[หนังโรงเรื่องที่ 155] Deepwater Horizon - ทุนนิยม-อำนาจนิยม-สกุลเงิน ; (Peter Berg, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : หนังสร้างจากเหตุการณ์จริงในอุบัติเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมัน "Deepwater Horizon" ปะทุไฟและเกิดการระเบิด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากในปี 2010 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ 'น้ำมันรั่ว' ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ถ้าจะให้นิยามหนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นคำว่า 'ดีงามตามท้องเรื่อง' แน่ๆ คือมันเป็นอะไรที่ยึดกับแพทเทิร์นหนังอุบัติภัยสไตล์อเมริกันจ๋าเอามากๆ, ขายความ heroic หน่อยๆ ตบท้ายก็พ่วงด้วยงานภาพที่โคตรจะวินาศสันตะโร ซึ่งก็ยอมรับเลยว่าทำออกมาได้ดี แค่มันไม่มีอะไรให้พูดต่อเฉยๆ
โอเค หนังอาจจะมีรสชาดนิดหน่อยจากการจิกแขวะระบบทุนนิยม อันเป็นต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดมาจากทาง 'นายทุน' ได้บีบให้ทาง 'แท่นขุด' เร่งขุดน้ำมันขึ้นมาโดยละเลยขั้นตอนความปลอดภัย (safety procedure) ที่สำคัญไปเนื่องจากเหตุผลทางงบประมาณ ซึ่งบรรดาลูกเรือแท่นขุดทั้งหลายที่เป็นแค่ลูกจ้าง มีหรือจะคัดค้านนายจ้างตัวเองได้ จนสุดท้ายอิ๊บอ๋ายแบบที่เห็นในตัวอย่างกันนี่แหละ
สิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือตอนต้นเรื่องมีการปะทะคารมกันระหว่างนายช่างแท่นขุดกับนายทุน ที่ต่างคนต่างก็เอาข้อมูลและทฤษฏีมาฟาดฟันเผื่อที่จะซัพพอร์ทการตัดสินใจของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยศัพท์แสงที่หนังประเคนใส่เรามันก็ออกจะไปในที่ 'เทคนิคัล' ไปนิดนึงจนอาจจะงงกันได้ไม่ยาก แต่ผู้เขียนเชื่อว่าพอเราเข้าใจบริบทแล้วเราก็คงพอจะงูๆปลาๆไปกับเขาได้แหละ
สิ่งที่น่าเสียดายในสไตล์หนังของ ผกก. คนนี้ก็คือการที่ตัวละครทั้งหลาย 'ไม่น่าจดจำ' เอาเสียเลย ไม่ว่าจะพยายามปั้นอัตลักษณ์ (identity) ใส่ตัวละครหลักมาขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้สึกหลงรักหรือเอาใจช่วยใครซักคนเป็นพิเศษ กระทั่งตัวละครเอกของเรื่องอย่าง 'ไมค์ วิลเลี่ยมส์' (Mark Wahlberg) เองก็ไม่ได้มีอะไรที่ติดหูติดตาเรากลับมาเลย แต่ถ้าถามซีนไหนที่ติดตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตอนท้ายเรื่องที่ 'ไมค์' เสียศูนย์อย่างแรงในห้องพักส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งยอมรับเลยว่าสื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ ถ้าไม่ตั้งการ์ดดีๆรับรองมีน้ำตาคลอกันแน่นอน รับประกัน
เหนือสิ่งอื่นใด .. คืองานภาพที่ค่อนข้างสมจริง พังจริง วินาศจริง (อ่านมาจากซักที่ว่าหนังลงทุนสร้างแบบจำลองแท่นขุดมาเผาจริงๆ) ซึ่งเชื่อว่าถ้าได้ไปดูในโรงใหญ่ๆดีๆก็คงฟินกันทางสายตาแน่นอน
ถ้าไม่รู้สัปดาห์นี้จะไปดูอะไร Deepwater Horizon ก็ถือเป็นตัวเลือกฆ่าเวลาทีดีนะ..
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่
https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..
