สวัสดีสมาชิกเว็บ Pantip ทุกคนค่ะ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกนะคะ ผิดพลาดอย่างไรขอโทษด้วยนะคะ
วันนี้เราขอตั้งกระทู้ขอเรียกว่า “เป็นการบ่น” แล้วกันนะคะ แต่การบ่นครั้งนี้เราก็อยากให้ทุกคนระวังและรอบครอบกันหน่อย กับการเช็คเลขอ่านที่ระบุในบิลแจ้งค่าไฟฟ้าของทุกคนในแต่ละเดือน ซึ่งเราเองก็ไม่คิดว่าเราจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ...
กระทู้นี้อาจจะยาวสักหน่อยแต่ก็อยากให้อ่านกันนะคะ เพราะเราคิดว่าอาจจะมีหลายๆ คนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบเราแต่ปล่อยผ่านไป แล้วจ่ายค่าไฟเกินไปแบบไม่รู้ตัว เพราะไม่ได้ใส่ใจกับเลขอ่านเท่าไหร่ ยอดมาเท่าไหร่ก็จ่ายไปตามนั้นตามใบแจ้งที่เค้าระบุมา
ขอเกริ่นก่อนนิดหนึ่งค่ะ เราเพิ่งซื้อทาวน์โฮม แถวๆ พัฒนาการและอยู่มาได้ประมาณเกือบๆ 3 เดือน เลยทำให้ในใบแจ้งค่าไฟฟ้ายังระบุ ชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นชื่อของบริษัทเจ้าของโครงการอยู่ค่ะ และก่อนหน้านี้ได้ใบแจ้งค่าไฟฟ้าและชำระมาแล้ว 1 ครั้ง (ไม่เต็มเดือนสองพันกว่าบาท) “ส่วนบิลแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีปัญหาเป็นของเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นยอดเต็มเดือน”
เรื่องมันมีอยู่ว่าโดยปกติแล้ว ทางบริษัทที่มาจดเลขมิเตอร์ไฟฟ้า (ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะทุกคนสามารถไปดูชื่อบริษัทนี้ได้ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าตรง “จดหน่วย-แจ้งค่าไฟฟ้าโดย บริษัท..................” จะอยู่ท้ายๆ ใบแจ้งค่าไฟ) ซึ่งเราคิดว่าเป็นบริษัทที่การไฟฟ้าฯ ได้จ้างให้มาจดเลขอ่านให้ ซึ่งบริษัทนี้จะเข้ามาจดเลขอ่าน(มิเตอร์ไฟฟ้า) ทุกวันที่ 20 ของเดือน พร้อมกับถ่ายรูปไว้ด้วย และทางการไฟฟ้าจะออกใบแจ้งหนี้มาให้ในวันถัดไป ซึ่งในครั้งนี้บริษัทฯ นี้ก็เข้ามาจดตามปกติและถ่ายรูปไว้เหมือนเดิม พอคุณแม่เราเห็นว่าเค้าถ่ายรูปไว้ คุณแม่ก็เลยออกมาถ่ายรูปมิเตอร์ไฟฟ้าเก็บไว้บ้าง เพื่อเอาไว้เช็คตัวเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟฟ้าค่ะ ว่าจดตรงกันหรือเปล่า
หลังจากนั้น วันรุ่งขึ้นใบแจ้งค่าไฟฟ้าก็มาค่ะ พอเราเห็นจำนวนเงินในใบแจ้งค่าไฟฟ้า
4,607.25.- เราก็ตกใจค่ะ ว่าทำไมเดือนนี้ค่าไฟบ้านเราแพงจัง!!! เราเลยคุยกับที่บ้านว่าให้ประหยัดนะ บลาๆๆๆ คุยแบบใส่อารมณ์เลยค่ะ (พอมารู้ความจริงว่าผิดพลาดที่ใคร เรานี่รู้สึกผิดเลยเพราะวันนั้นเราพูดจาไม่ค่อยดีกับคนในบ้านไปเพราะอารมณ์โมโหค่าไฟแพง)
หลังจากที่คุยกันเสร็จคุณแม่ก็เอาใบแจ้งค่าไฟฟ้าของเดือนก่อนมาดูค่ะ และเปรียบเทียบกันว่า บ้านเราใช้ไฟเกินมาจากเดือนก่อนกี่หน่วย พร้อมกับเอารูปที่คุณแม่ถ่ายไว้มาดู ปรากฏว่า!!!!!!!!!!!!!!!!! รูปที่คุณแม่ถ่ายมิเตอร์ไฟไว้ กับเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟของการไฟฟ้าไม่ตรงกัน!!
