รีวิว(แห้ง) ผ่าฟันคุด ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด !!!
รีวิวนี้ไม่มีภาพประกอบ จึงขอใช้คำว่า รีวิว(แห้ง)
ไม่มีภาพประกอบนะครับ อยากให้อ่านแล้วจินตนาการเอา เห็นภาพสมจริงกว่ามาก 5555
อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ผ่าฟันคุด ให้คนที่ยังไม่ได้ผ่า มาเอาฟันคุดออกเถอะครับ ผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน
ฟันคุดคืออะไร?.. ทำไมต้องเอาออก? ฟันคุดคือฟันที่อยู่ซี่ในสุดแต่ไม่ได้ขึ้นในลักษณะปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการรักษาความสะอาดที่ยากหรือดันฟันซี่อื่นๆ ได้ กรณีที่เก้บไว้แล้วทำความสะอาดไม่ดีพอ จะส่งผลให้ผุได้ใช่กัน ในฟันซี่ที่โผล่ขึ้นมา เมื่อถึงเวลาที่ผุมาก ยังไงก็ต้องถอนอยู่ดี( ใครมีประกันที่มีวงเงินสนับสนุน หรือมีสวัสดิการ แนะนำให้ทำไปเลยครับ) โดยปกติแล้วฟันคุดของแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะพบได้ 4 แบบ
1.ฟันคุดตั้งปกติ
2.ฟันคุดขึ้นเอียง
3.ฟันคุดแนวนอน
4.ฟันคุดแนวนอน(หัวทิ่ม)
แล้วทำไมต้องมีฟันคุด? เพราะเมื่อก่อนนี้ มนุษย์เราถูกออกแบบเพื่อให้สามารถเคี้ยวเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ได้ด้วย เมื่อได้ใช้กรามเต็มที่ก็แทบจะไม่ส่งผลต่อการขึ้นของฟันซี่สุดท้ายหรือฟันคุด แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อาหารของเราทานง่ายมากขึ้น อาหารชิ้นเล็กที่แทบจะไม่ต้องใช้แรงจากกรามมากเหมือนสมัยก่อน จึงทำให้ฟันซี่สุดท้ายขึ้นมาผิดปกตินั่นเอง แต่ในบางคนก็ไม่มีฟันคุดเลย นั่นก็เป็นเพราะพันธุกรรมของแต่ละคนด้วย
เข้ามาถึงเรื่องการผ่าตัดฟันคุด ความยากง่ายของการเอาฟันคุดออกนั่นยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ในรีวิวนี้ขออนุญาตยกตัวอย่าง 2 ลักษณะ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง ใครที่จำเป็นหรือต้องการจะเอาฟันคุดออก ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก 1.ไปติดต่อ X-Ray ฟัน 2. จองคิวผ่าฟันคุด และ 3.เตรียมใจ !!!
ก่อนถึงวันผ่าจริง
แนะนำว่าอย่าหาข้อมูลมาก ทำเป็นไม่รู้ไปเถอะ ยิ่งรู้เยอะยิ่งลุ้นเยอะ !!! (แต่จริงๆ อ่านมาอย่างละเอียด พร้อมถามข้อมูลจากเพื่อนๆ ที่เคยผ่าอย่างละเอียด 5555)
ถึงวันผ่าจริง
ใจเต้น ตึกๆ ตั้งแต่เช้า ... เมื่อถึงคลินิค สายตาอันซุกซนสอดส่องทุกซอกทุกมุม รวมถึงพฤติกรรมของคนไข้คนอื่นอย่างละเอียด
ไม่มีใครมาคนเดียวเลย!! บางคนที่นั่งรอ บางคนที่เดินออกมาก็ปากบวม ประคบน้ำแข็ง มีเพื่อนมานั่งด้วย มีแฟนมานั่งด้วย .. ไม่ทันแล้ว 15 นาที ถึงคิวแรกที่เป็นของเรา (อ้อ ลืมบอกไป ที่ผ่าออกนี่เป็น แบบตั้งตรงด้านบน และแนวนอนด้านล่างครับ)
ซักประวัติ วัดความดันเสร็จ ทำไมล็อคๆ มันกว้างจัง กว้างกว่าคลินิคทันตกรรมทั่วไปที่เคยเข้า ลุ้นไปอีกกก....
