Silent Hill ในที่นี้คือเมือง Flam แห่งนอร์เวย์ค่ะ ^^
คือเราไปเที่ยวในช่วง Low season แล้วบรรยากาศมันใช่มาก หมอกปกคลุมในช่วงเช้า
เดินเล่นเป็นชั่วโมงๆก็ไม่เจอใครสักคน ในส่วนของเที่ยวเมือง Flam และแพลนทริปนั้นเรารีวิวไว้ใน
http://ppantip.com/topic/35643148 นี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับวันนี้เราจะอำลาเมือง Slow Life Silent Hill แห่งนี้ ... ไปสู่เมืองท่าที่มีแลนมาร์คเป็นมรดกโลก
Byrrgen Bergen โดยรถไฟกันค่ะ
ตอน 9 รถไฟจะไป Bergen สวรรค์เน้นๆของคนกินปลา
วันนี้เราตื่นเช้ากันอีกเช่นเคย เป็น 2 คืนที่นอนเต็มอิ่มที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ หลังจากเราทำอาหารเช้าทานกันเรียบร้อย เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไป Check out แปดโมงกว่าๆ เดินถือกุญแจไปที่ Front โอ๊ะโอว! เปิดเข้าไม่ได้ มืดสนิท ไม่มีใครอยู่ เหลือบไปเห็น Key box หย่อนกุญแจ Check out ตรงนี้สินะ ... จัดไปค่ะ ^^
หย่อนกุญแจปุ๊บ ก็เดินลั่นล๊าในม่านหมอก มันสวยก็สวย วังเวงก็วังเวงอยู่ เอ๊ะยังไง ^^” เดินไปถึงสถานีรถไฟ อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาว่า เราจองรถไฟรอบกี่โมง? คุ้นๆว่าไม่ใช่รอบเช้าเพราะเรากะว่าจะตื่นสายกัน ควักตั๋วขึ้นมา ผ่างงงงงงงง!!!!!!!!!
คิดว่าเป็นชานชาลาที่เศษ 3/4 ไปก่อนละกานนนน ... ฆ่าเวลา ^^"
11.00 น. นี่ยังไม่เก้าโมงเช้าเลย กระเป๋าเอาออกมาแล้ว กุญแจห้องก็หย่อน Check out ไปแล้ว เราตัดสินใจวางกระเป๋าไว้ตรงที่รอสถานีรถไฟ แล้วไปที่เดิมค่ะ! ใช่ค่ะ! ที่เดิม โต๊ะตัวเดิม วิวเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยบรรยากาศ ^^
*** ตั๋วรอบ 09.05 น.กับตั๋วรอบ 11.00 น. ต่างกันยังไง?
ถามทำไม ก็เห็นแน่ๆอยู่แล้วว่าเวลาออกต่างกันเกือบ 2 ชั่วโมง มาดูรายละเอียดลึกๆกัน ทำไมเราเลือกออกสายทั้งๆที่ Flam ก็ไม่มีอะไรให้เที่ยวแล้ว ถ้าเราออกรอบ 09.05 เราจะไปถึง Bergen ตอนประมาณบ่าย 2 โมง และรอเปลี่ยนขบวนที่สถานี Mydal 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเราออกตอน 11.00 เราจะไปถึงตอนประมาณบ่าย 3 โมง รอเท่ากับถึงช้ากว่า 1 ชั่วโมง แต่ใช้เวลารอเปลี่ยนขบวนที่สถานีแค่ครึ่งชั่วโมง ซึ่งให้เราไปรอเปลี่ยนขบวนที่สถาน Mydal ชั่วโมงครึ่ง เราขอรอที่ Flam ดู Fjord ดีกว่า
เราเดินไปที่ Restaurant วันนี้สั่ง Mocca กับ Chocolate ซึ่งขอตั้งให้ Mocca เป็นเมนูแนะนำแห่งเมืองนี้ ไม่เคยดื่ม Mocca ร้อนที่รสชาติกลมกล่อมและนุ่มลิ้นขนาดนี้มาก่อน
