อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่: มินิ ซีรี่ส์
เนื้อหากระทู้นำมาจากเพจ "Viva Calcio" นะครับ
(
https://m.facebook.com/iamvivacalcio/ )
บทที่ 1: ครอบครัว
...
“ปี 1982 วันที่อิตาลีได้แชมป์โลก มันเป็นช่วงเวลาที่สุดวิเศษของผมเลย ถึงแม้ผมจะอายุแค่ 7 ขวบในตอนนั้น ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองหลังเกม ผมจำได้เลยว่าผมเอาสิ่งของในบ้านต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ แม่ผมซื้อธงชาติอิตาลีมาให้ เราออกไปบนท้องถนน รถทุกคันบีบแตรเฉลิมฉลอง มันเป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์มาก ผมยังไม่เข้าใจอะไรมากหรอก แค่รู้ว่าเราชนะ และพวกเราก็ดีใจมาก
ด้วยความที่ผมเป็นแฟนยูเวนตุส นักเตะอย่างทาร์เดลลี่, รอสซี่ และซอฟฟ์ จึงเป็นฮีโร่ของผมในวัยเด็ก และเป็นเหล่าไอดอลที่ผมอยากไปให้ถึงจุดนั้นทั้งในสีเสื้อยูเว่และอิตาลี”
อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่เขารู้สึกถึงแพสชั่นที่ยิ่งใหญ่ในโลกของฟุตบอล ที่เขาเองต้องการไปให้ถึงจุดนั้นบ้างในสักวัน
...
• คุณแม่
เมื่อเริ่มเล่นฟุตบอลในวัยเด็ก อเล็กซ์มักถูกคุณแม่บรูน่ากำชับเสมอให้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพียงเพราะว่าเหงื่อจะได้ไม่ออกและไม่ป่วยง่าย
“ผมได้แต่พยักหน้าแล้วรับปาก ฮะๆ โอเคฮะแม่ ผมสนุกนะกับการเฝ้าเสา แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติของผม ผมสนุกกว่ากับการครองบอลไว้กับตัวและพาบอลไปรอบๆ จ่ายบอลให้เพื่อน และเล่นเกมรุก ซึ่งผมว่ามันคือตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่า”
เมื่อเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับปาโดว่า อเล็กซ์ถูกปรามาสว่าไม่สามารถจะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้ เนื่องจากรูปร่างที่ผอมบางและตัวเล็กเกินไป แต่ดูเหมือนคำเย้ยหยันเหล่านั้นจะไม่กระทบต่ออเล็กซ์เลย กลับกันมันยิ่งช่วยสุมไฟในตัวเขาให้เอาชนะคำปรามาสเหล่านั้นอีกด้วย
“พวกเขาบอกผมว่าผมตัวบางเกินไป แต่ผมไม่เชื่อในคำที่โค้ชพูดหรอกนะ คุณลองมองดูผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นสิ มาราโดน่า, พลาตินี่ หรือกระทั่งโอมาร์ ซิวอรี่ ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่าผมเท่าไหร่เลย ทุกคนไม่ได้มีร่างกายของนักกีฬาชั้นยอด แต่พวกเขามีฝีเท้าชั้นเลิศต่างหาก ซึ่งผมก็ทำให้พวกเขาเห็นแล้วว่าร่างกายไม่สำคัญเท่ากับขนาดของฝีเท้า”
...
• พี่ชาย
ว่ากันว่า “สเตฟาโน่ เดล ปิเอโร่” พี่ชายของอเล็กซ์เป็นยอดนักฟุตบอลคนนึง ที่น่าเสียดายมากเมื่อต้องเลิกเล่นฟุตบอลก่อนเวลาเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
“พี่ชายของผมน่าทึ่งมากนะ สำหรับผมเขาควรได้รับสิ่งที่ดีมากกว่านี้ในอาชีพนักฟุตบอล ผมจำได้ว่าตอนที่ผมอยู่ปาโดว่า พ่อจะมาดูผมแล้วก็รีบขับรถไปดูเกมที่พี่ชายผมเล่นในอีกลีกนึงเสมอๆ น่าเสียดายที่เขาเจ็บหนักเลยต้องหันเหไปเอาดีด้านอื่น ทุกวันนี้เราทำงานร่วมกัน เขาคือคนสำคัญที่สุดคนนึงในชีวิตของผมเลย”
อเล็กซ์ได้แต่งตั้งให้พี่ชายของเขาเป็นผู้จัดการส่วนตัว คอยดูแลผลประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวของเขามากขนาดไหน
...