แล้วก็เรียกชื่อ...
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากนี้จะขออธิบายจากสิ่งที่รู้สึกขณะผ่าจริงๆ เพราะที่สายตาเห็นอย่างเดียว คือ เข็ม ครับ!!
ทันตแพทย์จะพูดคุยก่อนตามปกติครับ สอบถามสิ่งที่สงสัยได้เลย
ทันตแพทย์จะให้เลือกข้างของฟันคุดที่จะทำการเอาออก จะ 1 หรือ 2 ซี่ก็ได้ จะได้เหลืออีกข้างไว้เคี้ยวอาหาร
เอนเตียง !!!
เวลาจริงมาถึงแล้ว ขั้นตอนแรกเลย สายเราแม้จะโดนปิดแล้ว แต่ก็เห็นเข็ม!!! ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าที่เหงือก ตอนแรกคิดว่าคงเจ็บมาก แต่เอาเข้าจริงแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งบนทั้งล่าง และทิ้งไว้ 5 นาที หลังจากนั้นปากข้างนั้นรวมถึงลิ้นจะไร้ความรู้สึกไปในประมาณ 2นาที และมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก 5 นาที ก็จะถึงขึ้นตอนที่หมอทำอะไรในปากเราก็ไม่รู้ 555
5นาทีแรก เหมือนทันตแพทย์จะนำซี่บนออกก่อนครับ ได้ยินเสียงแก๊กๆ แล้วไม่ถึงนาทีก็ได้ยินว่า “ข้างบน เสร้จแล้วนะครับ” เร็วมาก / หลังจากนั้น ก็ลงมือซี่ล่าง จากที่อ่านมาก็ทราบนะครับว่าต้องกรีดเหงือก แต่ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ....เวลาผ่านไปร่วม 40 นาที ทุกอย่างเสร็จสิ้น ไร้ความรู้สึกเช่นเดิมเหมือนหลังฉีดยาชาครับ รู้สึกอย่างเดียวว่ามีกลิ่นเลือดในปาก คล้ายๆ ตอนขูดหินปูน แต่กลิ่นเลือดน้อยกว่า
ทันตแพทย์แจ้งว่า กัดสำลีแน่นๆ นะครับ ให้เลือดหยุดไหล พร้อมใบคำแนะนำอย่างละเอียด มีอะไรสงสัยให้ถามตรงนั้นเลยครับ หลังจากนั้นก็ออกมารอคิวนัดตัดไหม จ่ายเงิน และรับยา ในส่วนของยาที่ได้รับมี 3 ซอง ยาแก้ปวด(พารา) ยาแก้ปวดอีกตัว จำชื่อไม่ได้ แต่ตัวนี้ต้องทานหลังอาหารทันที และยาแก้อักเสบ ทั้งชุดคุณหมอสั่งมาให้ทานเพียง 5 วัน
ความรู้สึกชานั้นจะอยู่กับเราไปชั่วข้ามคืน ถึงแม้ยาชาหมดฤทธิ์เราก็ยังแทบไม่รู้สึกอะไรที่มุมปากข้างนั้นจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันและแถมปากบวมอย่างชัดเจน ไม่ต้องกลัว บวมแน่นอน!! ใครชอบนอนตะแคง อย่าตะแคงผิดข้าง มิเช่นนั้นจะได้สัมผัสความปวดอย่างสุดซึ้ง นรกบนดินมีอยู่จริง มีน้ำตาไหลพรากแน่ๆ !!! อีกสิ่งนึงที่อยากให้ระวังใน 3วันแรก คือการพูดหรือรับประทานอาหาร พูดได้แต่ไม่มาก เพราะยังมีไหมเย็บแผลอยู่ รู้สึกได้ชัดเจนครับ อาจจะเจ็บในบางครั้ง ส่วนตัวใช้โทรศัพท์มากกว่าแชท ไม่ค่อยชอบแชท สามวันนี้ก็เห็นประโยชน์ของมันจริงๆ