หลังจากที่รู้ว่าเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟฟ้าผิดชัวร์ๆ แล้วเราเลยโทรไปที่ MEA Call Center 1130 (Call Center ที่พูดจาไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ค่ะ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ MEA Call Center ฟัง และคำถามที่ทาง MEA Call Center ถามเรากลับมาแบบเสียงเหวี่ยงนิดๆ คือ “คุณมีหลักฐานหรือเปล่า” เราตอบว่า “มีเป็นภาพถ่ายไว้” จากนั้น MEA Call Center แจ้งกลับมาว่า “จะส่งเรื่องไปให้ทาง การไฟฟ้าฯ และจะให้พนักงานการไฟฟ้าฯ โทรไปแจ้งกับ KTC ให้ระงับการตัดยอดค่าไฟฟ้าผ่านบัตรเครดิตไว้ก่อน” (เราสมัครให้ตัดค่าไฟฟ้า Auto กับ KTC ไว้ค่ะ จากในใบแจ้งค่าไฟฟ้าระบุว่า จะตัดผ่านบัตรเครดิตวันที่ 4/10/59)
เราก็เลยร้อนใจค่ะ กลัวว่าทางการไฟฟ้าฯ จะเดินเรื่องให้เราช้า ในวันเดียวกันนั้นเราเลยโทรไปที่ KTC ค่ะ เล่าเหตุการณ์ให้ทาง KTC ฟัง และถามกับทาง KTC ว่า “ตอนนี้มียอดค่าไฟฟ้าส่งมาให้ทาง KTC ตัดบัตรหรือยัง?”ทาง KTC ก็แจ้งกลับมาว่า “ตอนนี้ในระบับยังไม่มียอดค่าไฟฟ้าเข้ามา และในกรณีนี้การแจ้งระงับการตัดค่าไฟที่ยอดผิดต้องรอให้ทางการไฟฟ้าฯ โทรเข้ามาแจ้งเท่านั้น” เราเลยทำอะไรไม่ได้ต้องรอลุ้นว่าทางการไฟฟ้าฯ จะแจ้ง เรื่องให้เราเมื่อไหร่ ...
หลังจากนั้นวันที่ 27 ก.ย. 59 ก็มีพนักงานจากการไฟฟ้าฯ โทรมาค่ะ เป็นผู้หญิงที่ดูแลเรื่องการออกใบแจ้งค่าไฟฟ้า โทรมาแจ้งว่า “เค้าได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าจดเลขอ่านผิดจริง และได้ทำการเปลี่ยนเลขอ่านและจำนวนเงินที่ถูกต้องให้แล้ว และจะทำการส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้ามาให้เราทางไปรษณีย์”
วันที่ 28 ก.ย.59 ก็มีพนักงานอีกคน เป็นผู้ชาย (เป็นหัวหน้าของผู้หญิงที่โทรมาเมื่อวันที่ 27) โทรมาสอบถามว่า ได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือยัง เราตอบว่า “ยังไม่ได้รับ” เราเลยสอบถามเค้าอีกครั้งว่า “สรุปค่าไฟฟ้าครั้งนี้ KTC จะตัดผ่านบัตรวันเดิมหรือเปล่า?” พนักงานผู้ชายก็งงๆ ว่าตัดผ่านบัตรอะไร เราก็เลยบอกเค้าว่า ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดิมที่จดเลขอ่านผิดระบุว่าจะตัดผ่านบัตรเครดิตวันที่ 4/10/59 พนักงานผู้ชายแจ้งกลับมาว่าเค้าไม่รู้ว่าในใบแจ้งค่าไฟฟ้ามีระบุไว้ว่าอย่างไร เพราะเค้าเช็คให้ไม่ได้ ต้องรอให้เราดูเองในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่เค้าส่งมาให้ทางไปรษณีย์เอง