เป็นเรื่องน่าเศร้าที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ส่วนมากใช้เวลาและทรัพยากรไปกับการจัดการสิทธิบัตร ด้วยความที่เป็นองค์กรใหญ่นี้เองทำให้ Apple เผชิญหน้ากับคดีความมากกว่าบริษัทอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตไอโฟนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ไม่ใช่การต่อสู้ในครั้งล่าสุดนี้ที่ Apple ต้องจ่ายเงินกว่า 302 ล้านเหรียญฯ ในเคสละเมิดสิทธิบัตรของ VirnetX
Apple ได้เข้ามาพัวพันกับคดี VirnetX ตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งศาลได้ตัดสินในปี 2012 ว่า Apple ได้ละเมิดสิทธิบัตรของเครือข่าย VirnetX กับผลิตภัณฑ์ เช่น FaceTime และ iMessage ซึ่งจะต้องชดใช้ค่าเสียหายป็นจำนวนเงิน 368.2 ล้านเหรียญฯ
ทว่าศาลอุทธรณ์พบว่าคำตัดสินนั้นยังไม่สมบูรณ์และให้มีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาล East Texas สั่งให้ Apple จ่ายให้กับ VirnetX ในจำนวนเงิน 625.6 ล้านเหรียญฯ แต่คำตัดสินถูกสั่งให้เป็นโมฆะหลังจาก Robert Schroeder ผู้พิพากษารู้สึกว่าการรวมสองคดีความ (เรื่อง FaceTime และเทคโนโลยี VPN) เป็นหนึ่งเดียวอาจทำให้คณะลูกขุนเกิดความสับสน จึงตัดสินว่าให้เกิดเรื่องกันในภายหลัง
และในการพิจารณาคดีครั้งล่าสุด คณะลูกขุนได้ตรวจสอบความเสียหายในสองสิทธิบัตรของ VirnetX ซึ่งพบว่า Apple ได้มีการละเมิดจริง ซึ่ง VirnetX จะได้รับเงินจากการเรียกร้อง 302.4 ล้านเหรียญฯ Apple อาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นหากศาลพบว่ามีความตั้งใจที่จะละเมิดสิทธิบัตร นอกจากนี้ยังต้องจัดการกับคดีที่สองซึ่งเกี่ยวกับฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยตัวใหม่ของ Apple
โดย Apple มีแผนว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินล่าสุด
ที่มา
TechSpot
Apple แพ้คดี ถูกสั่งจ่าย 302.3 ล้านเหรียญฯ สำหรับการละเมิดสิทธิบัตร
เป็นเรื่องน่าเศร้าที่บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ส่วนมากใช้เวลาและทรัพยากรไปกับการจัดการสิทธิบัตร ด้วยความที่เป็นองค์กรใหญ่นี้เองทำให้ Apple เผชิญหน้ากับคดีความมากกว่าบริษัทอื่นๆ ซึ่งส่วนใหญ่แล้วผู้ผลิตไอโฟนจะเป็นฝ่ายชนะ แต่ไม่ใช่การต่อสู้ในครั้งล่าสุดนี้ที่ Apple ต้องจ่ายเงินกว่า 302 ล้านเหรียญฯ ในเคสละเมิดสิทธิบัตรของ VirnetX
Apple ได้เข้ามาพัวพันกับคดี VirnetX ตั้งแต่ปี 2010 ซึ่งศาลได้ตัดสินในปี 2012 ว่า Apple ได้ละเมิดสิทธิบัตรของเครือข่าย VirnetX กับผลิตภัณฑ์ เช่น FaceTime และ iMessage ซึ่งจะต้องชดใช้ค่าเสียหายป็นจำนวนเงิน 368.2 ล้านเหรียญฯ
ทว่าศาลอุทธรณ์พบว่าคำตัดสินนั้นยังไม่สมบูรณ์และให้มีการพิจารณาคดีใหม่อีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ศาล East Texas สั่งให้ Apple จ่ายให้กับ VirnetX ในจำนวนเงิน 625.6 ล้านเหรียญฯ แต่คำตัดสินถูกสั่งให้เป็นโมฆะหลังจาก Robert Schroeder ผู้พิพากษารู้สึกว่าการรวมสองคดีความ (เรื่อง FaceTime และเทคโนโลยี VPN) เป็นหนึ่งเดียวอาจทำให้คณะลูกขุนเกิดความสับสน จึงตัดสินว่าให้เกิดเรื่องกันในภายหลัง
และในการพิจารณาคดีครั้งล่าสุด คณะลูกขุนได้ตรวจสอบความเสียหายในสองสิทธิบัตรของ VirnetX ซึ่งพบว่า Apple ได้มีการละเมิดจริง ซึ่ง VirnetX จะได้รับเงินจากการเรียกร้อง 302.4 ล้านเหรียญฯ Apple อาจต้องจ่ายเงินมากขึ้นหากศาลพบว่ามีความตั้งใจที่จะละเมิดสิทธิบัตร นอกจากนี้ยังต้องจัดการกับคดีที่สองซึ่งเกี่ยวกับฟีเจอร์การรักษาความปลอดภัยตัวใหม่ของ Apple
โดย Apple มีแผนว่าจะอุทธรณ์คำตัดสินล่าสุด
ที่มา TechSpot