สวัสดีครับ ยังจำกันได้อยู่นะครับ เมื่อประมาณเดือน มิย.
ได้มีเพจ ๆ นึงแจ้ง โปรไปฮ่องกง โดยสายการบิน เคนย่าแอร์เวย์ ในราคา 2300 บาท
อ่านไม่ผิดครับ 2300 บาท ไปกลับแบบฟูลเซอร์วิส เล่นเอาผมที่ไปฮ่องกงมาแล้วเกือบสิบรอบได้
กับราคาแบบนี้มีหรือจะไม่จอง ( ปีก่อนก็ไม่ตกโปรได้ไปฮ่องกง อีกตำนานของคาเธ่ย์แปซิฟิค )
แต่หลังจากจองเสร็จแล้ว ก็ต้องไปขอบุคกิ้งจากสายการบิน ลุ้นแทบตาย
ตอนแรกจะไปกับคุณแฟนสองคนพยายามหาในช่วง 24-27 ตค. ปีที่แล้วไปช่วงนี้
ตรงกับงานไวน์ที่ฮ่องกง คุณแฟนนี่ชิลมาก ชอบมาก อากาศดี ไวน์เยอะ อากาศเย็น ๆ
แถมฝรั่งหน้าตาดีเดินกันเพียบในงาน (อันนี้ผมว่ามีส่วนเยอะแน่เลย 555) บอกปีหน้ามาอีกนะ
งานจัดที่ริมอ่าวฝั่งฮ่องกงเลย ชิงช้าสวรรค์ที่เปิดใหม่ไปหน่อย
เสียค่าเข้านิดหน่อย มีไวน์ให้ชิมในราคาต่าง ๆ แต่ไม่แพงมากครับ ต้องลองๆ คอไวน์ฟินแน่นอน
สำหรับใครสนใจงานนี้ ถ้าไปช่วงนี้ได้ห้ามพลาดเลยครับ
สนใจรายละเอียดลองดูเพิ่มเติมได้ที่
http://www.discoverhongkong.com/th/see-do/events-festivals/highlight-events/wine-dine-festival.jsp
เลยชวนเพื่อนสนิทอีกคู่ที่เคยไปฮ่องกงด้วยกันเมื่อสี่ห้าปีก่อน ไปด้วยแต่ช่วงที่จะไป ดันมีตั๋วโปรไม่ครบสี่ใบ
หาไปหามา มาเจอช่วง 24-27 กย. ที่มีที่เยอะ เพื่อนอีกคู่ขอตัดสินใจ ผมเลยจองคู่ผมไปก่อน เพราะจะไปกันแน่นอนอยู่แล้ว
ค่ำวันเดียวกัน เพื่อนคอนเฟิร์ม เลยจองตามไปอีกคู่แต่ได้ราคา 3xxx แพงกว่าของผม แต่ก็ยังอยู่ในราคาที่รับได้
ปรากฎว่าบุคกิ้งของเพื่อนผมดันคอนเฟิร์มเลยที่จอง ส่วนของผมที่จองไปล่วงหน้านี่รอข้ามวันกันทีเดียว
ลุ้นแทบตายกว่าบุคกิ้งจะคอนเฟิร์มก็อีกวันแหละ เกือบไม่ได้ไปด้วยกันแหละ
ความลุ้นยังไม่จบแค่นั้นสิ จองเสร็จ ทางแอดมินเพจก็จองภายในสัปดาห์นั้นแล้วบินเลย
ปรากฎว่าโดนครับโดนเลย แจ๊คพอตคือ ไฟลท์ดีเลย์ครับ
ดีเลย์ไปประมาณ เจ็ดชม.ได้ในขากลับ แต่โชคดีที่แอดมินมีบัตร priority เลยได้ transfer กลับไทยก่อน
เล่นเอาลูกเพจหลายคน บ่น ๆ คอมเพลนกันยาวเป็นดราม่าไปช่วงนึงเลย
ส่วนผมพอได้อ่านแล้วก็ นึกในใจ " -ิบหายแหละ" ชวนเพื่อนไปเดี๋ยวเค้าจะไม่สนุกป่าวน้อ
หลังจากวันนั้น เลยได้พยายามหารีวิวจากคนที่เคยไปก็มีแต่ไม่เยอะ เริ่มมีคนกังวลถึงกับทำประกันกันล่วงหน้าแหละ
ส่วนผมก็ พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด พยายามเช็คข้อมูลไฟลท์นี้ จากเวปนี้ครับ
http://www.flightaware.com/
ก็ได้ข้อมูลมาดังรูป
ผมลองหาข้อมูลย้อนหลังไปถึงกลางเดือน พค. ปรากฎว่า
จริง ๆ สายการบินนี้ก็ดีเลย์แค่ประมาณสาม สี่ ครั้ง เอง ซึ่งผมว่ามันก็ถือว่าไม่ได้เลวร้าย เหมือนที่เค้าพูด ๆ กัน
