ในฝั่งฝัน (บทที่ 5)

ขอบคุณทุกคนที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณ คุณแอนนี่ annie <harmonica>, คุณ ริมแม่โขง, คุณ ป้าทุยบ้านทุ่ง, คุณ PuPaKae, คุณ หญิงคนรองแห่งบ้านทรายทอง, คุณนัน turtle_cheesecake, คุณดาว Lady Star 919, คุณ เจ้าหญิงงัวเงีย, คุณลิ ลายลิขิต, คุณ ทะเลเดือดพันธุ์ร็อค, คุณโอ เขมปัณณ์, คุณ สายป่านสีชมพู ชื่อหายไป 1 ชื่อ ไม่ทราบว่าเป็นใคร ขอบคุณที่อ่านเรื่องนี้นะคะ
ขอบคุณสำหรับทุกคะแนนโหวตด้วยค่ะ

บทแรก - บทที่ 1  http://ppantip.com/topic/35638204
บทที่ 2 - บทที่ 3  http://ppantip.com/topic/35648626
บทที่ 4  http://ppantip.com/topic/35655325


บทที่ 5



     สาวใหญ่บนระเบียงกำลังผุดลุกผุดนั่งเมื่อคนเพิ่งมาถึงขึ้นบันไดเรือน พอเห็นชัดๆ ว่าเป็นใครหล่อนลุกจากม้าซึ่งตอกติดอยู่กับราวระเบียง ถลาเข้าคว้าข้อมือมากุมไว้ราวจะใช้เป็นหลักยึด

ไอรีนรู้สึกได้ไม่ยากว่ามือเย็นเฉียบนี้กำลังสั่นระริก แม้เสียงพูดก็สั่นไม่แพ้กัน

"ได้พบพี่รามไหมแม่ไอรีน"

    คุณหญิงวัยสาวส่ายหน้า เดินนำน้องสามีซึ่งอายุมากกว่าอยู่นับสิบปีกลับมานั่งด้วยกันบนพื้นไม้

    "ไม่ได้พบหรอกค่ะ เกิดเรื่องนี้ขึ้นเสียก่อน"

    เป็นที่รู้กันโดยไม่ต้องขยายความต่อว่าเรื่องนี้คือเรื่องอะไร

    "อยู่ดีๆ หมอซูซูกิก็มาบอกให้เปิดประตูบ้านให้ทหารเข้ามา ฉันไม่รู้ว่าควรทำกระไร ให้นายเปรื่องโทรศัพท์ไปตามนพพรนานแล้ว นี่ก็ยังไม่เห็นมา"
วิไลเล่าให้ฟังเหมือนฟ้อง นพพรซึ่งหล่อนเอ่ยถึงคือญาติห่างๆ ทางฝ่ายบิดา ในเวลานี้มียศนายร้อยตำรวจเอก

“พี่นพพรคงต้องอยู่เวรกระมังคะ เห็นเขาว่าพวกนายทหารกับนายตำรวจถูกเรียกเข้าประจำการหมด พี่นพพรก็คงยังเลี่ยงออกมาไม่ได้”

เขาที่ว่าคือคนขับรถกูบอีกนั่นแหละ

“แล้วตกลงหล่อนเจรจากับเขารึยัง” เขาคราวนี้หมายถึงใครก็เป็นที่เข้าใจกัน

    "ตกลงแล้วค่ะคุณพี่ ก็คงต้องให้เขาอยู่กันไปล่ะค่ะ จะไปขัดได้กระไร เขาตกลงว่าจะเช่าอยู่กันแต่ข้างหน้ากับตึกใหญ่ คุณพี่ย้ายมานอนเสียที่นี่ก็แล้วกันนะคะ ดิฉันจะจัดห้องของยายไวให้"

    เรือนไม้เล็กๆ หลังนี้มีห้องนอนอยู่เพียงสองห้อง ห้องใหญ่กว่าเคยเป็นห้องนอนของคุณหญิงละออ...มารดาของราม ไอรีนใช้ห้องนั้นมานานหลายปีแล้ว เมื่อก่อนห้องข้างเคียงเคยเป็นห้องของคุณกนก...ญาติผู้น้องของคุณหญิงละออ พอคุณหญิงสิ้น คุณกนกก็ย้ายไปอยู่ลำลูกกากับน้องชาย ห้องนั้นจึงทิ้งว่างอยู่นาน จนรามถูกจับกุมคุมขัง เธอจึงให้บ่าวเก่าแก่ย้ายเข้ามาอยู่เป็นเพื่อน