สิ่งที่เราชอบที่สุดในเมืองนี้คือการคอยดูธารน้ำแข็งระเบิด หิมะถล่ม (ดูโรคจิตมะ?) ตั้งแต่เมื่อวานที่ระหว่างเราเดินเขากันอยู่ จะมีเสียง บึ้มมมมมมมม! เป็นระยะๆ เราก็ส่ายตามอง อื้อหือออออ! อย่างกะในหนังอารมณ์ไต่เป็นไต่ตาย สารคดีเอเวอเรส เรามาช่วงปลายๆฤดูหนาว น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งเริ่มละลายแล้วก็ดันจะน้ำแข็งชั้นนอกที่ปกคลุมไปด้วยนั้นแจก และระเบิด เราก็จะเห็นการระเบิด อย่างกะในหนังเลย เริ่มสายๆซัก 10 โมงเช้า แดดเริ่มออก หมอกลงเลียดผิวน้ำ เราได้เห็นยอดเขากันก่อนกลับ
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางของเรา ตอนต่อขบวนรถไฟที่ Mydal ถามเจ้าหน้าที่ดีๆว่าฝั่งไหนไป Bergen เพราะจะมีรถไฟมาทั้ง 2 ฝั่งในเวลาให้เคียงกัน แต่จุดหมายปลายทาง ฝั่งนึงไป Oslo ฝั่งนึงไป Bergen เราถึง Bergen ตอนประมาณบ่าย 3
โผล่มาที่สถานีก็แอบงงเบาๆเหมือนเดิม ซ้ายหรือขวาดี? แล้วเราก็เพิ่ง Citymap2go เหมือนเดิมค่ะ เนื่องจากถามคนแถวนั้นก็มีแต่คนต่างถิ่น แต่ก็ได้ Amazing กับเรียกว่าแก๊งคุณยาย เดินลากกระเป๋าใบเท่าเรา มาเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค โอ้ว! สุดยอดจริงๆง่ะ
เราหันหลังให้สถานีรถไฟและมุ่งหน้าไปทางซ้ายเดินเท้าลากกระเป๋าระยะทาง 1 กม. ประมาณ 12 นาที (ระยะเวลานี้ไม่รวมเดินถ่ายรูปและหลงระหว่างทาง) สวนสาธารณะที่นีน่ามาเดินมากๆซึ่งเราปักหมุดกันไว้จะมาชิลขากลับก่อนไปสถานี ระหว่างทางก็ถามคนที่เดินสวนมาไปเรื่อย เจอคนรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ยังไงก็ขอ Make sure ไว้ก่อน
ในที่สุดเราก็เจอโรงแรมที่วิวสวยที่สุดในเบอร์เกนที่เราได้จองมาตามรีวิวของคุณ #kiwimissie Clarion hotel admiral ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำตรงข้าม Byrgen สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกระบุให้เป็นมรดกโลก Land mark ของเมืองนี้ หลังจาก check in เข้าที่พักเรียบร้อยแล้วเอนกายลงบนเตียงสักพักก็แบบบ่นเบาๆ มันเป็นวิวตึกง่ะ ไม่ใช่วิว Byrgen คุณสามีก็ยกหูโทรศัพท์ต่อสายเปลี่ยนห้องค่ะ ซึ่งการเปลี่ยนเป็นวิว Byrgen นั้นต้องเพิ่มอีก 1,000 NOK/คืน ห้องดีกว่าและวิวที่เรียกว่าสุดๆอ่ะ เดินออกระเบียงคือติดริมน้ำ ยืนมอง Byrgen ที่มีเรือ Fjord แล่นผ่าน วู้วๆๆ L♡VE & Thx ü ka
หลังจากพักผ่อนซักพัก เราก็ออกเดินทางตามแพลนที่วางไว้คือ เดินชมตลาดปลา Torget (Fish Market) และสอบถามการท่องเที่ยวที่ Tourism Information สอบถามตั๋ว Bergen 24 Hrs Card ตารางเวลารถไปสนามบินวันรุ่งขึ้น รถ City tour สำหรับวันรุ่งขึ้น