ซึ่งสายการบินนี้จะบินมาจาก ไนโรบี---สุวรรณภูมิ พักเครื่องประมาณชม.แล้วรับผู้โดยสารและบินต่อไปฮ่องกง
คือถ้าเช็คไฟลท์จาก ไนโรบี มา สุวรรณภูมิแล้ว ไฟลท์ที่จะไปฮ่องกง เลทแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้นก็ลองเช็คกันดูก่อนวันเดินทางนะครับ
ก่อนจะไปก็ตัดสินใจกับเพื่อนนานอยู่ ว่าจะทำประกันกันดีมั้ย
เท่าที่หาข้อมูล ประกันเดินทาง ที่รับประกันการดีเลย์น้อยชม.สุด คือ 6 ชม. เป็นประกันของ
ซิกน่าครับ ราคา สี่วัน สามคืน อยู่ที่ 375 บาท สามารถทำได้ช้าสุด 1 วันก่อนวันเดินทาง
และสามารถทำออนไลน์ได้เลยครับ แต่ผมเช็คดูล่วงหน้า ไฟลท์ที่ผมบินแจ้งแล้วว่า ไม่ดีเลย์
ผมเลยตัดสินใจไม่ทำประกันครับ ( แอบงกเล็กน้อย 555 )
ข้อมูลของสายการบินนี้ คร่าว ๆ ก่อนนะครับ
ไฟลท์ขาไปคือ KQ 860 ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ประมาณ 15.15 ถึง ฮ่องกงประมาณ 18.30 น. (ถ้าไม่เลทนะ)
โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกที่นั่งได้เลยนะครับ ที่เวปนี้
https://www.kenya-airways.com/th/?langtype=1033
หน้าตาก็จะเป็นประมาณดังรูปครับ กดไปตามลูกศรเลยครับ แล้วก็ทำตามขั้นตอนกันไป
ก่อนเดินทางประมาณสองสามวันก็จะมีเมล์ส่งมาคอนเฟิร์มหน้าตาประมาณนี้ครับ เย้ ไม่ดีเลย์
จากนั้นจะมีเมล์จาก เคนย่าแอร์เวย์มาอีกฉบับนึงครับ
ว่าคุณสามารถ upgrade เป็นชั้น business ได้
แต่คุณต้อง bid หรือเรียกง่าย ๆ ว่าประมูลนั่นแหละครับ แข่งกับคนอื่น
โดยใส่ราคาไปครั้งเดียว เริ่มต้น 50-150 USD สำหรับอัพเกรดสองคน
ซึ่งต้องใช้เลขบัตรเครดิตด้วยนะครับ ถ้าคุณชนะ เค้าก็จะตัดบัตรเลย
ถ้าไม่ชนะก็ไม่เสียนะครับ สำหรับผมเหรอครับ ข้ามสิครับ จะเสียเงินเพิ่มทำไม
แต่ใครอยากลองนั่งดูก็บิดกันดูครับ
ก่อนไปฮ่องกงคุณสามารถเช็คพยากรณ์อากาศได้จากเวปนี้นะครับ
http://www.hko.gov.hk/wxinfo/currwx/fnd.htm
ผมไปฮ่องกงเกือบสิบรอบ เช็คกับเวปนี้ทุกครั้งซึ่งตรงตลอดครับ
ช่วงวันที่ผมจะไป สบายละครับ มีแดด ถ้ามีฝนก็นิดหน่อย บางพื้นที่ รอดครับรอด
ทั้งทริปนี่ เจอฝนวันเดียวเลย คือวันจันทร์ แต่โชคดี ตกหนักตอนผมพักกินข้าวกันพอดี
มาถึงวันเดินทางครับ ผมโทรสอบถาม จนท เคนย่าอีกทีเกี่ยวกับการเช็คอิน
พนักงานผญคนนึงตอบได้ดีมากเลยครับ เสียงเพราะ ๆ แอบกวน ๆ เล็กน้อยด้วย
- ไฟลท์จะออกประมาณ 15.15
- ประตูปิดก่อนไฟลท์ออก 1 ชม. นั่นคือ 14.15
- เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดก่อนไฟลท์เดินทาง 3 ชม. เท่ากับเปิดประมาณ 12.00 น.