แล้วซักพักคุยไปคุยมาอยู่ดีๆ เค้าก็บอกเราว่าต้องให้ทาง KTC ส่งเรื่องมาให้เค้าก่อน เค้าถึงจะส่งยอดค่าไฟไปให้ทาง KTC ตัดบัตรได้ เพราะตอนนี้ทางการไฟฟ้าไม่มีข้อมูลของเราแล้ว เราก็เลย งงๆ ว่าทำไมการไฟฟ้าถึงไม่มีข้อมูลการตัดบัตรของเรา เพราะในบิลค่าไฟที่ผิดก็ยังระบุอยู่ว่า จะตัดผ่านบัตรวันที่ 4/10/59 ... เรากับเค้าเถียงกันนานมากจนของเราขึ้น เราโมโห เราเลยโทรประชุม 3 สายเลยจะได้ไม่ต้องโยนกันไปโยนกันมา มี สายของเรา / สาย KTC และ สายผู้ชายเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า
เราปล่อยให้เค้า 2 ฝ่ายคุยกัน (KTC-ไฟฟ้า)
ไฟฟ้า : ทางไฟฟ้า แจ้งกับ KTC ว่าข้อมูลของเราที่ให้ตัดบัตรไม่มีแล้ว
KTC : ทาง KTC แจ้งกับการไฟฟ้าว่า ในระบบ ข้อมูลการตัดค่าไฟฟ้าผ่านบัตรของเรายังมีอยู่
สรุปจากการที่เค้าคุยกัน 2 ฝ่าย คือ KTC ให้ทาง การไฟฟ้า ส่งเรื่องของเราไปให้ KTC ใหม่ (ซึ่งเราไม่รู้ว่าขั้นตอนการทำงานเค้าให้ส่งอะไรกัน) และทางการไฟฟ้ารับปากที่จะส่งข้อมูลของเราให้กับ KTC .. จบการสนทนา
หลังจากวันนั้น 28/9/59 ที่ทาง KTC และ ไฟฟ้า คุยกัน เรื่องก็เงียบไป ......................
จนวันนี้ วันที่ 3 ตุลาคม 2559 เราโทรไปที่ KTC อีกครั้งสอบถามเค้าว่าสรุปค่าไฟฟ้าของเราตัดผ่านบัตรหรือเปล่า ทาง KTC แจ้งว่ายังไม่มียอดจากการไฟฟ้าเข้ามา !!! เรางง ค่ะ .... (นึกในใจสรุปยังไงกันนี่ การไฟฟ้าก็เงียบ .. KTC ก็เงียบ จากวันที่ 28/9/59 จนถึงวันนี้ 3/10/59 ไม่มีใครโทรมาแจ้งความคืบหน้าให้เราทราบซักคน จนเราต้องโทรมาตามเรื่องเองอีกตามเคย เราเลยตัดสินใจ โทรหาพนักงานการไฟฟ้าที่เป็นผู้ชายคนเดิมที่เราคุยด้วย
พนักงานไฟฟ้าแจ้งเราว่า เค้าไม่สามารถส่งข้อมูลให้ KTC ตัดผ่านบัตรได้ เพราะตอนนี้ชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อของเราแล้ว (เดิมชื่อโครงการ) ถูกเปลี่ยนหลังจากวันที่เค้าได้แก้ยอดค่าไฟฟ้าที่ถูกต้อง และส่งไปรษณีย์ให้เรา (ทางการไฟฟ้าฯ แจ้งว่าเค้ารับเรื่องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นชื่อเราเมื่อวันที่ 21/8/59 แต่เพิ่งจะมาเปลี่ยนข้อมูลในใบแจ้งค่าไฟฟ้าเป็นชื่อเราเมื่อวันที่ 21/9/59 (คือตรงนี้เรางงกับพนักงานการไฟฟ้าผู้ชายคนนี่มาก) เลยทำให้ข้อมูลของเรากับการไฟฟ้าไม่มีแล้ว
ต้องให้เราสมัครตัด Auto กับ KTC ใหม่ ... และแจ้งกับเราว่าทางเค้าได้ประสานกับ KTC ให้ติดต่อเราแล้วตั้งแต่เมื่อวันที่ 28/9/59 จนวันนี้ 3/10/59 ยังไม่มีการติดต่อจาก KTC ค่ะ .. เฮ้ย!! คืออะไร ????