การแปรงฟัน วันแรกแปรงฟันได้ แต่ระวังให้มากที่สุด และห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากที่ใช้คู่กับการแปรงฟัน ใช้ได้ถ้าทันตแพทย์จ่ายมาให้ จะปลอดภัยกว่า *** อาหาร โจ๊กครับ 3 วันยาวๆ ไปเลยทุกมื้อ ซื้อมาให้ครบทุกยี่ห้อทุกสูตร จะได้ไม่เบื่อ โจ๊กเปล่าใส่ซอส ใส่หมูชิ้นเล็กๆ หรือถ้าอยากทานข้าว ให้ทานช้าลง 2 เท่า เคี้ยวให้ช้าๆ อย่าใช้ฟันกรามมาก เพราะมันส่งถึงกันครับ หลังวันที่ 4 อาจจะรู้สึกไม่ดีขึ้นเท่าไร แต่ก็ดีขึ้นจริงๆ อาการบวมจะลงลง แต่ก็ยังบวมส่งผลถึงวันที่ 7
ส่วนตัวแล้ว ประทับใจค่อนข้างมาก ถ้าให้คะแนนความพอใจก็คง 7/10 อีก 3 ก็น่าจะเกิดจากความซนของตัวเองที่อยากกินโน่นนั่นนี่ ตามใจปาก พูดมากในบางครั้ง และการนอนตะแคงผิดข้าง รวมถึงผลจากการเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยาก ทำให้ปวดร้าวไปถึงข้างที่เพิ่งผ่าฟันคุดมา
ยังไงขอตัดตอนไว้เท่านี้ก่อน วันนี้เป็นวันที่ 8 นัดตัดไหมพอดี ยังไงเดี๋ยวจะมากลับมาเล่าต่อนะครับ มีอะไรสงสัยถามมาได้เลยครับ
[CR] รีวิว[แห้ง] ผ่าฟันคุด ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด !!!
รีวิวนี้ไม่มีภาพประกอบ จึงขอใช้คำว่า รีวิว(แห้ง)
ไม่มีภาพประกอบนะครับ อยากให้อ่านแล้วจินตนาการเอา เห็นภาพสมจริงกว่ามาก 5555
อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ผ่าฟันคุด ให้คนที่ยังไม่ได้ผ่า มาเอาฟันคุดออกเถอะครับ ผลดีมากกว่าผลเสียแน่นอน
ฟันคุดคืออะไร?.. ทำไมต้องเอาออก? ฟันคุดคือฟันที่อยู่ซี่ในสุดแต่ไม่ได้ขึ้นในลักษณะปกติ ซึ่งอาจจะส่งผลต่อการรักษาความสะอาดที่ยากหรือดันฟันซี่อื่นๆ ได้ กรณีที่เก้บไว้แล้วทำความสะอาดไม่ดีพอ จะส่งผลให้ผุได้ใช่กัน ในฟันซี่ที่โผล่ขึ้นมา เมื่อถึงเวลาที่ผุมาก ยังไงก็ต้องถอนอยู่ดี( ใครมีประกันที่มีวงเงินสนับสนุน หรือมีสวัสดิการ แนะนำให้ทำไปเลยครับ) โดยปกติแล้วฟันคุดของแต่ละคนมีลักษณะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปจะพบได้ 4 แบบ
1.ฟันคุดตั้งปกติ
2.ฟันคุดขึ้นเอียง
3.ฟันคุดแนวนอน
4.ฟันคุดแนวนอน(หัวทิ่ม)
แล้วทำไมต้องมีฟันคุด? เพราะเมื่อก่อนนี้ มนุษย์เราถูกออกแบบเพื่อให้สามารถเคี้ยวเนื้อสัตว์ชิ้นใหญ่ได้ด้วย เมื่อได้ใช้กรามเต็มที่ก็แทบจะไม่ส่งผลต่อการขึ้นของฟันซี่สุดท้ายหรือฟันคุด แต่ด้วยความเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา อาหารของเราทานง่ายมากขึ้น อาหารชิ้นเล็กที่แทบจะไม่ต้องใช้แรงจากกรามมากเหมือนสมัยก่อน จึงทำให้ฟันซี่สุดท้ายขึ้นมาผิดปกตินั่นเอง แต่ในบางคนก็ไม่มีฟันคุดเลย นั่นก็เป็นเพราะพันธุกรรมของแต่ละคนด้วย
เข้ามาถึงเรื่องการผ่าตัดฟันคุด ความยากง่ายของการเอาฟันคุดออกนั่นยากง่ายแตกต่างกันไป แต่ในรีวิวนี้ขออนุญาตยกตัวอย่าง 2 ลักษณะ ที่เกิดขึ้นกับตนเอง ใครที่จำเป็นหรือต้องการจะเอาฟันคุดออก ไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมาก 1.ไปติดต่อ X-Ray ฟัน 2. จองคิวผ่าฟันคุด และ 3.เตรียมใจ !!!