• คุณพ่อผู้ยิ่งใหญ่
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2001 มีจุดเปลี่ยนสำคัญหนึ่งในชีวิตของอเล็กซ์เกิดขึ้น เมื่อ "จีโน่" คุณพ่อบังเกิดเกล้าของอเล็กซ์เสียชีวิตลง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวเดล ปิเอโร่
แต่อีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อเล็กซ์ต้องกลับไปลงสนามให้ยูเวนตุสในเกมพบกับบารี่ มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับชีวิตนักฟุตบอลคนหนึ่ง ที่พึ่งสูญเสียคนสำคัญในชีวิตลงไป
“มันยากมากๆ แต่นั่นเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ผมแกร่งขึ้น มันคือธรรมชาติของครอบครัวเรา มันเป็นเซนส์ที่บอกกับผมว่าพ่ออยากเห็นผมในสนาม ผมคิดว่าพ่อยังคงอยู่กับผมในทุกๆ สนามเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด
หลังจากซีซั่นนั้น ผมแกร่งขึ้นมากจริงๆ ชีวิตนักฟุตบอลของผมเติบโตขึ้นและเปลี่ยนไปมากหลังการสูญเสียคุณพ่อ เหตุการณ์นั้นคือหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของผมเลยทีเดียว”
อเล็กซ์ผู้มีคุณพ่อและพี่ชายเป็นไอดอลในเส้นทางการค้าแข้งและการใช้ชีวิต ถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองแทนดาร์โก้ โควาเซวิซ ในนาทีที่ 63 ก่อนจะยิงประตูชัยให้กับเจ้าม้าลายในนาทีที่ 81 จากลูกโซโล่เดี่ยวเข้าไปชิพข้ามหัวแยน จิลเล็ตต์ นายประตูบารี่ ราวกับเป็นประตูที่ส่งสาสน์ให้คุณพ่อเห็นว่าลูกชายคนนี้แกร่งขึ้นและโตขึ้นแล้ว ขอให้คุณพ่อวางใจในตัวลูกชายคนนี้ได้
หลังจากยิงประตูได้ น้ำตาลูกผู้ชายของอเล็กซ์ก็หลั่งล้นท่ามกลางอ้อมกอดของเพื่อนร่วมทีมยูเวนตุส มันแสดงให้เห็นถึงการปลดเปลื้อง การก้าวย่างสู่ความแกร่งขึ้นในอีกระดับของเขา หลังผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมายในชีวิต
ชายที่ชื่อ “อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่” เติบโตไปอีกขั้นแล้ว
( มีต่อครับ )
คิดถึง "อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่"
เนื้อหากระทู้นำมาจากเพจ "Viva Calcio" นะครับ
( https://m.facebook.com/iamvivacalcio/ )
บทที่ 1: ครอบครัว
...
“ปี 1982 วันที่อิตาลีได้แชมป์โลก มันเป็นช่วงเวลาที่สุดวิเศษของผมเลย ถึงแม้ผมจะอายุแค่ 7 ขวบในตอนนั้น ช่วงเวลาแห่งการเฉลิมฉลองหลังเกม ผมจำได้เลยว่าผมเอาสิ่งของในบ้านต่างๆ มาประดิษฐ์เป็นอุปกรณ์ แม่ผมซื้อธงชาติอิตาลีมาให้ เราออกไปบนท้องถนน รถทุกคันบีบแตรเฉลิมฉลอง มันเป็นช่วงเวลาที่มหัศจรรย์มาก ผมยังไม่เข้าใจอะไรมากหรอก แค่รู้ว่าเราชนะ และพวกเราก็ดีใจมาก
ด้วยความที่ผมเป็นแฟนยูเวนตุส นักเตะอย่างทาร์เดลลี่, รอสซี่ และซอฟฟ์ จึงเป็นฮีโร่ของผมในวัยเด็ก และเป็นเหล่าไอดอลที่ผมอยากไปให้ถึงจุดนั้นทั้งในสีเสื้อยูเว่และอิตาลี”
อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ รำลึกถึงความหลังเมื่อครั้งที่เขารู้สึกถึงแพสชั่นที่ยิ่งใหญ่ในโลกของฟุตบอล ที่เขาเองต้องการไปให้ถึงจุดนั้นบ้างในสักวัน
...
• คุณแม่
เมื่อเริ่มเล่นฟุตบอลในวัยเด็ก อเล็กซ์มักถูกคุณแม่บรูน่ากำชับเสมอให้เล่นในตำแหน่งผู้รักษาประตู เพียงเพราะว่าเหงื่อจะได้ไม่ออกและไม่ป่วยง่าย
“ผมได้แต่พยักหน้าแล้วรับปาก ฮะๆ โอเคฮะแม่ ผมสนุกนะกับการเฝ้าเสา แต่มันไม่ใช่ธรรมชาติของผม ผมสนุกกว่ากับการครองบอลไว้กับตัวและพาบอลไปรอบๆ จ่ายบอลให้เพื่อน และเล่นเกมรุก ซึ่งผมว่ามันคือตัวตนที่แท้จริงของผมมากกว่า”
เมื่อเริ่มต้นเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับปาโดว่า อเล็กซ์ถูกปรามาสว่าไม่สามารถจะเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ได้ เนื่องจากรูปร่างที่ผอมบางและตัวเล็กเกินไป แต่ดูเหมือนคำเย้ยหยันเหล่านั้นจะไม่กระทบต่ออเล็กซ์เลย กลับกันมันยิ่งช่วยสุมไฟในตัวเขาให้เอาชนะคำปรามาสเหล่านั้นอีกด้วย
“พวกเขาบอกผมว่าผมตัวบางเกินไป แต่ผมไม่เชื่อในคำที่โค้ชพูดหรอกนะ คุณลองมองดูผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ในยุคนั้นสิ มาราโดน่า, พลาตินี่ หรือกระทั่งโอมาร์ ซิวอรี่ ผู้เล่นเหล่านี้ไม่ได้ตัวใหญ่ไปกว่าผมเท่าไหร่เลย ทุกคนไม่ได้มีร่างกายของนักกีฬาชั้นยอด แต่พวกเขามีฝีเท้าชั้นเลิศต่างหาก ซึ่งผมก็ทำให้พวกเขาเห็นแล้วว่าร่างกายไม่สำคัญเท่ากับขนาดของฝีเท้า”
...