เราไม่พอใจตรงที่ว่า .. นี่ถ้าเราไม่ตามเรื่องเอง ไม่โทรไปจิกเอง คงจะปล่อยให้เลยตามเลยซินะเรื่องนี้ ใช้เวลานานมาก แต่วันที่ 21/9/59 - 3/10/59 รวมวันหยุดก็ 13 วัน กว่าจะรู้เรื่อง
- การไฟฟ้าฯ ก็ไม่แจ้งความคืบหน้าเรา
- KTC ก็ไม่ติดต่อเรากลับมาเลย (ไฟฟ้าแจ้งเรื่องให้ติดต่อตั้งแต่วันที่ 28/9/59)
โทรมาหาเราอีกทีวันที่ 3/10/59 หลังจากที่เราโทรไปตามเรื่องมาวันนี้
จากวันแรกที่ “การไฟฟ้าฯ จ้างให้บริษัทนอกกมาจดเลขมิเตอร์ผิด!! ” จนถึงวันนี้เราเสียค่าโทรศัพท์ไปตั้งเท่าไหร่แล้ว คุยกันแต่ละครั้งก็ครึ่งชั่วโมงได้ โทรหาทั้งการไฟฟ้า ทั้ง KTC ลืมกันไปแล้วหรือเปล่าว่า
“ต้นเหตุเกิดจากใคร???”
แล้วทำไมลูกค้าที่เป็นฝ่ายเดือดร้อนอย่างเราจะต้องมาตามเรื่องเอง
สรุปแล้วจากเหตุการณ์นี้ เราเสียทั้งค่าโทรศัพท์ เสียทั้งอารมณ์ และเสียทั้งสิทธิ์ที่ค่าไฟฟ้าเดือนนี้เราไม่สามารถให้ตัด Auto ผ่านบัตร KTC ได้ เราต้องสำรองจ่ายเงินสดออกไปก่อน ที่สำคัญเราต้องทำเรื่องสมัครกับทาง KTC ใหม่!! .. เพราะการทำงานผิดพลาดและการทำงานแย่ๆ ของทั้ง 2 บริษัท ..... ทำให้ลูกค้าเดือดร้อน บ้ามากกกกกกกก!!
ที่สำคัญ!! จ้างบริษัทข้างนอกมาจดมิเตอร์ไฟฟ้าให้ แล้วการไฟฟ้าฯ ไม่ตรวจความถูกต้องก่อนหรอคะ ก่อนที่จะออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า?? พลาดได้ยังไงจดผิดไปตั้ง 300 กว่าหน่วย!! ยังมีการมาบอกเราด้วยนะว่า ไม่ใช่กรณีของเราคนเดียว กรณีของคนอื่นบริษัทอื่นก็เคยมี เคยพลาด ... แล้วยังไงอ่าคะ ถ้าคุณบอกมาอย่างนี้ อย่างนั้นก็แสดงว่าคุณไม่ได้มีการพัฒนาการทำงาน หรือหาทางป้องกันอะไรเลยหรอคะถึงให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าอีก แล้วไม่ได้ผิดแค่หน่วย สองหน่วยนะ นี่ผิดไปตั้ง 300 กว่าหน่วย!! ถ้าเราไม่เอะใจเราคงจ่ายค่าไฟแพงๆ ไปแล้วซินะ ??
สุดท้ายแล้ว เราอยากให้ทุกคนระมัดระวังและรอบครอบ คอยเช็คเลขอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าในแต่ละครั้งไว้ด้วย ว่าเลขมันได้จดต่อกันหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆ แล้วก็การพูดจา การบริการของพนักงานที่เราเจอมาแย่ๆ เสียความรู้สึกค่ะ ...
เล่าสู่กันฟังเท่านี้แล้วกันค่ะ นี่แค่ส่วนหนึ่งนะคะ ไม่ได้เล่าลงรายละเอียดลึกมาก ถ้าลงลึกกว่านี้ วันนี้คงพิมพ์ไม่จบค่ะ ..
ขอบคุณค่ะที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย ^^
“ ถ้าวันนั้นพวกคุณจดเลขวัดมิเตอร์ของบ้านเราไม่ผิด วันนี้เราคงไม่ต้องมานั่งเดือนร้อนและเสียความรู้สึกแบบนี้หรอก”
ใบแจ้งหนี้ค่าไฟฟ้ามาตกใจ! เธอจดเลขมิเตอร์ไฟฟ้าบ้านเราเกินไปตั้ง 395 หน่วย !!!!
