สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
ต้องไปสัมผัสเองครับ ถึงจะรู้
เวลาฟังหรืออ่านคนอื่นโพส มันไม่เห็นภาพจริงๆ
จาก ปสก เคยทำงานที่โน่นเลยล่ะครับ
(ถูกส่งตัวไปเพราะภาษาอังกฤษพอจะถูไถได้บ้าง สำเนียงไทยแลนด์เลยล่ะ)
ไปโซลแรกๆก็ดี โอเค คล้ายๆ กทม
แต่พออยู่นานๆ เริ่มเห็นสังคมเขาแล้วคือแบบว่า มันต่างจากบ้านเราจริงครับ
ผมยังแปลกใจตัวเองเลย อยู่ได้ไงตั้งเกือบๆหกเจ็ดปี
(แบบว่ากลับไทยทุกๆสามเดือนครับ กลับครั้งละสองสัปดาห์ บางทีลากยาวไปสี่สัปดาห์)
สังคมเขาค่อนข้างออกแนวแข็งๆครับ
แบบด่ากันว่ากันตรงๆ ไล่ออกคือออกไปเลยไม่เหลือแม้แต่เยื่อใย
ทำผิดพลาดครั้งเดียวอนาคตอาจวูบดับได้
คอรัปชั่นก็เยอะครับ ไม่ต่างจากบ้านเราหรือหลายๆประเทศเลยเรื่องคอรัปชั่น
ผัวตบเมียคาร้านเหล้าผมก็เจอมาแล้ว
เมียไปตามผัวกินเหล้า ผัวโมโหซัดแก้วเหล้าสาดหน้าก็เจอมาแล้ว
ที่สำคัญ สังคมเกาหลีค่อนข้างแบ่งเพศครับ
ชายก็เล่นกับชายไป หญิงก็เล่นกับหญิงไป
อย่างในมหาลัยที่บ้านเรา ชายเล่นกับหญิงเป็นเรื่องปกติมากๆ
แต่หากเป็นเกาหลี จะถูกมองว่าชอบกันทัน คือเขาค่อนข้างแบ่งเพศกัน
เรื่องเกาหลีหัวโบราณ อันนี้ผมเห็นด้วยกับ คห บนๆ
บางทีบางเรื่องที่มันปกติมากๆในไทยเรา แต่มันกลายเป็นที่ฮือฮาสำหรับเกาหลี
เช่น คนสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมดังๆ หากเป็นบ้านเราเราก็คงแค่มองเฉยๆ ไม่ได้ใส้ใจอะไรเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา
แต่หากเป็นเกาหลีนี่ จะแบบว่ามองสะกิดเพื่อนให้มองตาม พร้อมนินทาต่างๆ สองสามวันยังไม่เลิกสนใจเรื่องนี้
ครั้งหนึ่ง เด็ก พนง เซเว่นเห็นเงินไทยรูปในหลวง
เขาสนใจมากครับ ถึงกับเรียก พนง ออกมาดูถึงสี่ห้าคน
สองสามวันต่อมาผมเข้าไปซื้อของอีก พอเจอหน้าผมเท่านั้นล่ะ รีบบอกเพื่อน พนง เลย
ว่าคนไทยมาซื้อของ เหมือนว่าสนใจเรามาก
(หลายๆอย่าง คนเกาหลีดูแปลกๆ จะว่าหัวโบราณเหมือน คห บนๆก็ไม่ผิด)
หรือบางทีผมก็แอบคิดนะครับ
อาจเป็นเพราะไทยบ้านเราเป็นประเทศท่องเที่ยว เราเจอคนต่างชาติเยอะแยะมันเลยเป็นเรื่องปกติ
แต่เกาหลีไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยว เขาเป็นประเทศที่เน้นตัวเองให้ไปในทางอุตสาหกรรมมากกว่า นักท่องเที่ยวเลยไม่เยอะแบบบ้านเรา
พอเขาเจอต่างชาติเลยดูแบบสนใจมากๆ
