สวัสดี เพื่อนๆ ชาว Pantip ทุกๆคนค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรา หากผิดพลาดประการใด โปรดชี้แนะด้วยนะค๊า ^^

เมื่อวันหยุดที่ผ่านมา จขกท และเพื่อน ได้ไปเที่ยวที่กาญจนบุรีมาค่ะ เลยอยากจะเขียนรีวิว เพื่อบันทึกการเดินทางของพวกเราเอาไว้ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครหลายๆคน หรือว่าเข้ามาอ่านเล่นๆ แบ่งปันความสุขกันนะคะ
เริ่มต้นการเดินทาง...
การเดินทางในครั้งนี้ พวกเราตั้งใจละทิ้งความสะดวกสบายทุกอย่าง ไม่ขับรถ ทานง่ายๆ อยู่ง่ายๆ ไม่เร่งรีบ เราจึงออกเดินทางจากกรุงเทพ ด้วยรถไฟ ขบวนธรรมดา 257 ธนบุรี - น้ำตก ซึ่งออกเดินทางจากกรุงเทพฯ 07.50 น. เดินทางไปถึงสถานีน้ำตก ยาวไปสุดสาย ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่งค่ะ
เช้าวันนั้นก็เกือบจะตกรถไฟซะแล้ว ไม่เร่งรีบ ตาม plan เกือบจะไม่ได้ไป T^T

เจ๊มีความเลือกที่นั่งได้ดี...

เราก็ถ่ายรูปเก็บบรรยากาศในรถไฟ ระหว่างที่นั่งกันไปอย่างมีความสุขนั้น ก็ไม่วายแบ่งให้คนอื่น ไม่รู้ว่าเป็นความสุข หรือไปเพิ่มความทุกข์ ก็ไม่ค่อยมั่นใจค่ะ แต่ผลที่ได้คือ รอยยิ้มที่บวกเพิ่ม มันทำให้ trip นี้ น่าสนุกอย่างบอกไม่ถูกเลยค่ะ น้องเจมส์เด็กยิ้มสวย บ้านอยู่เมืองกาญ นางเข้ามาเรียนที่โรงเรียนรถไฟ วันนี้นางกลับบ้านพอดี เราก็ชวนคุย ถามนู้นนี่ ถามว่าทำไมไม่นั่งรถตู้หละ!! เจมส์บอกว่าตังค์หมดครัชช !! เอ้าาาา!! ชัดเจน พอดีพวกพี่โอนไว 55555
แซวน้องเสร็จแล้ว ก่อนน้องจะลงที่สถานีตัวเมืองกาญฯ ก็ถ่ายภาพหมู่เก็บไว้เป็นที่ระทึกกันซะหน่อย โปรดให้อภัยในความหน้าชัด หลังเบลอของพี่ด้วยนะ


เดินทางกันมาซักพักนึง ก็ไม่ถึงซะที 11.30 น. พวกเราเพิ่งผ่านที่สะพานข้ามแม่น้ำแคว ซึ่งทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมากกกก


หิวโซ อดอยาก โดนัทเนย น้ำตาล ก็มา อีกหนึ่งรอยยิ้มที่พวกเราได้รับค่ะ

เที่ยงกว่าๆ เราก็มาถึงไฮไลท์ที่รถไฟขบวนนี้จะต้องวิ่งผ่าน เลือกฝั่งวิวตามใจชอบเลยย วิวผา หรือผิวแม่น้ำ จขกท ก็จำไม่ได้ว่านั่งฝั่งไหน เลยถามพี่เจ้าหน้าที่สถานีเอาค่ะ


เอิ่มม เจ๊ๆ พี่เจ้าหน้าที่เค้ามาขอตรวจตั๋วเฉยๆ ทำไมต้องมองแรงเบอร์นั้น ><
บรรยากาศ สองข้างทาง..



