บิ๊กแซม สงสัยจะมีบุญได้คุมทีมชาติอังกฤษแค่นัดเดียวแล้ว

งานนี้มีโอกาสสูงที่จะกระเด็นตกเก้าอี้กุนซือทีมชาติอังกฤษหลัง แซม อัลลาร์ไดซ์ นายใหญ่ฟุตบอลโบราณถูกสื่อผู้ดีหลอกบันทึกภาพเปิดเผยตัวเองถึงความไม่ใช่คนใสซื่อมือสะอาด!!!

เทรนเนอร์วัย 61 ปีอำลา ซันเดอร์แลนด์ รับงานบิ๊กบอส 'สิงโตคำราม' แทน รอย ฮอดจ์สัน เมื่อเดือน กรกฎาคม คุมทีม 1 นัดในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกที่ชนะ สโลวาเกีย

กระนั้นล่าสุด เดลี่ เทเลกราฟ แท็บลอยด์อังกฤษแอบเจรจาดีลซึ่งมีเงิน 400,000 ปอนด์เกี่ยวข้องและให้คำแนะนำแก่นักธุรกิจถึงวิธีซิกแซกหนีกฎระเบียบต่างๆในการซื้อขายนักเตะ ก่อนนำทัพ 'ทรี ไลออนส์' ซ้อมเป็นครั้งแรก อัลลาร์ไดซ์ ตั้งโต๊ะเจรจาต้าอ่วยกับกลุ่มคนซึ่งอ้างว่าเป็นตัวแทนองค์กรจากตะวันออกกลางซึ่งหวังทำกำไรจากตลาดนักเตะ พรีเมียร์ลีก

'บิ๊กแซม' ตกลงเดินทางสู่ สิงค์โปร์ กับ ฮ่องกง ในฐานะทูตและอธิบายให้คนกลุ่มนี้เข้าใจว่าจะหาช่องโหว่ในข้อห้ามของ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ เรื่องการถือสิทธิ์ด้วยบุคคลที่ 3 อย่างไร กระนั้นคนกลุ่มนี้ที่แท้คือนักข่าวปลอมตัวและบันทึกพฤติกรรมของ อัลลาร์ไดซ์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการสืบค้นที่ใช้เวลาถึง 10 เดือนเรื่องสินบนและคอรัปชั่นในวงการฟุตบอลผู้ดี

ทั้งสองฝ่ายพบกัน 2 ครั้งใช้เวลารวม 4 ชั่วโมง อัลลาร์ไดซ์ ร่ายยาวกับนักธุรกิจกำมะลอกลุ่มนี้ถึงการเล็ดรอดจากกฎระเบียบ 'ไร้สาระ' ที่ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ( เอฟเอ ) ซึ่งเป็นนายจ้างของเขาวางไว้และคุยด้วยว่ารู้จักเอเยนต์บางคนที่ทำเรื่องแบบนี้เป็นประจำ

การถือสิทธิ์นักเตะด้วยบุคคลที่ 3 ซึ่งอนุญาตให้บริษัทมีหุ้นส่วนในตัวพ่อค้าแข้งนั้นถูกนิยามว่าเป็นการ 'ค้าทาส' เอฟเอ จึงออกกฎแบนตั้งแต่ปี 2008 ก่อนที่ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ( ฟีฟ่า ) จะแบนตามในปี 2015

การนัดพบครั้งที่ 2 เกิดขึ้นสัปดาห์ที่แล้ว ณ ภัตตาคารแห่งหนึ่งในเมืองแมนเชสเตอร์โดยนอกจากคุยกันเรื่องกำหนดการเดินทางสู่แดนลอดช่องแล้ว อัลลาร์ไดซ์ เจ้าของค่าจ้างปีละ 3 ล้านปอนด์จาก เอฟเอ ฝอยเรื่อง รอย ฮอดจ์สัน และอดีตมือขวาอย่าง แกรี่ เนวิลล์

เทเลกราฟ เริ่มสืบเรื่องการคดโกงในวงการลูกหนังอังกฤษตั้งแต่ปีที่แล้วหลังได้รับข้อมูลว่ามีผู้จัดการทีม, ผู้บริหาร และ เอเยนต์บางรายยัดหรือรับเงินใต้โต๊ะเพื่อปิดดีลซื้อขายนักเตะและจะทยอยเผยแพร่แต่ละเรื่องในวันต่อๆไป

