รบกวนสอบถามเรื่องการกินยาคุมกำเนิดค่ะ
มีประวัติการกินตามนี้ค่ะ
-ก.ค. ปีที่แล้วปวดท้องตอนประจำเดือนมาวันแรก (ปกตินานๆทีจะปวด) ปวดจนเป็นลม ส่งไปโรงพยาบาล แพทย์อัลตราซาวน์พบรังไข่ทำงานผิดปกติ
แพทย์ให้รักษาโดยการทานยาคุม 3-6 เดือน ตอนนั้นแพทย์จ่าย ยาสมิน 21 เม็ดมาให้ทานค่ะและเดือนถัดไปให้ซื้อไดแอนมาทานแทน ก็ทำตามที่แพทย์แนะนำค่ะ ทานครบทุกวันและตั้งแต่เริ่มทานประจำเดือนก็มาตรงกันทุกรอบทุกเดือนค่ะ จนเรามาหยุดแผงสุดท้ายตอนเดือนมกราค่ะ

-หลังจากหยุดยาคุมประจำเดือนก็ไม่มาค่ะ มาอีกที 6 เม.ยแต่มาแบบวันแรกเหมือนตกขาว วันต่อไปมาเต็มผ้าอนามัย วันที่ 3 มาแบบตกขาว วันถัดๆไปก็มาแบบเดี๋ยวเยอะเดี๋ยวน้อยค่ะ จนไม่รู้สึกว่ามันเป็นประจำเดือนเลยค่ะ ไม่มีความรู้สึกหน่วงๆท้องน้อยหรืออาการบ่งบอกว่ามีประจำเดือนเลยค่ะ แต่เป็นแบบนี้จนถึงวันที่ 21 เมษาเลยค่ะกว่าเลือดจะหมดไป ไม่ทราบว่าเพราะอะไรคะ

-หลังจากนั้นประจำเดือนก็ไม่มาเหมือนเดิมค่ะจนเดือน ก.ค.เลยไปพบแพทย์ค่ะ แพทย์จ่าย provera ให้ทาน 2 รอบค่ะ รอบแรกประจำเดือนก็มาวันที่ 19 ก.ค.  และแพทย์ตรวจเลือดไปด้วยผลบอกว่ามีภาวะไข่ไม่ตกระดับ 4 ค่ะ แบบนี้ผิดปกติมากมั้ยคะ กลัวจะเป็นคนมีลูกยากมากจนถึงขั้นมีไม่ได้ค่ะ 😭😭😭  

-รอบที่ 2 ประจำเดือนมา 12 ส.ค. ค่ะ หลังจากนี้แพทย์ก็แนะนำให้ทานยาคุมปรับฮอร์โมนเหมือนเดิมในประจำเดือนรอบถัดไปค่ะ หลังจากหมดรอบเดือน 18 ส.ค.
เดือนก.ย. ไม่มีประจำเดือนค่ะ จนมาวันที่ 29-30 ก.ย. มีตกขาวเป็นสีน้ำตาลเหมือนเลือดเลยค่ะ และวันที่ 1 ต.ค. ก็มีเลือดออกเหมือนประจำเดือนเลยค่ะมาเต็มผ้าอนามัย ก็คิดว่าเป็นประจำเดือนเลยเริ่มทานยาคุมค่ะ แต่พอมาวันที่ 2 เลือดหายไป ออกมาแบบมีแค่กลางแผ่น พอมาเมื่อวานวันที่ 3 ต.ค.ไม่มีเลือดออกค่ะ คือมีน้อยมากๆเหมือนเป็นตกขาวซะมากกว่า แต่ก็ทานยาคุมนะคะเพราะเริ่มทานไปแล้ว
ตรงนี้เกิดจากอะไรคะ และยาคุมที่ทานไปจะมีผลอะไรมั้ยคะ ควรหยุดหรือทานต่อดีคะ

จริงๆคิดอีกแล้วว่าจะไปพบแพทย์ดีมั้ย แต่แบบพบแพทย์อีกแล้วหรออ😭😭 เลยลองมาปรึกษาในนี้ก่อนเผื่อมีคนเคยเจออาการเดียวกันหรือมีคุณหมอผ่านมาตอบค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าเลยนะคะ🙏🙏🙏