ระหว่างการเดินทางที่แสนจะย๊าวยาวนานนี้ เราเจอทั้งฝน ทั้งแดด สลับกันไป จนสุดท้ายเราก็เดินทางมาถึงที่หมาย สถานีน้ำตก เวลาประมาณ เกือบๆ บ่ายโมงค่ะ

ที่สถานีน้ำตกมีร้านอาหารตามสั่งอยู่หลายร้าน มีให้บริการรถสองแถว มีทั้งเหมาไปถึงอุทยานไทรโยคใหญ่ หรือจะนั่งออกไปต่อรถประจำทางตรงบริเวณหน้าน้ำตกไทรโยคน้อยก็ได้ค่ะ ราคาเหมา เค้าคิด 600-800 อยู่ระหว่างนี้ จากสถานีน้ำตกไปอุทยานไทรโยคใหญ่ มาหลายคนก็คุ้มอยู่นะคะ แชร์ๆ หรือว่าจะ join group กันก็ได้ แต่ถ้าขึ้นไปลงที่หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย ราคาคนละ 30 บาทค่ะ
วิถีทางของพวกเราคือ ทานข้าวให้เรียบร้อย จากสถานีน้ำตก แวะร้านกาแฟ กินโกโก้เยนซักแก้วให้หายร้อน หายเหนื่อยซะก่อน แล้วฉิงฉับทัวร์ต่อไปที่หน้าน้ำตกไทรโยคน้อย แวะ 7-11 ค่ะ ซื้อของกลัวว่าในอุทยานร้านค้าอาจจะปิดไว

ซื้อขนมนมเนย เรียบร้อย ก็ได้เวลามายืนถ่ายรูปเล่น รอรถประจำทาง ที่ไปถึงสังขละบุรี พวกเราจะไปลงที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกไทรโยคใหญ่ เพราะว่าก่อนมาถึง เราได้จองบ้านพักกับทางอุทยานไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ
ในที่สุด... เมื่อรถมาถึงเราก็บอกพี่คนเก็บเงินว่า ถ้าถึงอุทยานแล้ว รบกวนบอกพวกหนูด้วยนะคะ ^^

นั่งรถมาได้ประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ ลมเย็นๆ นั่งชิลๆ ก็ถึงอุทยาน เค้าจะมีรถเข้าอุทยานที่เป็นซาเล้งของชาวบ้านแถวๆนั้น กับรถตู้ค่ะ รถตู้ก็เก็บคนละ 20 บาทเข้าไปส่งข้างใน ค่าเข้าอุทยาน ผู้ใหญ่ 100 บาท นักศึกษา 50 กันเลยจ้าาา

มาถึงแล้วก็ดื่มดำบรรยากาศธรรมชาติ เดินชี้นก ชี้ไม้กันไป ติดต่อบ้านพักอุทยานราคา 800 บาท เป็นบ้านริมน้ำ พวกเรากะจะกระโดดน้ำเต็มที่เลย ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อยแล้ว

บ้านพักในอุทยานหลังใหญ่มากค่ะ มี 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ บ้านริมน้ำแต่!!! เล่นน้ำไม่ด้ายยยย แถมยังเห็นน้ำอยู่ไกลลิบๆ เอ๊าาา!! ไม่เป็นไรระหว่างทางเราเห็นคนตัวเปียกเดินสวนมา เห้ยมันต้องมีให้เล่นกันบ้างละ เปลี่ยนเสื้อผ้า จับจองพื้นที่ แล้วไปเล่นน้ำตกกันดีกว่า!! ก่อนจะไปก็แวะซื้อกล้วยปิ้งกันแป๊บนึง อร่อยนะ พูดจริง
เดินเข้าไปในอุทยานค่ะ ระยะทางจากบ้นพักเข้าไปในน้ำตกไม่ไกลมาก แค่ 200-400 เมตรเอง อย่าลืมพกยากันยุงติดตัวไว้ด้วยนะคะ ยุงเยอะมาก!!

เดินกันอยู่นาน เห้ยยยย!! มันเล่นน้ำไม่ได้เลยยยย ไหนๆก็มาละ เราต้องทำยังไงดี!! เห็นเค้าล่องแพเปียกกัน ลอยคอกันไปบ้าง โบกมือบ้ายบายพวกเราที่ยืนเล่นกันอยู่บนสะพาน ตัดสินใจ เอาไงก็เอาไหนๆก็มาแล้วเราย้ายมานอนแพกัน แล้วเราก็โชคดีมากๆ ที่วันนั้นมีห้องว่างสำหรับพวกเรา ไม่พูดพร่ำทำเพลง เดินไปดูห้อง เลือกทำเล เอ้าาเกร๋อ่ะ เอาน้ำจุ่มน้ำได้เลย ราคามีตั้งแต่ 1000 - 2000 บาท มีทั้งเตียงเดี่ยว เตียงคู่ โอ๊ยเลือกข่ะ แล้วพี่เจ้าของที่พักบอกว่า เดี๋ยวพี่จะพาไปเล่นน้ำตกตอนห้าโมงเย็น พวกเราช้าไม่ได้แล้ว ตอนนั้นมันสี่โมงครึ่งแล้ว !!
จขกท : ต้องจ่ายเงินก่อนมั๊ยคะ ?
จขทพ : จ่ายตอน check out ก็ได้ #แบบนี้ก็ได้หรอ
ดีค่ะชอบ รีบไปเก็บข้าวของ ย้ายห้องกันดีกว่า

