เปิดคลังแสง! “ครีมทาหน้าเพื่อผิวกระจ่างใส” ตัวไหนเด็ด…ตัวไหนเริ่ดที่สุดในปฐพี มาดูกัน!

สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคน ตุ๊ดคนเดิมเพิ่มเติมคือกระทู้ใหม่ กลับมาแล้วค่า หัวเราะ เห็นชื่อกระทู้ก็อย่าเพิ่งเบะปากมองบนว่าเราเป็นพวก “คลั่งขาว” เลยนะ คิดซะว่าไม่มีใครจะเหมาะกับสีผิวใดสีผิวหนึ่งเสมอไปก็แล้วกัน อะๆ เข้าเรื่องกันเลย คือปกติแล้ว เราเป็นคนชอบ “ลอง” อะไรไปเรื่อยๆ จนกว่าจะเจอสิ่งที่เหมาะกับตัวเองจริงๆ ไม่ใช่แค่เรื่องความสวยความงาม แต่เป็นทุกๆ เรื่องเลย และวันนี้เราก็ว่างๆ + อยากจะรีวิว “ครีมทาหน้า” ที่ช่วยให้ผิวกระจ่างใส และด้วยความที่เราลองบ่อยเกินไป ก็มีบางตัวที่ใช้แล้วแพ้ไปเลยก็มี แบบว่ามีผื่นแดงขึ้นเล็กๆ หรือสิวขึ้นอะไรแบบนี้ (ไม่แนะนำให้คนที่ผิวหน้าบอบบาง มาลองอะไรแบบนี้นะคะ)

          สำหรับการ “เปิดคลังแสง” ในวันนี้ เราเลยเลือกครีมที่ใช้แล้ว “ไม่แพ้” แต่ผลลัพธ์ที่ได้ก็จะแตกต่างกันออกไป บางตัวก็เห็นผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ หรือบางตัวอาจจะใช้แล้วไม่รู้สึกเปลี่ยนแปลงเลยก็มี งั้นลองไปดูกันเลยดีกว่าค่ะว่ามีแบรนด์ไหนกันบ้าง



1. Doctor Somchai Night Cream
2. Garnier Light Complete White Speed
3. Hada Labo Retinol Lifting & Firming Cream  
4. L'Oreal Paris White Perfect Day Cream 50ml SPF17/Pa+++
5. Neutrogena Fine Fairness Overnight Brightening Cream
6. Olay Natural White Pinkish Fairness Cream UV Protection
7. White Me Up Booster Moisturizer


    ก่อนจะไปทดสอบแบบละเอียดๆ กันทีละ Step เราจะมาพูดถึงครีมแต่ละตัวตามความรู้สึกของตัวเองกันก่อน ไม่ว่าจะเป็นที่มาที่ไป หรือผลหลังจากการใช้ก็ตาม และช่วงนี้เรากำลังอินกับ The Bachelor Thailand เป็นพิเศษ (คือคุณปั้นดีงามมากแกเอ๊ยยยย) เลยจะขอยืม Quote เด็ดๆ ที่รู้สึกว่าเข้ากับครีมนั้นๆ มาใช้ประกอบการรีวิวด้วย ไปดูกันเลยค่า ☺

1. Doctor Somchai Night Cream




       สำหรับ Doctor Somchai Night Cream เป็นครีมที่เราไม่ได้ตั้งใจจะลองตั้งแต่แรก แต่มีเพื่อนแนะนำมาว่า “ดีจริงอะไรจริง” ก็เลยตัดสินใจซื้อมาลอง จากที่อ่านสรรพคุณต่างๆ ก็ถือว่าตอบโจทย์เราพอสมควรเลยนะ อย่างเช่น ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ช่วยให้ผิวมีความเนียนนุ่ม สดใสเปล่งปลั่ง ฯลฯ แต่พอเราได้ลองใช้จริงๆ มันกลับไม่ได้ทำให้ “หน้าใส” ขนาดนั้นนะ คือหน้าเราก็เหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกว่าไบรท์ขึ้น แต่สิ่งที่รู้สึกได้เลยจริงๆ ก็คือ “ความนุ่ม” ของหน้า ที่หลังจากเราทาตัวนี้ก่อนนอน ตื่นมาหน้าก็นุ่มดี พอใช้ไปเรื่อยๆ ก็เห็นผลข้อนี้แหละที่ชัดที่สุด

ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์




2. Garnier Light Complete White Speed




    บอกเลยว่า Garnier Light Complete White Speed เป็นครีมที่ “แรงมาก” (เห็นคนรอบข้างหลายคนที่ลองใช้ก็บ่นแพ้กันนะ) แต่แปลกที่เราไม่แพ้ สงสัยจะ… ฮ่าๆ เรามักจะใช้ครีมนี้แบบต่อเนื่องทุกครั้งหลังจากไปเที่ยวทะเลมา เพราะว่ามันช่วยเอาความหมองคล้ำบนใบหน้าออกไปได้จริงๆ คือหน้าเราจะไบรท์ขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยอะ คงเป็นเพราะมันแรงสมคำร่ำลือนี่แหละ แต่ขอขีดเส้นใต้แรงๆ เลยค่ะว่า น่าจะเป็นตัวที่ไม่ได้เหมาะกับทุกคน!

ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์




3. Hada Labo Retinol Lifting & Firming Cream  




      Hada Labo น่าจะเป็นแบรนด์ที่แตกสาขาไปเยอะมาก นอกจากจะมีหลายสี หลายสูตรแล้ว ยังมี Skin Care อีกเพียบให้เลือกใช้ และสำหรับ Hada Labo Retinol Lifting & Firming Cream ก็เป็นครีมที่แตกต่างจากแบรนด์อื่นตรงที่ “เน้นไปที่เรื่องริ้วรอย” เป็นหลัก เป็นฟีล Anti-Aging อะไรอย่างนั้นเลย คือด้วยความที่เราเป็นแฟน Hada Labo อยู่แล้ว ตอนได้ลองใช้ครีมนี้ก็แอบผิดหวังนิดหน่อย เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเราสักเท่าไหร่เลย ไม่ว่าจะเป็นริ้วรอยที่เค้าเคลมกัน รวมถึงความกระจ่างใสก็ไม่ค่อยเห็นผลนะ แต่แค่ไม่แพ้แค่นั้นเอง

   ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์




4. L'Oreal Paris White Perfect Day Cream 50ml SPF17/Pa+++



      ต่อมาที่ L'Oreal Paris White Perfect Day Cream 50ml SPF17/Pa+++ คือเราเคยใช้ครีมกันแดดของเค้า เราก็ว่าโอเคนะ แต่พอมาเป็น Day Cream แล้วเฟลเบาๆ คือเค้าเคลมเรื่องความขาวกระจ่างใส แต่เคมีดันไม่ตรงกับเราซะงั้นเลย ฮ่าๆ เพราะทาแล้วหน้าวอกไปเบอร์นึงเลยค่ะ จนเราไม่สามารถทนใช้ได้นานจริงๆ (ไว้ไปดูการทดสอบแล้วกันนะคะ)

ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์




5. Neutrogena Fine Fairness Overnight Brightening Cream



       พี่ปั้นคะ >< เอ้ยไม่ใช่! ต่อมาที่ Neutrogena Fine Fairness Overnight Brightening Cream ไม่คิดว่าจะใช้แบรนด์นี้แล้วถูกโฉลกเลย (เคยใช้โฟมล้างหน้าแล้วไม่ปลื้มเอาซะเลย) เพราะหลังจากใช้ตัวนี้ก่อนนอนทุกคืนแบบต่อเนื่อง ก็เห็นผลที่น่าพอใจมากขึ้น โดยเฉพาะ “ความขาวกระจ่างใส” พวกรอยดำอะไรพวกนี้ก็ดูจางลงไปเยอะเลย แถมหน้ายังรู้สึกนุ่มชุ่มชื้นด้วย ยิ่งรู้จักยิ่งรักเธอจริงๆ

ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์



6. Olay Natural White Pinkish Fairness Cream UV Protection



       ด้วยความที่อยากมีผิวขาวอมชมพูอะเนอะ ก็เลยลอง Olay Natural White Pinkish Fairness Cream UV Protection ซะหน่อย ปรากฎว่าไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนแปลงเท่าไหร่เลยค่ะ ความอยากจะใสๆ แบ๊วๆ แบบพิมฐาก็ต้องหมดหวังเลยทีเดียว ฮ่าๆ แต่เราก็ชอบเนื้อครีมกับกลิ่นนะ แต่มันก็แค่นั้นอะ บ๊ายยยยยยยยยยย

ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์



7. White Me Up Booster Moisturizer




    
ปิดท้ายกันที่ White Me Up Booster Moisturizer ความดีงามอยู่ที่มันสามารถใช้ได้ทั้ง Day และ Night แบบว่าตัวเดียวคือคุ้มไปยาวๆ และสิ่งที่ทำให้เราปิ๊งแบบมากๆ เลยก็คือ “ความขาวกระจ่างใส” นี่แหละ เพราะหลังจากใช้ไปได้ประมาณ 1 เดือน คือความไบรท์มันขยับไปสเต็ปนึงเลยอะ และก็ไม่ลืมให้ความชุ่มชื่นกับผิวหน้าด้วย ยิ่งคืนไหนนอนห้องแอร์ พอตื่นขึ้นมาก็ยังรู้สึกหน้านุ่มอยู่เลย เลิฟ


ระดับความพึงพอใจในผลลัพธ์




ทดสอบ: Texture (รวมถึงกลิ่น)




1. Doctor Somchai Night Cream: เนื้อครีมมันไปหน่อย ไม่เหมาะกับคนผิวมัน ส่วนกลิ่นไม่ชอบเลย มันแปลกๆ อะ
2. Garnier Light Complete White Speed: เนื้อครีมข้นๆ แน่นๆ แต่เวลาเกลี่ยคือต้องระวัง เพราะมันจะวอกมาก กลิ่นก็เป็นฟีลมะนาวๆ หน่อย
3. Hada Labo Retinol Lifting & Firming Cream: เนื้อครีมโอเคนะคะ เวลาเกลี่ยแล้วรู้สึกลื่นๆ เย็นๆ ส่วนกลิ่นก็เฉยๆ ค่ะ
4. L'Oreal Paris White Perfect Day Cream 50ml SPF17/Pa+++: เนื้อเนียน นุ่ม เกลี่ยง่าย แต่วอกไปเบอร์นึงเลย กลิ่นก็โอเคค่ะ
5. Neutrogena Fine Fairness Overnight Brightening Cream: เนื้อครีมโอเคเลยค่ะ คล้ายๆ กับ Hada Labo ส่วนกลิ่นหอมดีค่ะ ชอบมาก
6. Olay Natural White Pinkish Fairness Cream UV Protection: เนื้อครีมเนียนละเอียด กลิ่นก็หอมหวานๆ ชะนีแบ๊วๆ
7. White Me Up Booster Moisturizer: เนื้อครีมคล้ายๆ เจลใส เกลี่ยแล้วรู้สึกดี เย็นสบาย ส่วนกลิ่นก็โออยู่นะ

สรุปแบรนด์ที่เลิศที่สุดในปฐพี

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้


ทดสอบ: ความเหนอะหนะ (ทิ้งไว้ 1 นาที)










สรุปแบรนด์ที่เลิศที่สุดในปฐพี

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่