• พี่ชาย
ว่ากันว่า “สเตฟาโน่ เดล ปิเอโร่” พี่ชายของอเล็กซ์เป็นยอดนักฟุตบอลคนนึง ที่น่าเสียดายมากเมื่อต้องเลิกเล่นฟุตบอลก่อนเวลาเพราะปัญหาอาการบาดเจ็บ
“พี่ชายของผมน่าทึ่งมากนะ สำหรับผมเขาควรได้รับสิ่งที่ดีมากกว่านี้ในอาชีพนักฟุตบอล ผมจำได้ว่าตอนที่ผมอยู่ปาโดว่า พ่อจะมาดูผมแล้วก็รีบขับรถไปดูเกมที่พี่ชายผมเล่นในอีกลีกนึงเสมอๆ น่าเสียดายที่เขาเจ็บหนักเลยต้องหันเหไปเอาดีด้านอื่น ทุกวันนี้เราทำงานร่วมกัน เขาคือคนสำคัญที่สุดคนนึงในชีวิตของผมเลย”
อเล็กซ์ได้แต่งตั้งให้พี่ชายของเขาเป็นผู้จัดการส่วนตัว คอยดูแลผลประโยชน์ทั้งหมด ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับครอบครัวของเขามากขนาดไหน
...
• คุณพ่อผู้ยิ่งใหญ่
ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2001 มีจุดเปลี่ยนสำคัญหนึ่งในชีวิตของอเล็กซ์เกิดขึ้น เมื่อ "จีโน่" คุณพ่อบังเกิดเกล้าของอเล็กซ์เสียชีวิตลง ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของครอบครัวเดล ปิเอโร่
แต่อีก 1 สัปดาห์ให้หลัง อเล็กซ์ต้องกลับไปลงสนามให้ยูเวนตุสในเกมพบกับบารี่ มันเป็นเรื่องยากมากสำหรับชีวิตนักฟุตบอลคนหนึ่ง ที่พึ่งสูญเสียคนสำคัญในชีวิตลงไป
“มันยากมากๆ แต่นั่นเป็นหนึ่งในเรื่องที่ทำให้ผมแกร่งขึ้น มันคือธรรมชาติของครอบครัวเรา มันเป็นเซนส์ที่บอกกับผมว่าพ่ออยากเห็นผมในสนาม ผมคิดว่าพ่อยังคงอยู่กับผมในทุกๆ สนามเหมือนที่เคยเป็นมาตลอด
หลังจากซีซั่นนั้น ผมแกร่งขึ้นมากจริงๆ ชีวิตนักฟุตบอลของผมเติบโตขึ้นและเปลี่ยนไปมากหลังการสูญเสียคุณพ่อ เหตุการณ์นั้นคือหนึ่งในจุดเปลี่ยนสำคัญของผมเลยทีเดียว”
อเล็กซ์ผู้มีคุณพ่อและพี่ชายเป็นไอดอลในเส้นทางการค้าแข้งและการใช้ชีวิต ถูกเปลี่ยนลงไปเป็นตัวสำรองแทนดาร์โก้ โควาเซวิซ ในนาทีที่ 63 ก่อนจะยิงประตูชัยให้กับเจ้าม้าลายในนาทีที่ 81 จากลูกโซโล่เดี่ยวเข้าไปชิพข้ามหัวแยน จิลเล็ตต์ นายประตูบารี่ ราวกับเป็นประตูที่ส่งสาสน์ให้คุณพ่อเห็นว่าลูกชายคนนี้แกร่งขึ้นและโตขึ้นแล้ว ขอให้คุณพ่อวางใจในตัวลูกชายคนนี้ได้
หลังจากยิงประตูได้ น้ำตาลูกผู้ชายของอเล็กซ์ก็หลั่งล้นท่ามกลางอ้อมกอดของเพื่อนร่วมทีมยูเวนตุส มันแสดงให้เห็นถึงการปลดเปลื้อง การก้าวย่างสู่ความแกร่งขึ้นในอีกระดับของเขา หลังผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมายในชีวิต
ชายที่ชื่อ “อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่” เติบโตไปอีกขั้นแล้ว
( มีต่อครับ )