วางแผนการเดินทางกันดี ๆ นะครับ ส่วนผมอาศัย แอร์พอร์ทลิ้งค์ เดินทางไปจากแถวราชปรารถ
เคาน์เตอร์เช็คอินของเคนย่า แอร์เวย์คือ แถว W ครับ จำง่าย ๆ หันหน้าเข้าอาคาร อยู่ขวาสุดเลยครับ
ผมมาถึงเที่ยงนิด ๆ ก็เริ่มมีคนต่อแถวกันแหละ บุคคลทั่วไปก็เริ่มกันที่เคาน์เตอร์ W02 เป็นต้นไป
ส่วนใครมีบัตร priority ก็เชิญที่เคาน์เตอร์ W01 ครับ
ไปถึงผมก็ยื่นบุคกิ้ง พร้อมพาสปอร์ต กับจนท.ครับ
เอาจริง ๆ แค่พาสปอร์ตก็ได้นะครับ
สำหรับสายการบินนี้ จะให้กระเป๋าเดินทางคนละ 2 ใบ ใบละ 23 kg
แถมขึ้นเครื่องได้อีก 7 kg นะครับ เยอะจริง ๆ
ส่วนกระเป๋าผมเหรอครับ ไม่ถึงสิบโลเลย อุตส่าห์เตรียมกระเป๋าไปงอก
สุดท้ายก็ไม่งอก ขากลับนี่ของผมไม่ถึง 15 โลเลย สบาย ๆ
แปปเดียวก็ได้ บอร์ดดิ้งพาสมาละครับ ได้เกทมาละ D3 ครับ
เสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปด้านบน ตามอักษร Departure ไป ผ่านเครื่องสแกนด้านบน
ลงมาด้านล่าง เพื่อผ่านตม.ต่อครับ เดี๋ยวนี้พาสปอร์ตไทย
เวลาผ่าน ตม. นี่ใช้แบบเป็นเครื่องสแกนแทนครับ ใช้งานไม่ยากครับ
1.คว่ำหน้าพาสปอร์ตเข้าไป รอเครื่องแปป
2.เอาบาร์โคดที่ตั๋วสแกนด้านล่าง
3.แผงกั้นเปิด เดินผ่านยืนถ่ายรูป
4.แล้วเอานิ้วชี้ กดบนแป้นสีเขียวครับ
เป็นอันเสร็จครับผม ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเร็วมากครับ
ใครกลัวทำไม่เป็นไม่ต้องกลัวมีพนักงาน ช่วยบริการตลอดครับ
ขาเข้าก็เป็นแบบนี้นะครับ เข้ามาละครับ เกทD3 เดินไปทางขวาครับ
ดูในแผนที่เหมือนใกล้นะครับ เกท D แต่เดินจากตรงกลางเข้ามานี่ผมว่าเดินเรื่อย ๆ ประมาณ 10-15นาที
อันนี้ไม่นับดูของตามช้อป คิงพาวเว่อร์ทั้งหลายนะครับ ยังไงก็เพื่อเวลากันด้วย
เกท D ต้องลงบันไดไปด้านล่างต่ออีกนะครับ เดินกันไปถึงละ
ตอนไปถึงนี่เครื่องยังไม่มาเลย แอบไปรองท้องที่เล้านจ์คิงพาวเว่อร์ที่อยู่ทางเกท A เรียบร้อย
ทางไปก็เดินต่อไปอีกหน่อยประมาณห้านาที เจอศาลาไทยเลี้ยวซ้ายครับ ก็เจอเล้านจ์ละครับ
นั่งรอไปแปป มาแล้วครับเครื่องกำลังเลี้ยวเข้ามาเลย
ลำใหญ่พอกับรอบก่อนที่ไปกับทางคาเธ่ย์เลยครับ
จะมีผู้โดยสารที่มาจากไนโรบี ลงสุวรรณภูมิ และมีกัปตันกับลูกเรือชุดใหม่ ไปแทนชุดเดิมด้วยครับ
ตอนนั่งรอนี่กัปตันคนครับเป็นคนผิวดำครับ นั่งคุยกะลูกเรืออยู่ ฮาตลอดครับ กัปตัน
อ๋อ ลูกเรือที่ไปนี่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นคนไทยเกือบหมดนะครับ
ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา เพราะเท่าที่สังเกตบนเครื่อง ทุกคนพูดได้ทั้ง ไทย อังกฤษ จีนครับ
สักพักก็เรียกขึ้นเครื่องละครับ ตามลำดับ
ไปครับ ไปขึ้นเครื่องกันแล้ว เย้เครื่องตรงเวลาดีครับ
สำหรับเครื่องรุ่นนี้ที่นั่งก็จะเป็นแบบแถวละ 3-3-3 นะครับ
ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัวให้ครับ กระจกเป็นสีฟ้าเป็นแบบตัดแสงเองโดยอัตโนมัติด้วย
ด้านหน้าเครื่องตอนเดินเข้ามาจะเป็นโซน business ที่สามารถปรับเอนนอนได้เลยนะครับ
สำหรับผมก็ที่นั่งธรรมดานี่ละ ผมสูง 180 หนัก 80 นั่งที่นั่งแถว 2x ครับ สบาย ๆ ครับ
สำหรับจอก็มีเมนูบริการหนัง ถือว่าเยอะอยุ่นะครับ หนังใหม่ ๆ กะมี นะ แต่ Soundtrack นะครับ
สามารถดูรายละเอียดไฟลท์บินได้จากหน้าจอ แล้วก็มีทั้งเกมส์ เพลง เยอะครับ
หน้าจอเป็นระบบสัมผัส แต่ก็มีรีโมท สามารถดีงออกมาใช้ได้ครับ
ก่อนขึ้นเครื่องก็จะมีคำแนะนำสำหรับผู้โดยสารเป็นอนิเมชั่นสิงโต น่ารักดีครับ
อุปกรณ์ที่มีแจกก็ หูฟัง หมอนเล็ก ๆ แล้วก็ผ้าห่มขอได้ครับ
หูฟังจะไม่เหมือนทั่ว ๆ ไปมีสองหัว เสียบตรงหัวที่วางมือนะครับ
เครื่องขึ้นได้สักพักพนักงานก็เริ่มทำบริการแจกอาหารกันละครับ
พนักงานแจ้งว่า อาหารมีให้เลือก คือ ไก่ ปลา และข้าวผัดครับ
ส่วนขากลับนี่เหมือนกันแต่ไม่มีข้าวผัดครับ
ผมเลือกชุดไก่ครับ เปิดมาเป็นข้าวกล้องกับแกงเขียวหวานไก่ อร่อยเลยครับ อยู่ท้องด้วย
มีเค้กเนยมาให้ชิ้นนึง แต่แข็งไปหน่อย
แฟนผมเลือกปลาครับ เป็นสเต็กปลากับมันฝรั่งไม่มีข้าวครับ ลองชิมแล้วผมว่าจืด ๆ ครับแถมไม่อยุ่ท้องแฟนผมด้วย
ดูจากสภาพหลังทำศึก คงเดาได้นะครับ อร่อยแค่ไหน 555
อันนี้ของขากลับ สั่งเป็นไก่ทั้งคู่ แต่ ขากลับเป็น ข้าวแพนงไก่นะครับ รสชาติดีเลย
ส่วนเค้กเป็นคล้าย ๆ แบล๊คฟอเรส อร่อยดีครับ
พวกน้ำดื่มก็มี มาตราฐาน น้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล
เบียร์กะไวนกะมีเป็นของทางแอฟริกาใต้นะครับ แฟนผมจัดไวน์ขาวมาขวดครับ เป็นขวดเล็ก ๆ ครับ
[CR] รีวิว Kenya Airways กับโปรไปฮ่องกงในตำนาน + ทริคเล็กน้อยในการเดินทาง by TutorTon
ได้มีเพจ ๆ นึงแจ้ง โปรไปฮ่องกง โดยสายการบิน เคนย่าแอร์เวย์ ในราคา 2300 บาท
อ่านไม่ผิดครับ 2300 บาท ไปกลับแบบฟูลเซอร์วิส เล่นเอาผมที่ไปฮ่องกงมาแล้วเกือบสิบรอบได้
