3> ฮาโกดาเตะไม่หนาวเท่าไรหรอกมั้ง? ( Frozen Hakodate )
จากตอนที่แล้วทิ้งช่วงไปนานเป็นเดือนเลยครับ .. พอดีออกไปเที่ยวมาเกือบตลอดทั้งเดือน 555+
ในตอนที่ 3 นี้เราจะเดินทางกันยาวยาวจาก Otaru ตรงไปที่ Hakodate
ใครยังไม่ได้อ่าน 2 ตอนที่แล้วก็ลองติดตามเนื้อเรื่องกันก่อนครับ .. เผื่อใครจะไปเที่ยวเองก็ถามมาได้นะ
Young Blood Backpacker - Hokkaido Winter - ตอนที่ 1 - จุดเริ่มต้น
Young Blood Backpacker - Hokkaido Winter - ตอนที่ 2 - กว่าจะถึงโอตารุ (Snow Drop Otaru)
Hakodate เป็นเมืองอยู่ใต้สุดของเกาะ Hokkaido ครับ ..
บรรยากาศถ้าไม่ใช่จุดท่องเที่ยวจะเงียบสงบมาก .. เป็นเมืองติดทะเลที่ของกินอร่อยอันดับต้นๆของประเทศ
ตอนนี้ถ้าไปด้วยรถไฟจะมี 2 ทางก็คือนั่งรถไฟไปจาก Sapporo แบบผม หรือนั่งรถไฟลอดใต้ทะเลขึ้นมาจากทาง Aomori
ระยะเวลาในการเดินทางจาก Otaru มา Hakodate จะ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเริ่มขึ้นรถไฟเวลาไหน แล้วตกรถไฟตอนต่อขบวนรึเปล่า 55
แต่ไม่ต้องห่วงครับเราสามารถวางแผนได้ตั้งแต่ที่ไทยเลย ในเว็บของ JR Hokkaido จะมีตารางรถไฟให้เราพกติดตัวไปได้
ตารางแต่ละฤดูร้อน ฤดูหนาวก็จะคนละแบบกันครับ .. ช่วงใกล้ๆวันเดินทางค่อยเปิดดูอีกทีก็ได้
วันนั้นเราออกเดินทางกันตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเพราะหน้าหนาวกลางวันจะสั้นมาก เริ่มด้วยรถไฟรอบ 6:38 น.
จากรูปที่บอร์ดด้านบนจะแสดงชื่อขบวน + เวลา + เส้นทางหลักคือที่ไหน + ชานชาลา
เราดูเทียบกับตารางที่เรามีได้เลยครับ .. ถ้าตรงตามนั้นก็ถือ JR Pass ยื่นให้พนักงานช่องซ้ายสุดดูและเข้าไปได้เลย
เข้ามาด้านในจะมีป้ายบอกชานชาลาชัดเจน .. ส่วนชื่อขบวนไม่อยู่ด้านหน้าก็อยู่ด้านข้างครับ
เที่ยวนี้เรานั่งไปลงที่ Sapporo กันก่อนเพื่อเปลี่ยนขบวน ..
อ้างอิงจาก Hyperdia บางเที่ยวจะมีเวลาเดินเปลี่ยนชานชาลาไม่ถึง 10 นาทีนะ เหอๆๆ
ขาไปจาก Sapporo - Hakodate ถ้านั่งรถไฟฝั่งซ้ายจะเห็นทะเลแล้วก็สลับกับบ้านเมือง
บางจุดไต่เลาะเหวริมทะเลก็มีครับ .. แต่เราถ่ายรูปเล่นมากไม่ได้เพราะเสียงดังเกรงใจผู้โดยสารคนอื่น
บนรถไฟจะมีข้าวกล่อง มีน้ำขายครับ ที่สำคัญอร่อยด้วยสิ 555+
รถไฟวิ่งลงใต้มาสักพัก อากาศที่คิดว่าน่าจะอุ่นขึ้นเพราะวิ่งลงใต้ .. กลับเป็นน้ำแข็งซะงั้น !!
