เคยถามพ่อกับแม่ว่าอยากไปต่างประเทศ ไหนมากที่สุด บอกว่า อยากไป หลวงพระบาง แฮะ และด้วยความประจวบเหมาะ ที่แอร์เอเซีย
เปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพ – หลวงพระบาง พอมีข่าวออกเราก็รอเลยค่ะ เพราะเปิดอันใหม่ต้องมีโปรแน่นอน รอรอรอแล้วเขาก็มา
สอยตั๋วได้มาในราคา 2,000 กว่าบาท ไปกลับ จองกันข้ามปี แถมต้อง ไปกลับวันธรรมดาแบบ คล่อมๆ อีกต่างหาก ทริป ท่องเที่ยวหลวงพระบางหน้าฝน
แบบเที่ยวช้าๆ ไม่เน้นเที่ยวหลายที่ ก็เกิดขึ้น ไปๆๆ หลวงพระบางหน้าฝนกัน
หลังจากเตรียมการมาหลายเดือน เพราะจองล่วงหน้า น้านนนนน นานนนน เราสามคน ก็ข้ามไป ประเทศไปเที่ยวหน้าฝนที่หลวงพระบางกัน
ตัวเราไปหลวงพระบาง ครั้งนี้ ก็จะเป็นครั้งที่สามแล้ว ก็เลยพอจะรู้ทริปอะไร แล้วก็จะต้องไปที่ไหนบ้าง แต่ครั้งนี้พาพ่อแม่ไปก็เลยจัดทริปแบบ
ไม่ได้เน้นเที่ยวมาก เพราะก็เริ่มเดินนานๆ ไม่ได้มากแล้ว แล้วก็ไปแบบ 5 วัน 4 คืนด้วย ก็เลยเที่ยวแบบวันละที่สองที่ เพราะต้องกลับมานอนกลางวันที่ห้อง
ด้วย 555 ต้องมีพักนอนกลางวันกัน ก็เลยเป็นทริปแบบ ชิลจริงจังเลยค่ะ ไปเที่ยวไม่ได้เยอะเลย แต่มีความสุขไปอีกแบบจริงๆ ค่ะ
แอร์เอเซียมาจอดแล้ว ไปวันธรรมดา คนก็เลยไม่เต็มลำ นั่งกันสบายๆๆๆ ฝนตกพรำตลอดทาง ตอนแรกขึ้นบนฟ้ากลัวจะมาลมนู่นนี่
เครื่องสั่น แต่ก็บินได้สบายๆ ถึงหลวงพระบางบ่ายสาม กว่าๆ
สนามบินหลวงพระบางเป็นสนามบินเล็ก ๆ แต่สะอาดสะอ้านดีค่ะ ที่สนามบินมีที่แลกตังค์ ที่จริงที่ลาวส่วนมากเขาก็รับเงินไทย
แต่เราว่า จ่ายเป็นเงินกีบจะคุ้มกว่านิดหน่อย แล้วก็สนุกดีด้วยค่ะ ราคาแลกเงินที่เคาเตอร์สนามบิน เท่ากับ ข้างนอกตรงตลาดมืดเลย
แลกได้เลย ก็ทยอยแลกก็ได้ค่ะ เพราะในตลาดมืดก็มีที่แลกเยอะเลย
ตอนเราไปเรท 323 กีบ/ บาท เราแลกทีละ 1,000 บาท แล้วเราก็เป็นเศรษฐีเงินล้านแล้วววววววววว รวยยยยยยยยย
ที่สนามบินมีรถเข้าเมือง เป็น Taxi เราไปเขาคิด 50,000 กีบ สำหรับ 3 คน ไปส่งหน้าที่พัก แต่ก็มีคนอื่นไปด้วยนะคะ