กับราคาแบบนี้มีหรือจะไม่จอง ( ปีก่อนก็ไม่ตกโปรได้ไปฮ่องกง อีกตำนานของคาเธ่ย์แปซิฟิค )
แต่หลังจากจองเสร็จแล้ว ก็ต้องไปขอบุคกิ้งจากสายการบิน ลุ้นแทบตาย
ตอนแรกจะไปกับคุณแฟนสองคนพยายามหาในช่วง 24-27 ตค. ปีที่แล้วไปช่วงนี้
ตรงกับงานไวน์ที่ฮ่องกง คุณแฟนนี่ชิลมาก ชอบมาก อากาศดี ไวน์เยอะ อากาศเย็น ๆ
แถมฝรั่งหน้าตาดีเดินกันเพียบในงาน (อันนี้ผมว่ามีส่วนเยอะแน่เลย 555) บอกปีหน้ามาอีกนะ
งานจัดที่ริมอ่าวฝั่งฮ่องกงเลย ชิงช้าสวรรค์ที่เปิดใหม่ไปหน่อย
เสียค่าเข้านิดหน่อย มีไวน์ให้ชิมในราคาต่าง ๆ แต่ไม่แพงมากครับ ต้องลองๆ คอไวน์ฟินแน่นอน
สำหรับใครสนใจงานนี้ ถ้าไปช่วงนี้ได้ห้ามพลาดเลยครับ
สนใจรายละเอียดลองดูเพิ่มเติมได้ที่
http://www.discoverhongkong.com/th/see-do/events-festivals/highlight-events/wine-dine-festival.jsp
เลยชวนเพื่อนสนิทอีกคู่ที่เคยไปฮ่องกงด้วยกันเมื่อสี่ห้าปีก่อน ไปด้วยแต่ช่วงที่จะไป ดันมีตั๋วโปรไม่ครบสี่ใบ
หาไปหามา มาเจอช่วง 24-27 กย. ที่มีที่เยอะ เพื่อนอีกคู่ขอตัดสินใจ ผมเลยจองคู่ผมไปก่อน เพราะจะไปกันแน่นอนอยู่แล้ว
ค่ำวันเดียวกัน เพื่อนคอนเฟิร์ม เลยจองตามไปอีกคู่แต่ได้ราคา 3xxx แพงกว่าของผม แต่ก็ยังอยู่ในราคาที่รับได้
ปรากฎว่าบุคกิ้งของเพื่อนผมดันคอนเฟิร์มเลยที่จอง ส่วนของผมที่จองไปล่วงหน้านี่รอข้ามวันกันทีเดียว
ลุ้นแทบตายกว่าบุคกิ้งจะคอนเฟิร์มก็อีกวันแหละ เกือบไม่ได้ไปด้วยกันแหละ
ความลุ้นยังไม่จบแค่นั้นสิ จองเสร็จ ทางแอดมินเพจก็จองภายในสัปดาห์นั้นแล้วบินเลย
ปรากฎว่าโดนครับโดนเลย แจ๊คพอตคือ ไฟลท์ดีเลย์ครับ
ดีเลย์ไปประมาณ เจ็ดชม.ได้ในขากลับ แต่โชคดีที่แอดมินมีบัตร priority เลยได้ transfer กลับไทยก่อน
เล่นเอาลูกเพจหลายคน บ่น ๆ คอมเพลนกันยาวเป็นดราม่าไปช่วงนึงเลย
ส่วนผมพอได้อ่านแล้วก็ นึกในใจ " -ิบหายแหละ" ชวนเพื่อนไปเดี๋ยวเค้าจะไม่สนุกป่าวน้อ
หลังจากวันนั้น เลยได้พยายามหารีวิวจากคนที่เคยไปก็มีแต่ไม่เยอะ เริ่มมีคนกังวลถึงกับทำประกันกันล่วงหน้าแหละ
ส่วนผมก็ พยายามหาข้อมูลให้มากที่สุด พยายามเช็คข้อมูลไฟลท์นี้ จากเวปนี้ครับ http://www.flightaware.com/
ก็ได้ข้อมูลมาดังรูป
ผมลองหาข้อมูลย้อนหลังไปถึงกลางเดือน พค. ปรากฎว่า
จริง ๆ สายการบินนี้ก็ดีเลย์แค่ประมาณสาม สี่ ครั้ง เอง ซึ่งผมว่ามันก็ถือว่าไม่ได้เลวร้าย เหมือนที่เค้าพูด ๆ กัน
