คนเราหนอคนเรา ... หมูกะทะที่เคยกินได้กินดี มารู้ตัวอีกทีความเจริญอาหารก็ลดลงไปครึ่งค่อนซะแล้ว ทั้งที่หมูก็เหมือนเดิม น้ำจิ้มก็เหมือนเดิม แต่ที่เพิ่มเติมก็คือ "คน" ความหงุดหงิดใจทวีขึ้นทุกนาทีที่นั่งอยู่ร่วมโต๊ะ เพียงแค่ได้ยินว่า "จริง ๆ ผมอยากเรียนเศรษฐศาสตร์แต่แม่อยากให้เรียนวิศวะก็เลยแอดฯ" สีหน้าสีตาราวกับว่าของกินที่เคยโปรดปรานมันเฝื่อนลิ้น ทั้งตะเกียบทั้งจานหากไม่เกรงใจเพื่อนพี่น้องคนอื่น ๆ ก็คงกระแทกลงบนโต๊ะเพื่อเป็นการระบายอารมณ์
อาทิตย์รู้นิสัยตัวเองอยู่หรอกว่าเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบอะไรจุกจิก หากไม่เคยไร้เหตุผล แต่เจ้าตัวก็บอกไม่ได้ว่าความ "วีน"โดยปราศจากเหตุกับผลอันสมควรนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร "เสียง" ที่เขาใช้กับก้องภพ อีกฝ่ายก็จับได้ว่าไม่ใช่ "เสียงหนึ่ง" เสียงพี่ว้ากสั่งการปกติไม่ใช่เสียงสอง และ เสียงสามของ "พี่ไออุ่น" ที่ตัวเองเคยได้ประสบพบพานเมื่อไม่กี่วันมานี้
มันเป็น "ความไม่พอใจ" ไม่พอใจอย่างยิ่งยวด ที่ก้องภพเองไม่เข้าใจว่าเกิดจากอะไร วันนี้ยังไม่ได้เริ่มเกมส์กวนสหบาทาอะไรเลยซักครั้ง แหย่เรื่องชื่อไออุ่นนิดเดียว น้ำเสียงทางนั้นก็ไม่ได้โมโหอะไรจริงจังแค่ออกจะรำคาญและเขิน ๆ ที่คนมารู้ความลับก็แค่นั้น แต่เขาเป็นคนรู้สึกไว เสียงแบบนี้ ... เป็นแบบที่เขาไม่เคยได้รับ และ ไม่เคยรู้จัก แต่ก็ยังแยกไม่ออกว่ามันเกิดขึ้นเพราะพูดอะไรผิดหูหรือทำอะไรผิดใจ เนื่องจากนึกทบทวนเร็วรี่ก็ไม่เห็นว่าสภาพการณ์ใดในโต๊ะอาหารในวันนี้จะพาให้เป็นแบบนั้นได้
คน "ไม่พอใจ" ฮึดฮัดหงุดหงิดไปตลอดทาง และ ถึงกับบอกเพื่อนสนิทว่าจะยกระดับการชิงธงให้โหดหินระดับแม็กซ์ เมื่อ "เพื่อนน็อต" ไต่ถามว่ามีน้องปีหนึ่งคนใดทำอะไรขัดใจ รหัส 0062 ก็หลุดออกจากปาก เจ้าตัวจะรู้ไหม มันชักจะบ่อย ชักจะถี่ โดยในตอนนี้มันมากกว่า "ปัญหา" ที่เจ้าของรหัส "ป่วน" กระบวนการในห้องเชียร์แล้ว ขนาดน็อตยังเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่าเพื่อนรักเป็นอะไรมากป่ะ