ที่พักเราจองผ่าน Booking .com ตอนจองอ่านรีวิวจนเรางงไปหมด 555 เลยไม่รู้จะจองอันไหนกันแน่ เห็นอันนี้ไม่ไกลจากตลาดมืด
ติดแม่น้ำ ก็เลยนึกถึงนั่งที่ระเบียงมองแม่น้ำ ราคาก็พอดี เราจองไปที่ Namkhan Riverside
พอไปถึงยื่นใบจองไปให้เขา พนักงานรับใบไปด้วยความงวยงง หาชื่อเราแล้วเราอีก แล้วหันมาบอกว่า ลืมจองให้ ห๊าาาาาา
เราก็เลยถามแล้วยังไง เขาก็บอกไม่ต้องห่วงมีห้อง เราเซ็งเลย ห้องที่เราได้ เป็นห้อง 3 คน แต่เป็นห้องที่ไม่มีหน้าต่างก็เลยเหม็นอับนิดๆ
แต่ห้องก็สะอาดสะอ้านดี แถมรวมอาหารเช้าด้วย ก็เลย ไม่อยากอารมณ์เสียตั้งแต่เริ่มทริป แต่จริงๆ แล้วเซ็งมากกกกก
วันแรกไปถึงเย็นแล้วก็เลยเดินไปถ่ายรูปริมน้ำคาน ที่หลวงพระบาง มีแม่น้ำสองสาย แม่น้ำคาน กับ แม่น้ำโขง
เดินเล่นไป ถ่ายรูปไป ริมน้ำคาน น้ำไม่แรงมาก แล้วก็ดูไม่ลุกเท่าไหร่ เพราะเห็นเด็กโดดไปโดดมา แล้วยืนถึง น่าเล่น
มื้อเย็นลองไปอาหารหลวงพระบางมื้อแรก ที่ ร้านตำหนักลาว เป็นร้านอาหารใน บ้านเก่าๆ อาหารที่ลาวแพงอะ จานนึงก็ตก เกือบ 200
มาถึงก็สั่งส้มตำลาวเลย อยากกินมานานนนน ร้านนี้แซ่บอยู่ค่ะ
อาหารเขาอร่อยอยู่ อร่อยหลายอย่าง บรรยากาศดี แล้วก็คนเขาน่ารักดี หลวงพระบางมีเสน่ห์ก็ตรงนี้
ลาบไก่ ใส่ตะไคร้ด้วย
ส้มตำหลวงพระบาง
จบไปด้วยความอิ่มสำหรับวันแรก
วันที่สอง: วัดเชียงของ ตลาดมืด แล้วก็ร้านส้มตำขอแนะนำที่ต้องไม่พลาด ร้านตำบักหุ่ง
วันนี้วันสบายๆ เราเดินไปวัดเชียงทองวัดที่ ไปหลวงพระบาง ก็ต้องไปกัน เราเดินเลียบริมน้ำคานไปเรื่อยๆ เขามีซ้อมแข่งเรือ ด้วย
วัดเชียงทองสวยจริงๆ อลังการ ฟ้าเปิดมาก เปิดจนเหงือท่วม
เด็กซ้อมแข่งเรือ
วัดเชียงทอง ฟ้าเปิด
ผนังที่ทุกคนต้องไปถ่าย
พอเดินเสร็จเราก็แวะไปกินเฝอที่อยู่ตรงหน้าวัด เป็นเฝอที่ถูกสุดแล้ว ชามละ 10,000 กีบ อร่อยยยย ดีค่ะ แต่ก็ใส่ชูรสเยออยู่
เฝอเนื้อ น้ำซุปอร่อย
ข้าวเปียกเนื้อ เราชอบเส้นข้าวเปียกมากว่า
ออกมาเราก็มาเดินเล่นรอบๆ หลวงพระบางตรง ย่านเมืองเก่า ตึกที่นี่น่ารัก สีสันสดใสดี แล้วของที่ขายก็น่ารักไปหมด
แอบถ่ายนักเรียนในโรงเรียน ที่นี่เขาพักกลางวันให้กลับบ้านได้ด้วย