วันนี้เราขอตั้งกระทู้ขอเรียกว่า “เป็นการบ่น” แล้วกันนะคะ แต่การบ่นครั้งนี้เราก็อยากให้ทุกคนระวังและรอบครอบกันหน่อย กับการเช็คเลขอ่านที่ระบุในบิลแจ้งค่าไฟฟ้าของทุกคนในแต่ละเดือน ซึ่งเราเองก็ไม่คิดว่าเราจะมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ...
กระทู้นี้อาจจะยาวสักหน่อยแต่ก็อยากให้อ่านกันนะคะ เพราะเราคิดว่าอาจจะมีหลายๆ คนที่เคยเจอเหตุการณ์แบบเราแต่ปล่อยผ่านไป แล้วจ่ายค่าไฟเกินไปแบบไม่รู้ตัว เพราะไม่ได้ใส่ใจกับเลขอ่านเท่าไหร่ ยอดมาเท่าไหร่ก็จ่ายไปตามนั้นตามใบแจ้งที่เค้าระบุมา
ขอเกริ่นก่อนนิดหนึ่งค่ะ เราเพิ่งซื้อทาวน์โฮม แถวๆ พัฒนาการและอยู่มาได้ประมาณเกือบๆ 3 เดือน เลยทำให้ในใบแจ้งค่าไฟฟ้ายังระบุ ชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นชื่อของบริษัทเจ้าของโครงการอยู่ค่ะ และก่อนหน้านี้ได้ใบแจ้งค่าไฟฟ้าและชำระมาแล้ว 1 ครั้ง (ไม่เต็มเดือนสองพันกว่าบาท) “ส่วนบิลแจ้งค่าไฟฟ้าที่มีปัญหาเป็นของเดือนที่ 2 ซึ่งเป็นยอดเต็มเดือน”
เรื่องมันมีอยู่ว่าโดยปกติแล้ว ทางบริษัทที่มาจดเลขมิเตอร์ไฟฟ้า (ไม่ขอเอ่ยชื่อนะคะทุกคนสามารถไปดูชื่อบริษัทนี้ได้ในใบแจ้งค่าไฟฟ้าตรง “จดหน่วย-แจ้งค่าไฟฟ้าโดย บริษัท..................” จะอยู่ท้ายๆ ใบแจ้งค่าไฟ) ซึ่งเราคิดว่าเป็นบริษัทที่การไฟฟ้าฯ ได้จ้างให้มาจดเลขอ่านให้ ซึ่งบริษัทนี้จะเข้ามาจดเลขอ่าน(มิเตอร์ไฟฟ้า) ทุกวันที่ 20 ของเดือน พร้อมกับถ่ายรูปไว้ด้วย และทางการไฟฟ้าจะออกใบแจ้งหนี้มาให้ในวันถัดไป ซึ่งในครั้งนี้บริษัทฯ นี้ก็เข้ามาจดตามปกติและถ่ายรูปไว้เหมือนเดิม พอคุณแม่เราเห็นว่าเค้าถ่ายรูปไว้ คุณแม่ก็เลยออกมาถ่ายรูปมิเตอร์ไฟฟ้าเก็บไว้บ้าง เพื่อเอาไว้เช็คตัวเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟฟ้าค่ะ ว่าจดตรงกันหรือเปล่า
หลังจากนั้น วันรุ่งขึ้นใบแจ้งค่าไฟฟ้าก็มาค่ะ พอเราเห็นจำนวนเงินในใบแจ้งค่าไฟฟ้า 4,607.25.- เราก็ตกใจค่ะ ว่าทำไมเดือนนี้ค่าไฟบ้านเราแพงจัง!!! เราเลยคุยกับที่บ้านว่าให้ประหยัดนะ บลาๆๆๆ คุยแบบใส่อารมณ์เลยค่ะ (พอมารู้ความจริงว่าผิดพลาดที่ใคร เรานี่รู้สึกผิดเลยเพราะวันนั้นเราพูดจาไม่ค่อยดีกับคนในบ้านไปเพราะอารมณ์โมโหค่าไฟแพง) หลังจากที่คุยกันเสร็จคุณแม่ก็เอาใบแจ้งค่าไฟฟ้าของเดือนก่อนมาดูค่ะ และเปรียบเทียบกันว่า บ้านเราใช้ไฟเกินมาจากเดือนก่อนกี่หน่วย พร้อมกับเอารูปที่คุณแม่ถ่ายไว้มาดู ปรากฏว่า!!!!!!!!!!!!!!!!! รูปที่คุณแม่ถ่ายมิเตอร์ไฟไว้ กับเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟของการไฟฟ้าไม่ตรงกัน!!