แค่ "น้องปีหนึ่ง" คนนึง มีแนวโน้ม (แค่แนวโน้มนะ ยังไม่ได้เกิดจริง) ว่าจะ "ซิ่ว" แค่นี้ ... คิดบ้างไหมทำไมมันมีอิทธิพลถึงกับกินข้าวไม่อร่อย คิดบ้างไหมทำไมตัวเองต้องเล่นใหญ่ ถึงขนาดนั้นว่าเขาว่าไปกันที่คนอื่น and so on ... นั่นนี่อีกหลายคำ โดยมีน้องยืนกระพริบตาปริบ ๆ ว่า กินหมูกะทะแล้วองค์เจ้าแม่กาลีลงประทับกะทันหันหรืออย่างไร แถมยังกลายเป็นฤาษีแปลงสารไปซะอีก เมื่อเล่ากับเพื่อนชนิดใส่สีตีไข่สุกี้หม้อใหญ่ร้านเอ็มเคให้ดูมีน้ำหนักแก่การโกรธ(มั้ง)ว่า "ก็ดูดิ ... แม่มันบังคับให้เรียนมันก็เลยมาเรียน" ทำนองว่าน้องไม่หนักแน่นเลยว่างั้น เอ๊าาาา น้องมันแค่บอกว่าแม่อยากให้เรียนก็เลยแอดฯ มีตรงไหนบอกว่าแม่บังคับวะคะ !!!! เล่นใหญ่เบอร์นี้ !!! ความรัชดาลัยฯนี้ !!! แถวบ้านพี่เขาเรียก "งอน" ข่ะ
แต่จะมีการยอมรับกันก็หาไม่ คำแก้ตัวแถสดแถเปื่อยแถไฟไหม้จึงออกมาเป็นว่ากินหมูทะไม่อร่อย และ เดินขึ้นหอไปราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... อืออ เชื่อ mung ก็ออกลูกเป็นลิงแล้วข่ะ เป็นอะไรถามใจดูดีมั้ย ทำไมหรือ ... ถ้าเขาจะซิ่วแล้วยังไง มโนต่อเนื่องนะเราอ่ะ แค่นี้คิดใหญ่คิดโต ว่ามันไม่อยากเรียนที่นี้ มันไม่อยากอยู่นี่ พาลไปเรื่องยังไม่ได้รุ่น โฉเกไปเรื่อยเปื่อย จนน้องตาม conversation ไม่ทันละว่าเรื่องไหน แค่บอกว่าแม่อยากให้เรียนมันไปไกลได้ถึงขนาดนี้ ... ก้องเอ๊ย ประตูหัวใจที่หนูเพียรเคาะเพียรหยอดเล่นบ้างจริงบ้าง พี่ว่าตอนนี้กลอนพัง ... มันพังแล้วล่ะ หนูไปพังประตูหัวใจรุ่นพี่เข้าแบบไม่รู้ตัวแล้วนะ ลองออกอาการแบบนี้ละก็ ไม่นาน ... ได้เรื่อง
การชิงธงรุ่น ... แน่นอนว่ามันคือบททดสอบที่รุ่นพี่หยิบยื่นให้รุ่นน้อง หากภายใต้สัญญะอย่างหนึ่งมันคือ "บทสนทนา" ระหว่างคนคู่หนึ่งซ้อนทับลงกับบททดสอบ SOTUS คือ Seniority Order Tradition Unity และ Spirit เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามความหมาย ในห้องเชียร์น้องปีหนึ่งถูกปั้นแต่งอบอบรมให้รู้จักความเป็นพี่น้อง ให้รู้จักวินัยและคำสั่ง ให้รู้จักประเพณี เพื่อให้ส่งผลความเป็นหนึ่งเดียว (Unity) และ ในการชิงธงนี้ คือ การทดสอบสุดท้ายในคำว่า "Spirit" ปัญหาคือน้องยังไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ถูกทดสอบมันคือ "อะไร"
