(เรื่องจริง)#ให้แง่คิดในเรื่องราวความผิดพลาดในอดีดกับยาเสพติด กับปัจจุบันที่เปลี้ยนไปหมดทุกอย่างของชีวิตผม

กระทู้คำถาม
เรื่องจริงทั้งหมดของกระผม ทำหนังได้เลยนะครับ5555

ตั้งกระทู้นี้เพื่อที่จะไห้น้องๆได้มองเห็นความผิดพลาดที่ไปยุ่งเกี่ยวถึงยาเสพติดและความคิดแย่ๆตอนเด็กๆเยาวชนให้ได้มองเห็นถึงชีวิตพี่ที่เคยเกรเรติดยา จนตอนนี้พี่เปลี่ยนไปคนละคน ตั้งใจเรียน อย่างเดียว
"อดีดที่พลาดผิด..กับปัจจุบันที่คืดได้ มันเป็นความจริงกับคำที่ว่า ช่วงอายุ19-20 เป็นช่วงที่วัยรุ่นเริ่มมองเห็นอนาคตของตัวเองสำคัญ


เริ่มต้นเลยนะครับกระผมไม่ขอเอ่ยนามนะครับช่วงแรกที่ผมเริ่มเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดคือมัธยมต้นที่โรงเรียน บางขันวิทยา ชีวิตในตอนเรียนโรงเรียนบางขันของผมนั้น ณ ช่วงนั้นถือได้ว่าผมไม่มีความคิดเลย(อาจจะเป็นเพราะเรายังเด็ก) เพราะผมเริ่มเข้าช่วงเที่ยวเตร่เกเร ผมจำได้ว่าตอนนั้น ตัวเอง ทั้งเสพยาบ้า ยาไอซ์ กัญชา แม้กระทั่งดมกาว แต่ทั้งหมดนี้ผมก็ไม่ได้เล่นแบบจริงๆจังๆและหนักมากๆ ตอนนั้นผมจำได้ ไปโรงเรียนได้ตังค่าขนมไปวันละ100-150 ก็เอาไปหุ้นกันซื่อยาบ้ากับเพื่อนๆเพื่อเอามาเสพ ช่วงนั้นในโรงเรียนผมจำได้ว่าเม็ดละ300บาท เวลาไปโรงเรียนตอนเที่ยงบางวันข้าวก็ไม่ได้กินเพราะเอาเงินค่าขนมที่แม่ให้มาเรียนมากอนข้าวนำไปหุ้นซื่อยามาเสพจนหมด พอเลิกเรียนก็กลับบ้านเพราะต้อง รีบไปกินน้ำท่อมกับเพื่อนๆแถวบ้าน ช่วงณ ตอนนั้น ผมเป็นเหมือนลูกนกที่ใครป้อนอะไหรเข้าปากก็เอาหมด ผมจำได้เลยว่า สิ่งไม่ดีที่เข้ามาในชีวิตผม ครั้งแรกมันเป็นยาบ้า และต่อด้วยบุหรี่ บุหรี่หลังยาบ้าอีกนะครับ5555 ต่อมาก็น้ำท่อม และ กัญชา กาวด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ผมไม่ได้รู้จักด้วยตัวเองและเสพครั้งแรกด้วยตัวเอง แต่เพื่อนๆที่รุ้จักสังคมของผม พาไปเสพสิ่งทั้งหมดนี้ที่ว่ามานี้ แต่ไม่ได้โทษเพื่อนเพราะเราคือตัวเราถ้าเราไม่เอาใครก็ไม่สามารถบังคับเราใด้ แต่เราเต็มใจและสนุกกับมันมากในช่วงตอนนั้นม2-3บางคืนนั้งกับเพื่อนกับฝูงกลับบ้านตี2-3-4 และตื่นไปเรียนเช้า แต่ก็อยู่มาจนเรียนจบ เพราะผมก็ไม่ได้ฉลาดและเก่งแต่ก็ไม่ได้โง่หรือขี้เกียจ  และก็จบ ม3 ที่นั้นตอนนั้น. มีความคิดว่าจะมาเรียนต่อที่เทคนิคทุ่งสง ในความคิดตอนนั้นผมคิดในใจว่า"ไปเรียนเทคนิคกูต้องเสพยาให้สุดๆไปที"ความคิดยิ้มมากๆ!!! แล้วก็ได้มาศึกษาต่อ ปวช ที่ วิทยาลัยเทคนิคทุ่งสง แต่พอมาเรียนที่นี่จริงๆ ความคิดที่จะเล่นยาให้สุดไปเลยกลับหายไปได้ยังไงก็ไม่รุ้ ถามว่าถ้าจะเล่นเล่นในตอนเรียนเทคนิคได้ไหมตอบเลยว่าได้สะบาย เพราะเอาง่ายๆตอนไปสูบบุหรี่ที่ห้องน้ำก็จะมีเอเย่นนั่งนับยาบ้าในถุงสดๆเลยปกติถ้าใครเล่นเขาก็จะรุ้กันว่าใครขายใครปล่อย คนขายก็มีลูกค้า เช่นอาจจะนัดมาเอายาที่ห้องน้ำซื่อขายกันเห็นๆ ภาพเหล่านี้ผมเห็นเกือบทุกวัน แต่ผมก็ไม่มีความคิดจะเล่นมัน เออลืมไป ถ้าสงสัยว่าผมเลิกยาเสพติด(ยาบ้า)ได้อย่างไร ผมจะเล่าให้ฟัง ผมเลิกโดยวิธีการที่ให้เพื่อนๆ นั้งเสพต่อหน้า แล้วผมนั้งดู แล้วอดใจอดกลั้นที่จะไม่เสพมันอีก เชื่อไหมว่า ผมมองเพื่อนเสพและกลืนน้ำลายไม่รุ้ซักกี่หน กลิ่นหอมที่ลอยมาเข้าจมูกมันทำไห้เราอยากจะเสพมันสุดๆแต่เราก็กลั้นไว้ได้ทำอย่างนี้ได้ประมาณพักนึงโดยให้เพื่อนนั่งเสพแล้วเรานั่งดูต่อหน้ามาสักพัก ก็เริ่มรุ้สึกตัวแล้วว่าเราไม่รุ้สึกต้องการมันเล่นอีกแล้ว เพราะผ่านมาได้สีกพักเพื่อนๆนั่งเสพกัน ผมหันไปมอง ก็ไม่ได้รุ้หิวอะไรอีกต่อไปแล้ว. และที่บอกข้างต้นว่า ยาไอซ์ผมก็เล่น แต่ผมเล่นนานๆครั้งและระยะที่สั้นมากๆซึ่งผมไม่ค่อยจะชอบยาไอซ์ซีกเท่าไหร่ และไม่ได้ทำไห้ติดหรือเสพติดต่อกันเหมือนยาบ้า. ทำไห้ไม่ต้องมานั้งเลิกเพราะไม่ได้ติดอะไรมาก สุดท้าย ยาเสพติด สองชนิดนี้ก็ออกไปจากชีวิตผม แต่ยังๆๆๆ ยังไม่จบแค่นั้น ผมเลิกยาได้แล้วก็จริง แต่น้ำกระท่อมผมยังกินอยู่ทุกวัน และกัญชาก็มีเล่นบ้างส่งนกาวนั้นานมาแล้วที่เคยเล่นแต่ก็ไม่ได้ติดและไม่ได้ดมมาตั้งแต่ก่อนจบม3 สรุปตอนนี้ ยาเสพติดสองชนิดนี่ ได้ออกไปจากชีวิตผมแล้ว ก็มาต่อกันที่เรื่องราวในรั่ว วิทยาลัยกันครับ