ซึ่งสายการบินนี้จะบินมาจาก ไนโรบี---สุวรรณภูมิ พักเครื่องประมาณชม.แล้วรับผู้โดยสารและบินต่อไปฮ่องกง
คือถ้าเช็คไฟลท์จาก ไนโรบี มา สุวรรณภูมิแล้ว ไฟลท์ที่จะไปฮ่องกง เลทแน่นอนครับ
เพราะฉะนั้นก็ลองเช็คกันดูก่อนวันเดินทางนะครับ
ก่อนจะไปก็ตัดสินใจกับเพื่อนนานอยู่ ว่าจะทำประกันกันดีมั้ย
เท่าที่หาข้อมูล ประกันเดินทาง ที่รับประกันการดีเลย์น้อยชม.สุด คือ 6 ชม. เป็นประกันของ
ซิกน่าครับ ราคา สี่วัน สามคืน อยู่ที่ 375 บาท สามารถทำได้ช้าสุด 1 วันก่อนวันเดินทาง
และสามารถทำออนไลน์ได้เลยครับ แต่ผมเช็คดูล่วงหน้า ไฟลท์ที่ผมบินแจ้งแล้วว่า ไม่ดีเลย์
ผมเลยตัดสินใจไม่ทำประกันครับ ( แอบงกเล็กน้อย 555 )
ข้อมูลของสายการบินนี้ คร่าว ๆ ก่อนนะครับ
ไฟลท์ขาไปคือ KQ 860 ออกเดินทางจากสุวรรณภูมิ ประมาณ 15.15 ถึง ฮ่องกงประมาณ 18.30 น. (ถ้าไม่เลทนะ)
โดยคุณสามารถเข้าไปเลือกที่นั่งได้เลยนะครับ ที่เวปนี้
https://www.kenya-airways.com/th/?langtype=1033
หน้าตาก็จะเป็นประมาณดังรูปครับ กดไปตามลูกศรเลยครับ แล้วก็ทำตามขั้นตอนกันไป
ก่อนเดินทางประมาณสองสามวันก็จะมีเมล์ส่งมาคอนเฟิร์มหน้าตาประมาณนี้ครับ เย้ ไม่ดีเลย์
จากนั้นจะมีเมล์จาก เคนย่าแอร์เวย์มาอีกฉบับนึงครับ
ว่าคุณสามารถ upgrade เป็นชั้น business ได้
แต่คุณต้อง bid หรือเรียกง่าย ๆ ว่าประมูลนั่นแหละครับ แข่งกับคนอื่น
โดยใส่ราคาไปครั้งเดียว เริ่มต้น 50-150 USD สำหรับอัพเกรดสองคน
ซึ่งต้องใช้เลขบัตรเครดิตด้วยนะครับ ถ้าคุณชนะ เค้าก็จะตัดบัตรเลย
ถ้าไม่ชนะก็ไม่เสียนะครับ สำหรับผมเหรอครับ ข้ามสิครับ จะเสียเงินเพิ่มทำไม
แต่ใครอยากลองนั่งดูก็บิดกันดูครับ
ก่อนไปฮ่องกงคุณสามารถเช็คพยากรณ์อากาศได้จากเวปนี้นะครับ
http://www.hko.gov.hk/wxinfo/currwx/fnd.htm
ผมไปฮ่องกงเกือบสิบรอบ เช็คกับเวปนี้ทุกครั้งซึ่งตรงตลอดครับ
ช่วงวันที่ผมจะไป สบายละครับ มีแดด ถ้ามีฝนก็นิดหน่อย บางพื้นที่ รอดครับรอด
ทั้งทริปนี่ เจอฝนวันเดียวเลย คือวันจันทร์ แต่โชคดี ตกหนักตอนผมพักกินข้าวกันพอดี
มาถึงวันเดินทางครับ ผมโทรสอบถาม จนท เคนย่าอีกทีเกี่ยวกับการเช็คอิน
พนักงานผญคนนึงตอบได้ดีมากเลยครับ เสียงเพราะ ๆ แอบกวน ๆ เล็กน้อยด้วย
- ไฟลท์จะออกประมาณ 15.15
- ประตูปิดก่อนไฟลท์ออก 1 ชม. นั่นคือ 14.15
- เคาน์เตอร์เช็คอินเปิดก่อนไฟลท์เดินทาง 3 ชม. เท่ากับเปิดประมาณ 12.00 น.