ที่สำคัญ หมอเกาหลีไม่พูดภาษาอังกฤษ
ครั้งหนึ่งผมเป็นไข้หวัด หอบสังขารตัวเองไปคลีนิค
หมอเข้ามาตรวจสื่อสารกับผมไม่รู้เรื่อง จนผมต้องเขียนสาธยายอาการให้หมออ่าน พร้อมเข็มจิ้มตูดไปทีนึง ได้ยามากิน
(สรุป หมออ่านอังกฤษได้ แต่พูดไม่ได้)
นึกว่าจะมีแต่หมอญี่ปุ่นเสียอีกที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ที่ไหนได้ หมอเกาหลีบางคนก็ไม่พูด
(ถ้าเป็นหมอไทย อย่างน้อยก็ต้องได้ภาษาบ้างล่ะครับ ไม่งั้นคงสอบเข้าแพทย์ศาสตร์ไม่ได้)
สาธยายมาซะยาวครับ
สรุปคือ สังคมเกาหลีซีเรียส หากอยู่นานๆแล้วจะรู้สึกได้ชัดเจน
สำหรับผมแล้ว เกาหลีไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่ยาวๆ มันเครียด
เหมาะกับไปเที่ยวระยะสั้นๆมากกว่า
สำหรับใครที่ไปเที่ยวแล้วอาจชอบครับ เพราะไปเที่ยวก็ต้องพบเจอแต่สิ่งดีๆอยู่แล้ว
แต่หากเปลี่ยนจากเที่ยวเป็นอาศัยอยู่ที่นั่น ความรู้สึกจะเป็นอีกแบบนึงเลย คิดถึงบ้านสุดๆ
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกวันนี้คนเกาหลีแห่กันมาซื้อคอนโดแถวๆใกล้บ้านผมซะเยอะ
ทั้งชั้นเป็นคนเกาหลีหมดเลยก็มี ก็เพราะประเทศไทยมีอิสระมีทุกสิ่งทุกอย่างนั่นล่ะครับ
บางคนบอกอยากได้สัญชาติไทยไม่อยากกลับไปเกาหลีเลย
เวลาฟังหรืออ่านคนอื่นโพส มันไม่เห็นภาพจริงๆ
จาก ปสก เคยทำงานที่โน่นเลยล่ะครับ
(ถูกส่งตัวไปเพราะภาษาอังกฤษพอจะถูไถได้บ้าง สำเนียงไทยแลนด์เลยล่ะ)
ไปโซลแรกๆก็ดี โอเค คล้ายๆ กทม
แต่พออยู่นานๆ เริ่มเห็นสังคมเขาแล้วคือแบบว่า มันต่างจากบ้านเราจริงครับ
ผมยังแปลกใจตัวเองเลย อยู่ได้ไงตั้งเกือบๆหกเจ็ดปี
(แบบว่ากลับไทยทุกๆสามเดือนครับ กลับครั้งละสองสัปดาห์ บางทีลากยาวไปสี่สัปดาห์)
สังคมเขาค่อนข้างออกแนวแข็งๆครับ
แบบด่ากันว่ากันตรงๆ ไล่ออกคือออกไปเลยไม่เหลือแม้แต่เยื่อใย
ทำผิดพลาดครั้งเดียวอนาคตอาจวูบดับได้
คอรัปชั่นก็เยอะครับ ไม่ต่างจากบ้านเราหรือหลายๆประเทศเลยเรื่องคอรัปชั่น
ผัวตบเมียคาร้านเหล้าผมก็เจอมาแล้ว
เมียไปตามผัวกินเหล้า ผัวโมโหซัดแก้วเหล้าสาดหน้าก็เจอมาแล้ว
ที่สำคัญ สังคมเกาหลีค่อนข้างแบ่งเพศครับ
ชายก็เล่นกับชายไป หญิงก็เล่นกับหญิงไป
อย่างในมหาลัยที่บ้านเรา ชายเล่นกับหญิงเป็นเรื่องปกติมากๆ
แต่หากเป็นเกาหลี จะถูกมองว่าชอบกันทัน คือเขาค่อนข้างแบ่งเพศกัน