ผมก็ได้เรียนเทคนิคที่นี่แต่เส้นทางที่นี่ไม่สวยเลย เพราะตอนนั้น เกเรมากไม่เอาไหนเลย ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนไม่อยากเรียนไม่อยากเอาอะไหรเลย จำได้ว่าไปเรียนหนังสือ แต่จิตใจอยากจะกลับบ้านมากๆเพราะ อยากมานั้งกินน้ำกระท่อมกับเพื่อนๆที่ไม่เรียนหนังสือแถวบ้าน ส่วนมากเวลาไปเรียน ก็โดดเรียน โดดกำแพงออกมาข้างนอก ตอนนั้นผมไม่แคร์เลยว่า ผลการเรียนจะออกมายังไง ไปเรียนก็ไม่ฟังอาจารย์เลย ไม่เอาอะไรสักนิดเลย ชีวิตผมตอนอยู่เทคนิคทุ่งสง ตื่นเช้ามา อาบน้ำ แต่งตัว ออกไปเรียน ขับมอไซต์ไปเอง บ้าง ไปกับเพื่อนบ้าง ระยะทางจากบ้านไปเทคนิคทุ่งสงก็ประมาณ35-40กิโล พอไปถึงแถวบนิเวณวิทยาลัย แทนที่จะรีบเข้าโรงเรียนไปเข้าแถวให้เหมือนคนอื่นๆ กลับมานั้งกินข้าว กับเพื่อนๆโดยไม่สนใจว่าจะไปเวลาไหน จนแถมไม่ได้เข้าแถวตอนนั้น และสุดท้ายก็ตกกิจกรรม แต่เหมือนว่า ผมไม่แคร์จริงๆว่าจะติดอะไร ทั้งติด ขร(ขาดเรียน)คือขาดเรียนเกินที่อาจารย์กำหนดต้องลงเรียนไหม่รุ้สึกว่าผม ขร ไปหลายตัวมาก และในช่วงเที่ยงๆก็ชอบกระโดดกำแพงออกมาข้างนอก ซึ่งตอนเช้า มอไซก็จะจอดไว้ข้างนอกเรียบร้อยแล้ว สมัยนั้นใครจอดรถในโรงเรียนนี้ถือว่าพลาดมากๆเลยครับ เพราะ ฝ่ายปกครองเขาจะไม่อนุญาติให้ออกจากโรงเรียน ถ้าตารางเรียนเรายังเรียนไม่เสร็จ ตอนเที่ยงที่กระโดดกำแพงออกมา เพื่อนๆที่กระโดดออกมาแต่ละกลุ่มก็จะแยกย้ายกันไปตามสายของตัวเอง55555 เพื่อนกลุ่มนึงบ้างก็ไปเล่นเกมส์ กลุ่มนึงไปเล่นสนุ๊กเกอร์ ส่วนกลุ่มผม ไปกินน้ำกระท่อมครับ ไปกินหลายที่ เพราะหอเรายังไม่มีเพราะเราเดินบ้าน ก็เลยต้องอาศัยหอของพี่ของเพื่อน
และก็ได้ไปรุ้จักกับพี่ของเพื่อน ซึ่งเช่าหออยู่แถว พานิช เป็นห้องแถวยาว กำแพงเป็นกำแพงเดียวกับโรงเรียนพานิชซึ่งจะ ปีนไปมองสาวๆได้ ช่วงนั้น พอมีเวลาว่างในวิทยาลัย ก็จะออกมา ที่หอพานิชเพื่อต้มน้ำกระท่อม เป็นแบบนี้อยู่สักพักนึง และแล้ววันนึงก็เกมส์ครับพี่น้อง ตำรวจลง โดนจับ พานั้งรถ191ไปโรงพักทุ่งสง ตอนนั้นโดนจับประมาน 10กว่าคนได้นะรุสึก แต่ตำรวจเขาอ่อนข้อให้เพราะว่าเป็น นักเรียน เลยเอาเรื่องแค่เจ้าของหอ ก็น่าสงสารพี่เขามากๆเพราะกินกันทุกคนแต่พอโดนจับตำรวจเอาแค่พี่เขาเท่านั้น พี่เขาเป็นรุ่นพี่ที่เรียนมหาลัยแถวทุ่งสง ส่วนพวกเราตำรวจก็ตัดสินใจว่าให้พ่อแม่ผุ้ปกครองมารับกลับบ้าน แอบดีใจนะว่าไม่โดนลงประวัติ แต่แม่รับรุ้นี้สิแน่เลย ไม่อยากทำไห้แม่ไม่สะบายใจ สุดท้ายต้องโทรหาแม่
ผม:อัลโหลแม่
แม่:อืมว่าพรือ
ผม:ถุกจับอยุ่โรงพักนิ
แม่:ถุกจับอะไหร!!!!!!
