ลัคนาราศีพิจิก ก็มีโชคมีเคราะห์แตกต่างกัน ตามแต่ดวงชะตาของแต่ละคน แต่โดยภาพรวมแล้วก็อยู่ในภาวะมีทุกข์ด้วยกันทั้งนั้น แต่ทุกข์ของคนที่ดวงดีหรือดวงกำลังดีอยู่ ย่อมแตกต่างจากทุกข์ของคนที่ดวงกำลังแย่หรือดวงไม่ดีแต่กำเนิดแล้ว

เศรษฐีขาหัก กับ ยาจกขาหัก เจ็บขาเหมือนๆกัน แต่ก็ไม่เหมือนกัน คนหนึ่งขาหักนอนพักในห้องแอร์ อีกคนหนึ่งขาัหกแต่ต้องยักแย่ยักยันหากินต่อไป มันก็แตกต่างกันด้วยประกาละฉะนี้

คนเรามีกรรมเป็นของตัวเองทุกคน กรรมนั้นคนอื่นทำให้เราไม่ได้ มีแต่เราทำให้ตัวเราเอง ทั้งกรรมดีและกรรมชั่ว พระท่านสอนไว้ว่า "กัมมุนา วัตตติโลโก" สัตว์โลกทั้งหลายต้องเป็นไปตามกรรม

หากกำลังแย่ ประสบปัญหา และคิดจะหาทางหลบหลีกกรรมเก่า จะสะเดาะห์เคราะห์ เสริมดวง ยกดวง แก้ดวง ผ่อนหนักให้เป็นเบา และไปหาที่กระทำดังกล่าว ก็จะมีแต่เสียเงิน ยิ่งพบคนลวงโลก หลอกลวงให้ทำพิธีกรรม หรือพบอลัชชีที่เอาผ้าเหลืองมาห่อตัวหลอกลวงคนหากิน ก็อาจจะถึงหมดตัว รายที่เป็นสตรีอาจจะถึงเสียตัว เรียกว่าเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เพราะโดยมากคนที่กำลังดวงไม่ดี มักจะซวยซ้ำซวยซ้อนเสมอ หากคิดแก้ปัญหาในทางที่เป็นไปไม่ได้

เจ้าของกระทู้บอกมาว่าลัคนาราศีพิจิก ก็คงจะตรวจสอบดวงชะตามาแล้วว่าถูกต้อง ทำนายเฉพาะลัคนาตัวเดียว ก็ต้องก้มหน้าอดทนไปอีกสองปี กว่าจะมีโอกาสดีๆเข้ามาในชีวิต จะดีแค่ไหนก็อยู่ที่พื้นดวงเดิม มันอาจจะดีมาก หรือดีน้อยมาก ก็เป็นไปได้ทั้งนั้น ดังนั้นไม่ต้องไปหาทางเสียเงินที่ไหน เพราะการแก้กรรมสะเดาะห์เคราะห์มันไม่มีจริง อยากทำบุญเพื่อให้สบายใจ ตักบาตรพระองค์เดียวก็ได้บุญแล้ว มีน้อยทำน้อย เมื่อไรมีมากค่อยทำมาก ยามมีมากไม่ทำ แต่ยามเข้าตาจนคิดทุ่มสุดตัวหวังให้ดีขึ้น เจ๊งทุกราย

พระอริยสงฆ์ท่านสอนไว้ว่า "เมื่อมีปัญหา สิ่งแรกที่ต้องทำไม่ใช่การหาทางแก้ปัญหา แต่ต้องทำใจให้สงบ เมื่อสงบแล้วจึงจะเกิดปัญญา พิจารณาเห็นเหตุของปัญหานั้น และทางแก้ที่ถูกที่ควร"

ขอให้เจ้าของกระทู้พิจารณาเหตุและผล ว่าที่คิดจะทำะไรนั้นเป็นการหลอกตัวเองหรือไม่ และใช้สติปัญญาหาทางออกที่ถูกที่ควรได้ ให้สมกับที่บอกว่าชอบทำบุญ