    "คุณพี่จะนอนห้องนั้นได้ไหมคะ"

    หากก็ยังไม่แน่ใจสักเท่าไรนัก ห้องนอนทางขวามีขนาดเล็ก น้องสาวคุณรามเคยมีห้องส่วนตัวขนาดใหญ่สมฐานะ เรียกว่าหล่อนครอบครองตึกทั้งหลังเลยก็ว่าได้ หล่อนจะคิดอย่างไรที่เธอเสนอไปเช่นนั้น

    "หรือคุณพี่นอนห้องดิฉันก็ได้ค่ะ ดิฉันจะย้ายไปนอนห้องนั้นเอง"

    "ไม่ต้อง...ไม่ต้อง” คนสูงวัยกว่าโบกมือไปมา “ฉันนอนห้องนั้นได้ แล้วแม่ไวล่ะ ไม่ได้กลับมาด้วยหรอกรึ"

    "ยายคงต้องอยู่ชะอำไปก่อนค่ะ พอไปถึงที่นั่นยายก็ป่วยค่ะคุณพี่ ดิฉันคิดว่าให้อยู่ที่นั่นไปก่อน คงปลอดภัยกว่าที่นี่ด้วย ยิ่งแกไม่แข็งแรงอยู่อย่างนั้น"

    พอเอ่ยถึงชะอำก็นึกขึ้นได้ว่ามีใครคนหนึ่งติดตามมาด้วย ชะเง้อมองฝ่าความความมืดลงไปเบื้องล่าง เห็นร่างสูงๆ ยืนตะคุ่มๆ รีรออยู่ข้างพุ่มมะลิราวต้องการพิทักษ์รักษาคุณหญิงของเขาทุกชั่วขณะจิต จึงส่งเสียงเรียก

    "กริช ขึ้นมาบนนี้หน่อยเถอะ"

    กริชก้าวขึ้นบันไดไม้มาเงียบกริบ ประนมมือไหว้คนซึ่งเป็นน้องสาวของผู้มีพระคุณก่อนค้อมตัวลงนั่งคุกเข่าไม่ไกลจากเชิงบันไดสักเท่าไรนัก ไม่คิดจะให้ใกล้ผู้หญิงทั้งคู่มากไปกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาย่ำสนธยาเช่นนี้

    "นอนห้องข้างนอกนี่ได้ไหมกริช"

    วิไลนิ่งขึงไปทันที แม้ชายหนุ่มจะเป็นญาติห่างๆ ทางฝ่ายบิดา มีตำแหน่งหน้าที่ทางราชการเป็นเรื่องเป็นราว หากหล่อนก็ยังไม่ลืมว่าเขาเติบโตมาในฐานะ 'เด็กในบ้าน' ที่สำคัญเป็นผู้ชายวัยหนุ่ม จะให้มานอนเฝ้าหน้าห้องได้อย่างไร

    หากแต่คนซึ่งถือว่ามีอำนาจสูงสุดในฐานะเจ้าของบ้านไม่สนใจสีหน้าและท่าทีไม่สบอารมณ์นั้น พอรู้หรอกว่าน้องสามีคิดอย่างไร ในเวลาเช่นนี้เรื่องของความเหมาะสมลดความสำคัญลงจนหมดสิ้นแล้ว ความปลอดภัยควรมาก่อนอื่นใดหมด จะให้มีแต่ผู้หญิงอยู่กันบนเรือนหลังนี้ในท่ามกลางทหารต่างชาติซึ่งอาจออกมาเดินเพ่นพ่านทั่วบริเวณบ้านได้อย่างไร แม้จะได้รับคำมั่นแล้วก็ตาม หากก็ยังไม่วางใจสักเท่าไรเลย

    "ขอรับ" กริชรับคำ

    หมดห่วงไปเรื่องหนึ่ง ไอรีนกลับมาหยั่งเสียงน้องสาวสามีอีกครั้ง

    "ให้เวียงนอนกับแม่นาบนะคะคุณพี่"