ใครสนใจ โทรจองก่อนก็ได้นะคะ ที่พักนี้จำนวนห้องไม่ได้เยอะมาก พี่ๆเจ้าของก็ใจดี๊ ใจดี พวกเราโชคดีที่ได้เจอเพื่อนๆ ข้างห้องที่นิสัยน่ารัก เป็นมิตร พวกเราก็แอบเนียนทำความรู้จัก ตั้งแต่บ้าน @1 บ้าน @10 กันไปเลยค่ะ ได้เวลาแห่งความสนุกสดชื่นกันละ ลงแพไปเล่นน้ำตกกันค่ะ และนี่คือภาพความทรงจำดีๆ ทั้งหมด
ปังเย็น และพ่อของปังเย็น 5555 น่ารักจนอยากจะเก็บใส่กระเป๋ากลับบ้าน พ่อปังเย็นก็เรียกหาตลอดเช้า ไม่งั้นเก็บกลับบ้านไปจริงๆนะเนี่ย 555

สนุกสนานกันมาตลอดทั้งคืน ได้เวลาแยกย้ายกันกลับไปนอนพัก แล้วค่ะ
พอถึงวันที่จะต้องกลับก็ไม่อยากกลับกันเลย ... ขากลับพวกเราก็ไม่ได้เร่งรีบค่ะ พี่ๆห้องอื่นยังคงไปล่องแพสนุกสนาน ร่าเริง น่าอิจฉามาก
ก่อนจะกลับก็เรียกกันมา selfie ละก็มาแนบซะใกล้ขนาดนั้นเลยนะ 5555 โอเคค่ะไม่ถือ!!! คุณ AL คนใส่แว่นเป็นคนมาเลเซีย แต่พูดได้หลายภาษาด้วย ที่สำคัญพูดไทยเก่งมาก น่ารักแถมยังใจดี ตลกด้วย ส่วน Peter เป็นอเมริกัน หุ่นยังแซ่บ 555 ทั้งๆที่อายุก็ปาเข้าไปจะ 50 แล้ว นางเพิ่งเคยมาเมืองไทยครั้งแรก พูดไทยได้ 1 คำถ้วน "ขอบคุณครับ" พวกเค้าน่ารักมากๆค่ะ

เมื่อพวกเราจัดการมื้อเช้าเรียบร้อย ก็เอากุญแจบ้านพักอุทยานไปคืน แวะซื้อน้ำท่าอะไรเรียบร้อย ป้าเจ้าของร้านถามเราว่า อ้าว!! พวกหนูจะออกไปยังไงกัน เดี๋ยวให้เด็กเอาซาเล้งไปส่ง!! ป้าคิดแค่ 50 บาท ให้เป็นค่าขนมเด็กมันไป...
เยี่ยมไปเลยค่ะ เรามีคนไปส่งแล้ว พวกเรานั่งซาเล้งกลับออกไปหน้าอุทยาน เพื่อโบกรถประจำทางเข้า บขส. กาญจนบุรีค่ะ รถจะผ่านมาทุกๆครึ่งชั่วโมง เมื่อถึง บขส. ก็ต่อรถตู้ไปลงที่อนุเสาวรีย์ค่ะ

เทพธิดาซาเล้ง!! ราคาเหมาๆ 50 บาท ขาดตัว!!


จบทริปแล้ว สิ่งที่ได้เรียนรู้คือ รอยยิ้มมีค่าเสมอ ยิ่งเราเก็บได้เยอะเท่าไหร่ ก็เพิ่มความสุขในชีวิตได้เท่านั้น จบทริปนี้ พวกเรามีความสุขมาก เสียเงินกันไปคนละ 1,200 บาทถ้วน แต่ความสุขที่ได้รับกลับมา หาไม่ได้ในออฟฟิศที่นั่งทำงานอยู่แน่นอนค่ะ พับจอแล้วออกไปพักผ่อน เติมพลังให้ชีวิตกันนะคะ แล้วพบกันใหม่ ขอขอบคุณสำหรับทุกคำติชมค่ะ