นั่นคือแพลน!!! แต่ความจริงคือ หา Tourism Information ไม่เจอ หาตลาดปลา Torget (Fish Market) ไม่เจอ เจอแต่ร้านขายอาหารทะเลสด และที่เราปักหมุดส่วนตัวที่เจอแล้วแทบจะกรี๊ด! ร้านอาหารไทย Chiangmai Thai restaurant มื้อเย็นเสร็จชั้นแน่! เมื่อหาไม่เจอแล้วเราตัดสินใจรีบขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิวเมือง Bergen ที่ถือเป็น Highlight สำหรับผู้มาเยือนโดยการขึ้นรถราง Fløibanen
เราไม่รู้ตารางเวลาเลยกลัวว่าจะปิดซะก่อน สถานี Fløibanen อยู่ตรงแยก Starbuck coffee หันหน้าเข้าร้านแล้วเดินไปทางแยกขวา นิดเดียวก็เจอเลย ตารางเวลาขึ้นมาดูวิวได้จนถึงประมาณ 3 ทุ่ม มีรถรางขึ้นลงตลอด
ข้างบนมีร้านกาแฟที่เราไม่ได้สนใจ แต่กลับมาสนใจตอนมันปิดแล้ว คือร้านปิด 17.00 น. เราเดินเที่ยวรอบๆ บุกเข้าไปในดงต้นสน แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดผ่านทิวสน ทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ที่เราสองคนชอบ vampire twilight เลยขอเก็บภาพเลียนแบบพระเอกนางเอกซะหน่อย
หลังจากเดินเล่น กินลม ชมวิว มองดูพระอาทิตย์ที่คล้อยใกล้ตกดิน รวมถึงกระเพาะน้อยๆของเราเริ่มส่งเสียง เลยไปนั่งเติมพลังงานด้วยหมูวิเศษ ฮ่าๆ มันพกง่าย กินง่าย ไม่เลอะมือเลยง่ะ #หมูแผ่นสิงคโปร์
ไม่ใช่ของ Bee cheng heng นะ ของโคราชบ้านเรานี่แหละ แต่ชื่อนี้มันทำให้เข้าใจง่ายว่า Texture คล้ายๆกับของสิงคโปร์ แต่รสชาติไทยๆ ยิ่งมากินที่เมืองไกล ยิ่งช่วยให้แก้รสชาติเลี่ยนๆได้เรื่อยๆ #ดีงาม #ราคาถูก
การขึ้นมาดูจุดชมวิว ทำได้สองทางคือเดิน วิ่ง ออกกำลังกายขึ้นมา นึกถึงอารมณ์ขึ้นมา N Seoul Tower เสียดายไม่ได้เอารองเท้าวิ่งมา ไม่งั้นคงได้ออกกำลังกาย ชิลเป็นพลเมืองเมืองนี้สักหน่อย
พอพระอาทิตย์ตกดินเราก็นั่งรถรางลงมา หมดสิ้นแสงอาทิตย์อากาศก็เย็นจัดปั๊ป
คือช่วงเวลาเย็นในเมืองนี้ เหมือนชุดยูนิฟอร์มของประชากรเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา ไม่มีใครไม่วิ่ง ไม่ปั่น คือชอบเมืองนี้มาก! ได้ยินมาว่าเป็นนโยบายรัฐด้วยนะ ที่นี่เค้าทำงานกันไม่กี่ชั่วโมง เพราะรัฐเค้าอยากให้คนของเค้าสุขภาพดี เลยให้มีเวลาไว้สำหรับออกกำลังกายด้วย
ตอนนี้เราแบกท้องกันมาหยุดอยู่กึ่งกลางระหว่างซ้ายอาหารไทย จุดหมายของเรา และขวาอาหารทะเลสดๆ จุดหมายของคุณชาย แต่สุดท้ายเราก็ขี้ตามใจเหมือนเดิม แม้ว่าเราจะกินปลาไม่ได้ ที่นี่เรียกว่า Fish me มันก็คือตลาดปลา Toget ที่เราตามหานั่นแหละ