วางแผนการเดินทางกันดี ๆ นะครับ ส่วนผมอาศัย แอร์พอร์ทลิ้งค์ เดินทางไปจากแถวราชปรารถ
เคาน์เตอร์เช็คอินของเคนย่า แอร์เวย์คือ แถว W ครับ จำง่าย ๆ หันหน้าเข้าอาคาร อยู่ขวาสุดเลยครับ
ผมมาถึงเที่ยงนิด ๆ ก็เริ่มมีคนต่อแถวกันแหละ บุคคลทั่วไปก็เริ่มกันที่เคาน์เตอร์ W02 เป็นต้นไป
ส่วนใครมีบัตร priority ก็เชิญที่เคาน์เตอร์ W01 ครับ
ไปถึงผมก็ยื่นบุคกิ้ง พร้อมพาสปอร์ต กับจนท.ครับ
เอาจริง ๆ แค่พาสปอร์ตก็ได้นะครับ
สำหรับสายการบินนี้ จะให้กระเป๋าเดินทางคนละ 2 ใบ ใบละ 23 kg
แถมขึ้นเครื่องได้อีก 7 kg นะครับ เยอะจริง ๆ
ส่วนกระเป๋าผมเหรอครับ ไม่ถึงสิบโลเลย อุตส่าห์เตรียมกระเป๋าไปงอก
สุดท้ายก็ไม่งอก ขากลับนี่ของผมไม่ถึง 15 โลเลย สบาย ๆ
แปปเดียวก็ได้ บอร์ดดิ้งพาสมาละครับ ได้เกทมาละ D3 ครับ
เสร็จแล้วก็เดินขึ้นไปด้านบน ตามอักษร Departure ไป ผ่านเครื่องสแกนด้านบน
ลงมาด้านล่าง เพื่อผ่านตม.ต่อครับ เดี๋ยวนี้พาสปอร์ตไทย
เวลาผ่าน ตม. นี่ใช้แบบเป็นเครื่องสแกนแทนครับ ใช้งานไม่ยากครับ
1.คว่ำหน้าพาสปอร์ตเข้าไป รอเครื่องแปป
2.เอาบาร์โคดที่ตั๋วสแกนด้านล่าง
3.แผงกั้นเปิด เดินผ่านยืนถ่ายรูป
4.แล้วเอานิ้วชี้ กดบนแป้นสีเขียวครับ
เป็นอันเสร็จครับผม ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาทีเร็วมากครับ
ใครกลัวทำไม่เป็นไม่ต้องกลัวมีพนักงาน ช่วยบริการตลอดครับ
ขาเข้าก็เป็นแบบนี้นะครับ เข้ามาละครับ เกทD3 เดินไปทางขวาครับ
ดูในแผนที่เหมือนใกล้นะครับ เกท D แต่เดินจากตรงกลางเข้ามานี่ผมว่าเดินเรื่อย ๆ ประมาณ 10-15นาที
อันนี้ไม่นับดูของตามช้อป คิงพาวเว่อร์ทั้งหลายนะครับ ยังไงก็เพื่อเวลากันด้วย
เกท D ต้องลงบันไดไปด้านล่างต่ออีกนะครับ เดินกันไปถึงละ
ตอนไปถึงนี่เครื่องยังไม่มาเลย แอบไปรองท้องที่เล้านจ์คิงพาวเว่อร์ที่อยู่ทางเกท A เรียบร้อย
ทางไปก็เดินต่อไปอีกหน่อยประมาณห้านาที เจอศาลาไทยเลี้ยวซ้ายครับ ก็เจอเล้านจ์ละครับ
นั่งรอไปแปป มาแล้วครับเครื่องกำลังเลี้ยวเข้ามาเลย
ลำใหญ่พอกับรอบก่อนที่ไปกับทางคาเธ่ย์เลยครับ
จะมีผู้โดยสารที่มาจากไนโรบี ลงสุวรรณภูมิ และมีกัปตันกับลูกเรือชุดใหม่ ไปแทนชุดเดิมด้วยครับ