หลังจากที่รู้ว่าเลขอ่านในใบแจ้งค่าไฟฟ้าผิดชัวร์ๆ แล้วเราเลยโทรไปที่ MEA Call Center 1130 (Call Center ที่พูดจาไม่ค่อยดีเท่าไหร่) ค่ะ เล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ MEA Call Center ฟัง และคำถามที่ทาง MEA Call Center ถามเรากลับมาแบบเสียงเหวี่ยงนิดๆ คือ “คุณมีหลักฐานหรือเปล่า” เราตอบว่า “มีเป็นภาพถ่ายไว้” จากนั้น MEA Call Center แจ้งกลับมาว่า “จะส่งเรื่องไปให้ทาง การไฟฟ้าฯ และจะให้พนักงานการไฟฟ้าฯ โทรไปแจ้งกับ KTC ให้ระงับการตัดยอดค่าไฟฟ้าผ่านบัตรเครดิตไว้ก่อน” (เราสมัครให้ตัดค่าไฟฟ้า Auto กับ KTC ไว้ค่ะ จากในใบแจ้งค่าไฟฟ้าระบุว่า จะตัดผ่านบัตรเครดิตวันที่ 4/10/59)
เราก็เลยร้อนใจค่ะ กลัวว่าทางการไฟฟ้าฯ จะเดินเรื่องให้เราช้า ในวันเดียวกันนั้นเราเลยโทรไปที่ KTC ค่ะ เล่าเหตุการณ์ให้ทาง KTC ฟัง และถามกับทาง KTC ว่า “ตอนนี้มียอดค่าไฟฟ้าส่งมาให้ทาง KTC ตัดบัตรหรือยัง?”ทาง KTC ก็แจ้งกลับมาว่า “ตอนนี้ในระบับยังไม่มียอดค่าไฟฟ้าเข้ามา และในกรณีนี้การแจ้งระงับการตัดค่าไฟที่ยอดผิดต้องรอให้ทางการไฟฟ้าฯ โทรเข้ามาแจ้งเท่านั้น” เราเลยทำอะไรไม่ได้ต้องรอลุ้นว่าทางการไฟฟ้าฯ จะแจ้ง เรื่องให้เราเมื่อไหร่ ...
หลังจากนั้นวันที่ 27 ก.ย. 59 ก็มีพนักงานจากการไฟฟ้าฯ โทรมาค่ะ เป็นผู้หญิงที่ดูแลเรื่องการออกใบแจ้งค่าไฟฟ้า โทรมาแจ้งว่า “เค้าได้ทำการตรวจสอบแล้วพบว่าจดเลขอ่านผิดจริง และได้ทำการเปลี่ยนเลขอ่านและจำนวนเงินที่ถูกต้องให้แล้ว และจะทำการส่งใบแจ้งค่าไฟฟ้ามาให้เราทางไปรษณีย์”
วันที่ 28 ก.ย.59 ก็มีพนักงานอีกคน เป็นผู้ชาย (เป็นหัวหน้าของผู้หญิงที่โทรมาเมื่อวันที่ 27) โทรมาสอบถามว่า ได้รับใบแจ้งค่าไฟฟ้าหรือยัง เราตอบว่า “ยังไม่ได้รับ” เราเลยสอบถามเค้าอีกครั้งว่า “สรุปค่าไฟฟ้าครั้งนี้ KTC จะตัดผ่านบัตรวันเดิมหรือเปล่า?” พนักงานผู้ชายก็งงๆ ว่าตัดผ่านบัตรอะไร เราก็เลยบอกเค้าว่า ใบแจ้งค่าไฟฟ้าเดิมที่จดเลขอ่านผิดระบุว่าจะตัดผ่านบัตรเครดิตวันที่ 4/10/59 พนักงานผู้ชายแจ้งกลับมาว่าเค้าไม่รู้ว่าในใบแจ้งค่าไฟฟ้ามีระบุไว้ว่าอย่างไร เพราะเค้าเช็คให้ไม่ได้ ต้องรอให้เราดูเองในใบแจ้งค่าไฟฟ้าที่เค้าส่งมาให้ทางไปรษณีย์เอง