ว แต่เรามาพลาดเสียประตูที่ 2 ไปซะก่อน ทำให้เล่นยากขึ้นไปอีก"
"แต่อย่างน้อย ก็ทำให้รู้ว่า นัดหน้าพี่ต้องมีการเปลี่ยนตัวบ้าง ใครฟอร์มดีจะได้รับโอกาส"
ผมเข้าใจโค้ชนะ และพยายามเข้าใจถึงการเลือก 11 คนแรก เพราะอย่าลืมว่าเราต้องเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของเขา เพราะเขาคือหัวหน้าผู้ฝึกสอน เขาอยู่กับทีมชุดนี้มาหลายปี เห็นทุกอย่างของทีม
เกมกับอิรัก ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน จึงน่าจะเป็นบทพิสูจน์ต่อคำพูดนี้ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ส่วนเกมที่จบลงไป ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นโค้ชทีมชาติไทยเวลานี้เลยจริงๆครับ!!!!
เครดิต
http://sport.sanook.com/345721
หัวอก "โค้ชพี่โก้"... (โดย บ.ส้มซิ่ง) จะได้เห็นการเปลี่ยนแปลง
เสี่ยงก่น เสี่ยงบ่นของแฟนบอล ที่ระบายผ่านทางโซเชียล หรือแม้แต่ตามคอมเม้นท์ในเว็บบอร์ดต่างๆ หลังเกมที่ไทยพ่ายเจ้าถิ่น ยูเออี 1-3
สีหน้าและแววตาของ "ซิโก้" เกียรติศักดิ์ เสนามาเมือง ผู้เป็นเฮดโค้ชทีมชาติไทยเวอร์ชั่นความหวังเรืองรอง ในระหว่างแถลงข่าวหลังเกม แสดงออกถึงอะไรบางอย่างที่มันอยู่ในก้นบึ้งของหัวใจ
ในวันที่ต้องเดินออกจากสนามด้วยการพ่ายแพ้ 3 นัดติดต่อกัน บนเส้นทางสู่ฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย มันคือสิ่งที่เขาผิดหวังแค่ไหน และแววตาของเขามันก็บอกอย่างนั้น
จริงอยู่ เราเริ่มเกมนี้ได้ไม่ได้ดั่งหวัง นักเตะ 11 คนแรกที่ถูกเลือกลงสนาม ไม่ได้เปรี้ยงปังไปทุกคน
ฟุตบอลก็แบบนี้ เมื่อพลาดก็ต้องโดนลงโทษ เมื่อมีโอกาสทำไม่ได้ ผลลัพธ์ของเกมก็เป็นแบบนี้ และมีให้เห็นอยู่บ่อยๆในโลกลูกหนัง
ถามว่ารูปเกมเราสู้ได้มั๊ย? ก็อย่างที่เห็น "เราสู้ได้" โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครึ่งหลัง แม้สุดท้ายจะแพ้ไป 1-3
จุดหนึ่งที่ทำให้เกมนี้มีจุดเปลี่ยนคือตัวสำรอง!
ถ้าไม่นับการเปลี่ยนตัว ประทุม ชูทอง แทน ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่เจ็บ ผมบอกเลย "ซิโก้" เลือกถูก ที่มอบโอกาสให้ "เจ้าแมน" ธนา ชะนะบุตร และ "ปีโป้" สิโรจน์ ฉัตรทอง
2 ตัวสำรองในแนวรุก โชว์ผลงานเข้าตามาก ธนา ที่เด่นเรื่องการไปกับบอลได้ดี มาพร้อมกับประตูในรูปแบบที่เขาถนัดเหลือหลาย
ลากจี้เข้าไปกด บอลพุ่งชนโคนเสาก่อนเข้าไปซุกก้นตาข่าย เรียกเสียงเฮสนั่นจากแฟนบอลไทยในสนาม และที่เมืองไทยทั้งประเทศ
ส่วน "บักโป้" ชื่อที่พี่ๆในทีมเรียกสิโรจน์ ก็ฟอร์มเด่นสุดๆ ทั้งการพักบอล การไล่บี้ไล่ชนกับแนวรับของเจ้าถิ่น ซึ่งต้องบอกว่าเกมเมื่อวาน ปีโป้ แสดงออกให้เห็นว่า เขาดีพอสำหรับทีมชาติไทย
หลังเกม ชายร่างยักษ์คนนี้ คอตก พร้อมน้ำตาคลอเบ้า
ผมได้มีโอกาสถามว่า เป็นไงบ้างน้อง? โป้ตอบกลับมาทันทีว่า "ผมเสียใจพี่ ผมเสียใจตรงที่ผมน่าจะช่วยทีมได้มากกว่านี้"
ส่วน "ซิโก้" เอง ก็มีการบ้านที่หนักขึ้นเป็นเงาตามตัว เพราะยังไร้แต้มติดมือ
ความกดดันที่ถาโถม ยิงตรงสู่ชายคนที่เป็นแม่ทัพอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ผมได้คุยกับเขาระหว่างก่อนขึ้นไปพักเมื่อคืนที่ผ่านมา เขาบอกด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอว่า "มันไม่เป็นใจเลย พี่กำลังจะเปลี่ยน 2 ตัวสำรองอยู่แล้ว แต่เรามาพลาดเสียประตูที่ 2 ไปซะก่อน ทำให้เล่นยากขึ้นไปอีก"
"แต่อย่างน้อย ก็ทำให้รู้ว่า นัดหน้าพี่ต้องมีการเปลี่ยนตัวบ้าง ใครฟอร์มดีจะได้รับโอกาส"
ผมเข้าใจโค้ชนะ และพยายามเข้าใจถึงการเลือก 11 คนแรก เพราะอย่าลืมว่าเราต้องเชื่อมั่นในการเป็นผู้นำของเขา เพราะเขาคือหัวหน้าผู้ฝึกสอน เขาอยู่กับทีมชุดนี้มาหลายปี เห็นทุกอย่างของทีม
เกมกับอิรัก ในวันที่ 11 ตุลาคมนี้ ที่กรุงเตหะราน ประเทศอิหร่าน จึงน่าจะเป็นบทพิสูจน์ต่อคำพูดนี้ ถึงการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ส่วนเกมที่จบลงไป ผมเข้าใจหัวอกคนเป็นโค้ชทีมชาติไทยเวลานี้เลยจริงๆครับ!!!!
เครดิต http://sport.sanook.com/345721