แต่นี่เป็นฤดูหนาวเค้าเลยเอามาอยู่ในตึก ปกติถ้าฤดูร้อนที่เราเคยมาจะขายอยู่ข้างถนนเลย ฟีลตลาดยุโรปอารมณ์นั้น
ที่นี่มีปลาดิบ ขาปูอลาสก้า สเต็กปลาที่เลือกชิ้นปลาเอง
คนขายก็จะเอาชิ้นปลานั้นขึ้นเขียง แล้ววางมีดลงกะขนาดก่อนจะถามเราว่าขนาดนี้พอมั้ย? ถ้าเราโอเคก็เฉือนเลย
ปลา 2 ชนิดที่เราเลือกคือ Salmon และปลาค็อด แล้วก็มานั่งรอเค้ามาเสริฟ พอมาเมนูมาอยู่ตรงหน้า คนไม่กินปลาก็ยังทนไม่ไหว
ปกติแล้วเราไม่กินปลาเพราะเราไม่ชอบกลิ่น ปลาที่เมืองไทยคนกินปลามักบอกว่าไม่มีกลิ่น แต่เรากินยังไงก็มีกลิ่น ยิ่งแซลมอนนี่สำหรับเราเรียกว่ากลิ่นแรง แต่! อะไรคือกินปลาค็อดที่นี่ได้อย่างสบาย เนื้อเนี๊ยนเนียน กินแซลมอนก็ได้นะ คือไม่ขึ้นจมูกเลย ตกใจมากจนคุณชายเค้าคิดว่าเราแพ้ท้องรึเปล่า? คือไม่ได้ท้องนี่นา แต่เราคิดว่าเราคงมากินที่แหล่งมันเลยสดมากๆ
คือมื้อนี้ดีใจมากที่ร่างกายได้รับโปรตีนจากเนื้อปลาปริมาณที่เยอะมากที่สุดในชีวิตมั้ง ^_^ 2 จานนี้สนนราคาที่ 1,800 บาท อิ่มทั้งคู่ไม่ต้องข้ามไปกินอาหารไทยต่อ แล้วเราก็เข้าไปนอนดูวิว Byrgen ยามค่ำคืนให้คุ้มกับที่ย้ายมาห้อง Byrgen view สักหน่อย
เดี๋ยวมาต่อ สองเท้าก้าวเดินให้ทั่ว Bergen ^^
[CR] รถไฟจาก Silent Hill (FLAM) to Bergen สวรรค์เน้นๆของคนกินปลา
Silent Hill ในที่นี้คือเมือง Flam แห่งนอร์เวย์ค่ะ ^^
คือเราไปเที่ยวในช่วง Low season แล้วบรรยากาศมันใช่มาก หมอกปกคลุมในช่วงเช้า
เดินเล่นเป็นชั่วโมงๆก็ไม่เจอใครสักคน ในส่วนของเที่ยวเมือง Flam และแพลนทริปนั้นเรารีวิวไว้ใน http://ppantip.com/topic/35643148 นี้เรียบร้อยแล้วค่ะ
สำหรับวันนี้เราจะอำลาเมือง Slow Life Silent Hill แห่งนี้ ... ไปสู่เมืองท่าที่มีแลนมาร์คเป็นมรดกโลก
Byrrgen Bergen โดยรถไฟกันค่ะ
ตอน 9 รถไฟจะไป Bergen สวรรค์เน้นๆของคนกินปลา
วันนี้เราตื่นเช้ากันอีกเช่นเคย เป็น 2 คืนที่นอนเต็มอิ่มที่สุดในชีวิตก็ว่าได้ หลังจากเราทำอาหารเช้าทานกันเรียบร้อย เก็บกระเป๋าเตรียมตัวไป Check out แปดโมงกว่าๆ เดินถือกุญแจไปที่ Front โอ๊ะโอว! เปิดเข้าไม่ได้ มืดสนิท ไม่มีใครอยู่ เหลือบไปเห็น Key box หย่อนกุญแจ Check out ตรงนี้สินะ ... จัดไปค่ะ ^^
หย่อนกุญแจปุ๊บ ก็เดินลั่นล๊าในม่านหมอก มันสวยก็สวย วังเวงก็วังเวงอยู่ เอ๊ะยังไง ^^” เดินไปถึงสถานีรถไฟ อยู่ดีๆก็นึกขึ้นมาว่า เราจองรถไฟรอบกี่โมง? คุ้นๆว่าไม่ใช่รอบเช้าเพราะเรากะว่าจะตื่นสายกัน ควักตั๋วขึ้นมา ผ่างงงงงงงง!!!!!!!!!