ชุดนักเรียนน่ารัก
เล่นจนเหงื่อท่วม
เดินมาได้เวลาพักแล้ว เราก็เลยหาร้านกาแฟพัก เป็นร้านที่ทุกคนต้องไป ร้าน Joma สาขาใหม่ ติดแม่น้ำคาน
ร้านพักเพลินๆ มีที่นั่งข้างนอกข้างใน กาแฟอร่อยดีค่ะ แต่ว่าเค้กเรายังเฉยๆ ค่ะ
กาแฟ หอมดีค่ะ
เดินมาเยอะ พ่อแม่เริ่มเหนื่อย ก็เลยกลับไปพักที่ห้อง อาบน้ำกันหน่อย พักกกๆๆ ตื่นมา เราอยากกินร้านที่เราเคยติดอกติดใจ
กับส้มตำร้านนี้มากกกกกกกกกกกก คือไปครั้งแรก เราไปกันเยอะ สั่งกันเป็น 10 จานเลย อร่อยมากกกกก
จริงๆๆๆ กอไก่ 8 ล้านตัว
มันคือร้านนี้ แนะนำเลย
ส้มตำหลวงพระบาง อร่อยจนฝันถึงของแท้ น้ำปลาร้า หอมมมม อร่อยจนบอกไม่ถูก
กินมัน 2 วันติด เลย ชอบมากกกกกกก
แหนมทอด ไม่เปรี้ยวมาก
เราเห็นบางคนซื้อกลับเมืองไทยด้วย แนะนำเลยค่ะ ต้องไปเลย
ตอนเย็นเราไปเดินตลาดมืดกัน ของขายก็เหมือนชาวเขาบ้านเรา แต่ก็มีให้เลือกเยอะดี ต่อราคาได้แล้วแต่ความสามารถ
ของแต่ละคน แต่ถ้าเราใช้เงินกีบ มีผลต่อการต่อรอง เราต่อไปต่อมาเรางง กับค่าเงิน บางร้านต่อแทบตาย พอมาคิดเป็นเงินไทยต่อไป 4 บาท
ฝนตก แต่ร้อนอบ
เครป ที่ตลาดมืด
ขนมครก กะทิไม่ค่อยหอมเท่าไหร่
วันนี้เราได้ของ จากตลาดไปเยอะอยู่ เรื่องช้อปต่อให้ฝนตก เราก็สู้ตายอยู่
วันที่สาม: น้ำตากวางสี วัดพูสี ร้านกาแฟดาว ร้านเฝอ
ตกลงเช่ารถไว้ หาได้ง่าน ถามๆ ที่ตลาดมืดก็ได้ค่ะ ราคาก็ไม่แพงมาก
เช่าเที่ยวในเมือง หรือ เที่ยวน้ำตกก็ได้
ก่อนไปแวะซื้อปิ้งย่าง ไปกินที่น้ำตก อ้าววววว ไปปปป
จากตัวเมืองไปน้ำตก ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่จริงคนขับบอกว่า แค่ 20 โลเอง แต่เขาให้วิ่งช้า เราไปหน้าฝนก็เลยเห็นนาเขียวๆ
ต้มไม้ชุ่มๆๆๆ ชอบๆ เขียวดี
นาข้าวระหว่าทางไปน้ำตก
ตอนเราไปครั้งก่อน น้ำตกฟ้าเลย แต่ไปคราวนี้หน้าฝน น้ำตกน้ำเยอะมากกกกก และแรงมาก ไม่มีใครเล่นน้ำเลย
ดูแล้วเราว่าก็อันตรายอะ
กวางสีหน้าฝน น้ำแรงมาก
เราเล่นลำธารนี้พอ
สดชื่น
เราอยู่ที่น้ำตก 2 ชั่วโมงได้ก็กินข้าวไป ถ่ายรูปไป แล้วก็นั่งคุยเพลินดี ก็กลับที่พัก ไปพักอีกรอบ ก่อนกลับแวะกินดาว coffee กันหน่อย