แล้วซักพักคุยไปคุยมาอยู่ดีๆ เค้าก็บอกเราว่าต้องให้ทาง KTC ส่งเรื่องมาให้เค้าก่อน เค้าถึงจะส่งยอดค่าไฟไปให้ทาง KTC ตัดบัตรได้ เพราะตอนนี้ทางการไฟฟ้าไม่มีข้อมูลของเราแล้ว เราก็เลย งงๆ ว่าทำไมการไฟฟ้าถึงไม่มีข้อมูลการตัดบัตรของเรา เพราะในบิลค่าไฟที่ผิดก็ยังระบุอยู่ว่า จะตัดผ่านบัตรวันที่ 4/10/59 ... เรากับเค้าเถียงกันนานมากจนของเราขึ้น เราโมโห เราเลยโทรประชุม 3 สายเลยจะได้ไม่ต้องโยนกันไปโยนกันมา มี สายของเรา / สาย KTC และ สายผู้ชายเจ้าหน้าที่การไฟฟ้า
เราปล่อยให้เค้า 2 ฝ่ายคุยกัน (KTC-ไฟฟ้า)
ไฟฟ้า : ทางไฟฟ้า แจ้งกับ KTC ว่าข้อมูลของเราที่ให้ตัดบัตรไม่มีแล้ว
KTC : ทาง KTC แจ้งกับการไฟฟ้าว่า ในระบบ ข้อมูลการตัดค่าไฟฟ้าผ่านบัตรของเรายังมีอยู่
สรุปจากการที่เค้าคุยกัน 2 ฝ่าย คือ KTC ให้ทาง การไฟฟ้า ส่งเรื่องของเราไปให้ KTC ใหม่ (ซึ่งเราไม่รู้ว่าขั้นตอนการทำงานเค้าให้ส่งอะไรกัน) และทางการไฟฟ้ารับปากที่จะส่งข้อมูลของเราให้กับ KTC .. จบการสนทนา
หลังจากวันนั้น 28/9/59 ที่ทาง KTC และ ไฟฟ้า คุยกัน เรื่องก็เงียบไป ......................
จนวันนี้ วันที่ 3 ตุลาคม 2559 เราโทรไปที่ KTC อีกครั้งสอบถามเค้าว่าสรุปค่าไฟฟ้าของเราตัดผ่านบัตรหรือเปล่า ทาง KTC แจ้งว่ายังไม่มียอดจากการไฟฟ้าเข้ามา !!! เรางง ค่ะ .... (นึกในใจสรุปยังไงกันนี่ การไฟฟ้าก็เงียบ .. KTC ก็เงียบ จากวันที่ 28/9/59 จนถึงวันนี้ 3/10/59 ไม่มีใครโทรมาแจ้งความคืบหน้าให้เราทราบซักคน จนเราต้องโทรมาตามเรื่องเองอีกตามเคย เราเลยตัดสินใจ โทรหาพนักงานการไฟฟ้าที่เป็นผู้ชายคนเดิมที่เราคุยด้วย
พนักงานไฟฟ้าแจ้งเราว่า เค้าไม่สามารถส่งข้อมูลให้ KTC ตัดผ่านบัตรได้ เพราะตอนนี้ชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าได้ถูกเปลี่ยนมาเป็นชื่อของเราแล้ว (เดิมชื่อโครงการ) ถูกเปลี่ยนหลังจากวันที่เค้าได้แก้ยอดค่าไฟฟ้าที่ถูกต้อง และส่งไปรษณีย์ให้เรา (ทางการไฟฟ้าฯ แจ้งว่าเค้ารับเรื่องการเปลี่ยนชื่อผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นชื่อเราเมื่อวันที่ 21/8/59 แต่เพิ่งจะมาเปลี่ยนข้อมูลในใบแจ้งค่าไฟฟ้าเป็นชื่อเราเมื่อวันที่ 21/9/59 (คือตรงนี้เรางงกับพนักงานการไฟฟ้าผู้ชายคนนี่มาก) เลยทำให้ข้อมูลของเรากับการไฟฟ้าไม่มีแล้ว