คิดว่าเป็นชานชาลาที่เศษ 3/4 ไปก่อนละกานนนน ... ฆ่าเวลา ^^"
11.00 น. นี่ยังไม่เก้าโมงเช้าเลย กระเป๋าเอาออกมาแล้ว กุญแจห้องก็หย่อน Check out ไปแล้ว เราตัดสินใจวางกระเป๋าไว้ตรงที่รอสถานีรถไฟ แล้วไปที่เดิมค่ะ! ใช่ค่ะ! ที่เดิม โต๊ะตัวเดิม วิวเดิม แต่เพิ่มเติมด้วยบรรยากาศ ^^
*** ตั๋วรอบ 09.05 น.กับตั๋วรอบ 11.00 น. ต่างกันยังไง?
ถามทำไม ก็เห็นแน่ๆอยู่แล้วว่าเวลาออกต่างกันเกือบ 2 ชั่วโมง มาดูรายละเอียดลึกๆกัน ทำไมเราเลือกออกสายทั้งๆที่ Flam ก็ไม่มีอะไรให้เที่ยวแล้ว ถ้าเราออกรอบ 09.05 เราจะไปถึง Bergen ตอนประมาณบ่าย 2 โมง และรอเปลี่ยนขบวนที่สถานี Mydal 1 ชั่วโมงครึ่ง ถ้าเราออกตอน 11.00 เราจะไปถึงตอนประมาณบ่าย 3 โมง รอเท่ากับถึงช้ากว่า 1 ชั่วโมง แต่ใช้เวลารอเปลี่ยนขบวนที่สถานีแค่ครึ่งชั่วโมง ซึ่งให้เราไปรอเปลี่ยนขบวนที่สถาน Mydal ชั่วโมงครึ่ง เราขอรอที่ Flam ดู Fjord ดีกว่า
เราเดินไปที่ Restaurant วันนี้สั่ง Mocca กับ Chocolate ซึ่งขอตั้งให้ Mocca เป็นเมนูแนะนำแห่งเมืองนี้ ไม่เคยดื่ม Mocca ร้อนที่รสชาติกลมกล่อมและนุ่มลิ้นขนาดนี้มาก่อน
สิ่งที่เราชอบที่สุดในเมืองนี้คือการคอยดูธารน้ำแข็งระเบิด หิมะถล่ม (ดูโรคจิตมะ?) ตั้งแต่เมื่อวานที่ระหว่างเราเดินเขากันอยู่ จะมีเสียง บึ้มมมมมมมม! เป็นระยะๆ เราก็ส่ายตามอง อื้อหือออออ! อย่างกะในหนังอารมณ์ไต่เป็นไต่ตาย สารคดีเอเวอเรส เรามาช่วงปลายๆฤดูหนาว น้ำตกที่กลายเป็นน้ำแข็งเริ่มละลายแล้วก็ดันจะน้ำแข็งชั้นนอกที่ปกคลุมไปด้วยนั้นแจก และระเบิด เราก็จะเห็นการระเบิด อย่างกะในหนังเลย เริ่มสายๆซัก 10 โมงเช้า แดดเริ่มออก หมอกลงเลียดผิวน้ำ เราได้เห็นยอดเขากันก่อนกลับ
และแล้วก็ถึงเวลาเดินทางของเรา ตอนต่อขบวนรถไฟที่ Mydal ถามเจ้าหน้าที่ดีๆว่าฝั่งไหนไป Bergen เพราะจะมีรถไฟมาทั้ง 2 ฝั่งในเวลาให้เคียงกัน แต่จุดหมายปลายทาง ฝั่งนึงไป Oslo ฝั่งนึงไป Bergen เราถึง Bergen ตอนประมาณบ่าย 3
โผล่มาที่สถานีก็แอบงงเบาๆเหมือนเดิม ซ้ายหรือขวาดี? แล้วเราก็เพิ่ง Citymap2go เหมือนเดิมค่ะ เนื่องจากถามคนแถวนั้นก็มีแต่คนต่างถิ่น แต่ก็ได้ Amazing กับเรียกว่าแก๊งคุณยาย เดินลากกระเป๋าใบเท่าเรา มาเที่ยวแบบแบ็คแพ็ค โอ้ว! สุดยอดจริงๆง่ะ