[Movie Review] Deepwater Horizon - ทุนนิยม-อำนาจนิยม-สกุลเงิน by ตั๋วหนังมันแพง
[หนังโรงเรื่องที่ 155] Deepwater Horizon - ทุนนิยม-อำนาจนิยม-สกุลเงิน ; (Peter Berg, 2016)
by ตั๋วหนังมันแพง
คะแนนความชอบ : B (จากสเกล D-A)
**ไม่มีการสปอยล์เนื้อเรื่องสำคัญ
เรื่องย่อ : หนังสร้างจากเหตุการณ์จริงในอุบัติเหตุแท่นขุดเจาะน้ำมัน "Deepwater Horizon" ปะทุไฟและเกิดการระเบิด ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากในปี 2010 ซึ่งถือเป็นเหตุการณ์ 'น้ำมันรั่ว' ที่ร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ
ถ้าจะให้นิยามหนังเรื่องนี้ก็คงหนีไม่พ้นคำว่า 'ดีงามตามท้องเรื่อง' แน่ๆ คือมันเป็นอะไรที่ยึดกับแพทเทิร์นหนังอุบัติภัยสไตล์อเมริกันจ๋าเอามากๆ, ขายความ heroic หน่อยๆ ตบท้ายก็พ่วงด้วยงานภาพที่โคตรจะวินาศสันตะโร ซึ่งก็ยอมรับเลยว่าทำออกมาได้ดี แค่มันไม่มีอะไรให้พูดต่อเฉยๆ
โอเค หนังอาจจะมีรสชาดนิดหน่อยจากการจิกแขวะระบบทุนนิยม อันเป็นต้นตอของอุบัติเหตุที่เกิดมาจากทาง 'นายทุน' ได้บีบให้ทาง 'แท่นขุด' เร่งขุดน้ำมันขึ้นมาโดยละเลยขั้นตอนความปลอดภัย (safety procedure) ที่สำคัญไปเนื่องจากเหตุผลทางงบประมาณ ซึ่งบรรดาลูกเรือแท่นขุดทั้งหลายที่เป็นแค่ลูกจ้าง มีหรือจะคัดค้านนายจ้างตัวเองได้ จนสุดท้ายอิ๊บอ๋ายแบบที่เห็นในตัวอย่างกันนี่แหละ
สิ่งหนึ่งที่ชอบก็คือตอนต้นเรื่องมีการปะทะคารมกันระหว่างนายช่างแท่นขุดกับนายทุน ที่ต่างคนต่างก็เอาข้อมูลและทฤษฏีมาฟาดฟันเผื่อที่จะซัพพอร์ทการตัดสินใจของตนเอง ซึ่งแน่นอนว่าด้วยศัพท์แสงที่หนังประเคนใส่เรามันก็ออกจะไปในที่ 'เทคนิคัล' ไปนิดนึงจนอาจจะงงกันได้ไม่ยาก แต่ผู้เขียนเชื่อว่าพอเราเข้าใจบริบทแล้วเราก็คงพอจะงูๆปลาๆไปกับเขาได้แหละ
สิ่งที่น่าเสียดายในสไตล์หนังของ ผกก. คนนี้ก็คือการที่ตัวละครทั้งหลาย 'ไม่น่าจดจำ' เอาเสียเลย ไม่ว่าจะพยายามปั้นอัตลักษณ์ (identity) ใส่ตัวละครหลักมาขนาดไหน แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไม่รู้สึกหลงรักหรือเอาใจช่วยใครซักคนเป็นพิเศษ กระทั่งตัวละครเอกของเรื่องอย่าง 'ไมค์ วิลเลี่ยมส์' (Mark Wahlberg) เองก็ไม่ได้มีอะไรที่ติดหูติดตาเรากลับมาเลย แต่ถ้าถามซีนไหนที่ติดตาที่สุดก็คงหนีไม่พ้นตอนท้ายเรื่องที่ 'ไมค์' เสียศูนย์อย่างแรงในห้องพักส่วนตัวของตัวเอง ซึ่งยอมรับเลยว่าสื่ออารมณ์ได้ดีมากๆ ถ้าไม่ตั้งการ์ดดีๆรับรองมีน้ำตาคลอกันแน่นอน รับประกัน
เหนือสิ่งอื่นใด .. คืองานภาพที่ค่อนข้างสมจริง พังจริง วินาศจริง (อ่านมาจากซักที่ว่าหนังลงทุนสร้างแบบจำลองแท่นขุดมาเผาจริงๆ) ซึ่งเชื่อว่าถ้าได้ไปดูในโรงใหญ่ๆดีๆก็คงฟินกันทางสายตาแน่นอน
ถ้าไม่รู้สัปดาห์นี้จะไปดูอะไร Deepwater Horizon ก็ถือเป็นตัวเลือกฆ่าเวลาทีดีนะ..
หากชื่นชอบรีวิวสามารถติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/expensivemovie หรือค้นหาคำว่า "ตั๋วหนังมันแพง" ได้ที่หน้า Facebook ครับ ..