ซัมเมอร์นี้สโมสรใน พรีเมียร์ลีก ทุ่มเงินเสริมทัพรวมแล้ว 1,170 ล้านปอนด์และสโมสรใน เดอะ แชมเปี้ยนชิพ ล่ออีก 214 ล้านปอนด์

การมีข้อตกลงมูลค่า 400,000 ปอนด์กับเอเยนต์ซี่ลูกหนังทำให้เป็นไปได้ว่า อัลลาร์ไดซ์ อาจจะถูก 'จ้าง' เพื่อช่วยให้นักเตะที่เป็นลูกค้าได้รับการปฏิบัติที่เป็นพิเศษ

อัลลาร์ไดซ์ คุยกับนักข่าวปลอมกลุ่มนี้อีกว่ายังมีการถือสิทธิ์ด้วยบุคคลที่สามในฟุตบอลอเมริกาใต้, โปรตุเกส, สเปน, เบลเยียม และทั่วแอฟริกา พร้อมยกตัวอย่างตอนคุม เวสต์แฮม ยูไนเต็ด แล้วซื้อ เอ็นเนร์ วาเลนเซีย จากทีม ปาชูก้า ในลีกเม็กซิโกเมื่อปี 2014 ค่าตัว 12 ล้านปอนด์

การถือสิทธิ์ด้วยบุคคลที่สาม( Third party ownership )นั้นเอเยนต์หรือกลุ่มทุนจะมีกรรมสิทธิ์บางส่วนในตัวนักเตะซึ่งนั่นหมายความว่าเมื่อนักเตะคนนั้นย้ายทีมเงินส่วนหนึ่งก็จะเข้ากระเป๋าพวกเขาแทนที่จะเป็นสโมสรคู่ค้าจ่ายเงินทั้งหมดให้กันในการซื้อขาย

การนัดพบกับกลุ่มนักธุรกิจปลอมที่โรงแรมแห่งหนึ่งในกรุงลอนดอน อัลลาร์ไดซ์ มากับเอเยนต์ส่วนตัว มาร์ค เคอร์ติส และที่ปรึกษาการเงิน เชน โมโลนี่ย์ ผ่านการเดินเรื่องโดย สก็อตต์ แม็คการ์วี่ย์ ตัวแทนนักฟุตบอลซึ่งเป็นเพื่อนกับ 'บิ๊กแซม' มานานโดยไม่เอะใจว่าคนกลุ่มนี้คือนักข่าวแฝงตัวมา

"มัน(การถือสิทธิ์ด้วยบุคคลที่สาม)ไม่ใช่ปัญหา เราเคยได้วาเลนเซีย หมอนี่ก็มีเจ้าของที่สามตอนเราซื้อจากเม็กซิโก" คำกล่าวของ อัลลาร์ไดซ์ ระหว่างการคุยซึ่งถูกแอบบันทึกภาพและเสียงไว้

ย้อนไปเมื่อปี 2006 อัลลาร์ไดซ์ ก็เคยถูกกล่าวหาว่ารับเงินสกปรกแต่การสืบสวนของตำรวจไม่พบหลักฐานเอาผิด

เมื่อวันอาทิตย์ เทเลกราฟ ส่งอีเมลผลการสืบค้นพร้อมคำถาม 18 ข้อแก่ เอฟเอ และหลังจากนั้น 9 ชั่วโมงก็ได้รับการตอบกลับจากโฆษกขององค์กรขอให้เอื้อเฟื้อข้อมูลทั้งหมดแก่พวกเขา

ขณะเดียวกัน เทเลกราฟ สอบถามไปยัง อัลลาร์ไดซ์, เคอร์ติส และ โมโลนี่ย์ แต่ไม่ได้รับการตอบกลับจากทั้ง 3

หลังข่าวแพร่กระจายคอบอลบนโลกออนไลน์เกือบทั้งหมดเห็นพ้องต้องกันว่างานนี้ เอฟเอ ไม่เอา อัลลาร์ไดซ์ ไว้แน่

http://www.soccersuck.com/boards/topic/1416840/1

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
เผลอๆเข้าคุกด้วยนะนั่น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่