เราหันหลังให้สถานีรถไฟและมุ่งหน้าไปทางซ้ายเดินเท้าลากกระเป๋าระยะทาง 1 กม. ประมาณ 12 นาที (ระยะเวลานี้ไม่รวมเดินถ่ายรูปและหลงระหว่างทาง) สวนสาธารณะที่นีน่ามาเดินมากๆซึ่งเราปักหมุดกันไว้จะมาชิลขากลับก่อนไปสถานี ระหว่างทางก็ถามคนที่เดินสวนมาไปเรื่อย เจอคนรู้บ้าง ไม่รู้บ้าง ยังไงก็ขอ Make sure ไว้ก่อน
ในที่สุดเราก็เจอโรงแรมที่วิวสวยที่สุดในเบอร์เกนที่เราได้จองมาตามรีวิวของคุณ #kiwimissie Clarion hotel admiral ซึ่งตั้งอยู่ริมน้ำตรงข้าม Byrgen สถานที่ท่องเที่ยวที่ถูกระบุให้เป็นมรดกโลก Land mark ของเมืองนี้ หลังจาก check in เข้าที่พักเรียบร้อยแล้วเอนกายลงบนเตียงสักพักก็แบบบ่นเบาๆ มันเป็นวิวตึกง่ะ ไม่ใช่วิว Byrgen คุณสามีก็ยกหูโทรศัพท์ต่อสายเปลี่ยนห้องค่ะ ซึ่งการเปลี่ยนเป็นวิว Byrgen นั้นต้องเพิ่มอีก 1,000 NOK/คืน ห้องดีกว่าและวิวที่เรียกว่าสุดๆอ่ะ เดินออกระเบียงคือติดริมน้ำ ยืนมอง Byrgen ที่มีเรือ Fjord แล่นผ่าน วู้วๆๆ L♡VE & Thx ü ka
หลังจากพักผ่อนซักพัก เราก็ออกเดินทางตามแพลนที่วางไว้คือ เดินชมตลาดปลา Torget (Fish Market) และสอบถามการท่องเที่ยวที่ Tourism Information สอบถามตั๋ว Bergen 24 Hrs Card ตารางเวลารถไปสนามบินวันรุ่งขึ้น รถ City tour สำหรับวันรุ่งขึ้น
นั่นคือแพลน!!! แต่ความจริงคือ หา Tourism Information ไม่เจอ หาตลาดปลา Torget (Fish Market) ไม่เจอ เจอแต่ร้านขายอาหารทะเลสด และที่เราปักหมุดส่วนตัวที่เจอแล้วแทบจะกรี๊ด! ร้านอาหารไทย Chiangmai Thai restaurant มื้อเย็นเสร็จชั้นแน่! เมื่อหาไม่เจอแล้วเราตัดสินใจรีบขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิวเมือง Bergen ที่ถือเป็น Highlight สำหรับผู้มาเยือนโดยการขึ้นรถราง Fløibanen
เราไม่รู้ตารางเวลาเลยกลัวว่าจะปิดซะก่อน สถานี Fløibanen อยู่ตรงแยก Starbuck coffee หันหน้าเข้าร้านแล้วเดินไปทางแยกขวา นิดเดียวก็เจอเลย ตารางเวลาขึ้นมาดูวิวได้จนถึงประมาณ 3 ทุ่ม มีรถรางขึ้นลงตลอด
ข้างบนมีร้านกาแฟที่เราไม่ได้สนใจ แต่กลับมาสนใจตอนมันปิดแล้ว คือร้านปิด 17.00 น. เราเดินเที่ยวรอบๆ บุกเข้าไปในดงต้นสน แสงอาทิตย์ยามเย็นทอดผ่านทิวสน ทำให้เรานึกถึงภาพยนตร์ที่เราสองคนชอบ vampire twilight เลยขอเก็บภาพเลียนแบบพระเอกนางเอกซะหน่อย
หลังจากเดินเล่น กินลม ชมวิว มองดูพระอาทิตย์ที่คล้อยใกล้ตกดิน รวมถึงกระเพาะน้อยๆของเราเริ่มส่งเสียง เลยไปนั่งเติมพลังงานด้วยหมูวิเศษ ฮ่าๆ มันพกง่าย กินง่าย ไม่เลอะมือเลยง่ะ #หมูแผ่นสิงคโปร์