กาแฟ หวานไปหน่อย แต่บอกเขาได้ค่ะ
หน้าร้านดาว
เอิ้นก็ได๋
หลังจากนอนพักเราก็ไปขึ้นวัดพูสี แต่พ่อกับแม่ไม่ไป เดินขึ้นไม่ไหว วัดพูสีอยู่ที่ตลาดมืด เดินขึ้นแล้วแอบหายใจหอบ แต่วิวข้างบน
เห็นหลวงพระบางทั้งเมืองเลย
ตลาดมืดจากวัดพูสี
วิวหลวงพระบาง
ลงมาเหนื่อยแวะกินน้ำปั่นที่ตลาดมืดหน่อย ชื่นจายยยยยยยยย แล้วไหนๆ แวะกิน เฝอตลาดมืดซะเลย
ร้านเฝอหัวมุมตลาดมืด
ข้าวเปียกหมูยอเยอะมาก
ผักแกล้ม
จานละ 20,000 กีบ กินแล้วอิ่มทั้งคืนเลย
[CR] เมื่อพ่อกับแม่อยากไปหลวงพระบาง ทริปหลวงพระบางหน้าฝน แบบเที่ยวไม่หลายที่ พักเยอะหน่อย เน้นกินมากๆอีกนิด เลยต้องมา
เปิดเส้นทางใหม่ กรุงเทพ – หลวงพระบาง พอมีข่าวออกเราก็รอเลยค่ะ เพราะเปิดอันใหม่ต้องมีโปรแน่นอน รอรอรอแล้วเขาก็มา
สอยตั๋วได้มาในราคา 2,000 กว่าบาท ไปกลับ จองกันข้ามปี แถมต้อง ไปกลับวันธรรมดาแบบ คล่อมๆ อีกต่างหาก ทริป ท่องเที่ยวหลวงพระบางหน้าฝน
แบบเที่ยวช้าๆ ไม่เน้นเที่ยวหลายที่ ก็เกิดขึ้น ไปๆๆ หลวงพระบางหน้าฝนกัน
หลังจากเตรียมการมาหลายเดือน เพราะจองล่วงหน้า น้านนนนน นานนนน เราสามคน ก็ข้ามไป ประเทศไปเที่ยวหน้าฝนที่หลวงพระบางกัน
ตัวเราไปหลวงพระบาง ครั้งนี้ ก็จะเป็นครั้งที่สามแล้ว ก็เลยพอจะรู้ทริปอะไร แล้วก็จะต้องไปที่ไหนบ้าง แต่ครั้งนี้พาพ่อแม่ไปก็เลยจัดทริปแบบ
ไม่ได้เน้นเที่ยวมาก เพราะก็เริ่มเดินนานๆ ไม่ได้มากแล้ว แล้วก็ไปแบบ 5 วัน 4 คืนด้วย ก็เลยเที่ยวแบบวันละที่สองที่ เพราะต้องกลับมานอนกลางวันที่ห้อง
ด้วย 555 ต้องมีพักนอนกลางวันกัน ก็เลยเป็นทริปแบบ ชิลจริงจังเลยค่ะ ไปเที่ยวไม่ได้เยอะเลย แต่มีความสุขไปอีกแบบจริงๆ ค่ะ
แอร์เอเซียมาจอดแล้ว ไปวันธรรมดา คนก็เลยไม่เต็มลำ นั่งกันสบายๆๆๆ ฝนตกพรำตลอดทาง ตอนแรกขึ้นบนฟ้ากลัวจะมาลมนู่นนี่
เครื่องสั่น แต่ก็บินได้สบายๆ ถึงหลวงพระบางบ่ายสาม กว่าๆ
สนามบินหลวงพระบางเป็นสนามบินเล็ก ๆ แต่สะอาดสะอ้านดีค่ะ ที่สนามบินมีที่แลกตังค์ ที่จริงที่ลาวส่วนมากเขาก็รับเงินไทย