ผม:น้ำท่อม
แม่ก็ว่าๆๆๆๆด่าๆๆๆๆๆตามประสาแม่ซึ่งแม่เป็นห่วงและโกรดที่ทำตัวแบบนี่
จากนั้นแม่ก็มารับกลับบ้านทุกคนกลับบ้าน
(((ตอนที่ผมโทรบอกว่าโดนจับ ในใจแม่คิดว่า เอาแล้ว โดนจับยาบ้าแน่ๆ เพราะก่อนหน้าที่ผมโดนจับ มีหมอคนนึง ทายว่า ผมจะถุกจับ คดียาเสพติดและไม่ไช่น้อยๆนะ หมอทายว่าโดนจับหลายเม็ดไหย่ๆเลยแหละ ณวินาทีนั้นแม่คิดว่าไช่แล้วแหละ ต้องโดนจับยาบ้าแน่ แต่พอบอกว่าน้ำท่อม แม่ก็สะบายใจขึ้น เพราะกลัวว่ายาบ้าเหมือนที่หมอทำนาย เพราะว่ามันหนักกว่าน้ำท่อมหลายเท่า)))))))))) ตั้งแต่วันนั้นมาแม่ก็รุ้ว่าผมกินน้ำท่อมมาตั้งแต่นั้น
พอถุกจับน้ำท่อมก็กลับมาเรียนเทคนิคตามปกติ
ก็ใช้ชีวิตยุแบบนี้ ไม่ค่อยเข้าเรียน ไม่ค่อยส่งงาน ไม่ค่อยเอาอะไหรเลย

กระทั้งมีปันหาต้องหนีคดี เพราะคิดว่า เขาเอาเรื่องและยิงโดนคนตาย
เรื่องมันมีอยุ่ว่า เอาสั้นๆเลยนะ ผมได้ไปกับเพื่อนสองคนที่แถวๆหน้าร้านเกมส์แถวบ้าน เพราะมีปันหากับเด็กต่างถิ่น พวกมันมากันเยอะมากจนจำหน้าไม่ได้ว่ามีไครมั้งจำได้แค่บางตัวที่รุจักและคุ้นหน้าเท่านั้น ไปกันสองคน เพื่อนผมมีดาบ ผมมีขวาน และเมียของเพื่อนผม ซึ่งมันยุหน้าร้านเกมส์นั้นก่อนที่เราจะไปถึงซึ่งมันพกปืนของเพื่อนผมยุ . พอไปไม่ทันถึง เหนมาแต่ไกลเลยว่า . ยิ้มหยิบขวดกันระนาว พอไปถึงก็เดินลงจากรถ แต่ยังไม่ได้ฟันหรืออะไรกัน เพราะเพื่อนผมมันดึงแฟนของมันที่อยู่หน้าร้านเกมส์มาก่อนที่เราจะถึงมาแล้วดึงปืนที่แฟนมันพกมาจ่อขู่พวกนั้นไม่ไห้เข้ามา มันทำไห้เรารอดนะครับเพราะ20-2ผมเชื่อเหลือเกินว่ามีพลังมากแค่ไหนมันก็ไม่ไหว. ผมเชื่อเลยที่เขาพุดกันว่ากลัวหัวหดเปนยังไงเพราะตอนที่ชักปืนขู่บางคนเดินถอยหลังแล้วหัวหดๆอะคิดดู ปืนที่ไช้จ่อเป็นขนาด38นัดเดียวนะ คือยิงนัดนึงละต้องหักคอมาเปลี้ยนกระสุน ซึ่งถ้ายิ่งตรงนั้น นัดนึง พวกมันก็สามารถเข้ามาตีเราได้สะบายๆ แต่ใครเล่า จะยอมรับกระสุนเม็ดนั้น . สรุปผมกับเพื่อนก็ขึ่นรถ ขี่ไปเรื่อยๆห่างจากพวกนั้นประมาฯซัก2-3เมรตแล้วเพื่อนผมก็ยิงไปในกลุ่มที่พวกมันยืน ราว15-20คน เด็กก็เยอะ แก่ๆคราวเราแก่กว่าเราก็มี หลังจากยิงออกไปเสร้จแล้วก็รีบขับรถมาจอดบ้านเพื่อนซึ่งห่างจากจุดที่ยิงประมาน2กิโล มันไม่ตามมานะ5555 เลยมาหยุดซุ่มที่นั้นซึ่งจะเป็นป่า แล้วพอผ่านสัก5นาทีมีคนโทรมาบอกว่า ไอพวกนั้นโดนยิงเข้าที่ต้นคอ ซึ่งหมายความว่าตายสิครับ. เอาแล้วตอนนั้นคิดในใจร่วมกันฆ่าแล้วกู555555ก็เลยรีบแยกกับเพื่อน เพื่อนผมก็หนีไปอยู่แถวบ้านเกิด ส่วนผมกลับมาบ้านมาบอกแม่ว่า แม่ เมื่อกี้ไปกับเพื่อนมีปันหากับเด็กชุด.........  แล้วเพื่อนมันก็ยิงโดนต้นคอ.บอกด้วยน่ำเสียงตกใจ เชื่อไหมแม่ด่าได้สักหาบ ทำไมทำพันนี้หาหรางไส่ตัวสารพัดเลย. แต่แม่ก็คือแม่หวงลูก คืนนั้นก็ตัดสินใจ พาไปทุ่งสง ไปนอนหลบบ้านเพื่อนก่อน1คืน รุ้งเช้าค่อยขึ่นกรุงเทพ คืนนั้นผมนอนทุ่งสงคืนนึงและรุ้งเช้า . แม่ก็มาหาที่ บขส เพราะมาส่งขึ่นกรุงเทพ ตอนนั้นผมเห็นแม่ผมแล้วเหมือนจะร้องให้ออกมาเลยเลย เพราะว่าเวลาใครเดินมา รุปร่างแต่งตัวคล้ายตำรวจนอกเครื่องแบบ แม่ผมทำหน้าไม่ดีเลย กลัวผมโดนจับ สงสารแม่จัง ทำตัว ยิ้มๆแบบนี้ สุดท้ายก็ได้ขึ่นไปกรุงเทพเพื่อหลบตัวหนีคดี . และที่เจ็บใจ มาทราบข่าวตอนหลังว่าจริงๆแล้ว ไม่มีไครโดนยิง และกระสุนที่ยิงออกไป ไม่ได้โดนต้นคอใคร แต่ยิ้มไปโดนสตาทมือของเด็กแถวบ้านซึ่งมาเล่นเกมส์บ่อยๆ. โถๆ ก็ดีใจที่ไม่มีใครตายเพราะถ้าตายก็ติดคุกสิครับ
แต่ก็ไม่เปนไรถ้าเกิดยิงถุกจริงๆตำรวจก็ต้องเร่งตามล่าตัวคนร้ายที่ร่วมกันก่อเหตุ
พอหลังจากเรื่องเงียบไปสักพัก ผมก็ไปเรียน ได้สักพักนึง ก็ออกโรงเรียน เพราะไม่ไหวกับการเรียนแล้ว เลยตัดสินใจ ลาออก แม่พาไปลาออก นึกตอนนั้นสงสารแม่จัง ทำงานเหนื่อยๆส่งลูกเรียนแทนที่จะเรียนจบไอ่ ยิ้ม . แต่สิ่งที่ได้รับ ดูสิ แม่ไปโรงเรียนแต่ละทีแทนที่จะเป็นเรื่องดี กลับพาลูกไปลาออกมานั้งคิดตอนเขียนขณะนี้รุสึกแย่มากๆเลยครับ สรุปออกอย่างเป็นทางการ .หลังจากที่ออกมาก็ทำตัวเหมือนเดิมตื่นมา เที่ยว กินน้ำท่อม กลับบ้านอน . แต่ผมก็ไม่ได้ทิ้งการเรียนไปเลยนะ. ผมเลยตัดสินใจไปสมัคร กสน. ก็