    ในเมื่อเวียงเป็นบ่าวใกล้ชิดของคุณวิไล เธอจึงไม่อยากก้าวก่ายจนเกินไปนัก

    "ก็ดีเหมือนกัน"

    ในเวลานี้หล่อนยอมรับการตัดสินใจของพี่สะใภ้ซึ่งอ่อนวัยกว่าร่วมสิบปีได้ทุกเรื่อง ก็มีใครที่หล่อนจะเอาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวได้อีก นพพรน่ะหรือ สุดจิต...เมียเขา...แทบจะไม่ยอมให้มาบ้านนี้อีกแล้ว อีกทั้งห้องนอนซึ่งหล่อนเองจะย้ายเข้าไปใช้อาศัยนอนชั่วคราวนั้นมีขนาดเล็ก วิไลมองไม่เห็นว่าจะนอนกันสองคนได้อย่างไร

    ยังมีบ่าวรุ่นสาวอีกคนที่น่าเป็นห่วงความปลอดภัย พอเห็นนายธรรมการหนุ่มคลานเข่าถอยหลัง ทำท่าจะกลับลงจากระเบียงไปปฏิบัติตามคำสั่งแรก ไอรีนจึงสั่งการไปอีกเรื่อง

    "ช่วยบอกรำพึงด้วยเถอะกริช ว่าให้มานอนในห้องฉันจนกว่าพวกญี่ปุ่นเขาจะไปกันหมด บอกให้ขนเสื้อผ้ามาไว้ที่นี่ด้วยเลย"

    รำพึงนั้นอยู่ในวัยเดียวกับเธอ หน้าตาหมดจดกว่าเวียงซึ่งอายุมากกว่าและไม่สะดุดตาเท่า ไม่สะดุดตาทั้งเรือนร่างและหน้าตา จึงน่าเป็นห่วงน้อยกว่า

    ชายหนุ่มรับคำแล้วถอยหลังลงจากเรือนไปทางเดิม

ไอรีนหันกลับมาทางน้องสามีอีกครั้งเมื่อรู้สึกถึงมือเล็กๆ...นุ่มนวลอย่างคนไม่เคยงานหนัก...ค่อยคลายออกเมื่อวางใจที่มีผู้เข้ามาจัดการปัญหาทั้งหมดแล้ว

    "เสื้อผ้าคุณพี่ยังอยู่บนตึกหรือคะ"

    "ไม่ได้เอามาสักตัวเดียว แม่ไอรีนช่วยให้ใครไปเอามาให้ทีเถอะ ตัวไหนก็ได้ ฉันใส่ได้ทั้งนั้น"

หล่อนรู้ดีว่าในสถานการณ์เช่นนี้จำต้องลดความพิถีพิถันในเรื่องการแต่งกายลง แม้จะอยู่แต่ภายในบ้าน หากวิไลก็ไม่เคยยอมน้อยหน้าใครในเรื่องการแต่งตัว
    "ค่ะ ดิฉันจัดการเอง"

    เธอขยับจะลุก แต่คนสูงวัยกว่าคว้ามือเอาไว้เสียอีก แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยใกล้ชิดสนิทสนมกันถึงขั้นนี้ แต่ในเวลาเช่นนี้มีความรู้สึกว่าภรรยาของพี่ชายคนเดียวเท่านั้นที่เอาเป็นที่พึ่งได้

    “ตกลงจะให้เขาเช่าแน่รึ”

    คุณหญิงวัยสาวจึงกลับนั่งราบลงดังเดิม

    “ก็คงต้องอย่างนั้นแหละค่ะ เราไม่มีทางเลือกเป็นอย่างอื่นนี่คะคุณพี่”

    “เขาจะอยู่นานแค่ไหนกัน”

    “นายพันญี่ปุ่นเขาว่าจะขอเช่าสักอาทิตย์ หรืออย่างนานที่สุดก็ไม่เกินสองอาทิตย์ค่ะ คงไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณพี่ เขาอยู่ไม่นาน”

    เธอวางมือทาบลงบนหลังมือเล็กๆ นุ่มนิ่มนั้นเพื่อปลอบใจ ที่สำคัญที่สุดในเวลานี้คือทุกคนต้องอยู่ในความสงบ เรื่องราวจะได้ไม่ยุ่งเหยิงไปยิ่งกว่านี้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งนิยาย นิยายออนไลน์
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่