ก่อนถึงวันผ่าจริง
แนะนำว่าอย่าหาข้อมูลมาก ทำเป็นไม่รู้ไปเถอะ ยิ่งรู้เยอะยิ่งลุ้นเยอะ !!! (แต่จริงๆ อ่านมาอย่างละเอียด พร้อมถามข้อมูลจากเพื่อนๆ ที่เคยผ่าอย่างละเอียด 5555)
ถึงวันผ่าจริง
ใจเต้น ตึกๆ ตั้งแต่เช้า ... เมื่อถึงคลินิค สายตาอันซุกซนสอดส่องทุกซอกทุกมุม รวมถึงพฤติกรรมของคนไข้คนอื่นอย่างละเอียด
ไม่มีใครมาคนเดียวเลย!! บางคนที่นั่งรอ บางคนที่เดินออกมาก็ปากบวม ประคบน้ำแข็ง มีเพื่อนมานั่งด้วย มีแฟนมานั่งด้วย .. ไม่ทันแล้ว 15 นาที ถึงคิวแรกที่เป็นของเรา (อ้อ ลืมบอกไป ที่ผ่าออกนี่เป็น แบบตั้งตรงด้านบน และแนวนอนด้านล่างครับ)
ซักประวัติ วัดความดันเสร็จ ทำไมล็อคๆ มันกว้างจัง กว้างกว่าคลินิคทันตกรรมทั่วไปที่เคยเข้า ลุ้นไปอีกกก....
แล้วก็เรียกชื่อ...
.
.
.
.
.
.
.
หลังจากนี้จะขออธิบายจากสิ่งที่รู้สึกขณะผ่าจริงๆ เพราะที่สายตาเห็นอย่างเดียว คือ เข็ม ครับ!!
ทันตแพทย์จะพูดคุยก่อนตามปกติครับ สอบถามสิ่งที่สงสัยได้เลย
ทันตแพทย์จะให้เลือกข้างของฟันคุดที่จะทำการเอาออก จะ 1 หรือ 2 ซี่ก็ได้ จะได้เหลืออีกข้างไว้เคี้ยวอาหาร
เอนเตียง !!!
เวลาจริงมาถึงแล้ว ขั้นตอนแรกเลย สายเราแม้จะโดนปิดแล้ว แต่ก็เห็นเข็ม!!! ทันตแพทย์จะทำการฉีดยาชาเข้าที่เหงือก ตอนแรกคิดว่าคงเจ็บมาก แต่เอาเข้าจริงแทบไม่รู้สึกอะไรเลย ทั้งบนทั้งล่าง และทิ้งไว้ 5 นาที หลังจากนั้นปากข้างนั้นรวมถึงลิ้นจะไร้ความรู้สึกไปในประมาณ 2นาที และมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจาก 5 นาที ก็จะถึงขึ้นตอนที่หมอทำอะไรในปากเราก็ไม่รู้ 555
5นาทีแรก เหมือนทันตแพทย์จะนำซี่บนออกก่อนครับ ได้ยินเสียงแก๊กๆ แล้วไม่ถึงนาทีก็ได้ยินว่า “ข้างบน เสร้จแล้วนะครับ” เร็วมาก / หลังจากนั้น ก็ลงมือซี่ล่าง จากที่อ่านมาก็ทราบนะครับว่าต้องกรีดเหงือก แต่ไม่รู้สึกอะไรจริงๆ ....เวลาผ่านไปร่วม 40 นาที ทุกอย่างเสร็จสิ้น ไร้ความรู้สึกเช่นเดิมเหมือนหลังฉีดยาชาครับ รู้สึกอย่างเดียวว่ามีกลิ่นเลือดในปาก คล้ายๆ ตอนขูดหินปูน แต่กลิ่นเลือดน้อยกว่า