เหมือนกับที่ "ก้องภพ" ไม่รู้ว่า "อาทิตย์" โกรธทำไม สิ่งที่รุ่นพี่ต้องการคือ Spirit ส่วนที่สิ่งที่พี่อาทิตย์ต้องการคือ "ความจริงใจ" ต้องถามไหมว่าใครเอา keyword สองตัวนี้มาผสมกันได้ และ ต้องตอบไหมว่า "คำขอ" ของ "ใครคนนั้น" สัมฤทธิ์ผลรึเปล่า เบื้องแรกอาทิตย์ก้าวเดินลงมาด้วย "ใจ" ที่อ่อนลง หลัง ๆ ก็อ่อนลงทุกทีนั่นแหละเมื่อเป็นเรื่องของ 0062 (และ ถ้าพี่มองเห็นอนาคตได้ พี่จะรู้เลยว่าเรื่องที่พี่ "ต้อง" ยอมน่ะ มันอีกเยอะ หึหึ) แต่เมื่อ "ลงไป" อยู่กลางวง ในฐานะเป็นเฮดว้ากก็ต้อง ... เหมือนเดิมนั่นแหละ เข้มข้นกับบททดสอบ แต่มันก็เริ่มจะยากเต็มทีเพราะกำแพงหัวใจก็โดนเจาะทะลุไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมาโดน "บูม" เข้าให้ แต่เมื่อมาเจอ "คำขอบคุณ" จากใจ อาการก็อกแตกก็มาเยือน
แต่ไอ้ที่ก็อกแตก ... อือฮึ มันก็มาจากความภูมิใจและซึ้งใจที่น้อง "เข้าใจ" ความหมายของตัว S ตัวสุดท้าย แต่ส่วนหนึ่งก็คิดว่ามันมาจากความ "โล่งใจ" ที่ใครบางคนเพิ่งเอ่ยอยู่แป๊บ ๆ เมื่อกี๊ด้วยอีกส่วนหนึ่งว่า "จะยังไม่ไปไหน" น้ำตามาจากความซึ้ง แต่ไอ้เสียงสองเสียงสามที่กลับมานั่นน่ะ ท่าทางจะด้วยเหตุผลอื่น อิน้องผู้ความรู้สึกไวและแสนเจ้าเล่ห์ก็รู้แล้วล่ะว่าสถานการณ์เข้าสู่ระดับปกติ ช่วงชุลมุนแบบนี้ก็ยัดเข้าไปอีกซักหนึ่งดอก "เดี๋ยวซับน้ำตาให้" พร้อมรอยยิ้มหวาน(พร้อมเชือด)ทิ้งไปอีกหนึ่งมับ แล้วก็เรียกน้ำเสียงโมโหจากพี่ได้จริงเสียด้วย เสียงโมโหที่คนเป็นน้องเริ่มจับได้ว่าใต้ความมืดเห็นหน้าไม่ชัดแบบนี้ แน่ใจว่าต้องมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างอะไรบ้างเป็นแน่แท้
เธอคิดว่ามันเกิดขึ้นจากอะไรหืออออาทิตย์
Am I crazy or falling in love?
Is it real or just another crush?
สับสนให้วนไปข่ะ ชั้นชอบ ชั้นจะรอดู ....
SOTUS the series (กึ่งแซะและรีวิว) : Crush
อาทิตย์รู้นิสัยตัวเองอยู่หรอกว่าเป็นคนใจร้อน ไม่ชอบอะไรจุกจิก หากไม่เคยไร้เหตุผล แต่เจ้าตัวก็บอกไม่ได้ว่าความ "วีน"โดยปราศจากเหตุกับผลอันสมควรนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร "เสียง" ที่เขาใช้กับก้องภพ อีกฝ่ายก็จับได้ว่าไม่ใช่ "เสียงหนึ่ง" เสียงพี่ว้ากสั่งการปกติไม่ใช่เสียงสอง และ เสียงสามของ "พี่ไออุ่น" ที่ตัวเองเคยได้ประสบพบพานเมื่อไม่กี่วันมานี้