แต่เราว่า จ่ายเป็นเงินกีบจะคุ้มกว่านิดหน่อย แล้วก็สนุกดีด้วยค่ะ ราคาแลกเงินที่เคาเตอร์สนามบิน เท่ากับ ข้างนอกตรงตลาดมืดเลย
แลกได้เลย ก็ทยอยแลกก็ได้ค่ะ เพราะในตลาดมืดก็มีที่แลกเยอะเลย
ตอนเราไปเรท 323 กีบ/ บาท เราแลกทีละ 1,000 บาท แล้วเราก็เป็นเศรษฐีเงินล้านแล้วววววววววว รวยยยยยยยยย
ที่สนามบินมีรถเข้าเมือง เป็น Taxi เราไปเขาคิด 50,000 กีบ สำหรับ 3 คน ไปส่งหน้าที่พัก แต่ก็มีคนอื่นไปด้วยนะคะ
ที่พักเราจองผ่าน Booking .com ตอนจองอ่านรีวิวจนเรางงไปหมด 555 เลยไม่รู้จะจองอันไหนกันแน่ เห็นอันนี้ไม่ไกลจากตลาดมืด
ติดแม่น้ำ ก็เลยนึกถึงนั่งที่ระเบียงมองแม่น้ำ ราคาก็พอดี เราจองไปที่ Namkhan Riverside
พอไปถึงยื่นใบจองไปให้เขา พนักงานรับใบไปด้วยความงวยงง หาชื่อเราแล้วเราอีก แล้วหันมาบอกว่า ลืมจองให้ ห๊าาาาาา
เราก็เลยถามแล้วยังไง เขาก็บอกไม่ต้องห่วงมีห้อง เราเซ็งเลย ห้องที่เราได้ เป็นห้อง 3 คน แต่เป็นห้องที่ไม่มีหน้าต่างก็เลยเหม็นอับนิดๆ
แต่ห้องก็สะอาดสะอ้านดี แถมรวมอาหารเช้าด้วย ก็เลย ไม่อยากอารมณ์เสียตั้งแต่เริ่มทริป แต่จริงๆ แล้วเซ็งมากกกกก
วันแรกไปถึงเย็นแล้วก็เลยเดินไปถ่ายรูปริมน้ำคาน ที่หลวงพระบาง มีแม่น้ำสองสาย แม่น้ำคาน กับ แม่น้ำโขง
เดินเล่นไป ถ่ายรูปไป ริมน้ำคาน น้ำไม่แรงมาก แล้วก็ดูไม่ลุกเท่าไหร่ เพราะเห็นเด็กโดดไปโดดมา แล้วยืนถึง น่าเล่น
มื้อเย็นลองไปอาหารหลวงพระบางมื้อแรก ที่ ร้านตำหนักลาว เป็นร้านอาหารใน บ้านเก่าๆ อาหารที่ลาวแพงอะ จานนึงก็ตก เกือบ 200
มาถึงก็สั่งส้มตำลาวเลย อยากกินมานานนนน ร้านนี้แซ่บอยู่ค่ะ
อาหารเขาอร่อยอยู่ อร่อยหลายอย่าง บรรยากาศดี แล้วก็คนเขาน่ารักดี หลวงพระบางมีเสน่ห์ก็ตรงนี้
ลาบไก่ ใส่ตะไคร้ด้วย
ส้มตำหลวงพระบาง
จบไปด้วยความอิ่มสำหรับวันแรก
วันนี้วันสบายๆ เราเดินไปวัดเชียงทองวัดที่ ไปหลวงพระบาง ก็ต้องไปกัน เราเดินเลียบริมน้ำคานไปเรื่อยๆ เขามีซ้อมแข่งเรือ ด้วย
วัดเชียงทองสวยจริงๆ อลังการ ฟ้าเปิดมาก เปิดจนเหงือท่วม
พอเดินเสร็จเราก็แวะไปกินเฝอที่อยู่ตรงหน้าวัด เป็นเฝอที่ถูกสุดแล้ว ชามละ 10,000 กีบ อร่อยยยย ดีค่ะ แต่ก็ใส่ชูรสเยออยู่