ไม่ใช่ของ Bee cheng heng นะ ของโคราชบ้านเรานี่แหละ แต่ชื่อนี้มันทำให้เข้าใจง่ายว่า Texture คล้ายๆกับของสิงคโปร์ แต่รสชาติไทยๆ ยิ่งมากินที่เมืองไกล ยิ่งช่วยให้แก้รสชาติเลี่ยนๆได้เรื่อยๆ #ดีงาม #ราคาถูก
การขึ้นมาดูจุดชมวิว ทำได้สองทางคือเดิน วิ่ง ออกกำลังกายขึ้นมา นึกถึงอารมณ์ขึ้นมา N Seoul Tower เสียดายไม่ได้เอารองเท้าวิ่งมา ไม่งั้นคงได้ออกกำลังกาย ชิลเป็นพลเมืองเมืองนี้สักหน่อย
พอพระอาทิตย์ตกดินเราก็นั่งรถรางลงมา หมดสิ้นแสงอาทิตย์อากาศก็เย็นจัดปั๊ป
คือช่วงเวลาเย็นในเมืองนี้ เหมือนชุดยูนิฟอร์มของประชากรเปลี่ยนเป็นชุดกีฬา ไม่มีใครไม่วิ่ง ไม่ปั่น คือชอบเมืองนี้มาก! ได้ยินมาว่าเป็นนโยบายรัฐด้วยนะ ที่นี่เค้าทำงานกันไม่กี่ชั่วโมง เพราะรัฐเค้าอยากให้คนของเค้าสุขภาพดี เลยให้มีเวลาไว้สำหรับออกกำลังกายด้วย
ตอนนี้เราแบกท้องกันมาหยุดอยู่กึ่งกลางระหว่างซ้ายอาหารไทย จุดหมายของเรา และขวาอาหารทะเลสดๆ จุดหมายของคุณชาย แต่สุดท้ายเราก็ขี้ตามใจเหมือนเดิม แม้ว่าเราจะกินปลาไม่ได้ ที่นี่เรียกว่า Fish me มันก็คือตลาดปลา Toget ที่เราตามหานั่นแหละ
แต่นี่เป็นฤดูหนาวเค้าเลยเอามาอยู่ในตึก ปกติถ้าฤดูร้อนที่เราเคยมาจะขายอยู่ข้างถนนเลย ฟีลตลาดยุโรปอารมณ์นั้น
ที่นี่มีปลาดิบ ขาปูอลาสก้า สเต็กปลาที่เลือกชิ้นปลาเอง
คนขายก็จะเอาชิ้นปลานั้นขึ้นเขียง แล้ววางมีดลงกะขนาดก่อนจะถามเราว่าขนาดนี้พอมั้ย? ถ้าเราโอเคก็เฉือนเลย
ปลา 2 ชนิดที่เราเลือกคือ Salmon และปลาค็อด แล้วก็มานั่งรอเค้ามาเสริฟ พอมาเมนูมาอยู่ตรงหน้า คนไม่กินปลาก็ยังทนไม่ไหว
ปกติแล้วเราไม่กินปลาเพราะเราไม่ชอบกลิ่น ปลาที่เมืองไทยคนกินปลามักบอกว่าไม่มีกลิ่น แต่เรากินยังไงก็มีกลิ่น ยิ่งแซลมอนนี่สำหรับเราเรียกว่ากลิ่นแรง แต่! อะไรคือกินปลาค็อดที่นี่ได้อย่างสบาย เนื้อเนี๊ยนเนียน กินแซลมอนก็ได้นะ คือไม่ขึ้นจมูกเลย ตกใจมากจนคุณชายเค้าคิดว่าเราแพ้ท้องรึเปล่า? คือไม่ได้ท้องนี่นา แต่เราคิดว่าเราคงมากินที่แหล่งมันเลยสดมากๆ
คือมื้อนี้ดีใจมากที่ร่างกายได้รับโปรตีนจากเนื้อปลาปริมาณที่เยอะมากที่สุดในชีวิตมั้ง ^_^ 2 จานนี้สนนราคาที่ 1,800 บาท อิ่มทั้งคู่ไม่ต้องข้ามไปกินอาหารไทยต่อ แล้วเราก็เข้าไปนอนดูวิว Byrgen ยามค่ำคืนให้คุ้มกับที่ย้ายมาห้อง Byrgen view สักหน่อย
เดี๋ยวมาต่อ สองเท้าก้าวเดินให้ทั่ว Bergen ^^