มันเป็น "ความไม่พอใจ" ไม่พอใจอย่างยิ่งยวด ที่ก้องภพเองไม่เข้าใจว่าเกิดจากอะไร วันนี้ยังไม่ได้เริ่มเกมส์กวนสหบาทาอะไรเลยซักครั้ง แหย่เรื่องชื่อไออุ่นนิดเดียว น้ำเสียงทางนั้นก็ไม่ได้โมโหอะไรจริงจังแค่ออกจะรำคาญและเขิน ๆ ที่คนมารู้ความลับก็แค่นั้น แต่เขาเป็นคนรู้สึกไว เสียงแบบนี้ ... เป็นแบบที่เขาไม่เคยได้รับ และ ไม่เคยรู้จัก แต่ก็ยังแยกไม่ออกว่ามันเกิดขึ้นเพราะพูดอะไรผิดหูหรือทำอะไรผิดใจ เนื่องจากนึกทบทวนเร็วรี่ก็ไม่เห็นว่าสภาพการณ์ใดในโต๊ะอาหารในวันนี้จะพาให้เป็นแบบนั้นได้
คน "ไม่พอใจ" ฮึดฮัดหงุดหงิดไปตลอดทาง และ ถึงกับบอกเพื่อนสนิทว่าจะยกระดับการชิงธงให้โหดหินระดับแม็กซ์ เมื่อ "เพื่อนน็อต" ไต่ถามว่ามีน้องปีหนึ่งคนใดทำอะไรขัดใจ รหัส 0062 ก็หลุดออกจากปาก เจ้าตัวจะรู้ไหม มันชักจะบ่อย ชักจะถี่ โดยในตอนนี้มันมากกว่า "ปัญหา" ที่เจ้าของรหัส "ป่วน" กระบวนการในห้องเชียร์แล้ว ขนาดน็อตยังเลิกคิ้วด้วยความสงสัยว่าเพื่อนรักเป็นอะไรมากป่ะ
แค่ "น้องปีหนึ่ง" คนนึง มีแนวโน้ม (แค่แนวโน้มนะ ยังไม่ได้เกิดจริง) ว่าจะ "ซิ่ว" แค่นี้ ... คิดบ้างไหมทำไมมันมีอิทธิพลถึงกับกินข้าวไม่อร่อย คิดบ้างไหมทำไมตัวเองต้องเล่นใหญ่ ถึงขนาดนั้นว่าเขาว่าไปกันที่คนอื่น and so on ... นั่นนี่อีกหลายคำ โดยมีน้องยืนกระพริบตาปริบ ๆ ว่า กินหมูกะทะแล้วองค์เจ้าแม่กาลีลงประทับกะทันหันหรืออย่างไร แถมยังกลายเป็นฤาษีแปลงสารไปซะอีก เมื่อเล่ากับเพื่อนชนิดใส่สีตีไข่สุกี้หม้อใหญ่ร้านเอ็มเคให้ดูมีน้ำหนักแก่การโกรธ(มั้ง)ว่า "ก็ดูดิ ... แม่มันบังคับให้เรียนมันก็เลยมาเรียน" ทำนองว่าน้องไม่หนักแน่นเลยว่างั้น เอ๊าาาา น้องมันแค่บอกว่าแม่อยากให้เรียนก็เลยแอดฯ มีตรงไหนบอกว่าแม่บังคับวะคะ !!!! เล่นใหญ่เบอร์นี้ !!! ความรัชดาลัยฯนี้ !!! แถวบ้านพี่เขาเรียก "งอน" ข่ะ
แต่จะมีการยอมรับกันก็หาไม่ คำแก้ตัวแถสดแถเปื่อยแถไฟไหม้จึงออกมาเป็นว่ากินหมูทะไม่อร่อย และ เดินขึ้นหอไปราวไม่มีอะไรเกิดขึ้น ... อืออ เชื่อ mung ก็ออกลูกเป็นลิงแล้วข่ะ เป็นอะไรถามใจดูดีมั้ย ทำไมหรือ ... ถ้าเขาจะซิ่วแล้วยังไง มโนต่อเนื่องนะเราอ่ะ แค่นี้คิดใหญ่คิดโต ว่ามันไม่อยากเรียนที่นี้ มันไม่อยากอยู่นี่ พาลไปเรื่องยังไม่ได้รุ่น โฉเกไปเรื่อยเปื่อย จนน้องตาม conversation ไม่ทันละว่าเรื่องไหน แค่บอกว่าแม่อยากให้เรียนมันไปไกลได้ถึงขนาดนี้ ... ก้องเอ๊ย ประตูหัวใจที่หนูเพียรเคาะเพียรหยอดเล่นบ้างจริงบ้าง พี่ว่าตอนนี้กลอนพัง ... มันพังแล้วล่ะ หนูไปพังประตูหัวใจรุ่นพี่เข้าแบบไม่รู้ตัวแล้วนะ ลองออกอาการแบบนี้ละก็ ไม่นาน ... ได้เรื่อง