ออกมาเราก็มาเดินเล่นรอบๆ หลวงพระบางตรง ย่านเมืองเก่า ตึกที่นี่น่ารัก สีสันสดใสดี แล้วของที่ขายก็น่ารักไปหมด
ชุดนักเรียนน่ารัก
เดินมาได้เวลาพักแล้ว เราก็เลยหาร้านกาแฟพัก เป็นร้านที่ทุกคนต้องไป ร้าน Joma สาขาใหม่ ติดแม่น้ำคาน
ร้านพักเพลินๆ มีที่นั่งข้างนอกข้างใน กาแฟอร่อยดีค่ะ แต่ว่าเค้กเรายังเฉยๆ ค่ะ
เดินมาเยอะ พ่อแม่เริ่มเหนื่อย ก็เลยกลับไปพักที่ห้อง อาบน้ำกันหน่อย พักกกๆๆ ตื่นมา เราอยากกินร้านที่เราเคยติดอกติดใจ
กับส้มตำร้านนี้มากกกกกกกกกกกก คือไปครั้งแรก เราไปกันเยอะ สั่งกันเป็น 10 จานเลย อร่อยมากกกกก
จริงๆๆๆ กอไก่ 8 ล้านตัว
เราเห็นบางคนซื้อกลับเมืองไทยด้วย แนะนำเลยค่ะ ต้องไปเลย
ตอนเย็นเราไปเดินตลาดมืดกัน ของขายก็เหมือนชาวเขาบ้านเรา แต่ก็มีให้เลือกเยอะดี ต่อราคาได้แล้วแต่ความสามารถ
ของแต่ละคน แต่ถ้าเราใช้เงินกีบ มีผลต่อการต่อรอง เราต่อไปต่อมาเรางง กับค่าเงิน บางร้านต่อแทบตาย พอมาคิดเป็นเงินไทยต่อไป 4 บาท
วันนี้เราได้ของ จากตลาดไปเยอะอยู่ เรื่องช้อปต่อให้ฝนตก เราก็สู้ตายอยู่
ตกลงเช่ารถไว้ หาได้ง่าน ถามๆ ที่ตลาดมืดก็ได้ค่ะ ราคาก็ไม่แพงมาก
จากตัวเมืองไปน้ำตก ประมาณ 1 ชั่วโมง ที่จริงคนขับบอกว่า แค่ 20 โลเอง แต่เขาให้วิ่งช้า เราไปหน้าฝนก็เลยเห็นนาเขียวๆ
ต้มไม้ชุ่มๆๆๆ ชอบๆ เขียวดี
ตอนเราไปครั้งก่อน น้ำตกฟ้าเลย แต่ไปคราวนี้หน้าฝน น้ำตกน้ำเยอะมากกกกก และแรงมาก ไม่มีใครเล่นน้ำเลย
ดูแล้วเราว่าก็อันตรายอะ
เราอยู่ที่น้ำตก 2 ชั่วโมงได้ก็กินข้าวไป ถ่ายรูปไป แล้วก็นั่งคุยเพลินดี ก็กลับที่พัก ไปพักอีกรอบ ก่อนกลับแวะกินดาว coffee กันหน่อย
กาแฟ หวานไปหน่อย แต่บอกเขาได้ค่ะ
หลังจากนอนพักเราก็ไปขึ้นวัดพูสี แต่พ่อกับแม่ไม่ไป เดินขึ้นไม่ไหว วัดพูสีอยู่ที่ตลาดมืด เดินขึ้นแล้วแอบหายใจหอบ แต่วิวข้างบน
เห็นหลวงพระบางทั้งเมืองเลย
ลงมาเหนื่อยแวะกินน้ำปั่นที่ตลาดมืดหน่อย ชื่นจายยยยยยยยย แล้วไหนๆ แวะกิน เฝอตลาดมืดซะเลย
ร้านเฝอหัวมุมตลาดมืด
จานละ 20,000 กีบ กินแล้วอิ่มทั้งคืนเลย