เราไม่พอใจตรงที่ว่า .. นี่ถ้าเราไม่ตามเรื่องเอง ไม่โทรไปจิกเอง คงจะปล่อยให้เลยตามเลยซินะเรื่องนี้ ใช้เวลานานมาก แต่วันที่ 21/9/59 - 3/10/59 รวมวันหยุดก็ 13 วัน กว่าจะรู้เรื่อง
- การไฟฟ้าฯ ก็ไม่แจ้งความคืบหน้าเรา
- KTC ก็ไม่ติดต่อเรากลับมาเลย (ไฟฟ้าแจ้งเรื่องให้ติดต่อตั้งแต่วันที่ 28/9/59)
โทรมาหาเราอีกทีวันที่ 3/10/59 หลังจากที่เราโทรไปตามเรื่องมาวันนี้
จากวันแรกที่ “การไฟฟ้าฯ จ้างให้บริษัทนอกกมาจดเลขมิเตอร์ผิด!! ” จนถึงวันนี้เราเสียค่าโทรศัพท์ไปตั้งเท่าไหร่แล้ว คุยกันแต่ละครั้งก็ครึ่งชั่วโมงได้ โทรหาทั้งการไฟฟ้า ทั้ง KTC ลืมกันไปแล้วหรือเปล่าว่า
สรุปแล้วจากเหตุการณ์นี้ เราเสียทั้งค่าโทรศัพท์ เสียทั้งอารมณ์ และเสียทั้งสิทธิ์ที่ค่าไฟฟ้าเดือนนี้เราไม่สามารถให้ตัด Auto ผ่านบัตร KTC ได้ เราต้องสำรองจ่ายเงินสดออกไปก่อน ที่สำคัญเราต้องทำเรื่องสมัครกับทาง KTC ใหม่!! .. เพราะการทำงานผิดพลาดและการทำงานแย่ๆ ของทั้ง 2 บริษัท ..... ทำให้ลูกค้าเดือดร้อน บ้ามากกกกกกกก!!
ที่สำคัญ!! จ้างบริษัทข้างนอกมาจดมิเตอร์ไฟฟ้าให้ แล้วการไฟฟ้าฯ ไม่ตรวจความถูกต้องก่อนหรอคะ ก่อนที่จะออกใบแจ้งหนี้ให้ลูกค้า?? พลาดได้ยังไงจดผิดไปตั้ง 300 กว่าหน่วย!! ยังมีการมาบอกเราด้วยนะว่า ไม่ใช่กรณีของเราคนเดียว กรณีของคนอื่นบริษัทอื่นก็เคยมี เคยพลาด ... แล้วยังไงอ่าคะ ถ้าคุณบอกมาอย่างนี้ อย่างนั้นก็แสดงว่าคุณไม่ได้มีการพัฒนาการทำงาน หรือหาทางป้องกันอะไรเลยหรอคะถึงให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นกับลูกค้าอีก แล้วไม่ได้ผิดแค่หน่วย สองหน่วยนะ นี่ผิดไปตั้ง 300 กว่าหน่วย!! ถ้าเราไม่เอะใจเราคงจ่ายค่าไฟแพงๆ ไปแล้วซินะ ??
สุดท้ายแล้ว เราอยากให้ทุกคนระมัดระวังและรอบครอบ คอยเช็คเลขอ่านมิเตอร์ไฟฟ้าในแต่ละครั้งไว้ด้วย ว่าเลขมันได้จดต่อกันหรือเปล่า จะได้ไม่ต้องมาเจอเหตุการณ์แย่ๆ แล้วก็การพูดจา การบริการของพนักงานที่เราเจอมาแย่ๆ เสียความรู้สึกค่ะ ...
เล่าสู่กันฟังเท่านี้แล้วกันค่ะ นี่แค่ส่วนหนึ่งนะคะ ไม่ได้เล่าลงรายละเอียดลึกมาก ถ้าลงลึกกว่านี้ วันนี้คงพิมพ์ไม่จบค่ะ ..
ขอบคุณค่ะที่ทนอ่านมาจนถึงบรรทัดสุดท้าย ^^