เรื่องเกาหลีหัวโบราณ อันนี้ผมเห็นด้วยกับ คห บนๆ
บางทีบางเรื่องที่มันปกติมากๆในไทยเรา แต่มันกลายเป็นที่ฮือฮาสำหรับเกาหลี
เช่น คนสะพายกระเป๋าแบรนด์เนมดังๆ หากเป็นบ้านเราเราก็คงแค่มองเฉยๆ ไม่ได้ใส้ใจอะไรเพราะเป็นสิทธิ์ของเขา
แต่หากเป็นเกาหลีนี่ จะแบบว่ามองสะกิดเพื่อนให้มองตาม พร้อมนินทาต่างๆ สองสามวันยังไม่เลิกสนใจเรื่องนี้
ครั้งหนึ่ง เด็ก พนง เซเว่นเห็นเงินไทยรูปในหลวง
เขาสนใจมากครับ ถึงกับเรียก พนง ออกมาดูถึงสี่ห้าคน
สองสามวันต่อมาผมเข้าไปซื้อของอีก พอเจอหน้าผมเท่านั้นล่ะ รีบบอกเพื่อน พนง เลย
ว่าคนไทยมาซื้อของ เหมือนว่าสนใจเรามาก
(หลายๆอย่าง คนเกาหลีดูแปลกๆ จะว่าหัวโบราณเหมือน คห บนๆก็ไม่ผิด)
หรือบางทีผมก็แอบคิดนะครับ
อาจเป็นเพราะไทยบ้านเราเป็นประเทศท่องเที่ยว เราเจอคนต่างชาติเยอะแยะมันเลยเป็นเรื่องปกติ
แต่เกาหลีไม่ใช่ประเทศท่องเที่ยว เขาเป็นประเทศที่เน้นตัวเองให้ไปในทางอุตสาหกรรมมากกว่า นักท่องเที่ยวเลยไม่เยอะแบบบ้านเรา
พอเขาเจอต่างชาติเลยดูแบบสนใจมากๆ
ที่สำคัญ หมอเกาหลีไม่พูดภาษาอังกฤษ
ครั้งหนึ่งผมเป็นไข้หวัด หอบสังขารตัวเองไปคลีนิค
หมอเข้ามาตรวจสื่อสารกับผมไม่รู้เรื่อง จนผมต้องเขียนสาธยายอาการให้หมออ่าน พร้อมเข็มจิ้มตูดไปทีนึง ได้ยามากิน
(สรุป หมออ่านอังกฤษได้ แต่พูดไม่ได้)
นึกว่าจะมีแต่หมอญี่ปุ่นเสียอีกที่ไม่พูดภาษาอังกฤษ ที่ไหนได้ หมอเกาหลีบางคนก็ไม่พูด
(ถ้าเป็นหมอไทย อย่างน้อยก็ต้องได้ภาษาบ้างล่ะครับ ไม่งั้นคงสอบเข้าแพทย์ศาสตร์ไม่ได้)
สาธยายมาซะยาวครับ
สรุปคือ สังคมเกาหลีซีเรียส หากอยู่นานๆแล้วจะรู้สึกได้ชัดเจน
สำหรับผมแล้ว เกาหลีไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตอยู่ยาวๆ มันเครียด
เหมาะกับไปเที่ยวระยะสั้นๆมากกว่า
สำหรับใครที่ไปเที่ยวแล้วอาจชอบครับ เพราะไปเที่ยวก็ต้องพบเจอแต่สิ่งดีๆอยู่แล้ว
แต่หากเปลี่ยนจากเที่ยวเป็นอาศัยอยู่ที่นั่น ความรู้สึกจะเป็นอีกแบบนึงเลย คิดถึงบ้านสุดๆ
ผมไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกวันนี้คนเกาหลีแห่กันมาซื้อคอนโดแถวๆใกล้บ้านผมซะเยอะ
ทั้งชั้นเป็นคนเกาหลีหมดเลยก็มี ก็เพราะประเทศไทยมีอิสระมีทุกสิ่งทุกอย่างนั่นล่ะครับ
บางคนบอกอยากได้สัญชาติไทยไม่อยากกลับไปเกาหลีเลย
แสดงความคิดเห็น
สังคมที่เกาหลีเป็นยังไงบ้างหรอคะ