ตอนนั่งรอนี่กัปตันคนครับเป็นคนผิวดำครับ นั่งคุยกะลูกเรืออยู่ ฮาตลอดครับ กัปตัน
อ๋อ ลูกเรือที่ไปนี่ส่วนใหญ่ที่ผมเห็นคนไทยเกือบหมดนะครับ
ไม่ต้องห่วงเรื่องภาษา เพราะเท่าที่สังเกตบนเครื่อง ทุกคนพูดได้ทั้ง ไทย อังกฤษ จีนครับ
สักพักก็เรียกขึ้นเครื่องละครับ ตามลำดับ
ไปครับ ไปขึ้นเครื่องกันแล้ว เย้เครื่องตรงเวลาดีครับ
สำหรับเครื่องรุ่นนี้ที่นั่งก็จะเป็นแบบแถวละ 3-3-3 นะครับ
ทุกที่นั่งมีจอส่วนตัวให้ครับ กระจกเป็นสีฟ้าเป็นแบบตัดแสงเองโดยอัตโนมัติด้วย
ด้านหน้าเครื่องตอนเดินเข้ามาจะเป็นโซน business ที่สามารถปรับเอนนอนได้เลยนะครับ
สำหรับผมก็ที่นั่งธรรมดานี่ละ ผมสูง 180 หนัก 80 นั่งที่นั่งแถว 2x ครับ สบาย ๆ ครับ
สำหรับจอก็มีเมนูบริการหนัง ถือว่าเยอะอยุ่นะครับ หนังใหม่ ๆ กะมี นะ แต่ Soundtrack นะครับ
สามารถดูรายละเอียดไฟลท์บินได้จากหน้าจอ แล้วก็มีทั้งเกมส์ เพลง เยอะครับ
หน้าจอเป็นระบบสัมผัส แต่ก็มีรีโมท สามารถดีงออกมาใช้ได้ครับ
ก่อนขึ้นเครื่องก็จะมีคำแนะนำสำหรับผู้โดยสารเป็นอนิเมชั่นสิงโต น่ารักดีครับ
อุปกรณ์ที่มีแจกก็ หูฟัง หมอนเล็ก ๆ แล้วก็ผ้าห่มขอได้ครับ
หูฟังจะไม่เหมือนทั่ว ๆ ไปมีสองหัว เสียบตรงหัวที่วางมือนะครับ
เครื่องขึ้นได้สักพักพนักงานก็เริ่มทำบริการแจกอาหารกันละครับ
พนักงานแจ้งว่า อาหารมีให้เลือก คือ ไก่ ปลา และข้าวผัดครับ
ส่วนขากลับนี่เหมือนกันแต่ไม่มีข้าวผัดครับ
ผมเลือกชุดไก่ครับ เปิดมาเป็นข้าวกล้องกับแกงเขียวหวานไก่ อร่อยเลยครับ อยู่ท้องด้วย
มีเค้กเนยมาให้ชิ้นนึง แต่แข็งไปหน่อย
แฟนผมเลือกปลาครับ เป็นสเต็กปลากับมันฝรั่งไม่มีข้าวครับ ลองชิมแล้วผมว่าจืด ๆ ครับแถมไม่อยุ่ท้องแฟนผมด้วย
ดูจากสภาพหลังทำศึก คงเดาได้นะครับ อร่อยแค่ไหน 555
อันนี้ของขากลับ สั่งเป็นไก่ทั้งคู่ แต่ ขากลับเป็น ข้าวแพนงไก่นะครับ รสชาติดีเลย
ส่วนเค้กเป็นคล้าย ๆ แบล๊คฟอเรส อร่อยดีครับ
พวกน้ำดื่มก็มี มาตราฐาน น้ำเปล่า น้ำอัดลม น้ำส้ม น้ำแอปเปิ้ล
เบียร์กะไวนกะมีเป็นของทางแอฟริกาใต้นะครับ แฟนผมจัดไวน์ขาวมาขวดครับ เป็นขวดเล็ก ๆ ครับ