ถ้าจะเทียบกันผมว่า Hakodate หนาวกว่า Otaru นะ .. อันนี้วิวจากหน้าต่างฝั่งซ้ายแบบภูเขาก็มีครับ
เดินทางมาถึง Hakodate เราก็แวะซื้อตั๋วรถรางกันก่อนเลย Tram 1 day pass = 600¥
ใครจะอยู่กี่วันแนะนำให้ซื้อตุนเอาไว้สำหรับวันถัดไปได้เลยครับ .. โดยใช้เหรียญขูดตามวันที่ที่เราจะใช้งาน
หน้าตาของสถานี JR Hakodate .. ถ้ามองจากด้านนอกก็ใหญ่จนมองเห็นได้แต่ไกลๆ
หลังจากได้ตั๋วเรียบร้อยก็เดินลากกระเป๋าฝ่าพื้นหิมะกันต่อ .. เราจะไปกินมื้อกลางวันกันครับ
ร้านนี้ชื่อ Zundo Ramen ずんどらーめん อยู่ใกล้กับสถานีรถไฟมากมาก
เดินตามแผนที่ข้ามถนนมาเจอตึกสูง ร้านจะอยู่กลางๆมีป้ายหน้าร้านชัดเจนเลยครับ
ป้ายหน้าร้านสีดำๆแบบนี้ .. ถ้าเจอก็นี่ละร้านที่เราตามหา
บรรยากาศในร้านจะเป็นห้องแถวแคบๆ ถ้ามีกระเป๋าลากด้วยนี่คือแถบจะไม่มีทางเดิน
ดีที่ในร้านมีคนท้องถิ่นเข้ามากินเหมือนกัน เลยทำให้มั่นใจได้ว่าอย่างน้อยก็ไม่โดนคำโฆษณาหลอกวะ 555
เมนูขึ้นชื่อของทางร้านจะเป็น ราเมงก้ามปู 海鮮コク塩らーめん
รายละเอียดตามรูปเลยครับ ส่วนน้ำซุปเฉพาะของฮาโกดาเตะจะเป็นซุปเกลือ
ส่วนตัวผมชอบนะ คือมันมีกลิ่นทะเล เค็มนิดๆเหมือนเพิ่มความสดของวัตถุดิบ
เหลืองๆนั่นคือไข่หอยเม่นนะคุณ ในไทยแพงนะ ไม่สดเท่านี้ด้วย 555 หมดนี่ราคา 1,080 ¥ เท่านั้น
เราแวะเอากระเป๋าฝากที่โรงแรม แล้วไปเที่ยวกันต่อที่ป้อมดาว 5 แฉก Goryokaku ซึ่งอยู่ด้านบนของเมือง
การเดินทางในฮาโกดาเตะหลักๆจะเป็นรถรางแล้วก็เดินๆๆ ครับ หน้าตาดูแก่ๆแต่ตรงเวลาแล้วก็ฮีทเตอร์แรงมากนะ >,<
เห็นไหมครับบนรถยังเป็นพื้นไม้แบบโบราณ เวลานั่งก็ให้ระวังขาโดนท่อฮีทเตอร์ร้อนๆที่อยู่ใต้เบาะนิดนึง
วิธีขึ้นก็เหมือนรถบัสครับ คือขึ้นด้านหลังหรือกลาง แล้วลงด้านหน้าประตูข้างคนขับ (Pass ที่ซื้อมาก็ยื่นให้เค้าดูตอนนี้)
มาถึงแล้วครับเนินวัดใจ .. จากนี้เราจะต้องเดินกันต่อประมาณ 700 เมตรเพื่อไปถึงป้อมดาว 5 แฉก
700 เมตรเอง ขำขำน่ะ .. ตอนทำแผนที่ไทยก็คิดแบบนั้นจริงๆแหละครับ
แล้วดูสภาพจริงสิ 555 พื้นน้ำแข็งแบบนี้ พร้อมทั้งหิมะที่ตกลงมาจนกลายเป็นน้ำ
ทั้งลื่น ทั้งหนาว ทั้งไอหิมะ .. ป่วยสิครับจะรออะไร!!
ในที่สุดก็มาถึงแล้ว!! หลังจากหลบเข้าด้านในเราจะซื้อตั๋วแล้วก็เข้าไปต่อในส่วนของสวน
พักทำใจเสร็จก็ออกมาลุยกันต่อครับ .. บางคนก็ถามนะว่าไปฮอกไกโดตอนนั้นคือแกหนาวแน่นอน
มันก็หนาวนะ .. แต่มันก็ยังอยากรู้อยู่ดีว่าเมืองนี้ในหิมะจะสวยแค่ไหน 55
อาคารโบราณกลางหิมะ
เด็กเด็กเล่นเลื่อนหิมะลงมาจากเนินดินของป้อม
ภาพพวกนี้คุณจะไม่ได้เห็นหรอกครับ .. ถ้าเราเอาแต่ตั้งข้อสงสัยว่าจะไปเที่ยวให้หนาวทำไม -..-
เดินเล่นกันพอเป็นพิธี ก็กลับเข้ามาด้านในเพื่อขึ้นไปถ่ายรูปด้านบนหอคอยกัน
ชั้น 1 ชั้น 2 จะเป็นส่วนขายตั๋ว ขายของที่ระลึก แล้วก็ร้านอาหาร
เราขึ้นมาที่ชั้นบนสุดกันก่อนในส่วนของห้องแสดงประวัติศาสตร์แล้วก็จุดชมวิว
ส่วนชั้นล่างถัดมาจะเป็นร้านขนมกินเล่นกับจุดชมวิวอีกจุดนึง
ภาพแบบนี้แหละครับ .. ที่ผมอยากจะบอกว่าของจริงมันสวยกว่านี้อีกเยอะ!!
บนชั้นบนสุดจะมีตู้จำลองจัดแสดงประวัติของป้อมดาว 5 แฉกแห่งนี้ .. ตุ๊กตัวเล็กๆแบบนี้แต่ทำได้ละเอียดดีครับ
เดินวนไปวนมาเริ่มหิว .. ลงมากินไอศกรีมเมล่อนหอมๆที่ชั้นล่างประชดความหนาวกันไป T-T
เวลาที่รอคอยก็มาถึง เราตั้งใจจะมาเก็บภาพนี้เพราะเห็นในหนังสือแล้วแบบเออสวยว่ะ .. แต่เราเอามาได้แค่นี้ละ 55
หลังจากฟ้ามืดก็หอบร่างกลับเข้าเมืองเพื่อไปกินข้าวเย็น
เดินกลับฝ่าพื้นน้ำแข็ง 700 เมตร - ขึ้นรถราง - เดินไปร้านข้าวอีก 300 เมตร .. ป่วยไหมถามใจเธอดู!!
ด้านหน้าของตรอกกินดื่มเมืองฮาโกดาเตะ Daimon Yokocho จะเป็นซุ้มประตูมีทางเข้า 2 ด้าน
ด้านในจะเป็นทางเดินแคบๆมีร้านขนาบข้าง .. ส่วนร้านไหนอร่อยนั้นคงต้องวัดใจกันดู 555
สำหรับคนแพ้บุหรี่อาจจะลำบากนิดนึง เนื่องจากร้านอาหารของที่นี่ส่วนใหญ่เป็นแบบสูบบุหรี่ทั้งนั้นครับ
ภาพสุดท้ายก่อนจะเดินกลับที่พัก .. พายุหิมะแกตามมาจากโอตารุใช่ไหม???
ตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายของฮาโกดาเตะนะครับ .. ตามรอยแฟนเดย์กันต่อได้เลย (แฟนเดย์เที่ยวกันยังไงวันเดียว)
ตอนที่ 3 นี้ผมเขียนช้ากว่าปกติมากๆ ขออภัยและขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามกันนะครับ
#YoungBloodBackpacker
[CR] Young Blood Backpacker - Hokkaido Winter - ตอนที่ 3 - ฮาโกดาเตะไม่หนาวเท่าไรหรอกมั้ง? ( Frozen Hakodate )
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น