เรียน กสน 2 ปี และจบ ม6 ในช่วงที่เรียนจบ ม6 กศน. ความคิดผมเริ่มเปลี่ยนแล้วนะ และได้ไปสมัคร เรียน ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช ก็ไปสมัคร วันที่ไปสมัคก็ เขียนสาขา เทคโนคอม ไปยื่นใบสมัคร แต่อาจารย์คนนึง กลับพูดว่า เทอเรียนไม่ไหวหรอก ดูสิ ไม่มีวิชาคอมเลยที่เทอจบมา(วุติกศน) ผมเลยตัดสินใจเดินออกมา แล้วกลับเข้าไปไหม่ อาจารคนเดิมก็พุดว่าเทอเรียนไหวหรอเรียนไม่ไหวหรอก. ผมก็พุดนะว่า ผมเรียนได้ครับ จนมีอาจารย์ท่านนนนึง พุดขึ่นมาว่า ไห้เค้าลองสมัครดู ถ้าเค้าสอบได้ก็ไห้เค้าเรียน อาจารย์คนที่ ดูถูกผมว่าเรียนไม่ไหว. ก็หยิบโทรสับโทรไปหา อาจารย์ในคณะผมว่า ไห้ผมสมัครไหม วุด กศน. บลาๆๆๆๆๆๆๆๆ. และก็ยื่นโทรสับมาไห้ผมคุย อาจารย์เสียงในสายก็ถามผมว่าเรียนได้ไหม ผมบอกว่าได้ครับ แกบอกมาว่าอาจารย์เค้าจะไม่ตามน้าาาา. เรียนได้ไช่มั้ย. ผมบอกได้ครับผม
จากนั้นก็ได้สมัคร สาขาเทคโนคอม เรียบร้อย
ก็มาสอบคัดเลือกตามปกติ. ประกาศผลก็ออกมา ผ่าน.
และก็ไปสอบสัมภาษณ์ และเปิดเรียน
และก็ไปเรียนตามปกติ ผมตั้งใจมากนะ
ตอนนี้ความคิดเดิมๆเช่น. ไม่สนใจเรียน ส่งงานไม่ส่งงานไม่แคร์ ไม่เข้าเรียน. ความคิดและนิสัยแบบนั้นของผมหายไปหมดได้ยังไงก็ไม่รุ้
จำได้ว่า ถ้าวันนึงเกิดตื่นไปโรงเรียนสาย จะรุสึกแย่และกระตือตือร้นมาก. ถ้าไม่ได้ส่งงานนี้ คิดมากสุดๆตอนนี้ คะแนนจะออกมาดีมั้ย คิดเยอะเครียด ผมตั้งใจเรียนและไปเรียนอย่างตั้งใจ ส่งงานครบ ติดตามงาน ผมจำได้ว่าผมไม่เคยอ่านหนังสือสอบมาก่อน และครั้งแรกที่อ่านนี้คือตอนเรียนมหาลัยตอนสอบไฟ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่