ทันตแพทย์แจ้งว่า กัดสำลีแน่นๆ นะครับ ให้เลือดหยุดไหล พร้อมใบคำแนะนำอย่างละเอียด มีอะไรสงสัยให้ถามตรงนั้นเลยครับ หลังจากนั้นก็ออกมารอคิวนัดตัดไหม จ่ายเงิน และรับยา ในส่วนของยาที่ได้รับมี 3 ซอง ยาแก้ปวด(พารา) ยาแก้ปวดอีกตัว จำชื่อไม่ได้ แต่ตัวนี้ต้องทานหลังอาหารทันที และยาแก้อักเสบ ทั้งชุดคุณหมอสั่งมาให้ทานเพียง 5 วัน
ความรู้สึกชานั้นจะอยู่กับเราไปชั่วข้ามคืน ถึงแม้ยาชาหมดฤทธิ์เราก็ยังแทบไม่รู้สึกอะไรที่มุมปากข้างนั้นจนถึงรุ่งเช้าของอีกวันและแถมปากบวมอย่างชัดเจน ไม่ต้องกลัว บวมแน่นอน!! ใครชอบนอนตะแคง อย่าตะแคงผิดข้าง มิเช่นนั้นจะได้สัมผัสความปวดอย่างสุดซึ้ง นรกบนดินมีอยู่จริง มีน้ำตาไหลพรากแน่ๆ !!! อีกสิ่งนึงที่อยากให้ระวังใน 3วันแรก คือการพูดหรือรับประทานอาหาร พูดได้แต่ไม่มาก เพราะยังมีไหมเย็บแผลอยู่ รู้สึกได้ชัดเจนครับ อาจจะเจ็บในบางครั้ง ส่วนตัวใช้โทรศัพท์มากกว่าแชท ไม่ค่อยชอบแชท สามวันนี้ก็เห็นประโยชน์ของมันจริงๆ
การแปรงฟัน วันแรกแปรงฟันได้ แต่ระวังให้มากที่สุด และห้ามใช้น้ำยาบ้วนปากที่ใช้คู่กับการแปรงฟัน ใช้ได้ถ้าทันตแพทย์จ่ายมาให้ จะปลอดภัยกว่า *** อาหาร โจ๊กครับ 3 วันยาวๆ ไปเลยทุกมื้อ ซื้อมาให้ครบทุกยี่ห้อทุกสูตร จะได้ไม่เบื่อ โจ๊กเปล่าใส่ซอส ใส่หมูชิ้นเล็กๆ หรือถ้าอยากทานข้าว ให้ทานช้าลง 2 เท่า เคี้ยวให้ช้าๆ อย่าใช้ฟันกรามมาก เพราะมันส่งถึงกันครับ หลังวันที่ 4 อาจจะรู้สึกไม่ดีขึ้นเท่าไร แต่ก็ดีขึ้นจริงๆ อาการบวมจะลงลง แต่ก็ยังบวมส่งผลถึงวันที่ 7
ส่วนตัวแล้ว ประทับใจค่อนข้างมาก ถ้าให้คะแนนความพอใจก็คง 7/10 อีก 3 ก็น่าจะเกิดจากความซนของตัวเองที่อยากกินโน่นนั่นนี่ ตามใจปาก พูดมากในบางครั้ง และการนอนตะแคงผิดข้าง รวมถึงผลจากการเคี้ยวอาหารที่เคี้ยวยาก ทำให้ปวดร้าวไปถึงข้างที่เพิ่งผ่าฟันคุดมา
ยังไงขอตัดตอนไว้เท่านี้ก่อน วันนี้เป็นวันที่ 8 นัดตัดไหมพอดี ยังไงเดี๋ยวจะมากลับมาเล่าต่อนะครับ มีอะไรสงสัยถามมาได้เลยครับ