การชิงธงรุ่น ... แน่นอนว่ามันคือบททดสอบที่รุ่นพี่หยิบยื่นให้รุ่นน้อง หากภายใต้สัญญะอย่างหนึ่งมันคือ "บทสนทนา" ระหว่างคนคู่หนึ่งซ้อนทับลงกับบททดสอบ SOTUS คือ Seniority Order Tradition Unity และ Spirit เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็เป็นไปตามความหมาย ในห้องเชียร์น้องปีหนึ่งถูกปั้นแต่งอบอบรมให้รู้จักความเป็นพี่น้อง ให้รู้จักวินัยและคำสั่ง ให้รู้จักประเพณี เพื่อให้ส่งผลความเป็นหนึ่งเดียว (Unity) และ ในการชิงธงนี้ คือ การทดสอบสุดท้ายในคำว่า "Spirit" ปัญหาคือน้องยังไม่รู้ตัวว่าสิ่งที่ถูกทดสอบมันคือ "อะไร"
เหมือนกับที่ "ก้องภพ" ไม่รู้ว่า "อาทิตย์" โกรธทำไม สิ่งที่รุ่นพี่ต้องการคือ Spirit ส่วนที่สิ่งที่พี่อาทิตย์ต้องการคือ "ความจริงใจ" ต้องถามไหมว่าใครเอา keyword สองตัวนี้มาผสมกันได้ และ ต้องตอบไหมว่า "คำขอ" ของ "ใครคนนั้น" สัมฤทธิ์ผลรึเปล่า เบื้องแรกอาทิตย์ก้าวเดินลงมาด้วย "ใจ" ที่อ่อนลง หลัง ๆ ก็อ่อนลงทุกทีนั่นแหละเมื่อเป็นเรื่องของ 0062 (และ ถ้าพี่มองเห็นอนาคตได้ พี่จะรู้เลยว่าเรื่องที่พี่ "ต้อง" ยอมน่ะ มันอีกเยอะ หึหึ) แต่เมื่อ "ลงไป" อยู่กลางวง ในฐานะเป็นเฮดว้ากก็ต้อง ... เหมือนเดิมนั่นแหละ เข้มข้นกับบททดสอบ แต่มันก็เริ่มจะยากเต็มทีเพราะกำแพงหัวใจก็โดนเจาะทะลุไปส่วนหนึ่งแล้ว แต่เมื่อมาโดน "บูม" เข้าให้ แต่เมื่อมาเจอ "คำขอบคุณ" จากใจ อาการก็อกแตกก็มาเยือน
แต่ไอ้ที่ก็อกแตก ... อือฮึ มันก็มาจากความภูมิใจและซึ้งใจที่น้อง "เข้าใจ" ความหมายของตัว S ตัวสุดท้าย แต่ส่วนหนึ่งก็คิดว่ามันมาจากความ "โล่งใจ" ที่ใครบางคนเพิ่งเอ่ยอยู่แป๊บ ๆ เมื่อกี๊ด้วยอีกส่วนหนึ่งว่า "จะยังไม่ไปไหน" น้ำตามาจากความซึ้ง แต่ไอ้เสียงสองเสียงสามที่กลับมานั่นน่ะ ท่าทางจะด้วยเหตุผลอื่น อิน้องผู้ความรู้สึกไวและแสนเจ้าเล่ห์ก็รู้แล้วล่ะว่าสถานการณ์เข้าสู่ระดับปกติ ช่วงชุลมุนแบบนี้ก็ยัดเข้าไปอีกซักหนึ่งดอก "เดี๋ยวซับน้ำตาให้" พร้อมรอยยิ้มหวาน(พร้อมเชือด)ทิ้งไปอีกหนึ่งมับ แล้วก็เรียกน้ำเสียงโมโหจากพี่ได้จริงเสียด้วย เสียงโมโหที่คนเป็นน้องเริ่มจับได้ว่าใต้ความมืดเห็นหน้าไม่ชัดแบบนี้ แน่ใจว่าต้องมีเลือดฝาดขึ้นมาบ้างอะไรบ้างเป็นแน่แท้
Am I crazy or falling in love?
Is it real or just another crush?
สับสนให้วนไปข่ะ ชั้นชอบ ชั้นจะรอดู ....