คงปฏิเสธไม่ได้ว่า เมื่อมีกล้องรุ่นใหม่ๆ ออกมาไม่ว่าตากล้องคนนั้นจะสังกัดค่ายไหน ใช้อะไรอยู่ มองตัวไหนไว้ ไม่เว้นแม้คนที่ห่างเหินไปแล้วยังต้องเอี้ยวคอกลับมาดูว่านี่มันรุ่นอะไร  สาย (อยาก) เท่ก็คงต้องอยากสะพายไปให้มิตรรัก อริชน ได้หมั่นไส้อย่างแน่นอน ในความรู้สึกของช่างภาพมันกว่านั้นตรงที่ อยากจะลองใช้งานสักไฟท์นึงว่าจะแก้ปัญหาคาใจ เหมาะกับใช้งานที่ทำอยู่หรือไม่




แม้ว่า เจ้านิคอน D500 จะออกมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังสดมากสำหรับผม ค่ายนี้ไม่ได้บุกกล้องตัวคูณสายนักรบฟาดฟันมานานพอสมควร ไม่เหมือนทางคู่แข่งที่ยังออกมาประคองปีกคนที่งบไม่ถึง ที่จะเอื้อมไปหยิบกล้องเรือธงสำหรับสายกีฬาสัตว์ป่า เจ้าตัวนี้คงมาอุดช่องว่างของการทำตลาดที่ขาดหายไปได้เป็นอย่างดี









ผมได้มาเกาะติด การแข่งขันเทนนิส  สิงห์ แคล-คอมพ์ แอนด์ เอ็กซ์วายแซด พริ้นติ้ง โปรเซอร์กิต ที่ หัวหิน  ประจวบฯ​ ได้เลนส์ 16-80mm f/2.8-4E ED VR กับเลนส์ 70-200mm f/2.8G ED VR II มาใช้งาน รวมๆ แล้วน้ำหนัก รวม Body D500  ถือว่ากำลังดีสำหรับสายแบก งานนี้แน่นอนอยู่แล้วว่าต้องใช้ 70-200 เป็นหลัก กล้องคูณ 1.5X เข้าไปก็ได้เลนส์ระยะ 105-300 ซึ่งก็พอได้ในการถ่ายครึ่งตัวและเต็มตัว คล่องตัวมากไม่ต้องพึ่งโมโนพอด แต่อาจจะมีเมื่อยมาก เมื่อต้องเล็งนานๆ ในคะแนนที่นักกีฬาต่างคนต่างเล่นเกม แต่จะโคลสอัพกว่านี้ ที่หน้าที่มือคงต้องระยะ 500 mm ขึ้นไปถึงจะเหมาะสม











การถ่ายเทนนิสอาจไม่จำเป็นต้องถ่ายรัวๆ เสมอไป แค่จับกล้องให้ดีแล้วกดชัตเตอร์ในจังหวะที่ลูกเข้าเฟรม ก็เก็บภาพในจังหวะที่ลูกกระทบกับแรคเกตของนักกีฬาได้ไม่ยากเกินไป แต่ต้องสังเกตให้มาก เรียกว่าถ่ายบ่อยๆ ก็จับจังหวะได้เอง แต่ใครจะว่างพอมาหัดถ่ายบ่อยๆ ได้ล่ะ การได้กล้องที่เกิดมาเพื่องานนั้นโดยเฉพาะ จะช่วยให้ได้ภาพโดนๆ ง่ายขึ้น










การปรับตั้งกล้อง มาเรื่องโหมดออโต้โฟกัสก่อน เลือกโฟกัสต่อเนื่อง AF-C การเลือกกลุ่มโฟกัส ได้ลองใช้ทั้งแบบกลุ่ม แบบทั้งแผง 153 จุด และแบบให้กล้องเลือกจุดโฟกัสให้ ทุกแบบใช้ได้ไม่แตกต่างกันในการถ่ายนักกีฬาประเภทเดี่ยว แต่ในประเภทคู่ ต้องเลือกแบบกลุ่มเล็กๆ แล้วคอยเลื่อนกรอบโฟกัสตามนักกีฬา และต้องมีนักกีฬาสองคนอยู่ในภาพเดียวถึงจะตอบโจทย์ได้สมบูรณ์  ซึ่งเลื่อนทันบ้างไม่ทันบ้าง และน้อยครั้งที่นักกีฬาจะมาอยู่คู่กันในจังหวะที่เหมาะสม  นั่นคือต้องเฝ้า ซึ่งในหนึ่งเกมอาจจะไม่มีจังหวะนั้นเลยก็ได้ แต่เซทหนึ่งก็มี 6 เกมส์ ต้องชนะ 2 เซท ถึงจะเป็นผู้ชนะ และต้องมีการเปลี่ยนแดนทุกๆ 2 เกม ถ้าขาตายไม่ขยับเลยก็มีโอกาส แค่ 6 เกมในการถ่าย ถือว่าน้อยมาก ถ้าไม่พร้อมแล้วโอกาสไม่ได้รูปเลยมีสูง











ปัญหาอย่างหนึ่งสำหรับงานนี้ นอกจากความร้อนจากแดดก็คือ white balance อาจจะปรับยากสักนิด จากแสงสะท้อนจากพื้นสนามที่เป็นสีฟ้า แถมคอนทราสจัด ใต้แสงแดดแข็งๆ ที่มีเมฆเคลื่อนตัวมาบังแสงอาทิตย์เป็นระยะ เลยต้องเลือกที่จะบันทึกเป็นไฟล์ RAW เพื่อจะได้ปรับแสงสีได้มากหน่อย สำหรับคนที่มีเวลาทำงานหน้าคอมอีกพักใหญ่ ซึ่งก็ได้ผลดี แต่กล้องรุ่นใหม่ๆ ก็ต้องอัพโปรแกรมแต่งภาพให้รองรับไปพร้อมๆกัน ไฟล์ ขนาด 20.9 MB ก็ไม่โหลดเครื่องจนเกินไป แต่ถ้าโปรแกรมที่มียังไม่รองรับไฟล์ RAW ก็ไปโหลด Capture NX-D มาใช้ก่อนได้ถ้าไฟล์ไม่เยอะมากก็ค่อยๆทำความเข้าใจไปเดี๋ยวก็คล่องเอง ก็ใช้เวลาต่อรูปนานมาก... ​แต่ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาดีสมกับที่รอคอย สรุปว่ารูปน้อยเวลาเยอะก็ใช้โปรแกรมจากค่าย ใช่ว่าไฟล์ JPEG จะไม่ดี โยนเข้า PS ใส่ออโต้ Level ก็ใช้งานได้แล้ว







หลังอยู่ด้วยกันมาสองสัปดาห์ ถือว่าพอใจมากๆ สำหรับกล้องสายแอคชั่นตัวนี้ โฟกัสไม่เข้านี่มีน้อยมากจริงๆ ถ้าเป็นซามูไรก็เพียงแค่เพลงดาบเดียวก็ชำระบัญชีแค้นได้แล้ว ถึงแม้ค่าตัวจะสูงขึ้นไปมากสำหรับกล้องตัวคูณ แต่ก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดตอนนี้ สำหรับสายกีฬา สายอีเว้นท์ และสายสัตว์ป่า ที่ต้องการลดน้ำหนักอุปกรณ์และได้ระยะโฟกัสมากขึ้น ถ้างบประมาณไปไม่ถึง D5 ตัวนี้คือคำตอบ







ขอบคุณ บริษัท นิคอน (ประเทศไทย) จำกัด ที่สนับสนุนอุปกรณ์ในการถ่ายทำในครั้งนี้